Rotten
เขียนโดย GasMask
วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.30 น.
แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557 00.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) CHAPTER 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCHAPTER 3
เวลา 01.15 น.
“พวกเธอจะบ้าหรือไง!” ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ ตะคอกใส่เขาอย่างรุนแรง ด้วยความโกรธ “มีพวกมันอยู่เต็มไปหมดเลยนะข้างบนนะ เดี๋ยวก็ตายหรอก”
“คุณก็ไปกับพวกเราสิ” โอ้เสริม เพราะเห็นร่างกายของชายฉกรรจ์แล้วน่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง อาจจะช่วยได้มากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ
“ไอ้ห่านี่ คิดจะให้กูไปถูกฆ่ารึไง....กู...กูไม่โง่นะเว้ย ไม่เห็นข่าวหรอพวกมันโดนยิงแล้วยังไม่ตายเลยนะ"
“ไอ้ป๊อดเอ้ย”
“ว่าไงนะ!”
“อย่างที่กูพูดไง ไอ้ขี้ขลาด ปอดแหก ตุ๊ดตู่เอ้ย” เก่งด่าเสริมเป็นชุดจนชายฉกรรจ์กระชากคอเสื้อเขาและยกขึ้น จนร่างของเขาลอยขึ้นขาแทบไม่แตะพื้น แต่เขาไม่กลัว คืนนี้เขาผ่านเรื่องเลวร้ายมาเยอะ เยอะมากเสียจนไม่กลัวสิ่งพื้นๆอย่างนี้อีกแล้ว และที่สำคัญเขาไม่กลัวที่จะเอาขวานเฉาะกระบาลไอ้งั่งนี้ด้วยในเมื่อเขาทำเรื่องที่เลวร้ายกว่านี้มาแล้ว เอาสิต่อยเขาเลยและวินาทีนั้นเองที่เขาจะ เผลอทำขวานหลุดมือไปปักหัวมัน
ชายฉกรรจ์เริ่มหวั่นเกรงสายตาของชายหนุ่ม มันแทบไม่มีประกายเลยหรือกลัวเขาแม้แต่นิด และเมื่อถูกมันจ้องมองเป็นเวลานานเขากลับยิ่งรู้สึกว่าไอ้หนุ่มนี้ไม่ได้มองเขาว่าเป็นคนเสียด้วยซ้ำ
เขาจึงปล่อยมือและสบถมาอีกหลายคำก่อนที่จะถอยกลับเข้าฝูงชนไป
“ข่าวนะได้ดูสิ และพวกนายยังจะโง่งมโข่งอีกหรือไง” เก่งปัดคอเสื้อให้เข้ารูปโดยไม่สนใจสายตาที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟของกลุ่มคนตรงหน้าเลย
“เห้ยเก่ง...”โอ้พยายามห้ามปากหมาๆของเพื่อน แต่เก่งยังคงพูดต่อ
“พวกนายไม่คิดมั่งหรอวะมันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่นี่ ข้างบนนี้ แต่มันเกิดทั่วทุกที่ และพวกนายไม่คิดมั่งหรอว่าพวกมันจะแห่กันมาที่นี่ เข้ามาข้างในนี้”
เสียงคนพูดกันเริ่มดังระงมพวกเขาบางคนลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท ในขณะที่บางคนทำหน้าหนักใจเพราะต่างเริ่มคิดเรื่องนี้แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
“ใช่บางทีมันอาจจะเข้ามาไม่ได้ แต่อย่าลืมนะว่าพวกนายก็ออกไปไม่ได้เหมือนกัน ลองนึกดูสิชั้นนี้มันไม่มีห่าอะไรเลยนะในขณะที่ชั้นบนมีอาหารเครื่องดื่มและยาอยู่ มันพอที่จะทำให้พวกนายรอดชีวิตและอาจจะอยู่ได้ถึงตอนที่หน่วยกู้ภัยมาช่วยได้ แต่ถ้านายอยู่กันแต่ที่นี่เชื่อสิแค่ 3 วันก็อดน้ำตายกันหมดแล้ว”
ทุกคนเริ่มเห็นด้วย แต่ก็ยังไม่มีใครอาสาช่วยพวกเขาขึ้นไปฆ่าพวกมันอยู่ดี อันนั้นเขาเข้าใจดี ซึ่งเขาไม่แปลกใจเลยที่คนเราจะเห็นแก่ตัวได้ขนาดนี้ แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความตั้งใจของเขา เพราะเขาไม่ได้คิดฆ่าล้างบางพวกมันอยู่แล้วเขาแค่ต้องการของที่เขาต้องการ และฆ่าซอมบี้ที่ขวางหน้าเขาเท่านั้น เรื่องอื่นไม่สำคัญ และถ้าพวกเขาลงมาแล้วพวกนั้นถามว่า “พวกมันตายหมดไหม” เขาก็จะตอบว่า “ครับผม พวกมันตายหมดแล้วครับ”
“ถ้างั้นพวกนายก็ไปสิ ฮีโร่ พอเสร็จเรื่องแล้วพวกเราก็จะขึ้นไปช่วยใช้ของให้ละกัน อิๆๆๆ” ชายวัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมตบมือ เพื่อนมันอีกสองตัวตบมือตาม
“ไปเลย ฆ่าพวกมันให้หมดพวกเราจะเอาใจช่วยนะ ฮ้าๆๆๆ”
“ไม่ต้องห่วงตรงนี้พวกเราจะปกป้องให้เอง ฮี่ๆๆๆๆ”
เขาเกลียดพวกมัน ถึงแม้สิ่งที่เขาทำจะเป็นการหลอกลวงก็ตาม แต่โดนหยามอย่างนี้มันก็ยากจะให้อภัยได้ โอ้เหมือนรู้อารมณ์ที่เดือดของเพื่อน เขาจับไหล่เขาก่อนที่จะตบมันแล้วพูดว่า
“ถ้าเผื่อเราทำไม่สำเร็จ พวกผมจะพยายามเอาของบางส่วนลงมาให้นะครับ ให้พวกคุณลิสของมาได้เลย” อะไรนะ!เก่งตะโกนในใจ แต่ถึงกระนั้นดวงตาของเขาก็เบิกโพลงเป็นเชิงถามเพื่อนว่า “เรื่องอะไรกันวะ” เพื่อนเขาแค่ขยิบตา เป็นคำตอบประมาณว่า “ฉันรู้น่าว่านายไม่ฆ่าพวกมันให้หมดจริงๆหรอก”
เหอะแล้วแต่มึงเหอะไอ้คนดี เขาคิด
แต่ก็เพราะอย่างนี้แหละที่เขาเชื่อใจมัน คนแต่ละคนส่งลิสกระดาษมาให้พวกเขา พอถึงคิวไอ้ 3 กุ๊ยนั้นเขาไม่รับไม่สนใจเสียด้วยซ้ำ พวกมันทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องเขา แต่พอเขากำขวานในมือแนบอกพวกมันก็หยุดทันที
มีเพียงน้องสาวเขาเท่านั้นที่ไม่ยอมเขียนรายการเพราะเธอ “พี่หนูจะไปด้วย...”
“นา น้องไปไม่ได้เด็ดขาด” เขาไม่อยากให้น้องไปเพราะมันอันตราย และเขาไม่อยากให้น้องรู้ว่าเขาไปไม่ใช่เพราะยาเพื่อหญิงสาวขาเป๋ แต่เพื่อเหตุผลอื่น
“แต่หนูจะไป พี่ต้องให้หนูไปนะ”น้องเขาเริ่มทำตัวกระสับกระส่ายก่อนที่จะเอามือกุมท้อง น้ำตาคลอเบ้าหรือว่า “นามานี่ซิ” เขากระชากแขนน้องแล้วเดินไปหลบอยู่หลังเสา
“น้องต้องการอะไรกันแน่”
“...ปะ..เปล่า”
“ไม่ต้องโกหก หรือว่า....ประจำเดือนมาวันนี้”
น้องเขาตัวสั่นและก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิดที่ต้องเป็นภาระของพี่ “...อื้ม....”
“แม่งเอ้ย....”เขาตะคอกก่อนที่จะทุบเสานั้นอย่างแรง ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยวะ น้องเขาเริ่มร้องไห้ เขาจึงรีบสงบสติอารมณ์และเข้าไปปลอบ
“พี่ เข้าใจแล้วไม่ต้องร้องนะไม่ต้องบอกใครด้วย”
“ว้าย!” เสียงตะโกนของหญิงสาวดังขึ้น เป็นเสียงที่เขาได้ยินบ่อยจนน่ารำคาญ เมื่อเขาเดินไปถึงที่เกิดเหตุเขาก็สังเกตเห็นว่าโอ้กับเอ๋โดนพวกมันวัยรุ่นล้อมอยู่
“เห้ย พวกเอ็งทำอะไรวะ”เก่งตะโกนด้วยความโมโห เมื่อเอ๋เห็นเก่งเดินเข้ามาเธอรีบผละออกจากโอ้แล้วมาหลบข้างหลังเขาทันที
“อะไรกันพี่ชาย เราแค่คุยกะพี่สาวเล่นๆ แค่นั้นเอง”
“หุบปากไปเลยไอ้สัตว์” เก่งตะคอกด้วยความโมโหอย่างสุดอดกลั้น เขาเจอเรื่องเหี้ยๆมาทั้งคืนจนแทบทนไม่ไหวแล้ว
“มึงว่าอะไรนะไอ้ ระ.....”ไอ้คนที่พูดแซวเขาหยุด พร้อมกับหยุดหมัดที่กำลังง้างเพื่อต่อยเขา เมื่อถูกปืนจ่อกลางศีรษะ
“เห้ยเก่ง หยุดนะเว้ย!”โอ้รีบห้ามเพื่อนของตนโดยไม่รู้เลยว่าเขาฟิวขาดก็เพราะมันถูกหาเรื่อง
“เฮ้ๆๆๆ พี่ชายอย่าล้อเล่นน่ามันของอันตรายนะ”
“มึงว่ากูล้อเล่นหรอไอ้สัตว์” เก่งขึ้นนกทันที เขาพร้อมยิงทุกเมื่อ ทุกคนเริ่มตะโกนอย่างตกใจเพราะเขาเชื่อว่าชายหนุ่มยิงแน่ จนไอ้กุ๊ยตรงหน้าทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยความกลัว
“พอได้แล้วโว้ย”โอ้ตะโกนอย่างฉุนขาดเหมือนกันเขากดแขนเพื่อนลง
“พอ...พอได้แล้ว ฉันไม่เป็นไร” โอ้ย้ำให้เพื่อนตนฟัง เก่งจึงเริ่มใจเย็นลงเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้ ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ แต่เขาไม่แปลกใจนักเพราะว่าวันนี้สิ่งที่เขาเก็บกดมานานเริ่มระเบิดออกมาทีละนิด เขากำปืนแน่นก่อนที่จะปลดนกอย่างช้าๆ เขาเดินไปหาน้องสาวของตนแล้วออกคำสั่งว่า “น้องเก็บไว้ ถ้ามีใคร...ถ้ามีใครมารังแก ยิงมันเลย”
“หา...พี่...”
“สัญญากับพี่สิ”
“พี่...หะ...หนูเจ็บ”นาเจ็บมือเพราะพี่เขากำแน่นมาก เมื่อมองสายตาพี่ของเธอ เธอรู้ว่าพี่เธออยากให้เอาจริง ให้รักษาคำพูด เธอไม่ได้โง่เธอเข้าใจ แต่เธอจะกล้ายิงรึเปล่าเธอไม่รู้ถึงแม้สถานการณ์อย่างนี้ ไม่อาจคาดเดาได้ว่าใครจะทำอะไรได้บ้างเพื่ออยู่รอด หรือเพื่อความต้องการของตน แต่การฆ่าคนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เธอก็สัญญา
เวลา 01.30 น.
“ทุกคนถืออาวุธพร้อมแล้วนะ” เขาต้องเสียเวลาไปกับการหาอาวุธให้ไอ้พวกนี้ เพราะแต่ละคนมีแต่อาวุธที่ไม่ค่อยอันตรายเสียเท่าไหร่
“นี่ต้องใช้อีโต้เลยหรอ” ชายวัยกลางคนที่ชื่อ วิน พูดขึ้น เขากลัวอาวุธที่ถืออยู่ในมือ
“เออสิลุง แล้วจำไว้นะต้องเฉาะลงที่สมองมันเท่านั้นพวกมันถึงจะตาย....ถ้าลุงกลัวมันเจ็บลุงได้ตายแน่”
“อะ...อืม”
เก่งสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนที่จะให้สัญญาณเอาเครื่องกรีดขวางออก “ไปกันเถอะ”
เวลา 01.32
ที่ชั้น 2
“ชั้นนี้มีกี่ตัวนะโอ้”
“ประมาณ12 ตัวนะไม่แน่ใจ”
“อืม คนละ 3 สินะ”เก่งคิดคำนวณในขณะที่เดินขึ้นบันไดเลื่อนไป ที่นี้บันไดเลื่อนเป็นแบบปิดตายคือทั้ง 2 ข้างมีแต่กำแพงและป้ายโฆษณาไม่เหมือนห้างใหญ่ๆ ที่เป็นแบบเปิดโล่งเพื่อความสวยงาม โชคดีมากที่เขาไม่เจอพวกมันตรงนี้ ไม่งั้นคงสู้กันลำบากแน่
และตรงปลายสุดของลิฟเขาก็ได้เจอพวกมัน เป็นพนักงานแคชเชียร์ เขาจำหน้าเธอได้ เธอเดินไปมาอย่างไร้จุดหมาย คอตก แขนห้อยราวกับคนไร้วิญญาณนี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาได้เห็น พวกมัน แบบไม่เข้ามาจู่โจมแต่ก่อนเธอยังเคยยิ้มให้เขา ให้คนอื่นและชอบแซวเด็กๆเพราะเธอคงรักเด็กมากแต่ตอนนี้เธอกลับเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณเท่านั้น
คนตายที่ยังคงมีชีวิต และคนที่ยังมีชีวิตทั้งๆที่ตายไปแล้ว
“เก่งฉันจัดการเอง”โอ้เอ่ยปากขึ้น เขาสังเกตได้ถึงสีหน้าของความลำบากใจบนใบหน้าของเพื่อน เขาจึงเป็นคนอาสา แต่เก่งกลับห้ามไว้
“ไม่....เราจะลงมือด้วยกัน”
“ยังไงละ...”
“พวกคุณดูไว้เป็นตัวอย่างด้วยนะ โอ้นายเดินนำหน้า และเรียกมันนะ ไม่ต้องกลัวกะระยะให้ห่างพอ” เก่งพูดพร้อมผลักโอ้ให้เดินไปข้างหน้า เพื่อนเขายังคงไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไรแต่ก็ทำตาม เพราะเชื่อใจในตัวเขา
เขาเริ่มเดินฉีกออกไปด้านข้างก่อนที่จะพูดอย่างช้าๆว่า “แล้วอีกคนก็เดินหลบมุมไปด้านข้างพยายามอ้อมไปข้างหลังมัน โอ้เอาเลย”
โอ้พยักหน้าพร้อมตะโกน “เฮ้ย....คุณผู้หญิง” อะนะ เพื่อนเขานี่สุภาพตลอด เจ้าซอมบี้หันไปตามเสียงและเมื่อมันเจอเหยื่อเป็นๆ มันก็เริ่มเดินเข้าไปหา ตอนแรกค่อนข้างช้าแต่ต่อมาก็เริ่มเดินเร็วขึ้น ทว่าถึงจะเร็วแค่ไหนมันก็เดินเท่านั้น โอ้กำมีดทำครัวในมือไว้แน่นแต่เก่งกลับ ส่ายหัว โอ้จึงหยิบของที่อยู่ข้างหลังนั้นคือร่มนั้นเอง
ตอนแรกเขาสงสัยว่าเพื่อนของตนให้ตนและคนอื่นๆหยิบร่มมาทำไม ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขากางมันออกพร้อมดันไปที่ซอมบี้ตัวนั้น มันจึงเข้ามาใกล้เขาไม่ได้
“ดีมากเพื่อน และตอนนี้ละ” เก่งพุ่งเข้าใส่เจ้าซอมบี้จากข้างหลัง พร้อมกับเงื้อมมือขึ้น ฉึก! อีโต้ได้ถูกฟันเข้ากลางหัวมันจนมิดด้าม ร่างของมันค่อยๆร่วงหล่นลงกองกับพื้น ปึด! อีโต้ที่ปักหัวมันถูกดึงออก โอ้หุบร่มเข้าตามเดิม และเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนเขาถึงกับชะงัก
เพราะมันไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น ราวกับคนตาย
“และนี่แหละคือวิธีฆ่าพวกมันที่ปลอดภัยที่สุด”
เขาเริ่มกลัวเพื่อนตัวเอง
เขากับวินจับคู่กัน เป็นความคิดของโอ้
ทั้งสองร่วมเดินกันไปทางฝั่งตะวันออกของห้างในชั้น 2 ในขณะที่โอ้กับ รปภ.ชื่อ วสัน เดินไปทางตะวันตก ถึงห้างนี้จะมีแค่ 3 ชั้น แต่มันก็กว้างไม่ใช่น้อย ที่ๆเขากับวินมุ่งไปคือแผนกยา ทั้งสองต่างมีเหตุผลของตัวเอง เก่งสบถออกมาเป็นระยะจนชายแก่เริ่มคิดว่าเป็นความผิดของตน ซึ่งความจริงเขาคิดถูกแค่ครึ่งเดียว
เขาสบถเพราะน้องเขา ที่ดันเป็นเมนตอนไหนไม่เป็นดันมาเป็นตอนหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ เขาจำเป็นต้องหาผ้าอนามัยให้เธอ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าพวกมันจะตามกลิ่นเลือดมาหรือเปล่าถ้าตาม พวกเขาซวยแน่เพราะเท่ากับว่าเขามีเนื้อสดส่งกลิ่นหอมหวนยั่วพวกมันให้มาขย้ำพวกเขานั้นเอง
เขาเดินนำหน้าชายชรา ทั้งสองเดินลัดเลาะตามแผนกต่างๆ ผ่านซุ้มที่นอน ผ่านที่ทำแว่นตาและขายยกทรง และกำลังจะผ่านแผนกของเล่น เก่งสั่งให้วินหยุดทันที
วินกำมีดในมือแน่น ทว่าเขากลับมองไม่เห็นพวกมันเลยสักตัวและเมื่อหันไปมองชายหนุ่ม วินแทบไม่อยากเชื่อสายตาเพราะชายหนุ่มกำลังเลือกหน้ากากเด็กเล่นอยู่
“เธอทำอะไร....” วินกำลังจะเอ่ยถาม แต่เก่งกลับยื่นหน้ากากมดแดงให้กับเขา
“สวมมันซะ”
“ทำไม”
“สวมมันเถอะน่าลุง”เก่งหันกลับไปเลือกหน้ากากอีกครั้งก่อนที่จะหยิบหน้ากากฮอกกี้ให้ตัวเอง เป็นหน้ากากฮอกกี้เก่าๆ จากชุดแต่งวันฮัลโลวีน วินจำได้ว่ามันน่าจะมาจากหนักเรื่อง JASON
“ผมไม่อยากให้ลุงเผลอทำเลือดพวกมันเข้าปากในตอนที่เฉาะหัวมันอะนะ”
อ๋อ อย่างงี้นี่เอง วินคิดในใจเขาเองก็ได้ยินจากข่าวมาเหมือนกันว่าพวกคนที่ถูกกัดจะกลายเป็นพวกมัน ซึ่งนั้นอาจเกิดจากเลือดที่อยู่เต็มปากพวกมันไม่ก็เป็นเพราะน้ำลายที่เป็นตัวภาหะนำโรคก็เป็นได้ เขาจึงสวมใส่ ถึงแม้จะรู้สึกขัดใจที่ตนต้องสวมหน้ากากมดแดง
ก้วมๆ
“อะ..”วินกำลังจะเอ่ยปากแต่เด็กหนุ่มกลับเอามือมาปิดปากเขาไว้ทำให้ส่งเสียงไม่ได้ “พวกมัน” เด็กหนุ่มกระซิบข้างหูเขาอย่างแผ่วเบา แต่เพียงแค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้โสตประสาททั้งหมดของเขาตื่นตัว
ทั้งสองค่อยๆ ย่องไปตามเสียงและเมื่อเก่งไปถึงเขาต้องรีบเอามืออุดปากตัวเอง ก่อนที่จะลากชายชราให้ไปหลบมุม
“แม่งเอ้ย”เด็กหนุ่มสบถอย่างแผ่วเบาใบหน้าของเขาซีดเผือก เหงื่อเม็ดโตเริ่มไหลย้อยตามหน้าผาก วินสงสัยสิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นเขาจึงค่อยๆแง้มไปมอง
กร้วมๆ กร๊อบๆ แก๊บๆ เสียงกัดขบเขี้ยวดังขึ้นถี่ และเมื่อวินได้แง้มมองสิ่งที่อยู่ตรงช่องสัพสินค้า ภาพที่เห็นแทบทำให้ข้าวเย็นที่เขากินขย้อนออกมา
ภาพตรงหน้านั้นราวกับสัตว์ป่านับสิบขย้ำกินเหยื่อ ที่ตนล่ามาได้อย่างเอร็ดอร่อย พวกมันกินทุกสัดส่วนของชาย...หรือผู้หญิงคนนั้นเขาไม่แน่ใจ เพราะส่วนหน้านั้นถูกกัดแหว่งจนรุ่งริ่ง เลือดเนื้อนั้นตกกระจายไปทั่วพื้น ส่วนสมองยังคงถูกพวกมันขย้ำกิน ส่วนตัวนั้นถูกกัดเละจนแทบเหลือแต่กระดูก บางตัวหยิบไส้ออกมาดูดกินอย่างอเร็ดอร่อย ส่วนขาและแขนบางส่วนถูกบางตัวหยิบแทะกินราวกับหมาในที่แสนหิวโหย ภาพตรงหน้าโหดร้ายและสยองขวัญเกินกว่าวินจะรับได้ เขากำลังจะอ้วก
“อย่านะลุง” เก่งพูดพร้อมเอาขวานจ่อคอเขาจนเขาต้องรีบกลืนของเก่าเข้าไปอีกครั้ง เก่งจึงเอาปลายขวานออกจากคอเขา ก่อนที่จะสบถอีกครั้ง “ทำไมถึงซวยงี้วะ”
“พวกเรา....พวกเรา ผ่านมันไปเถอะไม่ต้องฆ่ามันหรอก”
“ไม่ได้นะสิลุง ผมเองก็อยากไปแต่ทำไม่ได้ โธ่ๆๆ เว้ย”
“ทำไมละ”
เก่งไม่ตอบอะไร เขาเพียงชี้นิ้วขึ้น เมื่อวินแหงนขึ้นไปมองเขาเองก็เผลอสบถขึ้นมาเหมือนกัน “พระเจ้าเอ้ย” เพราะที่ป้ายข้างบนเขียนไว้ว่า “แผนกยา” และเมื่อเขานึกย้อนกลับไปเขาจึงจำได้ว่าชุดที่ “อาหาร” ของพวกมันสวมใส่นั้นเป็นชุดกาวที่เต็มไปด้วยเลือด
“พวกมันมีกี่ตัวอะลุง” เก่งถามซึ่งวินก็ไม่แน่ใจจึงออกไปดูใหม่ เขานับได้ 6
เก่งเองหันไปนับดูอีกทีเหมือนกัน เขาสังเกตว่าพวกมันบางตัวไม่ได้อยู่ใกล้กันมากนัก เขาจึงตัดสินใจว่าควรรีบลงมือก่อนพวกมันจะเบื่ออาหารนั้นและเริ่มหาอาหารใหม่
“ลุงอยู่นี่นะ พอผมให้สัญญาณ ลุงเข้าไปเอาของเลยนะผมจะล่อมันเอง”เก่งเสนอความคิดเพราะเขาคิดว่าตนเองน่าจะวิ่งได้เร็วกว่า
“ไม่ฉันล่อเอง”
“หา”เก่งรู้สึกแปลกใจเพราะเขาพึ่งเสนอหน้าที่อันตรายน้อยที่สุดให้แก่ชายชรา แต่กลับถูกปฏิเสธ เก่งทำหน้าแปลกจน ชายชราจึงเริ่มอธิบายด้วยเสียงตะกุกตะกัก
“เธอ...เธอ น่าจะหยิบฉวยของได้เร็วกว่าฉัน และอีกอย่างถ้ามีอะไรเกิดขึ้นและมันหันมาสู้กับเธอ....เธอน่าจะจัดการพวกมันได้ดีกว่าด้วยขวานนั้น...ฉันเองก็แก่แล้วคงถือขวานนั้นกวัดแกว่งได้ไม่คล่องนัก แต่เรื่องวิ่งฉันยังพอมั่นใจอยู่ เพราะฉะนั้นเธอเป็นคนเอาของฉันล่อเอง”
“แน่ใจนะลุง”
“เออ ไว้ใจฉันสิเห็นอย่างนี้ฉันเคยเป็นนักวิ่งมหาลัยเลยนะ”
ประมาณ 20 กว่าปีก่อนได้มั่งเก่งยิ้มเหยเก แต่ก็ไม่ได้พูดสิ่งที่ตนคิดออกมา จริงอย่างที่โอ้พูดว่าชายชราคนนี้โอเคเลย แต่เพื่อนเขาก็แสบนักถ้าเขาจับกลุ่มกะโอ้เขาก็ไม่ต้องหายาให้ชายชราจนทั่วเขาแค่หยิบผ้าอนามัยและเผ่นทันทีได้เลย
แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่นะ
“เอางี้นะลุง แผนเป็นงี้”
เวลา 01.53
เก่งค่อยๆ ย่องไปยังซอมบี้ที่อยู่ห่างที่สุดจากกลุ่มสิ่งที่เขาทำถือว่าเสี่ยงมากพวกเขาตัดสินใจที่จะไม่ล่อมันแต่เลือกที่จะโจมตีเป็นกลุ่มแทน เก่งกับลุงสวมหน้ากากและจับอาวุธในมือไว้มั่น ทั้งสองมองหน้ากันจากฟากตรงข้ามของชั้นวางของ เก่งพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าจะเริ่มจู่โจม
ซอมบี้ตัวหนึ่งกำลังแทะขาอย่างเอร็ดอร่อย มันกินราวกับเด็กแทะขนม อันที่จริงดูจากสภาพและขนาดของร่างกายแล้วน่าจะเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 16 ปีได้ ทว่าส่วนหน้าซีกล่างด้านซ้ายกลับถูกกัดจนแหว่งเพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เธอเขี้ยวเนื้อตุ้ยๆอยู่นั้นก็จะมีเศษชิ้นเนื้อเล็ดลอดออกมาเรื่อยๆ
ฉึกแขนของเธอตกลง ขาในมือกลิ้งหลุนๆ ลงไปกองกับพื้น ที่หัวมีอะไรบางอย่างปักอยู่ลึกลงมาถึงส่วนปากด้านบนมันปักลงตรงกลางศีรษะพอดี
ซอมบี้อีก 5 ตัวหันไปมองทิศทางที่เกิดเสียง แต่สิ่งที่พวกมันเห็นคือพวกพ้องที่ยังคงนั่งอยู่นิ่งๆเท่านั้น โดยไม่เห็นเลยว่าที่ด้านหลังของเธอมีชายหนุ่มคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ เก่งนั้นเอง
เก่งไม่เอาขวานที่ปักออกเพราะนั้นจะทำให้ร่างของเธอร่วงหล่นลงกับพื้น คราวนี้เป็นตาของวินแล้ว ลุงลงมือซะทีเซ่ ในขณะที่พวกมันยังมองมาทางเขา
มือของวินยังคงสั่นเทา ถ้าพลาดนั้นหมายความว่าเขาซวยแน่เพราะเขาอยู่ใกล้พวกมันที่สุด แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก เขาต้องเอายากลับไปให้ลูกของตน เขาต้องทำให้ได้
เขาง้างอีโต้ในมือขึ้นและปักลงสุดแรงไปยังชายตรงหน้า ปึก! เสียงมีดสับกะโหลกดังขึ้น มือของเขาสั่นกระตุกไปด้วยความเจ็บปวด เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ากะโหลกคนจะแข็งอย่างนี้
พวกมันเริ่มหันมามอง วินต้องรีบดึงมีดออก แต่มันไม่ยอมออก พวกมันบางตัวเริ่มสงสัย จ้องมาทางเขาแบบไม่วางตา เขาพยายามดึงมีดออกอีกหลายครั้งจนหัวของซอมบี้ตัวนั้นโยกไปมา พวกมันบางตัวเริ่มลุกขึ้นยืนและกำลังเดินมาทางเขา ก่อนที่จะก้าวขาเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ
จนเก่งเริ่มผิดสังเกตบางอย่าง การเคลื่อนไหวของพวกมันต่างออกไป พวกมัน....พวกมันกำลังวิ่ง วิ่งไปทางวิน พวกมันไม่ได้เคลื่อนไหวช้าๆเท่านั้น
“ลุงวิ่งและปล่อยมีดนั้นซะ!” เก่งตะโกนจนวินออกตัววิ่ง และพวกมันก็วิ่งตามเขาไป!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ