บังเอิญรัก

8.0

เขียนโดย Necha

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.21 น.

  17 ตอน
  3 วิจารณ์
  23.36K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 13.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) บังเอิญ...งอน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“...คุณจะคบกับผมไหม ?”

ตั้งแต่เกิดมาจนเข้าวัยเบญจเพสคนอย่างพิชชาไม่เคยเกิดความรู้สึกหวามหวานในหัวใจมาก่อน ความรู้สึกของการถูกรักและได้รักนั้นไม่มีในประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอ แต่วินาทีที่ได้ยินเสียงทุ้มข้างหูฟังดูอ่อนหวานจนทำให้หัวใจพองโต เกิดความรู้สึกประหลาดจู่โจมอย่างรวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน ยิ่งหันไปมองสบดวงตาที่จริงจัง ลมหายใจของอีกฝ่ายที่เป่ารดในระยะประชิดยิ่งทำให้พิชชาทำอะไรไม่ถูก เป็นครั้งแรกที่เธอประหม่ากับการรับมือผู้ชายที่ชื่อ กวิน

“คุณ...”

“J”

“ตกใจหมด มาไม่ให้สุ้มให้เสียง โรคจิตหรือไง ตามฉันมาแล้วยังจะโทรคุยอีก ประสาทหรือไงคุณ”

ชะอุ๋ย ! ทำไมความคิดกับการกระทำของเธอมันสวนทางกัน =_=;; เหอะๆ จะให้ทำท่าดัดจริตเขินอาย คนอย่างพิชชาก็ทำไม่เป็นวุ้ย ไม่รู้ปกติสถานการณ์แบบนี้ผู้หญิงทั่วไปเขาทำยังไง ?

“เปล่าครับ ผมตามพิชตั้งแต่ตอนออกจากบริษัท แล้วคนที่โทรมาก่อนคือพิชนะครับ”

O_o ! นั่นมันตั้งแต่แรกเลยไม่ใช่เรอะ ! งั้น...ก็เห็นท่าทางบ้าๆ ของเธอหมดเลยนะสิ O///O

พิชชาสติหลุด ได้แต่ทำปากพะงาบๆ จะพูดก็ไม่รู้จะพูดอะไรทั้งๆ ที่ก่อนจะโทร อุตส่าห์นั่งเตรียมคำพูดตั้งนาน พยายามคิดแทบตายว่าจะทำยังไงให้ดูดีขึ้นมาในสายตาเขาหลังจากทำตัวเป็นเมรีขี้เมาให้เห็นตั้งแต่ครั้งแรก แต่เรื่องกลับตาลปัตรเมื่อเจอคำขอคบสายฟ้าแลบ ครั้งแรกที่ได้ยินครั้งนั้นก็ทำเอาใจเต้นแต่เพราะเธอกำลังมึนๆ เลยลืมเร็ว แต่ครั้งนี้แตกต่างถึงแม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอได้ยินคำพูดหวานๆ แล้วแทบจะละลายกองกับพื้น >////<

เมื่อพิชชาตั้งสติได้ก็ต้องประหลาดใจ...อ้าว ที่ไหนล่ะเนี่ย ?

นี่เธอเหม่อจนเดินตามเขามาแบบไม่รู้ตัวเลยเหรอ ที่สำคัญ...มือที่กอดเอวเธออยู่นี่มันอะร้ายยย O_O กอดไม่เท่าไรแต่จะลูบด้วยทำไม ? มือไม้หยุบหยับไม่เข้ากับหน้าเลยอ่ะ นี่แหละนะที่เขาว่า อย่าดูคนที่ภายนอก

เพียะ !

“โอ๊ย ! เจ็บนะครับ ตีผมทำไมอ่ะ”  กวินแกล้งโอดครวญทำท่าเกินจริงแต่กระนั้นก็ไม่ได้คลายอ้อมกอดลง กลับยิ่งกอดแน่นกว่าเดิม พิชชาดิ้นไปดิ้นมาท้ายสุดก็ไปนั่งแหมะบนตักชายหนุ่ม...ยิ่งใกล้กันกว่าเดิม พิชชาหน้ามุ่ย ไม่ได้ไม่ชอบแต่รู้สึกเหมือนตัวเองแพ้

“ที่นี่ที่ไหน ?”

“หืม จำไม่ได้หรือครับ คอนโดผมไง”

“อ้าว แล้วฉันมาที่นี่ได้ไง”

“หึๆ เหม่อแบบนี้น่าเป็นห่วงนะครับ ถ้าเกิดใครอุ้มไปจะทำไงครับ”

“ชิ ฉันไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อยๆ สักหน่อย อีกอย่างใครโง่อุตริคิดจะอุ้มฉัน เจอสวนกลับแน่”

เธอกอดอกเชิดหน้าสะบัดหนีเมื่อเห็นรอยยิ้มขบขันเหมือนเธอเป็นเด็ก ยิ่งชายหนุ่มแกล้งโยกตัวไปมาพร้อมกับลูบหัวเธอเบาๆ

ฉันไม่ใช่เด็กนะ ตาบ้านิ !

“ครับๆ คนเก่ง ผมรู้ว่าคุณดูแลตัวเองได้ แต่อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นนะครับ ผมหวง” พิชชาทุบไหล่หนาแก้เขิน

“หวงทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

“ไม่ได้เป็นที่ไหน อย่างน้อยๆ ผมก็เป็น ‘สามี’ ทางพฤตินัยของพิชแล้ว รอก็แต่นิตินัยที่ค่อยว่ากันทีหลัง แต่ตอนนี้เป็นแฟนกันก่อนดีไหมครับ”

“ไม่ดี”

“หือ ? ว่าอะไรนะครับ พอดีผมได้ยินไม่ชัด พูดใหม่อีกครั้งสิครับ”

พิชชาได้แต่ทำตาปริบๆ มองรอยยิ้มหวานแต่ดวงตากลับจ้องเขม็งบังคับกลายๆ ไหนจะท่าทางที่คลอมเหนือตัวเธอ มือไม้ก็อยู่ไม่สุข....สถานการณ์แบบนี้ เสียเปรียบชัดๆ ! 

ถ้าปฏิเสธ มีหวังโดนจับกดบนโซฟานี้แน่ T.,T

ตกลงตาเบื้อกกวินเป็นประเภท...เจ้าชู้หลบในสินะ มือนี่ยิ่งกว่าปลาหมึก แตะนู่นลูบนี่เล่นเอาเคลิ้มไปหมด

“ห ไหนคุณว่าจะบอกเหตุผลก่อนที่..ฉ..ฉัน อื้อ จะตกลงไง คุณ...กวิน หยุดก่อน อา...”

รสจูบที่ทั้งอ่อนหวานและเรียกร้องทำเอาแทบละลาย ยิ่งมือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างกาย พิชชาเคลิ้มเคลิ้มตอบสนองไปไม่รู้ตัว มือบางเกี่ยวลำคออีกฝ่าย ไล้ไปตามเส้นผมหนา ก่อนที่จะ...

“โอ๊ย ! เจ็บนะครับ”

กวินร้องด้วยความเจ็บ พยายามแกะมือบางที่ดึงเส้นผมเขาไว้เต็มมือ...เจอกระชากผมขนาดนี้ หน้ามืดตามัวยังไงก็ต้องตื่นเต็มตา แม่คุณไม่มีปราณีทั้งๆ ที่เคลิ้มขนาดนั้น ว่าที่แฟนจะเก่งเกินไปไหมครับ T^T

“แฮกๆ ก็ใครใช้ให้คุณไม่หยุด คุยกันยังไม่ทันรู้เรื่อง แล้วมือจะล้วงไปถึงไหนหะ ! ทำยังกับไม่เคยจับ”

อุต๊ะ ตูช่างกล้าพูด หน้าไม่อายจริงวุ้ย =.,=^

พิชชาหอบหายใจอย่างแรง พยายามยันอกหนาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อออกห่าง เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ =_=^ มือไวจริงๆ

“ก็คุยเป็นภาษากายก่อนไงครับ ไม่เจอกันตั้งอาทิตย์หนึ่ง ผมคิดถึงพิชมากเลย...นะครับ...นะ”

ไม่ต้องมาเนอะนะด้วยเลย โอ๊ย อย่ามาทำตาแบบนี้ใส่ได้ไหม T^T ใจแข็งไว้ลูก อย่าไปยอม..ยอม..ไม่ยอม..ยอม...ไม่ๆๆๆๆ

แง ฉันกลายเป็นเด็กใจแตกก็เพราะคุณ !

โธ่เอ๊ย ทำไมหมอนี่ต้องหล่อด้วยนะ ฮือ...

แล้วกล้องก็แบนไปที่เพดาน อย่าถามว่าเกิดอะไรขึ้น...รู้ๆ กันอยู่ -.,-

 

เดจาวู...เหตุการณ์ย้อนกลับไปเหมือนในเช้าวันนั้น ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของคนๆ เดิมในสภาพเปล่าเปลือย วันนั้นเธอมัวแต่เมาขี้ตาก็เลยไม่คิดอะไรมากกับการมีคนมาเอาใจทั้งอาบน้ำ ป้อนข้าว จบด้วยการขับรถไปส่งถึงที่ทำงาน เช้าวันนี้ก็เช่นกัน ต่างตรงที่เธอต้องกระวีกระวาดอาบน้ำแต่งตัวโดยหยิบเสื้อเชิ้ตเจ้าของห้องนั่นแหละมาใส่เพื่อเข้างานให้ทัน หลังจากที่โดนบอสสุดที่รักโทรมาจิก ช่วยไม่ได้จริงๆ ในเมื่อเธอตื่นสายเพราะเจ้าของรอยยิ้มหวานที่หยิบนั่นส่งนี่ระหว่างที่เธอวิ่งพล่านหาของ ยิ่งอายเมื่อเห็นสภาพห้อง ภาพเมื่อคืนทำเอาเลือดแล่นไปทั่วหน้าแบบไม่ต้องอาศัยบลัชออน แต่พิชชาไม่มีเวลาเขินนานนัก ได้แต่ค้อนตากลับใส่ตัวต้นเหตุ พอรถจอดเธอก็เตรียมจะลงอย่างรวดเร็ว แต่สารถีหนุ่มสุดหล่อจับไว้ก่อนพร้อมกับส่งกล่องแซนวิชและโถคุกกี้อันใหญ่มาให้

“เอาไว้ทานเผื่อหิวนะครับ เลิกงานแล้วผมจะมารับ”

!?

พิชชาพยักหน้าส่งๆ แต่พอจับใจความได้ หันกลับมาบีเอ็มคันงามก็หายไปพร้อมเจ้าของมัน...เลิกงานจะมารับ ?

เลิกงานมารับ…

มารับ ! O_O !

“ทำไรอ่ะเจ๊ มายืนขวางประตูทำไม”

“เฮ้ย !”

“โอ๊ย ! เจ๊อ่ะ T^T ตกใจทีไรทำไหมต้องเตะด้วย ไม่ออมแรงอีก เจ็บนะเว้ย”

อนลยันตัวเองขึ้นจากพื้นหลังจากโดนเตะเข้ากลางหลังเต็มๆ ตอนแรกที่กะจะแกล้งเจ๊ให้ตกใจเล่นเฉยๆ เห็นยืนเหม่อเป็นรูปปั้นขวางประตู ไม่ยอมเข้าไปสักที อีกอย่างเพราะเห็นใส่กระโปรงสั้นมา เขาคิดว่าคงจะไม่โดนเหมือนทุกครั้งที่ทำเจ๊พิชตกใจแล้วขาจะกระตุก แต่นี่โดนเต็มๆ...ไม่น่าลองดีกับเจ้าแม่เทควันโดสายดำเลย เจ็บเป็นบ้า เอวเคล็ดหรือเปล่าเนี่ย ToT

“เว้ยกับใคร ? อยากโดนอีกรอบ”

“ข ขอโทษคร้าบ ผิดไปแล้ว อย่าทำผมเลยแค่นี้ก็ปางตายแล้ว ฮือ T_T”

“ปัญญาอ่อนจริง ลุกได้แล้วอายคนอื่นบ้าง นี่มันหน้าบริษัทนะไอ้นล”

“อ้าว เจ๊รู้ด้วยว่าหน้าบริษัท ผมเห็นยกขาเตะซะสูงนึกว่าไม่อาย” อนลยิ้มแหยๆ แต่ไม่วายกวนประสาท ถึงจะโดนเตะโดนต่อยแค่ไหนก็ไม่เคยเข็ด ก็เจ๊พิชไม่ได้เอาจริง(แต่เจ็บจริง) L

“เออวะ ลืมไปเลยว่าใส่กระโปรงสั้น...ช่างเหอะเห็นไปก็เอาไม่ได้ เข้าไปข้างในดีกว่าเจ๊โดนเฮียชิดโทรจิกตั้งแต่เช้า ไม่รู้มีประชุมด่วนอะไร...เออ แล้วทำไมแกเพิ่งมานล เจ๊นึกว่าสายอยู่คนเดียว”

อนลที่ช่วยถือกล่องแซนวิชกับโถคุกกี้ขมวดคิ้ว มองเจ๊คนสวยอย่างงงๆ

“ประชุม ? ประชุมอะไรเจ๊ ไม่มีหรอกโดนบอสอำแล้ว”

“อะไรนะ !”

“ฮ่าๆๆ ก็ว่าอยู่ทำไมเห็นเจ๊เข้าบริษัทตอนเช้าๆ ได้ ถ้าไม่เชื่อเข้าไปห้องทำงานสิ ถ้าบอสไม่สวีทกับแฟนอยู่ก็นอนอู้นั้นแหละ เช้าๆ แบบนี้บอสทำงานที่ไหน เจ๊ลืมไปแล้วหรือไง”

=_=  กระทืบเจ้านายนี่ผิดไหมนะ !!

 

ปัง !

“เฮีย !”

ประตูเปิดผางไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาต คนที่ทำแบบนี้ได้โดยไม่โดนโกรธมีไม่กี่คนและหนึ่งในนั้นก็คือร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งคลุมทับกระโปรงยีนสั้น เส้นผมยาวถูกปล่อยเป็นอิสระเพราะเจ้าตัวรีบจนลืมมัด สภาพกระเซอะกระเซิงของคนที่พรวดพราดเข้ามาในห้องพร้อมใบหน้าบูดบึ้งทำเอาบอสใหญ่แห่งโคลเวอร์ที่นั่งพาดขาไปบนโต๊ะทำงานหัวเราะลั่นก่อนจะหายใจลำบากเมื่อถูกกระชากคอเสื้อ รอยยิ้มหวานที่ส่งมาเล่นเอาภาสกรออกอาการร้อนๆ หนาวๆ ชอบกล...นี่เขาถูกลูกน้องข่มขวัญจนหงอขนาดนี้ได้ไง

เฮือก ! ถ้ามีลูกน้องอย่างไอ้พิช อย่าหือจะดีกว่า !

“เฮียยยยยย J”

“จ จ๋า...มีอะไรหรือจ้ะน้องรัก Y_Y”

“ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ”

“เอ่อ...ก็ แปดโมงเช้าจ้ะ T_T^;”

“แล้วเฮียโทรหาพิชตอนกี่โมงคะ”

“เอ่อ จ เจ็ดโมงจ้ะ TT_TT;;”

“เฮียรู้ใช่ไหมว่าพิชไม่เข้าบริษัทตอนเช้าถ้าไม่มีประชุมหรือนัดลูกค้า...”

“จ้ะ ! TT^TT รู้จ้ะ”

อุปาทานไปหรือเปล่าว่าไอ้พิชตัวโต๊โต ฮือ แม่จ๋า ไอ้ชิดจะรอดไหมหนอ

“แล้วเมื่อวานพิชก็บอกเฮียว่าอาจจะไม่เข้าบริษัท จำได้ใช่ไหม J”

ภาสกรไม่ตอบได้แต่ยิ้มแหย...ก็จำได้นะสิถึงต้องทำแบบนี้ โถ T^T ไม่น่าเลยไอ้ชิด

“แล้ว...ไหนประชุมด่วนที่ว่านั่นอยู่ที่ไหนหะไอ้เฮีย ! ถ้าว่างมากวนคนอื่นก็หัดเอาเวลาไปจัดการเอกสารงานที่มันกองท่วมหัวที่ชอบโยนไปให้เลขาทำเสียมั้งซี คิดจะแกล้งก็หัดดูเวล่ำเวลาชาวบ้านเขาจะหลับจะนอนโทรมาปลุกหาพระแสงด้ามติ้วเรอะ รู้ไหมว่าการที่ต้องทิ้งที่นอนมาทั้งๆ ที่ยังนอนไม่เต็มอิ่มมันจะทำให้อารมณ์เสียง่าย...และการที่เฮียที่รักโทรไปจิกทุกๆ สิบนาทีจนพิชทนไม่ไหวต้องลากสังขารถ่อมาถึงนี้ เรื่องนี้เฮียจะรับผิดชอบยังไงจ้ะ J”

“T_T อ อ่อก...เบามือ เบาหน่อย อ ไอ้พิช...หายใจไม่ อ ออก แค่กๆ”

“ดีจ้ะ คิดเสียว่าทำบุญแบ่งอากาศให้คนอื่นหายใจเยอะๆ ไงเฮียดีไหม J”

“ม ไม่ดีเลยจ้ะน้องรัก แค่ก...เฮียใกล้จะตายแล้ว ปล่อยเหอะ อ่อก T^T”

“จะตายแล้วเหรอ ดี...งั้นตาย ไปซะเถอะ ! ไอ้เฮียเวร !”

โครม !

พิชชาปล่อยมือที่ขย้ำคอเฮียสุดที่รักก่อนจะยกฝ่าเท้ายันแบบงามๆ แต่เต็มแรงโดยไม่กลัวโป๊ ร่างสูงร่วงลงพื้นไปพร้อมเก้าอี้บุนวมอย่างดีในท่าเอาขาชี้ฟ้า เจ็บไม่มากแต่จุกท้องที่โดนถีบก่อนจะตาเหลือกรีบตะเกียกตะกายหนีเมื่อเห็นแม่มดร้ายย่างสามขุมทำหน้าโหดเข้ามาใกล้...มันกะจะกระทืบไม่เลี้ยงนี่หว่า YoY

“พิช นี่เฮียนะ เฮียเป็นพี่แกนะโว้ย จ เจ้านายด้วย...หยุดเลย ไม่งั้นๆ...”

“ไม่งั้นอะไรค่ะบอส J”

“เฮีย...เฮียจะตัดเงินเดือนแก !”

“โธ่เอ๊ย เฮียลืมไปหรือเปล่าว่าใครดูแลเงินในบัญชีของเฮีย”

เอ๋ ? บัญชีของเขาคนดูแลก็มีแต่น้องชายฝาแฝด แล้วมันเกี่ยวอะไร ?

O_O เฮ้ย ! ลืมไปได้ไงไอ้ชื่นมันหลงน้องรหัส ขืนไอ้พิชไปฟ้องมีหวังมันหักเงินเขาแทนนะสิ อ๊ากกกก มีแต่เสียกับเสีย

“คิดออกแล้วใช่ม้า เฮียจ๋าJ มามะ น้องจะพาเฮียไปขึ้นสวรรค์”

สวรรค์กับผี นรกนะสิไม่ว่า

“จ๊ากกกกกก โอ๊ยยยยยยยยย....ไอ้เพื่อนเวรรรรรร มึงจะรอดูกูโดนกระทึบเสร็จหรือไง โอ๊ย”

หมับ !

พิชชาถูกใครบางคนรวบกอดจากด้านหลังจนตัวลอย เธอดิ้นจนได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มฟังคุ้นหู ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองเจ้าของอ้อมกอดก่อนจะกอดคออีกฝ่ายแน่น อารมณ์โมโหเมื่อครู่ถูกแทนด้วยรอยยิ้มหวานดีใจ

“พี่พา !!”

“...กลับมาแล้วครับผม”

 

ภาสกรนั่งมองสองหนุ่มสาวคุยกันกระหนุงกระหนิงอย่างหมั่นไส้ ทำยังกับว่ามีแค่สองคนอยู่ในห้อง เขาเป็นเจ้าของห้องนะ แล้วดู๊...ดูน้องนอกไส้ตัวดีมันยำพี่จนหน้าแหก แทนที่จะเป็นห่วงหรืออย่างน้อยก็ทำแผลให้บ้างก็ยังดี แต่พอเจอพี่ชายสุดรักสุดหวงกลับกระดี๊กระด๋าไม่แม้แต่จะชายตามองเขา T^T ไอ้น้องทรยศ ไอ้น้องเนรคุณ ไอ้เราอุตส่าห์ปกป้อง(?) ดูแล ทุ่มเท(?) ให้ทุกอย่างมาหลายปีดีดัก แต่ไม่เค๊ย ไม่เคยที่คนอย่างพิชชาจะพูดค่ะขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแบบผู้หญิงทั่วไปกับเขาเลยสักครั้ง นอกเสียจากว่ามันอยากประชดถึงจะได้ยิน ทั้งๆ ที่เขาเป็นเจ้านายจ่ายเงินเดือนให้แท้ๆ แต่ทำไม ฮือ เขาต้องเป็นฝ่ายเอาใจแทนที่ไอ้พิชมันต้องทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างเขา Y_Y

นี่คงเป็นผลกรรมจากการที่เขาชอบแกล้งไอ้พิชตอนสมัยเรียนมหา’ลัยใช่ไหม โฮ TToTT เกิดเป็นไอ้ชิดช่างซวยแท้

คนโดนเมินจากทั้งน้องทั้งเพื่อนได้แต่น้ำตาตกใน แกล้งไอเสียงดังก็แล้ว จามก็แล้ว สองคนนั้นก็ไม่หันมายังอยู่ในโลกสวนตัวเพียงสองคน เข้าใจนะว่าไม่ได้เจอกันนาน แต่คุณๆ ทั้งสองจะหันมาสนใจกระผมสักนิดได้ไหมวะ !

“มีอะไรหรือชิด”

“อย่าไปสนใจเลยค่ะพี่พา พวกชอบเรียกร้องความสนใจก็แบบนี้แหละ สงสัยจะขาดความอบอุ่น ไม่รู้ว่าขวัญข้าวคว้าเป็นแฟนได้ไง น่าสงสาร”

ฉึก !

“นั่นสินะ ทั้งๆ ที่เป็นแฝดพี่แต่แฝดน้องกลับดูน่าพึ่งพา เป็นผู้เป็นคนมากกว่า ถ้าหน้าตาไม่เหมือนกัน พี่คงไม่เชื่อว่าชื่นเป็นพี่น้องกับคนแบบนี้”

ฉึก !

พิชชายกยิ้มมุมปากละสายตาจากคนที่นั่งซุกตัวอยู่มุมห้องหันมาสบตากับผู้ร่วมมือ ต่างฝ่ายต่างแอบหัวเราะไม่ให้คนโดนแกล้งรู้ตัว

“กลับมาคราวนี้พี่พาจะอยู่นานไหมค่ะ”

“อือ คงไม่ไปไหนแล้วล่ะ”

“จริงหรือคะ ดีจัง แล้วพี่พาจะพักที่ไหนคอนโดเก่าก็ขายไปแล้ว มาพักกับพิชก่อนไหมคะ พิชอยู่คนเดียวยังเหลือห้องว่าง”

คงเพราะหญิงสาวทำเสียงหวานเกินปกติจึงทำให้ภาสกรรีบมานั่งแทรกกลางเบียดจนพิชชาต้องกระเด็นตกโซฟา

“อะไรของเฮียเนี่ย ตัวโตอย่างกับควายยังจะมาเบียด ที่ว่างตั้งเยอะทำไมไม่ไปนั่ง” ภาสกรทำเป็นหูทวนลม

“น้อยๆ หน่อยไอ้พิช เป็นสาวเป็นแส้ริอาจชวนผู้ชายขึ้นห้อง นิสัยเสีย อย่าคิดนะว่าเฮียไม่รู้ว่าแกหวังอะไร ฝันไปเหอะ”

“พูดอะไรนะเฮีย นี่พี่พานะ”

“เออ ! ก็เพราะว่าเป็นไอ้พานี่แหละ เฮียถึงได้กลัว ไม่ได้กลัวว่าพาจะทำอะไรแกนะ แต่เฮียกลัวแกจะแอบย่องขึ้นเตียงมันต่างหาก”

-_-;

“จะบ้าเหรอเฮีย พิชไม่ทำหรอก...ถ้าพี่พาเล่นด้วยก็อีกอย่าง” ประโยคสุดท้ายเธอแอบพูดเบาๆ แต่ก็ไม่รอดหูภาสกร

“ว่าอะไรนะ !”

“เปล่านี่เฮีย แก่แล้วก็เงี้ยชอบหูฝาด”

“ไอ้หมาพิช เดี๋ยวจะโดนถีบ” ภาสกรชี้หน้าใส่ตัวแสบที่แอบย่องไปนั่งอีกด้านของพายุ สองมือกอดแขนชายหนุ่มแบบไม่หวงตัวเลยสักนิดทั้งยังแลบลิ้นใส่เจ้านายตัวเองอีก

“พี่พา~ ดูสิ เจ้านายของพิชใจร้ายขนาดไหน ทำร้ายได้แม้กระทั่งสาวน้อยบอบบางอย่างพิช”

=_= จ๊ะ ! บอบบางมากกกกกกก

พายุได้แต่หัวเราะขำสองพี่น้องที่ชอบกัดกันประจำจนเป็นเรื่องปกติ แม้จะเล่นแรงๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นโกรธกันจริงจังสักครั้ง มือหนาโยกศีรษะพิชชาอย่างเอ็นดู ไม่ได้ถือสากับท่าทางที่เธอแสดงออก ก็ใช่...ที่พิชเคยชอบเขาแบบหนุ่มสาว แต่ก็ไม่ได้ล้ำเส้นเกินคำว่าพี่น้องที่เขามีให้ มีบ้างที่พิชอาจจะชอบพูดแทะโลมหรือแอบลวนลามตัวเขาแต่เขารู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไร จึงปล่อยๆ แต่บางคนทั้งๆ ที่รู้ก็ยังชอบหาเรื่องทะเลาะ

“ตกลงพี่พาจะไปอยู่กับพิชก่อนไหมคะ”

“เก็บหางหน่อยไอ้พิช แหมระริกระรี้เชียวนะ คิดเรอะว่าพาจะได้ไปอยู่กับแก เดี๋ยวแฟนมันรู้ก็มาเอาตัวไปอยู่ดี จมูกไวจะตาย นายก็ระวังตัวไว้นะพา กลับมาแล้วไม่บอกงานนี้มีโกรธแน่ๆ”

ปัง !!

ทั้งสามสะดุ้งเพราะจู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดอย่างรุนแรงด้วยฝ่าเท้า กรอบประตูเอียงจนคาดว่าจะต้องเปลี่ยนยิ่งเห็นหน้าถมึงทึงของเจ้าของฝ่าเท้านั้นยิ่งทำให้คนในห้องพากันเงียบ ไม่กล้าเอ่ยปากด่า ใบหน้าที่คล้ายกับเจ้าของห้องแต่มีผิวเข้มกว่าจากการออกไปยืนตากแดดคุมงานเป็นประจำ ชื่นหรือภูผา น้องชายฝาแฝดของภาสกรนั่นเอง เขาก้าวฉับๆ ไม่พูดไม่จาคว้ามือพายุแล้วลากออกจากห้องทันที ทิ้งให้สองหนุ่มสาวนั่งมองหน้ากันตาปริบๆ

“เมื่อกี้มันอะไรนะเฮีย ?”

“เออ อันนั้นเฮียไม่รู้วะ แต่ที่รู้มีอย่างหนึ่ง...”

“อะไรอ่ะ”

“ชื่นมันแรงควายวะ ดูสิต้องเปลี่ยนบานประตูใหม่เลย”

“เหอะๆ หมดเรื่องแล้วใช่ปะ งั้นพิชกลับนะเฮีย ง่วง” พิชชาว่าพลางลุกบิดไปมา

“ไปแอบขโมยเสื้อพ่อมาใส่หรือไงพิช ตัวใหญ่ชะมัดแต่งตัวแบบนี้ยังกล้าออกจากห้อง”

จ้ะ ! -_- เสื้อพ่อนั่นแหละ แต่เป็นพ่อทูนหัวนะ

พิชชายักไหล่ไม่ตอบ มองเสื้อที่ตัวเองใส่ก็พาลคิดไปถึงเจ้าของ ไหล่ของเขากว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แขนยาว เขาสูงกว่าเธอ เวลาที่ยืนใกล้ๆ กันพิชชาจะสูงเกือบๆ ปลายคางของเขา และเวลากอดทีไรเขาก็ชอบเอาคางวางบนหัวเธอทุกที

คงเพราะภาสกรชินกับการแต่งตัวแบบนี้ของพิชชาจึงไม่สงสัยอะไรมาก มีบ้างที่เจ้าหล่อนชอบหยิบเอาเสื้อพวกเขาไปใส่จนเห็นชินตา

“เดี๋ยวๆ ไอ้พิช คืนนี้ว่างเปล่า บาสโทรมาชวนไปฉลองที่ไอ้โชขอแฟนแต่งงาน”

“จริงดิ หน้าอย่างพี่โชเนี่ยนะขอสาวแต่งงาน อยู่กินกันมาตั้งหลายปีเพิ่งคิดได้เหรอว่าต้องแต่ง”

พิชชาเอ่ยถึงรุ่นพี่ต่างคณะหน้าตายและความรู้สึกช้า รู้จักกันได้เพราะตั้งวงดนตรี พี่โชเป็นหัวหน้าวงและมือกลอง พี่ชิดเป็นมือเบส พี่บาสเป็นมือกีตาร์และนักร้องนำคู่กับพิชชา พี่โชคบกับแฟนมาตั้งแต่มอปลาย พอเข้ามหาวิทยาลัยตอนปีสามก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนมาถึงทุกวันนี้ แรกๆ หลายคนก็คิดว่าเมื่อเรียนจบทั้งสองคงจะแต่งงานกัน แต่ผ่านปีแล้วปีเล่าจนเพื่อนหลายคนเข้าประตูวิวาห์ไปก่อน พอถามว่าจะแต่งงานเมื่อไหร่ คำตอบที่ได้...

‘ต้องแต่งด้วยเหรอ’

พี่โชเป็นคนที่ไร้ความโรแมนติก ไม่รู้ว่าแฟนพี่โชทนคบได้ยังไงตั้งสิบปี น่าสงสารจริงๆ

“ทุ่มครึ่งที่ร้านโฟล์ค จะให้ไปรับไหม”

“ไม่ต้องหรอกเฮีย เดี๋ยวไปเอง เจอกันที่ร้าน” พูดจบพิชชาก็พุ่งออกจากห้องทันทีเพราะกลัวว่าจะโดนรั้งไว้อีก ก่อนจะแวะไปโต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อหยิบของที่ติดมือมาเมื่อเช้า แต่เมื่อไปถึงกล่องพลาสติกที่เคยมีแซนวิชกลับว่างเปล่า หนำซ้ำกล่องคุกกี้ก็หายไปด้วย

“ไอ้นล !!” เสียงแหลมปรี๊ดตะโกนลั่นห้องเล่นเอาคนอื่นๆ แสบแก้วหู ก่อนจะหันไปมองต้นเสียง คล้ายจะมีลางสังหรณ์ว่าแม่มดตัวแสบจะองค์ลง ทุกคนลุกจากที่ไปรวมกันที่ทางเดินนอกห้องเหลือเพียงคนถูกเรียก อนลได้แต่เหงื่อตก...งานเข้าเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย แล้วทำไมเจ๊ต้องเรียกผมทุกครั้งที่อารมณ์เสียล่ะครับ T^T

“มีอะไรหรือครับเจ๊”

“แซนวิชกับคุกกี้บนโต๊ะของฉันหายไปไหนวะ !”

“อ้อ ฝีมือพี่เคนนะ เห็นบอกว่าไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืน ผมบอกพี่เขาแล้วว่าของเจ๊แต่สงสัยพี่เคนจะหิวมากเพราะซัดหมด ปานนี้คงหลับไปแล้ว ถ้าเจ๊จะจัดการคงต้องรอพี่เคนตื่นก่อนนะครับ”

“ช่างเหอะ โว๊ะ ! วันนี้มันวันบ้าอะไรวะมีแต่เรื่อง กลับล่ะ ง่วง !”

ทุกอย่างก็กลับมาสงบตามเดิมท่ามกลางเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของหลายๆ คน

เมื่อพิชชากลับถึงห้องก็ตรงดิ่งไปที่เตียงนอน เวลาที่เหลือเธอจะนอนต่อให้ฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะไหวอย่าหวังว่าจะปลุกพิชชาได้ แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะลืมอะไรบ้างอย่างที่อาจจะทำให้เธอต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในภายหลัง

‘เลิกงานแล้วผมจะมารับ’

 

  1. น. ที่โฟล์คคลับ (Volk Club)

ไนต์คลับที่เรียกกันติดปากว่า ร้านโฟล์ค ที่มาจากคำว่า โฟล์คสวาเกน(Volkswagen) เจ้าของคือปู่รหัสของพิชชา ร้านนี้จึงเป็นแหล่งนัดพบปะสังสรรค์ของเหล่าชาววิศวะเสมอ การ์ดที่คุ้นหน้าคุ้นตาทักทายพิชชาพร้อมเปิดประตูให้ เสียงเพลงกระหึ่มให้เหล่าขาแด๊นซ์ทั้งหลายได้กระโดดโลดเต้นอย่างเมามันส์ แม้จะเป็นหัวค่ำแต่นักท่องราตรีหลายคนก็เริ่มจับจองที่ในร้าน เธอเดินเลียบไปตามเคาน์เตอร์บาร์ทักทายบาร์เทนเดอร์บางคนก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองมุมประจำที่นัดกันเป็นกลุ่มใหญ่ รุ่นพี่หน้าเดิมๆ ที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยก่อนเอ่ยทักทายพิชชา หลายคนรู้จักกันเพราะพิชชามักจะไปไหนมาไหนกับกลุ่มของพี่ชิดพี่ชื่น ทำให้เธอรู้จักรุ่นพี่ทั้งในคณะและต่างคณะมากกว่าเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันเสียอีก

“เฮ้ย ! นี่กำลังฝันอยู่หรือเปล่าวะที่เห็นพิชชี่ของเรานุ่งสั้น” พี่บาส อดีตเดือนคณะสถาปัตย์รูปหล่อแต่เป็นจอมปากเสียสำหรับคนสนิทเอ่ยแซวพิชชาที่ใส่เสื้อยืดแขนยาวลายเก๋สีดำกับกางเกงขาสั้นเผยให้เห็นขาเนียนขาว รองเท้าส้นสูงสีแดงตัดกับผิว ถ้าถามว่าทำไมเธอถึงเลือกเสื้อยืดแขนยาวแทนที่จะเป็นเดรสหรือเสื้อกล้ามหรือเสื้อโชว์ไหล่เหมือนที่ชอบใส่ทุกๆ ครั้งก็คงเป็นเพราะตาบ้าจอมหื่นบางคนทิ้งรอยเหนือหน้าอกไว้จนเธอไม่กล้าใส่เหมือนทุกครั้ง

“อย่ามาว่าลูกสาวกูสิคะมึง พิชชี่ของซ้อสวยน่ากินจะตายไป เป็นบุญแค่ไหนแล้วที่พวกมึงๆ ทั้งหลายได้มีโอกาสเห็นขาขาวๆ กราบซะนะไอ้พวกควาย”  

เมดี้ นางแบบสาวที่คบกับรุทธ์ ปู่รหัสของพิชชามาตั้งแต่เรียนมหา’ลัยเอ่ยขึ้นพร้อมชี้หน้าเอาเรื่องบรรดาเพื่อนๆ ที่นั่งกันสลอน เมดี้ค่อนข้างหวงและชอบโอ๋พิชชา เป็นรุ่นพี่ผู้หญิงคนเดียวที่ค่อนข้างสนิทกับพิชชา วาจาของเธอคนนี้สมกับที่คลุกคลีกับพวกผู้ชายเถื่อนๆ ห่ามๆ จึงไม่แปลกเท่าไรถ้าสิ่งเหล่านั้นจะซึมซับไปสู่พิชชา

“หยวนๆ น่าซ้อ พวกผมแซวเล่นหรอก ใครจะกล้าแตะพิชชี่ล่ะครับ”

“รู้ก็ดี ช่วยกันดูแลน้องไม่ใช่หวังแต่จะงาบมัน ถ้ากล้าทำเจอกูยำตีนแน่”

“โหย ถ้าทำจริงๆ คงไม่ต้องถึงมือพี่หรอกแค่เอาตัวให้รอดจากตีนหนูพิชชี่ก็พอเถอะ ใช่ไหมพวกเรา”

“ช่ายยยยยยย”

พิชชาได้แต่หัวเราะเพราะเห็นจนชิน ก่อนจะถูกเมดี้ลากไปนั่งใกล้ๆ พูดคุยทักทายบางคน เธอยิ้มให้พี่โชที่นั่งหน้านิ่งคู่กับแฟนสาว สักพักพี่ชิดก็เดินเข้ามาพร้อมพี่เคนกับอีกสองสามคนแต่เธอไม่ทันได้มองเพราะถูกผลักหัวอย่างแรง

“โทรมาทำไมไม่รับวะ”

“โอ๊ย ! มือหรือเท้าเนี่ยเฮีย กับน้องกับนุ่งรุนแรงตลอด”

“ทำยังกับแกดีตาย ปากเฮียบวมเจ่อเพราะใครล่ะหะ โทรศัพท์ไปไหน เฮียโทรหาตั้งหลายรอบ ไมไม่รับ”

“อ้าวเหรอ แปบหาก่อน...อยู่ไหนน้า อ่า สงสัยลืมไว้ห้องอะเฮีย”

ภาสกรได้ส่ายหน้ากับความขี้หลงขี้ลืมของน้องก่อนจะหันไปทักเจ้าภาพและคนอื่นๆ ส่วนพิชชาก็นั่งจิบเหล้าพลางมองนั่นนี่ไปจนสายตาไปปะทะบางอย่างที่ทำให้ร่างของเธอชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง

‘เลิกงานแล้วผมจะมารับ’

อัยย่า O_O ลืมไปเลย ต้องโกรธแน่เลย อ่า ทำไงดี

พอสบตาที่จ้องเขม็งมาที่เธอพร้อมกับรอยยิ้มหวานมากกว่าปกติ คนมีชนักติดหลังเริ่มทำตัวไม่ถูก อีกใจหนึ่งก็สงสัยว่าเหตุใดรูปหล่อนามกวินถึงได้ปรากฏตัวในนัดเลี้ยงฉลองแต่งงานของโช และเมื่อพี่เมดี้และบางคนทักทายเขาอย่างสนิทสนม ก็ทำให้พิชชาได้รู้อย่างหนึ่ง....

มันจะบังเอิญเกินไปไหม !?

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา