Rotten

5.8

เขียนโดย GasMask

วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.30 น.

  7 chapter
  1 วิจารณ์
  10.73K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557 00.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) CHAPTER 1.2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ROTTEN1.2

เวลา 21.46 น.

 

 

            แต๊ด...แต๊ดๆๆๆๆ...แต๊ด

            เสียงเครื่องยนต์กระแอมไอออกมาราวกับคนสิ้นลม ก่อนที่มันจะสิ้นใจ

            “แม่งเอ้ย น้ำมันหมด ไอ้พวกนี้แม่งไม่มีเงินเติมน้ำมันกันมั่งหรือไงวะ”

            “เราจะทำยังไงกันดีละ อีกตั้ง3กิโลกว่าจะถึงบ้าน”

            “เฮ้อ....สงสัยคงต้องเดินแล้วละถึงยังไงถนนมันก็คดเคี้ยวกว่าจะขับรถได้อยู่ดี”

            ทางเบื้องหน้านั้นมีแต่ซากรถที่ถูกทิ้งอยู่เกลื่อนกลาดเต็มท้องถนน บางคันถูกชนจนยุบ บางคันประตูยังถูกเปิดทิ้งไว้ ทว่าไม่มีเลยซักคันที่มีคนอยู่หรือพวกมันเลย นั้นนับว่าเป็นสัญญาณที่ดี พี่น้องทั้งสองเดินลงจากรถมอไซต์ น้องเขาจับกุมมือเขาไว้ เขาแค่หันไปมองด้วยดวงตานิ่งชา พลันนึกถึงวันเก่าๆตอนที่เขาอายุแค่ 8 ขวบ และน้องเขาอายุแค่ 4 ขวบ เขาทั้งสองเคยเดินจูงมือกันอย่างนี้ ปราศจากความรู้สึกเกลียดชังและเสแสร้ง มีแต่ความไสซื่อและความรักให้กัน

            แต่ตอนนั้นก็คือตอนนั้น ไม่ใช่ตอนนี้ มันไม่เหมือนเดิมแล้ว

            พวกเขากำลังเดินผ่านถนน ตัดเข้าสู่ตลาด เขาไม่อยากนึกเลยว่าข้างในนั้นจะมีคนมากแค่ไหน และมันจะน่ากลัวเพียงไดถ้าทุกคนกลายเป็นซอมบี้กันหมด ไอ้นิสัยที่ชอบคิดในแง่ร้ายของเขานั้นนำมาแต่ปัญหาไม่เคยมีเรื่องดีๆเลยแม้สักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันดั่งคำว่า คิดยังไงได้อย่างนั้น

            “ช่วยด้วย!” เสียงของหญิงสาวกรีดร้องดังขึ้นจากทางข้างหน้า เขารีบดึงมือน้องของตนให้ก้มลงไปหลบอยู่หลังรถกระบะคันหนึ่ง เสียงกรีดร้องนั้นยังคงดังอยู่เรื่อยๆ มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

            “พี่...” น้องเขาพยายามเอ่ยปากพูด แต่พี่ของเธอกลับใช้มือปิดมันไว้ และใช้นิ้วป้องปากบอกให้เงียบและฟัง ทันไดนั้นเองเธอได้ยินเสียงคนกำลังทุบอะไรบางอย่างพร้อมเสียงกรนคำรามไม่ได้ศัพท์

            ก้า...กุ....ตึงๆๆๆ...อ้า.... ผีดิบนั้นเองมันพยายามทุบอะไรบางอย่าง และเสียงผู้หญิงยังคงตะโกนขอความช่วยเหลือ โดยที่น้ำเสียงเริ่มแผ่วเบาลงเรื่อยๆด้วยความอ่อนล้าและสิ้นหวัง

            “พี่เราต้องช่วยเธอนะ” น้องเขาเอ่ย

            “ช่วย.....เหอะ มันจำเป็นด้วยเหรอ”

            “พี่....”

            “ทีตอนเราไม่เห็นมีใครมาช่วยเลย แล้วนี่เห็นรถไหมมันมีตั้งเยอะแยะ มันย่อมหมายความว่าก่อนหน้านี่ต้องมีคนอยู่เยอะ แล้วทำไมคนเหล่านั้นไม่ช่วยเล่า เพราะอะไรเธอรู้ไหม...”

            “.....” น้องเขาเงียบทั้งๆ ที่รู้คำตอบ เขาเลยตอบแทนให้

            “เพราะทุกคนมันล้วนเห็นแก่ตัวไงเล่า....เธอเองก็เหมือนกัน”

            “......” น้องเขากัดฟันแน่นด้วยความโกรธ เธอรู้ดีว่าพี่ของเธอหมายถึงอะไร หมายถึงความหลังและช่วงเวลาก่อนหน้านี้ มันใช่เวลามาลื้อฟื้นความหลังอันบัติซบไหมเนี่ย เธอคิด

            “ก็ได้ ฉันขอโทษ”

            “มันสายไปแล้ว” น้องเธอเริ่มมีน้ำโห

            “ไอ้คนเห็นแก่ตัวไอ้คนเลว ไอ้เห....” อึกเธอไม่สามารถพูดได้อีก เพราะมือของพี่เธอบีบคอเธอไว้

            “ชู่ววววว....เดี๋ยวมันก็ได้ยินหรอก” เสียงทุบหยุดไปแล้ว เสียงขู่คำรามก็หยุดลง มีแต่เสียงหัวใจเต้นแรงของเธอที่ดังกระหึ่ม หรือมันจะรู้ตัวแล้วว่าพวกเธอซ่อนอยู่นี่ น้ำตาของเธอเริ่มปริ่มอีกครั้ง ทันไดนั้นเสียงทุบก็ดังขึ้นต่อ

            “ฉันรู้นะว่าตรงนั้นมีคนอยู่ ช่วยชั้นด้วย ชั้นขอร้อง....ได้โปรด...ฮึก...ฮือๆๆๆ ช่วยชั้นด้วย” ผู้หญิงคนนั้นเริ่มร้องไห้

            “พี่ เราต้องช่วยเขานะ ฉันขอร้องละ เราไม่จำเป็นต้องทิ้งเธอนี่”

            พี่ของเธอ แสดงความโมโหออกมาทางสายตาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาว่า “โธ่เว้ย ก็ได้ แต่เราต้องไปดูก่อนนะว่าเราจะช่วยได้อย่างปลอดภัยรึเปล่า”

            เธอเริ่มยิ้มออกเมื่อได้ยินอย่างนั้น พี่เขากระชากมือเธอให้หมอบตามมา ทั้งสองก้มๆเงยๆ มองลอดผ่านตามซอกรถเพื่อตามเสียง ร้องขอความช่วยเหลือนั้นไป พี่เธอหยิบอะไรบางอย่างมาจากรถคันหนึ่งเธอเห็นไม่ชัดนัก เหมือนเป็นแท่งเหล็กอะไรสักอย่าง

            ในที่สุดพวกเขาก็มาใกล้พอจนได้ยินเสียงคำราม ทุบกระจกรถ และเสียงร่ำไห้ได้อย่างชัดเจน ซอมบี้ตัวหนึ่งพยายามมุดเข้าไปยังหลังรถคันหนึ่งที่กำลังคว่ำอยู่มือข้างหนึ่งของมันเข้าไปได้ทว่ามืออีกข้างหนึ่งของมันติดอยู่ตรงกระจกประตูหน้า ถ้าหากมันมีสมองมันคงดึงมือนั้นออกและมุดเข้าไปฆ่าผู้หญิงที่อยู่หลังรถได้แล้ว แต่เพราะมันโง่และไร้สมองทำให้มีเพียงมือและหัวครึ่งหนึ่งมุดเข้าไปหาหญิงสาวได้ และเพราะเหตุนั้นเองที่ทำให้เธอยังไม่ตาย

            “พี่...พี่ต้องช่วยเธอนะ”

            “ไม่....ถ้าเธออยากช่วยผู้หญิงคนนั้นเธอเองก็ต้องลงมือด้วย”

            “แต่.....”

            “ไม่มีแต่ อยากได้อะไรก็ต้องเอามาด้วยตัวเองสิ เธอชอบด่าฉันอย่างนั้นไม่ใช่หรอ ฮึๆๆๆ”

            ทำไมเขาถึงได้ผูกใจเจ็บอย่างนี้ ไอ้พี่โง่เอ้ยเธอคิด โดยที่ไม่รู้เลยว่าพี่เธอจับความคิดเหล่านั้นได้หมดผ่านสายตาเธอ แต่เขาพยายามเก็บซ่อนความไม่พอใจนั้นเอาไว้ ถ้าเธออยากช่วยผู้หญิงคนนั้นทั้งสองต้องร่วมมือกัน เขาทำคนเดียวไม่ได้และเขาไม่สามารถอธิบายดีๆให้กับน้องเขาฟังได้ เพราะความ อคตินั้นเอง

            “ก็...ก็ได้ แล้วฉันต้องทำยังไงบ้างละ”

            “เธอต้องดึงเจ้าซอมบี้นั้นออกมา ให้หัวมันโผล่ออกมาจนหมด แล้วพี่จะฆ่ามันเอง”

            “หา ต้องจับไอ้นั้นนะหรอ ไม่! น่าเกลียด”

            “ถ้าเธออยากช่วยผู้หญิงคนนั้นเธอต้องทำ หรือเธออยากเป็นฝ่ายฆ่ามันละสลับกันก็ได้นะ”

            “อึก...”

            “คิดไว้แล้วเชียว เอาไงจะทำหรือไม่ทำ!”

            เธอไม่อยากทำ และเธอก็ไม่อยากแพ้...ไม่ใช่สิเธออยากช่วยผู้หญิงคนนั้น ใช่ เธออยากช่วย เพราะฉะนั้น เธอจะต้องทำ

            “ก็...ก็ได้ ชิ” พี่เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ทั้งๆที่ในสถานการณ์อย่างนี้ไม่มีอะไรให้ยิ้มแท้ๆ แต่เธอรู้ว่าพี่เธอยิ้มด้วยความกลัว เธอเองก็กลัวแต่ยิ้มไม่ออก

 

            ทั้งสองอ้อมไปด้านหลังของเจ้าซอมบี้นั้นโดยหลบอยู่หลังรถคันหนึ่งที่ด้านหน้าบุบยู่ยี่สงสัยจะเป็นคันที่ชนรถคันนั้นจนคว่ำ เก่งพึ่งสังเกตว่าที่หน้ารถมีรูโหว่ขนาดใหญ่พอที่ผู้ใหญ่คนหนึ่งจะพุ่งออกมาได้ และรอยเลือดมันนำทางไปยังเจ้าซอมบี้นั้น มันหมายความว่าไง!

            “พี่....” เสียงกระซิบของน้องเขาดังมาจากอีกฟากหนึ่งของรถ เขาไม่มี เวลาคิดเรื่องอื่นแล้ว

            ปึง...เขาเอาท่อนเหล็กในมือฟาดพื้นอย่างแรง เจ้าซอมบี้นั้นชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณการจู่โจม น้องเขารีบพุ่งตัวออกไปและจับขากางเกงของเจ้าซอมบี้นั้นไว้ จนเจ้าซอมบี้นั้นเอาหัวออกมาจากรถแต่มันเพียงนิดเดียวเท่านั้น ทำไมน้องเขาไม่รู้จักออกกำลังกายซะบ้างวะ!

            “เอาออกมาอีก!” เก่งตะโกน

            “ไม่ไหวแล้ว....หนูไม่ไหวแล้ว...ไม่เอาแล้ว” น้องเขาเริ่มโอดครวญเสียงผู้หญิงในรถที่คว่ำยิ่งตะโกนดังขึ้น ยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวายขึ้น เขาเริ่มฟาดไปที่ท้ายทอยของมัน แต่มันไม่พอ ไม่อาจทำให้มันตายได้ ท่อนเหล็กในมือเล็กไป เพราะมันเป็นเพียงที่ล้อคเกียร์เท่านั้น เขาต้องหาของใหญ่กว่านี้แล้วอะไรละ

            โธ่เว้ย!

            เขาฟาดไม่ยั้ง

            มืออีกข้างของมันเริ่มหลุดจากประตูหน้า

            ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะตาย

            น้องเขาเริ่มนั่งลากมันออกจากรถ

            ตอนนั้นเองที่เขาเริ่มใช้เหล็กในมือเสียบไปตรงที่ช่องว่างระหว่างหัวไหล่ของเจ้าผีดิบนั้นกับประตูรถและงัดมันออกทำให้หัวมันออกมาเกือบเต็ม แค่นั้นก็พอแล้ว

            “ตายซะไอ้ระยำ” ตูม....เขากระทืบไปที่กระดูกตรงคอมัน มันเริ่มกรีดร้อง ตูมเขากระทืบไปอีกครั้ง ครั้งนี้เจ้าผีดิบนั้นเริ่มไร้เรี่ยวแรงทำให้น้องเขาดึงมันออกมาได้ เขาปล่อยมือจากท่อนเหล็กก่อนที่จะใช้ 2 มือยันตัวรถไว้และกระทืบซ้ำ

ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ

            ตูม กร๊อบ ผลึก แผละ แผละ แผละ

            ตายซะ ตายซะ ตายซะ ตายไปซะให้หมด ไอ้เหี้ยยยย เอ้ย

            “พี่.....”

            “ตายซะ...ตาย...มึงชอบเหยียดหยามกูนักไช่ไหม”

            “พี่....พอแล้ว...พี่”

            “ตาย แฮกๆ ตายซะ...แฮก อึก”

            น้องเขาวิ่งไปสวมกอดเขา เขาจึงหยุดลงและพึ่งสังเกตว่า ที่รองเท้ากับขากางเกงมีแต่รอยเลือดและเศษเนื้อเกลื่อนกลาดไปหมด

            อึก โอ้กๆๆๆ เขาอ้วกออกมาอีกครั้ง

            น้องเขารีบเอามือป้องปากไว้ เพื่อที่จะไม่อ้วกตาม เธอพึ่งสังเกตว่าเสียงร้องของหญิงในรถได้หยุดไปแล้ว เกิดอะไรขึ้น เธอพยายามดึงร่างเจ้าซอมบี้นั้นออก แต่ตัวมันช่างหนักเหลือเกินทันไดนั้น มีคนช่วยดึงร่างมันออก พี่เธอนั้นเองเขาดึงมันออกทั้งๆที่ใบหน้าเต็มไปด้วยขี้มูก น้ำตาและเศษอ้วก

            ในที่สุดเจ้าซอมบี้ไร้หัวนั้นก็ถูกดึงออกมาไกลพอ เธอมุดลงไปมองใต้รถอย่างขยะแขยง ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าหญิงสาวในรถแค่สลบไปเท่านั้น เธอกับพี่จึงช่วยกันดึงร่างนั้นออกมา และเมื่อดึงออกมาได้ ทั้งสองก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น

            “คุณพระช่วย....” เก่งอุทานออกมาอย่างหัวเสียกับภาพตรงนี้

            “พี่....เราทำยังไงดี” น้องเขาถามคำถามนั้นด้วยร่างสั่นเทิ้ม

            “เธออยากช่วย เธอก็ต้องรับผิดชอบเองสิ” ใช่ต้องรับผิดชอบ กับการที่ต้องฆ่าหญิงคนนี้

            เพราะที่ข้อเท้าของเธอมีรอยแผล และเลือด

            เธอถูกกัด!

 

เวลา 23.15 น.

 

 

            ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือ แสงไฟสองดวงสว่างวาบขึ้นที่ด้านข้างรถของเธอ ขณะที่เธอกำลังขบรถข้ามไฟเขียวเพื่อไปถนนด้านซ้าย มันวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจนแสงสีขาวปกคลุมไปทั่วร่างของเธอ และโคร่มทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างเธอหมุนกลิ้งม้วนต้วน รวดเร็วจนเธอมองอะไรไม่ชัด และสลบไป

            ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาพบร่างของตนห้อยกลับหัวอยู่ มือทั้งสองสัมผัสบนหลังคารถตามแรงโมถ่วง รถเธอคว่ำ!

            เธอตกใจรนรานทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วตัว ถ้าไม่ใช่เพราะเข็มขัดนิรภัยนี้เธอคงตายไปแล้ว เธอพยายามตั้งสติและมองไปรอบข้าง เธอจึงเริ่มสังเกตว่าที่ข้างนอกรถมีรถคันหนึ่ง กระจกแตกเป็นรูโบ๋และเมื่อเธอมองไปข้างหน้าเธอเห็นร่างของชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ ที่ศีรษะมีรอยเลือดเต็มไปหมด แต่เธอสังเกตว่าร่างนั้นยังกระตุกไปมาหรือเขาจะยังไม่ตายเธอปลดล็อคที่คาดเข็มขัดจนร่างของเธอตกลงมา

            “โอ๊ย!” เธออุทานออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อร่างของเธอตกลงสู่พื้น เธอเจ็บปวดไปทั่วตัวโดยเฉพาะที่ข้อเท้า มันช่างแสบราวถูกไฟไหม้

            เธอพยายามทุบกระจกข้างรถให้แตก ซึ่งมันไม่ยากเลยเพราะมันร้าวจนเกือบแตกเองอยู่แล้ว

            เพล้ง “เฮ้ คุณได้ยินไหม เป็นอะไรรึเปล่า ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วยยยย!” ไร้เสียงตอบกลับ ยกเว้นชายตรงหน้าเธอเขาเริ่มขยับอย่างช้าๆ เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้น

            “เฮ้ คุณ นี่....โอ้วพระเจ้า ไม่นะ....มันเกิดอะไรขึ้น” ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้น แปละ! เสียงนั้นดังขึ้นอย่างเงียบงันในโสตประสาทของเธอ เพราะมันไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตาของชายคนนั้นพึ่งร่วงหล่นลงสู่พื้น ทำไม...ทำไมเขายังไม่ตาย

            “นี่....เป็นอะไรรึเปล่า นี่....เดี๋ยวฉันเรียกหมอให้นะ” ชายคนนั้นเริ่มคืบคลานเข้ามา เธอได้ยินเสียงขู่คำรามของเขาที่ดังอยู่ในลำคอ “นี้ อยู่เฉยๆสิเดี๋ยวเลือดก็ไหลหมดตัวตายหรอกนี่ ได้ยินไหม ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยด้วยยย!”

 

            “ช่วย....ด้วย....”เธอเริ่มลืมตาตื่นขึ้น

            “พี่ อย่า! ถ้าเธอไม่ได้ถูกกัดละ ถ้าเธอไม่ได้กลายเป็นพวกมันละ” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนด่าผู้ชายคนหนึ่งในมือเขาถืออะไรบางอย่างสีแดง

            “ไม่ ไม่! เธอถูกกัด นาก็เห็นนี่ดูแผลที่ข้อเท้าเธอเซ่ กูไม่ยอมเสี่ยงให้นังนี่ตื่นขึ้นมาไล่กินหรอกนะ พอกันที กูทนไม่ไหวแล้ว ปล่อย!” ชายคนนั้นเริ่มพยายามสะบัดหญิงสาวออก ในขณะที่เธอเริ่มเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้น ชายคนนั้นสังเกตเห็นว่าเธอเริ่มตื่นขึ้นมา

            “มันพื้นแล้ว.... มันพื้นแล้ว ปล่อย ปล่อยเซ่ กูจะฆ่ามัน ไอ้ซอมบี้มันตื่นขึ้นมาแล้ว” เขาเริ่มง้างมือขึ้น หญิงสาวเอาร่างมาบังเธอไว้

            “ไม่นะ พี่ ไม่....ไม่!” แต่เธอช่างตัวเล็กและอ่อนแอ ชายคนนั้นผลักเธอออก ก่อนที่จะง้างท่อนเหล็กนั้นขึ้น และเหวี่ยงมันลง เธอจึงได้เห็นมันอย่างชัดเจนว่า นั้นคือขวานดับเพลิง!

            “ว้ากกกกกกกกกกกก!”

            “ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย!”

            “อย่า!”

            ฉับ!

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา