MEMORIES ความทรงจำ Chapter 2 {Remembarnces}

9.5

เขียนโดย Remembrances

วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 02.05 น.

  5 ตอน
  5 วิจารณ์
  8,000 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2557 21.30 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) MEMORIES [3]: Mind

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

MEMORIES [3]: Mind

 

          เช้าตรู่ในวันที่สองของการมาเรียน ผมนั่งเหม่ออยู่เพียงลำพังภายให้ห้องเรียนที่ไม่มีใครซักคนเข้ามา นาฬิกาบอกเวลาหกโมงเช้า ซึ่งคนในตอนนี้ มามาถึงสิบคนเลย ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ลำพังภายในห้องเรียนสี่เหลี่ยมข้างๆกระจกหน้าต่าง ซึ่งการที่ผมมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแบบนี้มันคอยย้ำเรื่องราวในวันนั้นทุกครั้ง

“นี่เราเป็นอะไรไปกันวะ” ผมตบหน้าตัวเองสองทีและสะบัดหัวเพื่อที่จะลืมความคิดบ้าๆบอๆในตอนนั้นออกไปให้หมด ซึ่งตอนนั้นผมก็เหลือบเห็นไทค์ที่เดินวนเวียนอยู่ที่ประตูห้องเรียนแต่แล้วเสียงโทรสับมันดังขึ้นมาซะก่อนผมเลยไม่ได้ทักมันกลับไป

 

*****

 

          ตอนนี้ผมตกอยู่กับความเงียบอีกครั้ง ภาพที่เข้ามาในหัวของผมทุกๆ ครั้งที่ผมหลับตาคือหน้าของผู้หญิงคนเดิมที่อยู่เคียงข้างผม ตลอด 3 ปีกว่าๆนั้น ใช่คนที่ผมรักมากที่สุด ผมปิดตาตัวเองอยู่บนโต๊ะเรียนทำให้ภาพวันวานของผมย้อนกลับมาอีกครั้ง

“นี่แน่ะ เดี๋ยวๆๆ หยุดก่อนเลยไม่เล่นแล้ว”

“โห๋..........ก็เธอสาดมาก่อนนิ มาให้เอาคืนเดี๋ยวนี้เลยนะ”

“นี่แน่ะๆ 555 อย่าหลบสิ”

“นี่ เดี๋ยวเหอะ เปียกหมดแล้วเนี๊ยะ” สิ่งที่ผมมองเห็นในตอนนี้คืออะไรกันนะ ภาพที่ผมเคยจดจำอย่างงั้นเหรอ สงกรานต์นั้นผมเล่นน้ำกับโฟร์อยู่ ทำไมต้องคิดถึงมันด้วยนะ?

 

............................................................................................

 

“นี่คือคือคำสาบานระหว่าโฟร์และเจ ให้ไทค์ นนท์และสตางค์เป็นพยานนะ ถ้าหากว่าวันหนึ่งโฟร์พร้อมแล้ว โฟร์จะแต่งงานกับเจละ”

“เอาซะหวานเลยนะงี้ โฟร์จะมาแย่งเจไปจากไทค์เหรอ”

“กลับไปดูสตางค์นู่น งอนแล้วนั่นนะ”

“อิจฉาคนมีแฟนเว้ย” เสียงหัวเราะ? วันวานที่แสนคิดถึง?

 

............................................................................................

 

“เห้ย เจเค แม่มึงงอนละ รีบไปง้อดิ”

“ง้อไงวะ?? เห้ยไอ้นนท์ช่วยบอกหน่อยดิ”

“โถ๋ มึงนี่ซื่อจนเซ่อเลยนะ ก็วิ่งไปบอกขอโทษไง คุกเข้าด้วยนะเว้ย” 555

“โฟร์ครับ ผมขอโทษดีกันนะ น๊าๆๆๆ” 555

“โฟร์ไม่เคยโกรธเจหรอก แค่อย่างแกล้งเล่นเฉยๆ”

“อ่าวไหง๋เป็นแบบนี้ละ นี่เธอหลอกเราเหรอ มานีเลยนะมาให้จับซะดีๆ”

 

............................................................................................

 

“นี่เจ ไปดูหนังกันป่าว?”

“อื้ม จะดูเรื่องไรละ?”

“งั้น..............เรื่องของเราเป็นไง”

“ถ้าเรื่องนี้อะจะไม่ใช่แค่ดูหรอก แต่จะดูแลมันตลอดไปเลย”

 

............................................................................................

 

“เจ โฟร์ไม่ใช่นางฟ้า หรือเทพธิดาหรอกนะ............แต่โฟร์สัญญาว่าจะรักเจเพียงคนเดียว โฟร์ไม่ขอให้เจสัญญาหรอกนะ แต่โฟร์อยากให้เจรู้ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่โฟร์ยังเหมือนเดิมเสมอนะ”

 

............................................................................................

 

“ถ้าหากเหตุผลของเรามันทำให้เรื่องต้องเป็นแบบนี้ โฟร์ขอไม่ขอรู้ดีกว่า อย่าจากโฟร์ไปไหนนะ”

 

............................................................................................

 

“ไม่ว่าเมื่อไหร่โฟร์ก็ยังเหมือนเดิมเสมอนะ”

 

............................................................................................

 

“ไม่ว่าเมื่อไหร่โฟร์ก็ยังเหมือนเดิมเสมอนะ” (โฟร์ เรารักเธอนะกลับมาหาเราได้มั๊ย)

 

............................................................................................

 

“ไม่ว่าเมื่อไหร่โฟร์ก็ยังเหมือนเดิมเสมอนะ” (โฟร์)

 

“โฟร์.......”

“โฟร์.......”

 

“โฟร์”

 

ตึ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

          นี่เราฝันไปอย่างงั้นเหรอ? ทำไมภาพที่เรายังจดจำทำไมทุกภาพที่คอยย้ำนั้น ถึงเข้ามาในหัวเราตลอดเลยนะ ทำไมกันล่ะ? โฟร์

 

          ผมจ้องโทรสับที่สันอยู่เมื่อครั้งผมหลุดออกจากภาพที่คอยวกวนไปมานั้น เบอร์ที่โชว์ที่หน้าจอโทรสับของผมช่างเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเลยซะจริงๆ

“ฮะโหล นี่ใครครับ”

“พี่เจเค ใช่รึป่าวค่ะ”

“ครับ ผมเองครับ ว่าแต่นี่ใครครับเนี๊ยะ”

“อ๋อ ข้าวฟ่างเองค่ะ” ข้าวฟ่าง ข้าวฟ่างเหรอ ว่าแต่ข้าวฟ่างจะโทรมาทำไมกันนะ หรือว่าวันนี้จะไม่ฝึกทำอาหาร

“แล้วข้าวฟ่างมีอะไรรึปล่าวครับ”

“ก็ป่าว แค่อยากโทร แล้ว...........วันนี่พี่เจจะมารึป่าวละ” ไปรึป่าววะ

“เอ่อ...........ไปครับ”

“ค่ะ งั้นข้าวฟ่างจะรอนะ ว่าแต่พี่จะสอนอะไรข้าวฟ่างล่ะ อย่าบอกนะว่าจะทำขนมอีก”

“ไม่แล้วละ เดี๋ยวออกมาเค็มแล้วคนชิมจะแย่เอา”

“โห๋พี่เจอะ มั่วละ แล้วทำไมคิดว่าข้าวฟ่างทำออกมาเค็มละ”

“เอ๊า ก็เมื่อวานข้าวฟ่างใส่เกลือลงไปในคุกกี้นี่นา เค็มก็ไม่แปลกหรอกน่า”

“พี่เจอะ บ้า”

“555 ขอโทษ งั้นวันนี้ทำเค้กกันมั๊ย แล้วพรุ่งนี้จะสอนทำอาหารจริงๆจังเลย”

“อืม.........ค่ะ ห้ามเบี้ยวนะ” บทสนทนาระหว่างผมและข้าวฟ่างมันก็แปลกนะเพราะทั้งที่เมื่อกี๊ผมยังยิ้มไม่ออกเลยด้วยซ้ำ แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้ผมถึงยิ้มออกมาได้ขนาดนี้นะ เพราะอะไรกันนะ

“ไม่เบี้ยวหรอกน่า” เสียงของผมตอบกลับไปยังข้าวฟ่างก่อนที่จะมีคนเรียกชื่อของผมออกมา

 

“เจเค”

 

          เสียงของข้าวปุ้นยืนเรียกผมหน้าประตูห้องก่อนที่ผมจะเรียกให้ข้าวปุ้นเข้ามาในห้อง

“อ้าว เข้ามาก่อนดิ ว่าแต่มีไรรึป่าว”

“เอ่อ ไทค์ไม่อยู่เหรอ? เมื่อกี๊ผมเห็นเดินมาทางห้องนี่นา”

“ไม่รู้เหมือนกัน เห็นรีบวิ่งออกไปคงจะไปทำอะไรซักอย่างแหละมั๊ง”

“งั้นเหรอ เออ งั้นถ้ากลับมาบอกให้ไทค์ไปหาผมด้วยนะ เขาลืมของไว้อะ และก็วันนี้ผมติดธุระถ้าจะไปสอนข้าวฟ่างทำอาหารละก็เข้าไปก่อนเลยนะ ผมอาจเข้าไปช้าหน่อย”

“อื้ม.....โอเค” อะไรกันเนี๊ยะ สันทยายซะยาวเหยียดเลย

“งั้นผมไปละ อย่าลืมบอกด้วยนะ” หลังจากที่ข้าวปุ้นพูดจบมันก็เดินออกไป เออ มาเร็วไปเร็ว แต่เอ๊ะ พึ่งนึกได้ ยังไม่ได้วางโทรสับเลยนี่หว่า นึกได้งั้นผมก็เลยรีบขอโทษกับข้าวฟ่างที่ทั้งสายไปทั้งอย่างงั้น แต่ไม่ทันที่จะขอโทษเธอกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจอะไรออกมาซะงั้น

 

“เมื่อกี๊พี่ข้าวปุ้นมาหางั้นเหรอ?”

 

          เอ่อจะว่าไปข้าวฟ่างนี่หูดีชะมัดเลย หรือว่าผู้หญิงนี่หูดีทุกคนเลยรึป่าวนะ

“อ๋อ อื้ม เขามาหาไทค์หนะ”

“อ๋อ อย่างงี้นี่เอง จะว่าไปเมื่อวานเห็นพี่ข้าวปุ้นกับพี่ไทค์คุยกันอย่างสนิทมากเลยนี่นา เหมือนเป็นแฟนกันเลยนะ”

“อื้ม แฟน” เห้ย แฟนเหรอ เดี๋ยวดิทั้งสองคนนั้นนะ เป็นแฟนกัน ไม่ใช่ละ

“เอ่อ เหมือนแฟนที่ว่านี่คือ”

“โห๋ก็พี่เจไม่รู้หรอก ก็ข้าวฟ่างสังเกตเห็นสายตาที่พี่ข้าวปุ้นมองพี่ไทค์อย่างจะกินเข้าไป” เอ่อ ขนาดนั้นเชียว ไหง๋กูไม่สังเกตวะ

“เอ่อ พี่ว่าไม่ใช่หรอกมั๊ง ก็เห็นปกติดีนี่นา”

“เหรอ แต่ข้าวฟ่างเชียร์นะ เชียร์พี่ไทค์แหละ น่ารักดีถ้าพี่ข้าวปุ้นเป็นแฟนกับพี่ไทค์ก็คงดี เพราะพี่ไทค์ทั้งใจดีและก็แคร์ความรู้สึกข้าวฟ่างด้วย” เออ เอาเข้าไป ว่าแต่มีน้องสาวที่ไหน อยากให้พี่ชายมีแฟนเป็นไม้ป่าเดียวกันวะ

“อื้ม แต่ข้าวปุ้นเองก็มีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ”

“อื้ม............แต่ข้าวฟ่างไม่ชอบแฟนที่ข้าวปุ้นเลย เพราะเขาเอาแต่ใจ ไม่สนใจพี่ข้าวปุ้นเลย”

“เอ่อ...........เรื่องนี้พี่เราปล่อยให้เขาเลือกเองดีกว่านะ ว่าแต่เราเหอะ พูดแบบนี้มีแฟนแล้วเหรอถึงได้รู้เรื่องดีขนาดเนี๊ยะ”

“จะบ้าเหรอ ข้าวฟ่างยังไม่มี................แล้ว................................พี่เจเคล่ะ มีแฟนรึยัง?” คำถามที่ข้าวฟ่างถามผมราวกับเหมือนว่ามีมีดมาบาดตรงอกของผม ผมพูดไม่ออกเลย ไม่สามารถตอบคำถามที่เขาถามผมได้

“เอ่อ.............งั้นแค่นี้ก่อนนะ พี่มีธุระต้องไปทำอะ ไว้เจอกันตอนเย็นนะ”

“อ่าวพี่เจ”

 

ตุดดดดดด

          ผมวางสายของข้าวฟ่างไปทั้งอย่างงั้น โดยที่ไม่ตอบคำถามที่เธอถามเลย ถ้าพูดให้ถูกผมไม่กล้าที่จะตอบมันมากกว่า เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะพูดคำไหนให้มันดูดีได้ ผมมีแฟนรึยังนะ ตอนนี้ผมกลับมานั่งนิ่มเฉยอีกครั้งก่อนที่จะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของไอ้นนท์ มาแต่ไกล

“เซงเลยว่ะ”

“เซงอะไรมึงตั้งแต่เช้าเนี๊ยะ”

“ก็พวก Pop Girl ของโรงเรียนเราอะดิ ไล่ตามกูตั้งแต่เช้าละ” Pop Girl มันคงพูดถึงแก๊งสาวสวยของโรงเรียนผมแหละ ถ้าเรียกหยาบๆก็ตุ๊ด เรียกให้สุภาพหน่อยก็เพศทางเลือกแหละมั๊ง

“ก็มึงชอบไปแกล้งเขาบ่อยๆ ระวังนะมึงจะโดนจับไปเป็นสามีกูไม่รู้ด้วยนะเว้ย”

“เห้ยอย่าพูดดิวะ กูเสียวขนกูลุกไปถึงตูดละเนี๊ยะ”

“หึหึ อะไรจะขนาดนั้นวะ”

“เออ ช่างเหอะ ว่าแต่ว่ามีมึงมาคนเดียวอยู่เหรอ” เอ่อ มึงเห็นมีคนอื่นอยู่นอกจากูรึป่าวล่ะ

“ไอ้ไทค์มันก็มาละ แต่ไม่รู้ไปไหนของมัน อ่ะนั่นไงมาพอดี” ผมพูดพลางหยับหน้าไปทางประตูที่ไทค์กำลังเดินเข้ามา

“เออ ว่ะ หน้ามันยิ้มหลอนๆวะ สูบกัญชามารึไงวะ” เออนั่นดิ ยิ้มแบบหลอนสัสๆ แต่ช่างเหอะ จะว่าไปข้าวปุ้นฝากผมไปบอกมันว่าลืมของนี่หว่า ความจริงผมก็เกือบลืมแหละ ถ้ามันไม่เดินเข้ามา

 “เออ ไอ้ไทค์ เมื่อกี๊ข้าวปุ้นเข้ามาหามึงวะบอกว่ามึงลืมของไว้ ให้ไปเอาด้วย” ผมบอกไทค์ขณะมันก้าวเข้ามาในห้องไม่ถึงสามก้าวก่อนจะนึกอะไรบางอย่างและรีบวิ่งออกไป

 “เออ กูลืมไปเลย เดี๋ยวกูมานะ” ว่าแล้วมันก็รีบวิ่งออกไปทำเอาไอ้นนท์ขำท่าทีของมัน

“ไอ้นี่เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวตกใจ ลมบั้งหมูเข้ารึไงวะ”

“เออ นั่นดิ ประสาทกลับละมั๊ง” ว่าแล้วผมสองคนก็หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจแต่มันก็ดี ที่ทำให้ผมลืมเรื่องราวที่จี้ปมของผมเมื่อกี๊ แล้วผมต้องเจอกับคำพูดที่เสียดแทงใจของผมแบบนี้อีกกี่ครั้งนะ 6 เดือนที่ผ่านมา มันไม่เคยทำให้ผมลืมได้เลยซักครั้ง แต่มันกลับกัน 6 เดือนที่ผ่านมานั้นมันทำให้ผมกลับจำได้อย่างขึ้นใจ ภาพมันคอยวนเวียนไปมาอย่างไม่รู้จบ ทำไมต้องเป็นเรากันนะ

 

ทำไมต้องเป็นเรา?

 

         ผมทิ้งตัวเองอยู่ในความคิดทั้งอย่างนั้นก่อนที่จะปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไปหนึ่งวันเต็ม ผมหิ้วกระเป๋าและเดินออกมาจากห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่แล้วในตอนนี้ ผมเดินออกมาชูชันหน้ามองดูผู้คนเดินผ่านไปมาในย่านการค้าที่สุดจะแน่นหนา ก่อนที่จะเจอคนที่ผมไม่คาดฝันโดยบังเอิญ

 

“พี่เจ”

 

“ข้าวฟ่าง”

 

 

 

#####################

-อ่าน MEMORIES Chapter 1 {Confusion} ตามลิงค์ที่อยู่บนบทนำนะครับ

-ขอบคุณที่ติดตามเสมอมานะครับ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา