MEMORIES ความทรงจำ Chapter 1 {Confusion}

8.3

เขียนโดย Remembrances

วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.28 น.

  11 ตอน
  4 วิจารณ์
  13.88K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2557 21.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) MEMORIES [11]: one question

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

MEMORIES [11]: one question

 

“ปุ้น.............กูรักมึง”

 

          ผมไม่รู้ว่าคำพูดที่ผมได้พูดออกไปในตอนนั้นจะทำให้ฐานะของผมกับปุ้นเป็นแบบไหนต่อไป แต่ตอนนี้รู้สึกว่า เหมือนถูกนักสืบตามประกบอยู่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกว่ามีคนคอยจับตามองผมอยู่ตลอดเวลา เหอะๆๆ จะใครหน้าไหนอีกละ ใช่...............ผมถูกคุณข้าวปุ้น รองประธานนักเรียนที่ถูกยัดเยียดตำแหน่งมาตามติดตัวผมทุกอณู จนผมต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วกลับไปต่อว่าสโต้กเกอร์ที่มาติดผมอยู่

“ว่าแต่จะตามอะไรกันนักกันหนา เห็นกูเป็นนักโทษรึไงวะ ปล่อยให้กูมีเวลาหายใจมั่งเหอะ”

“โถ่.........ก็คนมันคิดถึงนี่หว่า” เห้ยๆๆ เดี๋ยวดิ คิดถึง มึงนี่พูดไม่อายคนเลยนะเห้ย

“คิดถึงบ้าบออะไร ตั้งแต่เข้ามาเรียนเนี๊ยะมึงห่างกูยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะเว้ย อะไรจะขนาดนั้นวะ”

“ก็รู้สึกว่าไม่อยากห่างมึงอะ” เออ เป็นแบบนี้ให้มันได้ตลอดนะมึง

“เออๆๆ ช่างเหอะ ว่าแต่จะกินอะไรป่าว?”

“ไม่แหละ ยังไม่หิว” ยังไม่หิว อื้ม เห้ย!! ว่าแต่ยังไม่หิวแล้วนี่มึงลงทุนตามกูมาถึงโรงอาหารเพื่ออะไรวะ กลัวนักโทษแหกคุกหนีเลยตามมาดูทุกการกระทำอย่างงั้นเหรอ

“เออ ช่างเหอะ ว่าแต่มีงานไรก็ไปทำได้แล้ว และก็นะ เลิกตามซักทีเหอะ เป็นปาปารัสซี่รึไงวะ กูไม่ใช่ดารานะเว้ย”

“เออวะ จริงด้วย งั้นกูไปละ เดี๋ยวเลิกเรียนละจะโทรหานะ”

“เออ.........................อะไรของมันวะ” ใช่อะไรของมันวะ ผมละงงมันจริงๆตั้งแต่เมื่อวานมามันก็ทำตัวแปลกๆ อืมๆๆ แปลกมาก แต่ว่า มันก็ทำให้ผมยิ้มได้หน่อยๆแหละ

 

*****

         

เข็มนาฬิกาชี้เวลาเที่ยงตรง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผมเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อมองหาร้านที่คนไม่เยอะเพื่อจะรอคิวซื้ออะไรมากิน แต่นั่นก็ทำให้ผมถึงกับสะดุ้งที่มีคนโผล่เข้ามาจี้เอวผมจนทำเอาผมสะดุ้งขึ้นมา

“ไทค์”

“เห้ย” เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากด้านหลังของผมอย่างชอบใจ

“สตางค์” ผมส่ายหัวไปมาพร้อมกับเรียกชื่อของเธออย่างเต็มปากในขณะที่เธอกำลังหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจอยู่ “สนุกมากสินะ”

“555 อื้ม สนุกมากๆเลย”

“เดี๋ยวเหอะ ระวังจะโดนเอาคืน” ผมยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นหวังจะจี้เอวคืนแต่สตางค์กลับเด้งเอวหนีก่อนเลยทำให้ผมหัวเราะออกมา 555

“ก็ไทค์มัวยืนเหม่ออะไรก็ไม่รู้ ว่าแต่ทานรึยังล่ะ ทานด้วยกันรึปล่าว? นานๆทีจะเจอไทค์ที่โรงอาหารตอนเที่ยงนะเนี๊ยะ” พูดอย่างกับว่าผมไม่ค่อยกินข้าวอย่างงั้นแหละ

“โห๋พูดเกินไป ว่าแต่เพื่อนสตางค์ล่ะ ไปไหนหมดถึงมาอยู่คนเดียวงี้ละ”

“อ๋อ เพื่อนคนอื่นๆเขาไปเข้าค่ายกัน ฝ้ายและมีนไปเข้าห้องน้ำแหละ เดี๋ยวคงมา ว่าแต่ไทค์เองเหอะ เพื่อนหายแล้วนะนั่น” เพื่อนหาย เดี๋ยวดิ ไม่ใช่ละ

“ว่าไป ไม่ได้หาย สตางค์งะ พูดเหมือนว่าเพื่อนไทค์เป็นผีงี้แหละ พวกนั้นบางส่วนเขาไปค่ายเหมือนกัน ส่วนพวกวงโยเขาไปซ้อมกันแหละ ไทค์ช่วยงานอาจารย์เลยออกมาช้า”

“อ๋อ นึกว่าโดนทิ้ง อะ นั่นมาพอดีเลย ไทค์มานั่งทานข้าวด้วยกันสิ ทานหลายคนอร่อยดี” สตางค์พูดออกมาพร้อมส่งยิ้มให้กับผมพร้อมกับมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเธอที่กลังเดินมา ทำให้ผมเองก็เผลอยิ้มออกมากับท่าทางทะเล้นของเธอเช่นเดียวกัน ทำไมกันนะ

“ครับ” ผมตอบตกลงไปนั่งโต๊ะทานข้าวกับสตางค์ เลยไปยืนต่อคิวซื้ออะไรกินกันพร้อมกับ ฝ้าย มีนและ......ต้น

“เห้ย.........มาได้ไงเนี๊ยะ” ผมตกใจเมื่อเห็นว่ามีเด็กผู้ชายรุ่นราคราเดียวกับผมโผล่พรวดเขามา และคนที่เดินมาพร้อมกับฝ้ายและมีนก็คือต้น

“อ่าว...........ไทค์ มาทานข้าวเหรอ” เออ อยู่โรงอาหารมาตกปลามั๊งครับ เหอะๆๆ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็พึ่งจะเห็นผมเหมือนกัน ผมเลยได้แต่เกาหัว ส่งความงงกลับไปยังต้นเท่านั้น

 

          หลังจากที่พวกผมเลือกที่จะกินอะไรกันเสร็จแล้วก็มานั่งพร้อมหน้าพร้อมตา ว่าแต่พูดยังกับเป็นครอบครัว ผมและต้นแอบกระซิบคุยกันด้วยความสงสัย มึงมาไง? อยากจะถามอย่างนั้นอยู่หรอก แต่ไม่สนิทกันเท่าไหร่เลยเอาสุภาพกว่านี้ละกัน

“ว่าแต่มาได้ไงเนี๊ยะ” ต้นถามผมก่อนที่จะเหลือบไปมองพวกสาวๆและหันกลับมามองผมอีกที “อย่าบอกนะว่าโดนลากมาเหมือนกัน” หลังจากจบประโยคคำถามของต้นแล้วก็ทำให้ผมมองมันก่อนจะพยักหน้า

“อื้ม...........หรือว่า.............”

“อื้ม โดนลากมา ไม่ใช่ลากมาธรรมดานะ ขู่ด้วย” ต้นพูดพร้อมส่งสายตาไปทางมีนวูบหนึ่ง ก่อนที่เสียงของมีนจะตะโกนดังลั่นมาหาต้น

“เดี๋ยวเหอะ ได้ยินนะ ได้ขู่ที่ไหนกัน นี่ถ้าไม่อยากมาก็ไม่ต้องมาก็ได้นะ ไม่ได้บังคับ” โห๋ อารมณ์คุณเธอมาเต็มนะเนี๊ยะ จะว่าไปหูดีใช่ย่อยเหมือนกันขนาดกระซิบละนะ

“เหรอ....แน่ใจ? ไม่ได้บังคับแต่ลากมาเลยละสิ ใจเย็นเหมือนชาวบ้านเป็นที่ไหนกัน“ เห้ย เดี๋ยวดิคุณต้นครับ ไหง๋ พูดด้วยกริยาท่าทางยอกย้อนแบบนั้นละ เดี๋ยวก็โดนแม่คุณเจื๋อนซะหรอก

“นี่”

“อะไร”

“ถ้าจะพูดขนาดนี้นะ มองตัวเองก่อนเหอะ ก่อนจะว่าคนอื่นเค๊า ตัวเองดีตายแหละ ใจเย็น ใจเย็นมากเลย” เออนั่น ประชดประชันกันเข้าไปสงสัยโต๊ะนี้ได้กลายเป็นสงครามแน่ๆเลย

“ก็ยังดีกว่าเธอแหละน่า”

“เหรอ ดีตายแหละ ไม่มีสุภาพบุรุษที่ไหนเขามาเถียงผู้หญิงแบบนี้หรอก นอกจากตุ๊ด”

“เออ ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนพูดจาก้าวร้าวขนาดนี้เหมือนกัน เป็นทอมรึไง”

“เดี๋ยวเหอะ ไอ้ตุ๊ด”

“ทอม”

“ไอ้ตุ๊ด”

“ทอม” เหอะๆๆ สุดท้ายก็กลายเป็นสงครามน้ำลายจนได้นะ รู้สึกว่าทั้งสองคนจะเป็นพวกไม่ยอมใครซะด้วยสิ เอาซะผมนิ่งเงียบไปเลย

“เดี๋ยวสิทั้งสองคนใจเย็นๆก่อนนะ อย่าพึ่งทะเลาะกันเลย” เสียงของฝ้ายพยายามห้ามทั้งสองคนที่กำลังจะกัดกัน ไม่สิ!! ที่กำลังเถียงกันอยู่จนทั้งคู่นั่งนิ่งเฉยในที่สุด จะว่าไปก่อนหน้านี้เป็นแบบนี้รึป่าวนะ เพราะว่าตอนไปฉลองวันเกิดสตางค์ก็เห็นทั้งสองคนก็เข้ากันดีหนิ แถมตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เห็นทะเลาะกันแบบนี้เลย แต่ตอนนี้ทั้งสองทำตาขวางใส่กันแทบจะเขมือบกันเข้าไปแล้วหรือว่าจะไปมีเรื่องอะไรกันมา ผมได้แต่งุนงงกับทั้งสองคนก่อนจะเหลียวไปมองหน้าสตางค์พร้อมกับหลุดขำออกมา เอาเป็นว่ากินต่อดีกว่า

 

 *****

 

          หลังจากนั้นไม่นานพวกผมก็ทานข้าวกันจนเสร็จ นาฬิกาชี้เวลาบ่ายโมงตรงพอดี สตางค์ ฝ้ายและมีนจึงของตัวขึ้นเรียนไป ซึ่งแน่นอนว่าก่อนไป มีนและต้นก็แอบกัดกันอยู่ ให้ตายเหอะคู่นี้อะไรยังไงกันนะ ผมที่เดินมาพร้อมกับต้นก็อดสงสัยเรื่องระหว่างมีนไม่ได้ จึงแอบถามไป ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ก็เหอะ

“เอ่อ..........คือว่า มีนกับต้นเป็นแฟนกันเหรอ” ทันทีที่ได้ยินคำนี้ต้นก็ได้ตกใจพร้อมกับรีบปฏิเสธอย่างไว

“เห้ย ไม่ได้เป็น ไปฟังจากใครมาเหรอ”

“อ๋อ ป่าวหรอก เห็นท่าทางสนิทกันดีเลยคิดว่า...................”

“ไม่ได้เป็น” ต้นรีบพูดตัดประโยคของผมอย่างฉับพลัน แต่แล้วต้นก็ทำท่าทางหงอยๆขึ้นมาทันที เออ มึงจะเปลี่ยนอารมณ์ก็บอกกันก่อนเหอะ เอาซะตามไม่ทันแล้วนะเนี๊ยะ

“เออ งั้นขอโทษละกัน” 

 

          อากาศในบ่ายที่ก้อนเมฆน้อยใหญ่บดบังพระอาทิตย์ช่างสวยงามซะจริงๆ ผมเหลือบมองต้นเป็นระยะๆจากคนที่ดูเหมือนร่าเริงเมื่อกี๊กลับกลายเป็นคนหดหู่ขึ้นมาทันทีทันใด เพราะอะไรกัน (เอ่อ นิสัยขี้เสือกของผมเริ่มประทุขึ้นมาแล้วสิ)

“ต้น เป็นรัยรึป่าววะ ตั้งแต่ออกมาจากโรงอาหาร ก็เห็นเอาแต่ก้มหน้าก้มตา” ผมมองดูต้นที่กริยาท่าทางการเดินของเขาเหมือนคนที่หมดอะไรตายอยาก

“ป่าวหรอก ไม่มีอะอะไร........ซักนิด” เสียงของต้นไล่ลำดับลง ก่อนที่จะพูดคำสุดท้ายของประโยคออกมาอย่างแผ่วเบา ซักนิดเหรอ? มันต้องมีอะไรแน่ๆ

“เออ งั้นเหรอ อย่าหาว่าเซ้าซี้เลยนะเว้ย ถ้ามีอะไรที่พอช่วยได้ก็บอกนะเว้ย ถ้าช่วยได้ก็พร้อมที่จะช่วย” คราวนี้มันเงียบไปอีกครั้งโดยที่ไม่ตอบอะไรผมมาเลย แต่ท่าทางของต้นกลับดูแปลกไป ต้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าไป และพ่นออกมาเฮือกใหญ่

“เฮ้อ.........” ว่าแต่ปัญหามึงมันหนักหนารึไง ถอนหายใจออกมาเหมือนกับคนเก็บกฎมานาน ผมมองไปยังเจ้าตัวที่ตอนนี้เองก็ยังคงก้มหน้าก้มตาเหมือนหมดอาลับตายอยากอยู่ดี ซึ่งเขาเองยังคงความเงียบของตัวเองไว้ ก่อนที่ริมฝีปากเนิบๆจะเริ่มพ่นประโยค จะเรียกชื่อของผมออกมา

 

“ไทค์”

 

          ผมจดจ้องไปยังต้นด้วยความสงสัย มันมักจะทำให้ผมลุ้นเสมอเลย เอาตามตรงมันเป็นคนที่เดาใจยากชะมัดเลย ผมแทบไม่รู้ว่าในใจของคนๆนี้คิดอะไรอยู่ แต่ดูจากสีหน้าและท่าทางแล้ว เขาเองก็คงมีความในใจที่อัดอั้นมานานแต่ไม่สามารถบอกกับใครได้อยู่แน่ๆ ต้นมองมายังผมก่อนที่เจ้าตัวจะร่ายคำถามซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าผมควรจะตอบกลับไปยังไงดี

“คำว่ารักมันคืออะไรวะ” ผมยืนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งโดยที่ไม่พูดอะไรกลับไป และยังตระหนักอยู่ในหัวว่า ความรักมันคืออะไรกันแน่นะ?

“เอ่อ...............ไม่รู้วะ คงเป็นความเข้าใจละมั๊ง ไม่ก็ความความใกล้ชิด” ผมตอบไปด้วยน้ำเสียง ตะกุกตะกักเพราะผมไม่รู้ว่ารักคืออะไร หรือเพราะว่าผมไม่เข้าใจกับคำนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้นยังยืนกรานมองผมอย่างแน่วแน่ก่อนจะถามอีกคำถาม ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากถามแรกแต่มันกับทำให้ผมต้องนิ่งกลับไป

“แล้ว...........สำหรับมึง รักมันคืออะไรวะ?”

 

          เหล่าเด็กนักเรียนชายกางเกงน้ำเงินเดินว่อนไปมาบริเวณระเบียงส่งเสียงเจี้ยวจ๊าว จากคนนั้นทีคนนี้ทีออกมาเป็นระยะๆ แต่ว่าผมกลับอยู่ในความเงียบซะอย่างงั้น ยังฟังเสียงดังเจี้ยวจ๊าวนั่นอย่างสงบ คำถามที่ต้นได้ส่งผ่านมาถึงผม ผมไม่สามารถหาคำตอบมาให้เขาได้เลย และตอนนี้ผมก็ทำได้เพียงนิ่งเงียบไว้

“มีนหนะ เขาไม่ใช่แฟนกูหรอก เป็นแบบนี้ต่อไปหนะดีแล้ว เป็นแค่เพื่อนมันคงจะดีกว่าแหละ” ต้นเริ่มพูดประโยคหนึ่งออกมาอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าระหว่างต้นกับมีน เรื่องราวของเขาสองคน มันมีอะไรกันแน่ แต่ว่าจากน้ำเสียงและสายตาของต้นมันก็มากพอที่จะทำให้ผมรู้ว่า มันต้องเป็นเรื่องๆหนึ่งที่ทำให้เขาสองคนนั้นต้องเป็นแบบนี้ ผมมองไปยังต้นก่อนที่จะพูดกลับไปเพื่อให้เขาหลุดจากภวังค์

“เอาน่า อีกเดี๋ยวทุกอย่างมันคนดีขึ้นเองแหละ อย่าหาว่ากูยุ่งเรื่องของมึงนะเว้ย แต่ว่าถ้ามึงมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันมึงก็ไปปรับความเข้าใจกันจะดีกว่านะ” ต้นเหลียวมามองผมหลับจากที่ประโยคนี้จบลง

“กู.....ไม่มีรัยจริงๆ”

“กูดูมึงออกน่า สีหน้าของมึงไม่ใช่คนที่บอกคนอื่นว่าไม่มีอะไรแล้วใครจะเชื่อลงหรอกนะ เอาตามตรงตอนแรกกูก็ดูมึงไม่ออกหรอก แต่ว่าตอนเนี๊ยะสีหน้ามึงมันฟ้องอย่างจังเลย มึงมีไรกันก็เคลียให้จบซะ มึงลองคิดดีๆ นะเว้ย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปสำหรับมึงแล้วมีนมึงจะมีความสุขเหรอวะ?”

 

คำพูดของผมทำให้ต้นเงียบไป ต้นเองก็คงจะมีเรื่องให้ครุ่นคิดหลายอย่างเหมือนกัน ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำยังไงต่อไป แต่อย่างที่บอก ว่าคนเรามักจะหาสองตัวเลือก ถ้าไม่ใช่ข้อที่ดีก็จะเป็นข้อที่ดีว่านั้นเสมอ ตอนนี้ต้นเองคงจะคิดว่า ข้อที่ดีกว่านั้นคืออะไร? และเราควรจะทำมันดีมั๊ย? อาจจะเป็นอย่างนั้นก็เป็นได้

 

ผมมองต้นที่ก้มหน้านิ่งไปพักหนึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้ามาแล้ววิ่งพรวดออกไปอย่างเร็วจี๋และส่งยิ้มมาทางผมก่อนจะตะโกนมาซะดังลั่นโลกเลย

 

“เห้ย ไทค์ ขอบใจมึงมากๆ นะเว้ย”

 

“เออ เป็นสีหน้าที่ดีใช่ย่อยเหมือนกันนี่หว่า” ผมกระซิบกับตัวเองเบาๆก่อนที่หันหลังแล้วเดินออกจากที่ตรงนั้นมาแต่ประโยคที่ยังค้างคาใจผมอยู่นั่นก็คือคำถามของต้น ซึ่งผมเองก็หาคำตอบจากคำถามนั้นไม่ได้ซักที

 

“สำหรับมึง รักมันคืออะไรวะ?”

 

นั่นสินะ สำหรับเราคำว่ารักมันคืออะไรกันแน่นะ?

 

 

 

#####################

-นิยายเรื่อง MEMORIES Chapter 2 {Remembarnes} สามารถเปิดอ่านได้แล้วนะครับ สามารถอ่านได้ตามลิ้งค์นี้เลย http://www.keedkean.com/novel/KK0015111.html?page_article=1 เรื่องราวของเจเคและข้าวฟ่าง ติดตามได้แย้วน๊า

-ฝากติดตามนิยายเรื่อง MEMORIES  ด้วยนะครับผม รักคนอ่าน รักคนเม้น รักคนติดตาม 

-กดลิงค์ไม่ได้ ขึ้นไปดูบนบทนำนะครับ จะอัพไว้ให้นะ ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา