Wonder dark land
เขียนโดย fumiko
วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 22.55 น.
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) WDL# เริ่มกำหนดการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ภายในจตุรัสอันพลุกพล่าน ชายสวมหมวกปีกกว้างปกปิดใบหน้าเดินตัดความวุ่นวายไปยังน้ำพุประจำเมือง เขาจัดผ้าคลุมตัวเอง หยิบพิณขึ้นมาตั้งสาย ก่อนเริ่มบรรเลงเพลงลื่นไหลเข้ากับบรรยากาศงานเฉลิมฉลองแสนรื่นเริง ผู้คนชะงักการกระทำต่างๆ พากันรับฟังบทเพลงราวต้องมนต์สะกด 'นักกวี'ยกยิ้มมุมปากพอใจผลตอบรับ เสียงเพลงก้องกังวาลโดยรอบแม้แต่คนที่อยู่ไกลออกไปยังต้องหยุดฟัง
มิโมรีนซึ่งยืนอยู่หน้าโบทถ์ใกล้เคียง ก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้เช่นกัน เขาเขม้นมองนักกวีผู้นั้นไม่วางตา รู้สึกถึงการกระทำแอบแฝงบางอย่าง เฮ้อ ช่างมันก่อนดีกว่า บาทหลวงหนุ่มหันหลังเข้าโบทถ์ เริ่มรำคาญเสียงเต็มทน
เอลิโน่นั่งแก้เอกสารที่รับต่อจากส่วนของพระราชาเงียบๆ มือหนึ่งขีดเขียน สองตาสอดส่องหาข้อผิดพลาด ทุกอย่างดำเนินไปเช่นนี้อย่างสงบ แต่...
เงียบ มันเงียบเกินไป
เขาดันคิดว่ามันผิดปกติแทน เพราะตัวปัญหาด้านข้างทุกทีมักจะบ่นเป็นระยะๆ คราวนี้กลับเงียบพิลึก คิดไม่ทันไรเขาก็เห็นคำตอบ บนหัวมุมกระดาษมีภาพวาดกระบองเพชรใส่แว่นกับหมวกนักเขียนประดับเด่น ตามมาด้วยแผ่นอื่นๆ เอลิโน่คิ้วกระตุก ตวัดตามองท่านประมุขกำลังนั่งเท้าคางวาดแผ่นที่เจ็ดพอดี
"ฝ่าบาท..."
"หือ?"
"จะวาดต่ออีกนานไหมครับ"
"ไว้ได้สิบแผ่นแล้วค่อยเลิกละกัน"
"งั้นเดี๋ยวช่วยรับผิดชอบลบเองทีหลังนะครับ"เสนาธิการเอ่ยเย็นชา
"วันนี้มีกำหนดการอะไรบ้าง"เจ้าตัวรีบเปลี่ยนเรื่องหนีทันที
เขาลอบถอนหายใจ"ช่วงบ่ายนี้ท่านมีเสด็จเยี่ยมชมงานเฉลิมฉลองในจตุรัสเมืองครับ"
แคธเทอเรนพยักหน้า"หมายความว่าเย็นนี้ก็ว่างสินะ"
เอลิโน่จ้องตาเขียว"กรุณาอย่าจงใจลืมว่ามีงานเหลืออยู่ตรงหน้าท่านอีกสิครับ"
พระราชามองตอบยียวน"มีนายอยู่ทั้งคนจะห่วงอะไรกะอีแค่เอกสารไม่กี่กอง"
ประทานโทษครับท่าน ไอ้กองที่ว่านี่มันสูงเกือบเท่าหัวเขาเลยนะ..
กำหนดการแรกเริ่มขึ้นหลังเขาไม่อาจทนสายตาจ้องกินเลือดกินเนื้อของเสนาธิการตัวเองต่อไปได้ ความจริงตำแหน่งเอลิโน่นั้นแทบจะเป็นเพียงชื่อประดับเสียแล้ว เพราะสภาพบ้านเมืองสงบสุขขนาดนี้คงไม่มีเหตุให้เสนาธิการออกโรงเท่าไร เขาจึงโยนหน้าที่ควบมหาดเล็กซะเลย เหตุผลน่ะหรือ? ใครใช้ให้คนที่เรียนจบสายนักเวทอย่างหมอนั่นดันสะเออะมาสอบบรรจุเข้าทำงาน ด้วยคะแนนสูสีกับพวกหัวกะทิจากสายนักปราชญ์โดยตรงล่ะ เจ้าคนผ่าเหล่าที่ปรากฏตัวอย่างม้ามืดเช่นนี้มีหรือจะเล็ดลอดสายตาเขา แถมหลังถูกรับเลือกเข้าทำงานแล้วยังไม่เคยทำให้ผิดหวังอีก เสียแต่ขี้บ่นไปหน่อย เขานี่ตาถึงจริงๆ
บรรดาซุ้มขายของตั้งเรียงรายประดับประดาตามสไตร์เอกลักษณ์แต่ละร้าน พระราชาเดินทอดน่องซึบซับบรรยากาศ กลิ่นขนมปังกลิ่นอาหารลอยฟุ้งตลบอบอวล ประจวบเหมาะใกล้เที่ยงวัน นาฬิกาในกระเพาะท่านประมุขเริ่มทำงานเบาๆ พระราชาเหลือบมองซ้ายขวา ผู้คนรอบข้างคอยทำความเคารพตลอดทาง ครั้งหนึ่งเขาเคยส่งคนไปแจ้งประกาศให้ราษฎรทราบโดยทั่วว่า หากองค์ราชาทรงเสด็จประพาสต้น ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าทำความเคารพเพียงทำพอเป็นพิธีแล้วแยกย้ายกลับไปทำงาน ตามเดิม ยกเว้นมีขบวนเสด็จหรือพิธีการสำคัญเท่านั้น ในสายตาคนทั่วไปอาจมองว่าพระราชาช่างถ่อมตน ทั้งที่ความจริงเจ้าตัวก็แค่เกลียดเรื่องวุ่นวายโดยไม่จำเป็น นิสัยรักอิสระนี้เองทำให้เขาแหกกฎเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมเก่าๆหลายอย่างจนพวก ขุนนางคัดค้าน แต่ถ้าไม่ส่งผลอะไรมากและฝ่ายประชาชนไม่มีความเห็นใดๆ คำค้านก็เป็นอันตกไป
แคธเทอเรนกวาดตาหามื้อเที่ยง พลันสายตาสะดุดร้านเล็กๆใกล้ๆ พนักงานสาวมัดผมเปียคู่สวมผ้ากันเปื้อนสีครีมฟูฟ่อง ยืนจัดขนมปังวางเรียงในถาดสวยงาม เขาก้าวฉับๆเข้าหาเป้าหมาย เหมือนสาวเจ้าจะไม่รู้ตัวจนกระทั่งเขากระแอมเบาๆ หญิงสาวสะดุ้ง ตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก ขณะที่เขาพิจารณาขนมปังบนถาด พระราชาเงยสบตา ยิ้มน้อยๆซึ่งได้ผลชะงัก หญิงสาวเผลอเคลิ้มไปชั่วครู่
"คุณผู้หญิง ขนมปังสองชิ้นราคาเท่าไรครับ"
ในที่สุดเธอก็หลุดภวังค์ ตอบเสียงลน"อ่ะ เอ่อ ส่ะ สามแซฟไฟร์เพคะ"
เขานึกขำท่าทางอีกฝ่ายในใจ พลางยื่นเหรียญสีฟ้าให้"ขอบคุณครับ"โดยไม่ลืมส่งยิ้มแถม
แคธเทอเรนผละหญิงสาวทันทีเมื่อได้ของ ปล่อยหล่อนจมจ่อกับความรู้สึกตนเองต่อไป เขาชั่งใจว่าระหว่างเลือกนั่งกินในโบทถ์หรือตระเวนหาทำเลแถวสวนดี ขืนกลับปราสาททั้งแบบนี้มีหวังโดนเอลิโน่บ่นตาย จู้จี้ยิ่งกว่าแม่อีก..
จู่ๆมีเสียงโหวกเหวกดังผ่านฝูงชน พระราชาชะงัก หันตามเสียง การใช้วิธีค้นหาท่ามกลางปริมาณคนมหาศาลคงดูเป็นการเสียเวลาเกินไป แคทเธอเรนเก็บถุงขนมปังไว้ในเสื้อคลุม ตัดสินใจลอบเข้าตรอก กระโดดเหยียบเกวียนฟางดีดตัวขึ้นหลังคา เขาวิ่งข้ามอย่างคล่องแคล่ว ไล่มองไม่นานก็พบต้นตอเบื้องล่าง ชายหนุ่มผู้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นแม่ทัพของเขากำลังอัดคนอยู่ ชายฉกรรจ์คนแล้วคนเล่าโดนสอยร่วงติดๆ มาการัสเริ่มฮึกเหิมกับจำนวนเหรียญแซฟไฟร์ที่คนโยนให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานนี้ไปได้สวยกว่าที่คิด พระราชาหรี่ตารู้สึกเหมือนเห็นประชาชนถูกรังแก ช่างไม่ยุติธรรมเสียเลย อีกใจหนึ่งก็นึกสนุกอยากช่วยขัดลาภสหายเช่นกัน
@@@@@@@@@@
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ