Saint Seiya: The Great war seven sins

-

เขียนโดย DarkJoker

วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.01 น.

  1 บท
  1 วิจารณ์
  3,459 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

นับตั้งแต่ยุคเทพนิยาย โลกมักจะถูกทดสอบโดยเทพมามากมาย และบัดนี้ไฟแห่งสงครามก็กำลังจะถูกจุดขึ้นแล้ว!!

เมื่อโลกนั้นถูกคุกคามโดยเทพ นักรบแห่งความหวัง’เซนต์’แห่งอาเธน่าก็จะปรากฏกายขึ้นพวกเค้าได้สวมใส่ชุดที่เรียก

กันว่า’คลอธ’ที่มีลักษณะตามกลุ่มดาวทั้ง88ดวง โดยพวกเค้าจะต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต ด้วยพลังใจ’คอสโม่’ที่เผาผลาญอย่าง‘ไม่มีที่สิ้นสุด’!!

ณ กรุง โรม เมืองหลวงของอิตาลี ค.ศ.1946

แสงอาทิตย์อันอบอุ่นโลกกลับเข้าสู่ยุคที่สงบสุขอีกครั้งหลังจากที่จบสงครามโ,กครั้งที่2มาได้1ปีเศษๆ ประเทศต่างๆนั้นก็ได้มีการพัฒนามากขึ้นประเทศที่เคยเป็นศัตรูก็ได้จับมือกันอย่างแสนสุข

ในสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง

“เฮ้!!”ชายหนุ่มคนนึ่งตะโกนดังกังวานเหมือนเรียกหาใครบางคน”เฮ้!!..อริสะอยู่ไหนเนี่ย”ชายคนนั้นได้กล่าวชื่อของคนที่เค้าเรียกหาและเหมือนจะเป็นชื่อผู้หญิง

“หิหิ”มีเสียงหัวเราะดังขึ้นตรงหลังต้นไม้ใหญ่

“อะฮ่า!!อยู่นี้เอง!!”ชายหนุ่มรีบวิ่งไปดักหน้าของสาวน้อยที่ชื่ออริสะ

“หว่าแย่จังโดนจับได้อีกแล้ว”อริสะมองหน้าของชายหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส

“ไม่ต้องมายิ้มกลบเลยนะ...นี้ก็ได้เวลากลับบ้านกันแล้วนะอริสะ”ชายหนุ่มขยี้ผมของอริสะอย่างเอ็นดูก่อนที่จะจุงมือของเธอกลับไปที่บ้าน

“แต่หนูยังไม่อยากกลับนิหน่าพี่ลีโออะ”อริสะกล่าวอย่างน้อยใจและพูดชื่อของชายหนุ่มไปด้วย

“ไม่ได้หรอกเดี่ยวท่านพ่อและท่านแม่จะเป็นห่วงนะ”ชายหนุ่มที่ขื่อลีโอเดินจุงมืออริสะไปด้วยและพยายามอธิบายให้อริสะเข้าใจ

“ก็นานๆที่คุณพ่อกับคุณแม่จะอนุญาตให้หนูกับพี่ออกมาเที่ยวที่ทุ่งดอกไม้นี้ได้แค่ไม่กี่ครั้งนิค่ะ”อริสะกล่าวอย่างเอาแต่ใจ

“ก็ที่ช่วงนี้พวกท่านทั้ง2ไม่ค่อยให้พวกเราออกไปไหนก็เพราะว่าประเทศของเรายังมีส่วนที่เสียหายต่างๆจากช่วงสงครามโลกที่ผ่านมาซึ่งมีส่วนมากที่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซมถึงครอบครัวของเราจะร่ำรวยแต่เถอะนะ”ลีโอก็ได้กล่าวถึงเหตุผลให้อริสะฟัง

“แต่ว่าคุณพ่อกับคุณแม่ก็ได้ไปช่วยผู้ยากไร้และผู้ที่ประสบห์เหตุในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ที่ผ่านมาโดยตลอดเลยนิค่ะ”อริสะกล่าวต่อหลังจากที่ลีโอพูดจบ

“ใช่แล้วละพวกท่านทั้ง2เป็นคนที่ดีมากๆฉะนั้นอริสะก็อย่าดื้อกับพวกท่านนะ”ลีโอยิ้มให้กับอริสะหลังพูดจบ

“อืมค่ะ!!..หนูจะพยายามนะ”อริสะก็ยิ้มตอบกลับให้ลีโอเช่นกัน

“อืม!..งั้นเรากลับไปที่บ้านไปหาท่านพ่อกับท่านแม่กันเถอะบานนี้พวกท่านคงห่วงพวกเราแทบแย่แน่เลยอะ!!”เพราะว่าเดินไปด้วยคุยไปด้วยทำให้ลีโอนั้นไม่ได้มองทางข้างหน้าและไปชนเข้ากับชาย2ที่ยื่นอยู่ข้างหน้าพวกเค้า

“หืม...อะไรกันไอ้หนูนี้เดินมองทางบ้างหรือป่าว!!”ชายคนแรกกล่าวหาเรื่องลีโอและอริสะในทันที

“55นั้นสินะเด็กสมัยนี้ไม่รู้จักดูทางเลยจริงๆ”ชายอีกคนหัวเราะใส่ทั้ง2คน

“อะ!!ขอประทานโทษครับเพราะผมไม่ดูทางเองครับ!!”ลีโอรีบขอโทษชายทั้ง2พร้อมกับโค้งให้

“คิดหรือว่าเรื่องมันจะจบน่ะ!!มาชนคนอื่นแบบนี้มันเสียมารยาทนะเว้ย!!”ชายคนแรกนั้นโกรษจัดและพยายามจะใช่ฝ่ามือฟาดที่หน้าของลีโอแต่ว่า

“อย่าทำอะไรพี่นะ!!”อริสะนั้นได้วิ่งด้านหน้าของลีโอและกางแขนขึ้นเพื่อปกป้องไม่ให้ชายคนนั้นทำอะไรลีโอ

“อ....อริสะ!!”ลีโอนั้นได้ตกใจที่อริสะนั้นใช้ตนเองเป็นโล่ไม่ให้เค้าโดนชายคนแรกทำร้ายเค้า

“หน่อย.....ยัยเด็กนี้ชวนโมโหจริงๆ!!”ชายคนนั้นไม่สนอะไรทั้งนั้นเค้าได้ง้ามฝ่ามือเตรียมที่จะทำร้ายอริสะแต่ทว่า

“เจ้าคิดจะทำอะไรเด็กผู้หญิงคนนี้มิทราบ?”จู่ๆมีชายคนนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของชายคนแรกอย่างลึกลับโดยเค้ามีจุดเด่นที่สวมแว่นตาลายขวดนมจนมองไม่เห็นดวงตาทั้ง2โดยที่เค้าได้ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งของมือซ้ายจับที่ข้อมือของชายคนแรกและหยุดฝ่ามือได้ทัน

“อะไรของแกเนี่ยอ้าก!!”ชายคนแรกร้องอย่างทรมานเหมือนกับว่าข้อมือของเค้าได้หักไปแล้วอย่างใดอย่างนั้น

“เฮ้ยแกทำอะไรกับเพื่อนของฉันฟระ!!”ชายอีกคนนึ่งได้หยิบท่อนไม้ใต้เท้าของเค้าและใช้มันฟาดหน้าของชายที่สวมแว่น

แต่ว่าท่อนไม้นั้นก็ถูกชายสวมแว่นหยุดได้เพียงแค่นิ้วชี้ของมือขวาหยุดท่อนไม้นั้นอย่างง่ายดายแต่ถึงอย่างนั้นแว่นลายขวดนมของชายสวมแว่นก็ได้หล่นตกพื้นเพราะการเคลื่อนไหวของเค้าโดยยังมีเงาบังดวงตาทั้ง2เอาไว้แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีแววตาสีม่วงมองไปที่ชายคนที่2อย่างน่าเกรงขาม

“เฮ้ย!!อะไรเนี่ย!!”ในทันทีที่ชายคนที่2สบตาชายคนแรกนั้นตัวของเค้าก็เริ่มสั่นอย่างหวาดกลัวและได้ทิ้งท่อนไม้และรีบวิ่งหนีชายสวมแว่นไปอย่างไม่คิดชีวิต

“เอ้า....เพื่อนของเจ้าไปแล้วนะ..ตาของเจ้าแล้วละ..”ชายสวมแว่นสะบัดแขนซ้ายที่กำลังจับข้อมือของชายคนแรกเอาไว้โดยสะบัดไปด้านหลังจนชายคนแรกล้มลงกับพื้นและจ้องมองชายคนแรกอย่างน่าเกรงกลัว

“ปะปะปะ!!...ปีศาจชัดๆ!!ระรอด้วย!!”ชายคนแรกก็มีอาการเช่นเดี่ยวกับเพื่อนของเค้าหลังสบตาชายสวมแว่นเค้ารีบลุกขึ้นและตามเพื่อนของเค้าไปโดยทันทีทันใด

“เฮ้อ.....ให้ตายสิพวกคนเดี่ยวนี้เป็นแบบนี้กันหมดแล้วหรือไงกัน...”ชายคนแรกได้ก้มลงเก็บแว่นลายขวดนมของเค้าขึ้นมาและสวมมันไว้

“ขะ....ขอบคุณมากๆนะครับที่ช่วยน้องสาวของผมเอาไว้น่ะ!!”ลีโอที่กำลังตะลึ่งอยู่นั้นได้รีบขอบพระคุณชายสวมแว่นที่ได้ช่วยอริสะเอาไว้

“อ่า....ไม่เป็นอะไรหรอกที่จริงแล้วข้าก็ไม่ชอบเหมือนกันละนะพวกที่เอะอะก็ใช้กำลังเนี่ยน่ะ...”ชายสวมแว่นหันมามองพวกอริสะและกำลังจะไป

“ดะเดี่ยวก่อนคะ!!”อริสะได้รับกล่าวขอให้ชายสวมแว่นหยุดเดิน

“หืม....มีอะไรหรือแม่หนู?”ชายสวมแว่นได้หันกลับมามองอริสะที่ห้ามตนเอาไว้

“นี้คะ”อริสะได้ควักกำไลดอกไม้จากกระเป๋าเสื้อของเธอและยื่นให้กับชายสวมแว่น”นี้แทนคำขอบคุณและขอโทษที่ต้องให้คุณมายุ่งกับเรื่องพวกนี้นะคะ”อริสะได้ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับชายสวมแว่น

“อะ......ขอบใจนะ..”ชายสวมแว่นได้ยื่นมือไปรับกำไลดอกไม้จากอริสะมาและสวมใส่ที่ข้อมือของตนเองในทันที

“งั้นพวกผมต้องขอตัวก่อนนะครับ”ลีโอได้โค้งให้กับชายสวมแว่นพร้อมกับยิ้มให้เค้าและจุงมืออริสะเดินกลับบ้านของพวกเค้าไป

“หึเป็นเด็กดีจริงๆนะ”มีเสียงของชายคนนึ่งดังขึ้นในซอกตึกที่ชายสวมแว่นกำลังยื่นอยู่

“....คิมหรือ….”ชายสวมแว่ยหันกลับไปมองที่มาของเสียงและปรากฏชายผมแดงคนนึ่งกำลังยื่นกอดอกมองมาทางเค้า

“เสียงอันแสนจะหล่อๆอย่างข้าคงมีแค่คนเดี่ยวเท่านั้นละนะ...โทคิซาดะ”ชายผมแดงที่ชื่อคิมกล่าวอย่างกวนประสาทและได้พูดชื่อของชายสวมแว่น

“เจ้าน่ะ...หลงตัวเองเกินไป....”ชายสวมแว่นที่ได้รู้ชื่อแล้วว่าคือโทคิซาดะได้กล่าวอย่างเยือกเย็นใส่คิม

“ฮ่าฮ่าฮ่า...ก็นะถ้าไม่ใช่ข้าคงไม่หลงตัวเองขนาดนี้หรอก..แต่ว่า....เด็กผู้หญิงคนนั้นใช่จริงๆสินะ”คิมกล่าวเสร็จก็หันไปมองทางที่พวกอริสะนั้นเดินไป

“อ่า....คงจะเป็นเช่นนั้น...”โทคิซาดะได้ยื่นกอดอกและเดินไปทางกลับที่พวกอริสะได้เดินไป

“ข้าเห็นแล้วละคอสโม่ที่ยิ่งใหญ่นั้นน่ะ”เมื่อคิมกล่าวเสร็จก็ได้เดินตามโทคิซาดะไปด้วย

“เจ้าก็เห็นสินะ.....คอสโม่ของเด็กผู้หญิงคนนั้นตอนที่ปกป้องพี่ชายของเธอน่ะ....”โทคิซาดะได้กล่าวไปด้วยและเดินไปพร่าง

“อ่าฮะ....แค่นี้ก็เป็นการยืนยันได้แล้วสินะว่าเด็กคนนั้นเป็น…”คิมได้กล่าวต่อหลังจากที่โทคิซาดะพูดจบ

“อ่า.......แค่นี้ก็ยืนยันได้แล้วละว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็น”โทคิซาดะได้หยุดเดินและมองกำไลดอกไม้ที่สวมในมือซ้ายของเค้าซึ่งอริสะเป็นคนมอบให้

“ร่างจุติของเทพอาเธน่า”

 

จบ

เลนตี้(ผู้เขียน):เอาๆละในที่สุดข้าน้อยก็อัพนิยายเรื่องใหม่สะทีนึ่ง...เอ๋อะไรนะแล้วเรื่องก่อนหน้านั้นหรอ........ก็ไม่รู้สินะแอ้ก/โดนศรทองปักหัว/ยังไงยังไงก็ขอฝากเรื่องSaint Seiya:  The Great warseven  sins นะทุกคน>w<

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา