รักวุ่นๆจับยัยตัวยุ่งมารับหัวใจ
เขียนโดย mintmo
วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.07 น.
แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 22.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทนำ
ความรักบนโลกนี้มีทั้ง สมหวัง ผิดหวัง เศร้า ซึ้ง ความสุข แต่ละคนก็ต่างมีเรื่องราวความรักที่มีจุดเริ่มต้นคล้ายและแตกต่างกันปะปนกันไป และเรื่องราวความรักของฉันก็มีจุดเริ่มต้น
มาจาก……
”โอ้ย!เครียดๆฉันจะทำยังไงดีรุ่งริ่ง”
ฉันที่นั่งทึ้งหัวอย่างคลุ้มคลั่งอยู่บนโซฟา ส่งสายตาวิ้งๆหายัยรุ่งริ่งเพื่อนรักที่ทำหน้าเหมือนจะไม่สามารถช่วยอะไรฉันได้แม้แต่น้อย
“อะเฮ่ม พอดีฉันชื่อ รุ่งฟ้า ย่ะ ไม่ใช่รุ่งริ่งแกเรียกซะชื่อฉันอนาถไปเลย”
เออ..นั้นแหละ รุ่งฟ้า พอดีฉันเอาไปเปรียบเทียบกับหน้าตาแกก็เลยกลายเป็นรุ่งริ่งไง
-_-
”แฮ่ๆ รุ่งฟ้า ก็รุ่งฟ้า"
”เชอะ”
”ว่าแต่แกมีวิธีแก้ปัญหาของฉันม่ะ”
”อืม”
”มีเหรอ”
*0*
ฉันส่งสายตาเป็นประกายเจิดจรัสที่เต็มไปด้วยความหวังไปให้ยัยรุ่งริ่ง เพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ ม.ต้น และฉันซึ่งเข้าใจมานานว่ายัยรุ่ง ที่ดูเหมือนจะไม่ฉลาดเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องเรียน ในที่สุดก็สามารถช่วยฉันได้ในยามคับขันปลาบปลื้ม
(น้ำตาไหลพรากT^T)
”ไม่มี”
ยัยเพื่อนรักตอบหน้าตาย
ตกลงนี่ฉันต้องยอมใช่ไหมเนี่ยม่ายยยยยยย...
ขอแนะนำตัวหน่อยนะ ทุกคนกำลังอาจจะสงสัยว่า ยัยต๊องที่นั่งฟูมฟายไปมา บ่นนู้นบ่นนนี้กับเพื่อนสนิทตัวเอง มาพักนึงแล้วนี่คือใคร.........
ฉันชื่อพราย์เค้ก ขออธิบายซักนิด ที่ฉันมานั่งเครียดแบบนี้ไม่ใช่เพราะอกหัก
หรือ เล็บเท้าขบเรื้อรัง แต่ประการใดแต่เป็นเพราะว่า..ฉันจะต้องย้ายโรงเรียน ทั้งๆที่ฉันอยู่โรงเรียนเก่ามาตั้งแต่ม. ต้นคุ้นเคยและรักโรงเรียนเหมือนบ้านหลังที่สองก็ว่าได้และหวังว่าจะได้จบการศึกษาจากโรงเรียนนั้นเป็นความภาคภูมิใจที่ใฝ่ฝัน แต่...โอ้โนโนๆฉันต้องย้ายโรงเรียนไปเรียน ม 6 ที่อื่น กระซิกๆแล้วอย่างนี้ฉันก็คงไม่ได้เจอเพื่อนๆที่คบกันมาตั้งแต่ ม. ต้นอีกแล้ว จะไม่ได้เจอด่างน้อยหมาในโรงเรียนที่แอบเป็นขี้เรื้อนนิดๆ จะไม่เห็นท่าด่างน้อยเกาขี้เรื้อน เห็นเห็บกระโดดไปมาอีกแล้ว(อันหลังไม่เกี่ยวคนแต่งโม้เอง ) แถมฉันจะต้องปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนใหม่ด้วย และยังจะต้องจูนสมองที่ไม่ค่อยฉลาดให้เข้าใจเนื้อหาของโรงเรียนใหม่อีก และที่สำคัญที่สุด คนที่เคยตามตื้อขอฉันเป็นแฟนตั้งแต่ ม. ต้นดันอยู่โรงเรียนนั้นด้วย ถึงตอนนี้หมอนั้นจะไม่ได้ตื้อฉันแล้วก็เถอะเพราะไม่ได้เจอกันตั้งแต่ย้ายโรงเรียนแต่ถ้า เกิดบังเอิญเจอกันอีก โป๊ะ ...แชะ ฉันต้องโดนหมอนั้นแอบตามทุก ฝีก้าว แล้วหมอนั้นคงใช้แผนเดิมที่จะสกัดกั้นให้ฉันอยู่ห่างผู้ชายทุกคนในโรงเรียน จนฉันต้องอึดอัด
” ไม่เอาน่าแกอย่าคิดมาก ฉันได้ยินว่าโรงเรียนนั้นก็แค่มีนักเรียนชายต่อยตีกันเป็นงานอดิเรกและตั้งกลุ่มออกเป็นพวกๆ ส่วนคนที่ถูกคัดเลือกมาเป็นหัวหน้าก็จะต้องเป็นประเภทที่แกร่ง ถูกการทดสอบมากมายจนคนส่วนใหญ่ยอมสยบ ถ้ามีนักเรียนที่กล้าขัดขืน ล่ะก็เละกันมาหลายรายแล้วไม่แน่ยัยเค้ก แกอาจจะป็นหนึ่งในนั้นก็ได้ หึหึ”
ยัยรุ่งริ่งว่าพลางยิ้มอย่างสบายอารมณ์และยัดคุ้กกี้เข้าปาก
”แกจะให้กำลังใจฉันหรือจะทำร้ายกำลังใจฉันกันแน่ รุ่งริ่ง”
”ฉันก็ช่วยแกได้แค่นี้แหละ”
”ไม่ได้ ! แล้วเพื่อเตรียมความพร้อมฉันจะต้องแอบไปสำรวจโรงเรียนนั้นก่อนว่าปลอดภัยพอที่จะให้ฉันไปเรียนได้ม่ะถ้ามันไม่ปลอดภัยหรือมีข้อบกพร่องแม้แต่นิดเดียวฉันจะได้มีข้ออ้างที่จะย้ายกลับไปโรงเรียนเก่า ฮ่าๆไปไงแผนฉันเจ๋งม่ะ ”
-__-’’
”ว่าไงแผนฉันลึกล้ำขนาดแกยังอึ้งเลยใช่ม่ะฮ่า ๆแน่นอนอยู่แล้ว”
”ฉันสามารถพูดตรงๆเกี่ยวกับแผนแกได้เหรอเค้ก”
”แน่นอน! เชิญชื่นชมแผนการของฉันได้ตามสบาย”
”ยัยบ้า!”
เสียงของรุ่งริ่งที่ตะโกนใส่หูฉันเล่นเอาหูดับเลย
”แกจะบ้าเหรออยู่ๆมาตะโกนใส่หูฉันทำไมเนี่ย ถ้าฉันหูหนวกใครจะรับผิดชอบย่ะ”
”แกนะสิ บ้ายิ่งกว่าฉันอีก แกเอาสมองส่วนตาตุ่มแกคิดหรือไงที่จะแอบไปสำรวจโรงเรียนนั้นนะ”
”ทำไมล่ะย่ะแผนนี้ก็ออกจะเข้าท่าดี”
”เข้าท่ากะผีนะสิ นี่แกไม่ได้รู้เรื่องเลยใช่มั้ยว่าโรงเรียนที่แกจะย้ายไปอยู่เนี่ย ปลอดภัยยิ่งกว่าธนาคารอีก”
” หืม?”
”ที่นั้นมี ร.ป.ภ ที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ตลอดแนวกำแพงและตลอดเขตโรงเรียน เรียกว่าต่อให้แกมีปีกบินข้ามกำแพงไปได้แกก็อาจมีสิทธ์โดนยิงตกได้ถ้าขืนบินต่อไป”
ฉันอึ้งไม่นึกว่าเลยว่าโรงเรียนที่ฉันจะไปอยู่เนี่ยมันช่างน่ากลัว ขนาดนี้ แต่มันต้องมีวิธีสินะ
ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ ฉันเชื่อแบบนั้น
”แต่มันต้องมีทางสิ”
”มี”
.....?
”แกต้องแปลงร่างเป็นใส้เดือนดินแล้วมุดผ่านเข้าไป”
“……” (คิดได้ไงเนี่ย)
”เพราะฉะนั้น แกเลิกล้มความคิดเถอะเพราะแกแปลงร่างเป็น ไส้เดือนไม่ได้เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เป็นอันจบ”
”ขอบใจ ที่แกยังอุสาห์ช่วยคิด (ประชดหรอกย่ะ)”
สงสัยฉันจะไม่มีทางรอดแล้วจริงๆสงสัยจะต้องยอมรับชะตากรรมที่โหดร้ายกับการเผชิญหน้ากับปีศาจจอมตื้อ
อีกแล้ว
3 วันต่อมา
และแล้ววันที่ฉันไม่อยาก.ให้มาถึงก็มาถึงในที่สุดฉันมีเวลาเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมความพร้อม แค่ 3 วันเท่านั้น;
นี่เป็นวันแรกที่ฉันต้องจากบ้านเก่ามาอยู่บ้านใหม่หลังนี้
”เค้ก ช่วย ยก กระเป๋าเข้ามาหน่อยสิลูก”
เสียงคุณแม่ดังขึ้น ทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์บ้านใหม่ของฉันเป็นบ้านสองชั้น สีขาวที่ดูไปแล้วก็สวยดี บ้านหลังนี้เป็นบ้านของ คุณยาย จริงๆแล้วฉันก็เคยมาที่นี่บ่อยๆสมัยเด็กๆนะ แต่พอคุณยายเสียฉันก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลยที่นี่ก็เลยถูกปิดแต่ก็มีแม่บ้านมาทำความสะอาดอยู่เป็นประจำบ้านหลังนี้ก็เลยยังดูสะอาดเอี่ยม แถมบ้านยังมีสนามหญ้าเล็กๆด้วย
หลังเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บฉันก็เลยถือโอกาสมานั่งรับลมที่ระเบียงซักหน่อยซึ่งระเบียงบ้านฉันอยู่ห่างระเบียชั้นสองของเพื่อนบ้านแค่นิดเดียว จะว่าไปบ้านข้างๆฉันต้องเป็นบ้านของคนที่มีฐานะดีมากแน่ๆเพราะดูจากบริเวณบ้านและตัวบ้านที่ดูใหญ่โตและหรูหราอีกทั้งบ้านยังแบ่งเป็นสองหลังที่ตั้งอยู่ในเนื้อที่เดียวกัน หลังแรกคือคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ดูอลังการมาดแม้ฉันจะมีโอกาสได้มองจากด้านนอกเท่านั้นส่วนอีกหลังนั้นเป็นบ้านหลังเล็กลงมาแต่แม้จะเป็นบ้านหลังเล็กก็มีขนาดเท่ากับบ้านฉันแล้วและยังบังเอิญมีระเบียงอยู่ตรงข้ามกับบ้านฉันด้วย
ฉันหยุดสนใจบ้านข้างๆและยืนรับลมอย่างสบายใจ แหม่....เหมือนนางเอกมีสิควีดีโอเลยนะเนี่ย ลมเย็นจริงๆเลยว่างๆฉันจะมานั่งอ่านหนังสือนิยาย ดีกว่าบรรยากาศที่ระเบียงเนี่ยดีจัง
แผละ
ในขนาดที่ฉันกำลังยื่นหน้าไปลมลมที่ระเบียงอยู่นั้นมีอะไรไม่รู้ลอยมาแปะที่หน้า
ฉันค่อยๆใช้มือคีบอะไรบางอย่างออกจากหน้าและก็ได้ความกระจ่างว่ามันคือ
กางเกงบ๊อกเซอร์
อึ้ย!มันมาได้ไงเนี่ยขัดอารมณ์สุนทรีจริงๆ บ็อกเซอร์ลายโดเรม่อนด้วย
แหยะ มีกลิ่นตุๆด้วย คนใส่เนี่ยคงไม่เคยซักเลยแน่ๆ อี๋ อย่างนี้จะเก็บไว้ทำไมละไอ้บ็อกเซอร์มรณะบังอาจมาแปะที่หน้าฉันอย่างนี้แกอย่าอยู่เลย เจ้าของเนี่ยคงไม่รักแกแล้วถึงได้บินมาหาฉันแบบนี้
ฉันเตรียมจะเหวี่ยงเจ้าบ็อกเซอร์สุดเซอร์ลงในถังใบน้อยข้างๆระเบียง
เดี๋ยว...เธอนั้นบ็อกเซอร์ฉัน
เสียงใครคนหนึ่งที่อยู่ที่ระเบียงบ้านข้างๆดังขึ้นสงสัยจะมีเจ้าของมายอมรับแล้วล่ะสิ เสียงผู้ชายด้วย
อีตาซกมกเอ้ย! ฉันอยากจะรู้นักว่าเจ้าของเนี่ยหน้าตาจะเป็นยังไงถึงได้มีบ็อกเซอร์กลิ่นสุดจะทนแบบนี้แถมยังปลิวมาแปะที่หน้าคนอื่นอย่างไร้มารยาทด้วย และฉันก็หันหลังไปประจันหน้ากับเจ้าของบ๊อกเซอร์เน่าทันที
”นาย...เฮ้ย!!!!”
”เธอ พราย์เค้ก!!!!!!”
ภาพเจ้าของบ็อกเซอร์กลิ่นสุดจะทนลายโดเรม่อนเล่นเอาฉันแทบช็อกเพราะเขาก็คือ
”.นาย มาอยู่ที่นี่ได้ไง”
โอ้...โนโน ทำไมฉันต้องมาเจอนายคีย์ด้วยเนี่ย คนที่ฉันหันไปหบทำเอาฉันแทบช็อกเพราะเขาคือคนที่ฉันอยากจะหนีให้พ้นที่สุด .. อะแฮ่มขออธิบายหน่อย นายคีย์เนี่ยแหละที่คอยตื้อฉันแถมอีตาคีย์ยังมาอยู่ข้างบ้านฉันด้วย
เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย ดูหน้าอีตาคีย์ตอนนี้แล้วยิ่งแล้วใหญ่ ยิ้มกว้างจนแก้มเริ่มออกชมพูแล้วจะดีใจอะไรนักหนาเนี่ยฉันไม่ใช่ญาตินายที่พรัดพรากจากกันไปหลายปีแล้วเพิ่งมาเจอนะเฟ้ย!เพราะฉะนั้นอย่ามาดีใจ
”แหม่ เค้กสงสัยฉันกับเธอคงจะดวงสมพงษ์กันแน่ๆถึงได้มีบุพเพสันนิวาสแบบนี้”
”ดวงซวยสิไม่ว่า”
ฉันโต้กลับใบด้วยใบหน้าหงิกสุดๆใครมันจะไปยิ้มออกได้จู่ๆก็ได้มาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอ
” เค้กทำไมเธอต้องทำหน้าดีใจแบบนั้นด้วยล่ะน่ารักจัง”
”เนี่ยนะใบหน้าดีใจนายใช้ตาดูเปล่าเนี่ย”
เห็นม่ะขนาดฉันทำหน้าหงิกแบบน่าเกลียดสุดๆเพื่อแสดงว่าฉันไม่ดีใจอย่างยิ่งที่ได้มาพบ หมอนั้นก็ดันบอกว่าฉันทำหน้าดีใจแถมยังบอกว่าน่ารัก ไม่ทราบว่าเอาอวัยวะส่วนไหนดูย่ะ
”เปล่าฉันใช้หัวใจ ที่รักเธอดู”
”แหวะ จะอ้วก เน่าสุดๆ”
”เธอคงจะทราบซึ้งล่ะสิท่าถึงอยากจะได้ระบายออกมา”
”พอ! เอาบ็อกเซอร์นายคืนไปก่อนที่ฉันจะเป็นบ้าเพราะมุกเน่าๆของนาย”
ฉันขว้างบ็อกเซอร์ของอีตาคีย์ข้างระเบียงคืนให้ แหยะ ตอนแรกว่าเน่าแล้วนะแต่พอโดนมุกเสี่ยวๆอีตาคีย์เข้าไปเน่ายิ่งกว่าอีก พออีตาคีย์ได้บ็อกเซอร์คืนแทนที่จะรีบไปให้พ้นหูพ้นตาฉัน ซักที ก็กับยืนอยู่ที่เดิม
”เฮ้ เธอใช่ม่ะที่เป็นนักเรียนใหม่น”ะ
”อืม ก็คงงั้น”
ฉันทำเป็นไม่สนใจแต่เมื่อถามมาตอบก็ได้เดี๋ยวเขาจะตื้อถามไปเรื่อยๆ
“ว้าว !งั้นก็ดีสิ ฉันจะได้ไปบอกเพื่อนๆว่าว่าที่ แฟนฉันจะย้ายเข้ามาเรียนที่เดียวกัน“
ใครเป็นแฟนนายกัน!!!!!!!!
เธอไง
ไม่ใช่ฉันไม่เคยคิดที่จะเป็นแฟนนาย
เฮ้ ฉันเป็นได้ตำแหน่ง ..อะไรซักอย่างที่ทางชมรมแฟนคลับจัด
- -*
“อ้อ...ตำแหน่งเจ้าชาย ยิ้มสวย อะไรเนี่ยแหละ“
อีตาคีย์พูดอวดแล้วยิ้มกริ่มมาทางฉัน
แล้วไง มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ
ฉันตอบสีหน้าเรียบเฉยเพราะก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะจริงๆแล้วอีตาคีย์นี่ก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไรเลยตรงกันข้ามเขากับหน้าตาดีมากด้วย ผมสีดำ ตาสีน้ำตาลอ่อนๆ ผิวขาว สูงแต่ที่ฉันไม่ชอบเขาเพราะเขาชอบเขาก็คงเพราะเขา ป็อปเกินไปล่ะมั้งอาจทำไห้ฉันไม่ได้ชอบเขาเพราะว่าฉันชอบที่จะอยู่แบบเงียบๆมากกว่าที่จะต้องเป็นที่จับจ้องของคนอื่นตลอดเวลา
“เชิญนายคุยกับนกข้างนอกไปก่อนล่ะกันฉันจะเข้าบ้าน“
“เฮ้ .. ..เดี๋ยวเค้ก“
ปัง
ฉันปิดประตูระเบียงทันทีอีตาคีย์ทำท่างอนๆก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องตัวเองเหมือนกัน
ต่อไปชีวิตฉันจะวุ่นวายขนาดไหนไม่อยากจะ
คิดดดด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ