Make It Right √ จะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่มึง [Yaoi]

-

เขียนโดย นะเขียน

วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 01.27 น.

  6 chapter
  3 วิจารณ์
  41.01K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 01.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Make It Right 02 √ Just wanna play

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

2

Just wanna play

 

 

 

 

 

 

            ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลงจนรู้สึกได้ คงดึกมากแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเรานั่งอยู่นี่กันมากี่ชั่วโมง แต่ตอนนี้บนโต๊ะกว้างๆ สามโต๊ะเต็มพรืดไปด้วยซากอารยธรรม.. ไม่ว่าจะเป็นขวดเบียร์ ขวดเหล้า หรือจานกับแกล้มเปล่าซ้อนกันเป็นสิบๆ ใบ ไหนจะเศษป๊อบคอร์นที่ตกกระจายไปทั่ว (เพราะแม่งเอามาปาใส่กัน เหอๆ) ลำบากพี่พนักงานเดินมาเก็บกวาดทุกสามสิบนาที เก็บจานเก็บขวดไปกี่รอบๆ ก็ไม่หมด สงสัยร้านเขาได้ถล่มจริงๆ แน่ว่ะ..

 

            ถ้าจะพูดถึงไอ้นิวเจ้าของงาน.... ตอนนี้แม่งฟุบหลับไปกับโต๊ะเรียบร้อย ผมทั้งสงสารทั้งสะใจแม่งจริงๆ ที่พอไอ้เนเป็นคนเปิดสั่งเหล้าขวดแรกปุ๊บ (เพราะผมรีเควสนักหนานี่ล่ะ) เชี่ยนิวก็โดนเพื่อนๆ จัดหนักให้แดกเหล้าเพียวๆ ไม่มีโซดาผสมก่อนเลยหนึ่งแก้ว แถมขู่อีกว่าถ้าไม่ยอมวนซดเหล้าแก้วเพื่อนๆ รอบวงคนละอึก จะไม่ให้รอดกลับบ้านครบสามสิบสอง (เพื่อไรวะ?) ถึงนิวมันจะคอแข็งพอตัวอยู่บ้าง โดนเข้าไปขนาดนี้แม่งก็ต้องมีน๊อกเป็นธรรมดา...

 

            หมดแก้ว!! หมดแก้ว!! เอิ้วว เอิ้ววว หมดแก้วว เอิ้ววววววว!!! ไอ้เหี้ยยยยยยยค้าบบบบบ!!! ฝั่งนี้หมดแล้วๆ!!!!!!!

 

            "หมดแก้ววว!!! เร็วดิ่ว๊ามึง!! อีกนิดดด นิด!! เอิ้ววว เอิ้ว!! เยสสสสสสสสส!! หมดดดดแล้ววววววววววววว!!!!!!"

 

            ไม่ต้องตกใจว่าใครบวชครับ แต่มันเป็นเสียงไอ้พวกเพื่อนเวรที่แบ่งกันเป็นสองฝ่าย ส่งตัวแทนมาแข่งกันแดกเหล้า ใครคอแข็ง แดกได้เยอะสุดคนนั้นชนะ (ของรางวัลสำหรับผู้ชนะคือวันนี้ไม่ต้องควักตังค์จ่ายสักบาท) ซึ่งมุมแดงโต๊ะนู้นมีไอ้เอิร์ธนั่งประจำที่ ส่วนมุมน้ำเงินหล่อๆ อย่างนี้เป็นใครไปไม่ได้.... นอกจาก ผมเอง! (มั่นใจว่าคอแข็ง)

 

            "เฮ้ยยย ไอ้เหี้ยเอิร์ธธธธธธธธธ!!!! ฟุบไปแล้ววววว ได้ไงว๊า! มึงอย่าเพิ่งเด้!!!! สาดดดดด ตื่นนนนน เดี๋ยว เน้!!!!" เสียงไอ้วิทย์ที่แอบดอดไปเชียร์ไอ้เอิร์ธดังจ้าขึ้นกลางวง ขณะที่เสียงเฮฝั่งนี้ดังกึกก้องเหมือนได้แชมป์พรีเมียร์ลีกก็ไม่ปาน ผมชูแก้วเปล่าแก้วสุดท้ายขึ้นเหนือหัวประกาศชัยชนะ ก่อนที่แรงทั้งหมดในร่างกายจะถูกธรณีสูบ กระแทกหน้าลงกับโต๊ะดังปึง! แถมแก้ว Mug ที่ถือเมื่อกี้ยังตามมาหล่นใส่หัวอีก เหอๆ หัวบุบป่าวไม่รู้ แต่ผมชิลล์มากไม่เจ็บเลยสักนิดว่ะ..

 

            "ฟิวส์! มึงเป็นไรป่าวน่ะ! หัวแตกป่าววะ!"

 

            "สมควรสัด... กูอึ้งมาก แม่งแดกไปได้ไง เยอะขนาดนี้"

 

            เสียงใครก็ไม่รู้ดังอื้ออึงไปหมด ผมเลื่อนแขนปัดป่ายไปมาทั่วโต๊ะ โดนขวดอะไรเข้าบ้างก็ไม่รู้ แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะใช้บอกเพื่อนๆ ได้ว่า... กู โอ เค...

 

            เฮ่ยๆ ร่างทรงเข้าแล้วน่ะ

 

            "ไอ้ฟิวส์มากะใครวะ พาแม่งกลับดิ๊!! มันจะว่ายน้ำบนบกแล้วเนี่ยยย"

 

            "กูเห็นแม่งมากับไอ้โม่ ไอ้เชี่ยนั่นแม่งก็เสือกเมาแอ๋ไปหลีสาวอยู่นู้นดูดิ่" ผมพอจับใจความได้อยู่นะ คนเสียงกวนตีนเหมือนไอ้ท๊อปกำลังว่าผมเมาแอ๋อ่ะ! โนวววววว ไม่จริงเยยยยยยยยยย

 

            "กูววว.. ม่ายยย.. มาวว ง่ายง่ายยยหลอกกกกก เอิ๊ก.." ผมพยายามเงยหน้าขึ้น แต่ทำไม่ได้จริงๆ ใครผูกตะกั่วถ่วงหัวผมไว้หรือเปล่า ไมมันหนักอึ้งเป็นสิบตันงี้ เลยได้แต่ป่ายปัดมือไปทั่วโต๊ะเพื่อเถียงอีกรอบ อืม.. ผมได้ยินเสียงดังเพล้งเหมือนอะไรตกแตกด้วย

 

            "อ้าวไอ้นี่ เมาแล้วเสือกทำลายข้าวของ ใครก็ได้พามันกลับบ้านทีดิ"

 

            ระหว่างเสียงจอกแจกจอแจแยกแยะไม่ออก ผมได้ยินเสียงทุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ ตัวนี่เอง "กูก็ได้ เพลียๆ ว่ะ อยากกลับอยู่พอดี" ใคร... พูดอะไรหว่าา?

 

            "เออ ฝากทีนะ แบกแม่งกลับดีๆ อ่ะ มันไม่ค่อยเมา แต่เมาแล้วก็เหมือนหมาเชี่ยๆ" สิ้นเสียงนั้น แขนขวาผมก็ถูกดึงให้ไปโอบคอใครบางคนไว้ ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกพยุงให้ลุกขึ้นตาม ผมพยายามหรี่ตามองไอ้คนข้างๆ ซึ่งมองอยู่นานสายตาถึงปรับโฟกัส เห็นเป็นหน้าหล่อๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นใกล้ๆ แบบนี้ของ ไอ้ธีร์

 

            "เมิงงงงงง จาพากูปายหนายยยอ๊าา!"

 

            "กลับบ้านไง ไม่ไหวแล้ว เมาเละเหมือนหมาเลยมึง"

 

            เมารายว๊า ครายมาวว เมิงพูดใหม่เด้!!”

 

            มึงอ่ะแหละโคตรเมาเลย.. ไปๆ กลับบ้าน

 

            "กลาบบ้านรายย ไม่กลาบบบ.. ไม่กลาบบบ ไม่กลาบบบ อื้อออ----!!!!" ผมสะบัดสะบิ้งดิ้นขลุกขลักสุดกำลังที่มี แต่ดูเหมือนไอ้คนสติดี แรงก็ย่อมก็เยอะกว่า ผมสู้มันไม่ได้เลย "จาแดกกกกเหล้าาาต่ออ มึงงง กู... ม่ายยยอยากกลาบบอ๊าา ฮือออๆๆๆ ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช้วยโด่วยยย"

 

            "ร้องทำไมเล่า... เฮ้ยฟิวส์ มึงอย่าดิ้นได้มั้ย โอ้ย! ตบหัวกูไมเนี่ยย"

 

            "ไม่กลับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!! ไม่เอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!! ม่ายอาววว" ผมไม่รู้สึกตัวเลยว่าทำอะไรลงไป

 

            "โอ้ยๆ เจ็บนะ! อย่าข่วนได้มั้ย" เสียงทุ้มนั้นร้องจ้าด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่ทราบ แต่ต่อจากนั้นผมถึงเริ่มรู้สึกว่าขาตัวเองลอยขึ้นจากพื้นด้วยแรงดึงน่าพิศวงบางอย่าง

 

            "ฤทธิ์เยอะนัก อุ้มแม่งเลยละกัน.."

 

            "ไม่กลับๆๆๆๆๆ ม่ายกลาบบบบอ๊าาา!!"

 

 

 

 

 

 

            ผมรู้สึกว่ามีอะไรแข็งๆ สากๆ แนบหน้าอยู่ มันหยาบเย็นซะจนต้องพยายามลืมตาขึ้นดู อือ... เพื่อพบว่าผมกำลังนอนอยู่บนพื้นคอนกรีตหน้ารั้วบ้านใครสักคนที่ไม่คุ้นเลย

 

            เอ้า ฮ่ะๆๆ กูบอกให้นอนอยู่เฉยๆ ก่อน เปิดประตูรถลงมาทำไม ฮ่ะๆๆ.. หน้าทิ่มเลยดูดิเสียงทุ้มหัวเราะร่วนลอยมาเข้าหู สัญชาติญาณบอกว่าแม่งต้องกำลังหัวเราะเยาะผมอยู่แน่ๆ เลย

 

            ไอ้...สัด.......ผมก่นด่าได้แค่นั้น ก่อนรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นๆ เข้ามาประคองเอวผมให้ลุกขึ้นยืน โชคดีที่สติเริ่มกลับมานิดหน่อย จนมองนกเป็นนก มองไม้เป็นไม้แล้ว สงสัยนี่คงเป็นบ้านไอ้ธีร์มั้ง กู.. มา..บ้านเมิง ได้งายย

 

            กูก็พามาสิครับ ถามว่าบ้านมึงอยู่ไหนก็ไม่ยอมบอก ร้องแต่จะแดกเหล้าอ่ะ หึหึหึ

 

            เหอๆ มันพูดว่าไรนะ เหมือนสติหลุดอีกแล้วว่ะ.. กึก! ผมหยุดเดินเพราะอยู่ดีๆ เข่าก็พับลงไปกองกับพื้นเฉย

 

            เฮ้ยๆๆ เดินดีๆ หน่อย เดี๋ยวก็หน้าฟาดพื้นหรอกร่างสูงส่งเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจในลำคอ ก่อนบ่นงำงึมอะไรนิดหน่อย แล้วใช้แขนสองข้างช้อนตัวผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอดอย่างง่ายดาย กูอุ้มมึงอีกรอบก็ได้ ง่ายดี

 

            ทำรายอ๊าาา ปล่อยกูลงน๊าาา!ผมกระทืบเท้าไปมาในอากาศตึกตักไม่ต่างอะไรกับเด็กดื้ออยากได้ของเล่นแพงๆ ชวนให้ไอ้คนตัวสูงที่กำลังก้าวขาฉับๆ เข้าบ้านอย่างทุลักทุเลหันมาดุเสียงดัง

 

            หยุดดิ้น! ถ้าไม่อยากตกลงไปหัวแตก

 

            “......” ผมเบ้ปาก ขมวดคิ้วยุ่ง ที่อยู่ๆ ถูกขึ้นเสียงใส่ แต่ก็ยอมสงบลงตามที่มันบอกแต่โดยดี ธีร์พาผมเดินผ่านห้องรับแขกสวยขึ้นบันไดมาชั้นบน บ้านแม่งใหญ่กว่าที่คิด (เพิ่งเคยมาครั้งแรกนี่ล่ะ) เพราะแค่ขนาดบันไดยังกว้างกว่าบ้านผมเกือบสองเท่าได้..

 

            อยู่บนเตียงเฉยๆ ก่อนอ่ะ... เฉยๆ นะเว้ย เดี๋ยวกลิ้งตกลงมาอีกหลังเปิดประตูห้องนอน ธีร์ก็วางร่างผมลงบนเตียงนุ่ม ก่อนนั่งลงข้างๆ กัน มันเริ่มถอดเสื้อ ELLE ตัวแพงออกเผยให้เห็นแผงอกขาวเปลือยเปล่า พอมีกล้ามเนื้อเหมือนคนออกกำลังกายประจำ

 

            ทำไร..วะผมถามไปตามที่คิด

 

            อาบน้ำ เหนียวตัวอ่ะ

 

            หุ่นดีนี่หว่ามึง.. สาวติดใจตายเหมือนใส่ความอิจฉาลงในน้ำเสียงมากไปหน่อยจนไอ้ธีร์รู้สึกได้ มันเลยหัวเราะหึหึในลำคอกลับมา .....เป็นเสียงที่น่าหมั่นไส้มาก

 

            มึงก็เหมือนกันแหละ น่ารักกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ฟันสาวมากี่คนแล้วล่ะ

 

            เหอะๆๆ... ฟันได้ก็ดีดิ เพิ่งอกหักมาเนี่ยพอพูดแล้วก็เสียใจชิบหาย แอลกอฮอล์ช่วยให้ลืมได้ไม่ถึงวันเลย.. ผมกับจีนคบกันมาเกือบปี ทะเลาะกันนี่แทบนับครั้งได้ เอาอกเอาใจสารพัด พาไปดูหนังตลอด กินข้าว ช๊อปปิ้ง เทคแคร์ต่างๆ นานา ไอ้เราก็ไม่เคยบกพร่อง แม่ง... ผมทำอะไรไม่ดีตรงไหนวะ... ผมทำอะไรให้เขาไม่พอใจวะ...?

 

            เออ งี้แหละสีสันชีวิต สู้ๆ กูเป็นกำลังใจให้ธีร์ลุกขึ้นยืนถอดกางเกงยีนส์ตัวสีเทาออก จนเหลือแต่บอกเซอร์ลายสก๊อตตัวเดียว แต่ผมไม่มีอารมณ์จะสนใจ เพราะพอคิดถึงภาพกรีดแทงใจเหล่านั้น อยู่ดีๆ น้ำตาก็พานไหลออกมา น้ำตาที่ผมพยายามเก็บไว้มาสองวันเต็ม

 

            กู... กู... เสียใจว่ะ.. ทำไม...วะ ทำไม..เขา...ต้องทำ กับ กู แบบนี้วะ.. กูผิด..ไรอะ

 

            เฮ่ย! ร้องไห้ทำไม โตเป็นควายแล้วยังขี้แยอีกนะมึงธีร์ผละจากการง่วนถอดกางเกงให้พ้นตัว กลับมานั่งลงข้างๆ ผมเหมือนเดิม ตอนนี้ผมสะอึกสะอื้นจนตัวโยน ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่คิดจะปาดทิ้ง รู้สึกว่าอยู่กับมันแล้วไม่มีอะไรต้องอาย หรืออาจจะเป็นเพราะหน้าผมด้านตอนไถลไปกันคอนกรีตเมื่อกี้แล้วก็ได้

 

            กู.. รักเขา อ่ะ กูรัก..เขา จริง..จริง... นะ กูทำผิด...ตรงไหน ทำไมเขาไม่... ไม่บอกกู วะ แม่ง.. แค่กๆ อะ..แค่กๆผมแทบจะสำลักน้ำมูกน้ำลายตัวเองตาย เกลียดจริง ทำไมเวลาร้องไห้น้ำมูกต้องไหลมาอุดจมูกด้วยวะ

 

            เออๆ กูเข้าใจ ไม่ต้องพูดมากแล้ว เดี๋ยวก็อ้วกออกมาหรอก ยิ่งกินเข้าไปเยอะๆ อยู่มือหนารวบไหล่และหัวผมเข้าไปแนบกับแผงอกแกร่ง ความอบอุ่นของอ้อมกอดนั้นนำให้ผมร้องไห้หนักเข้าไปอีก ธีร์คอยลูบหัวผมอย่างเบามือและอ่อนโยน จนเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาด โอ๋ๆ.. ไม่ร้องๆ มึงนี่โคตรเด็กน้อยเลยว่ะ ยังอมมืออยู่เปล่าเนี่ย..

 

            ผมได้ยินเต็มสองหูว่าเสียงกลั้วหัวเราะนั้นหลอกด่าผมว่าอะไร แต่อย่างน้อยผมก็ดีใจ ที่มีใครสักคนคอยปลอบอยู่ข้างๆ ในเวลาที่กำลังอ่อนแอที่สุดแบบนี้

 

            พ่อมึงอะ.. แต่ก็ขอด่ากลับสักหน่อยเหอะ

 

            หึหึหึ ยังปากดีอีก

 

            ......

 

            ยังไงก็..ขอบใจ..นะเว้ย ธีร์

 

            ผมนั่งซุกอกมันอยู่ในท่านั้น นานเท่าไหร่ไม่รู้ จนในที่สุดน้ำตาก็แห้งไปเอง... ฝ่ามืออุ่นของธีร์ยังลูบหัวผมแผ่วเบาไม่ไปไหน (มันน่าจะเมื่อยได้แล้วแหละ) แม้มันไม่ค่อยได้พูดอะไร แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความหวังดีเต็มเปี่ยมที่ส่งผ่านมาจากฝ่ามือข้างนั้น ธีร์เป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึง..

 

            แต่น่าแปลกว่ะ ที่ผมไม่เผลอหลับ อาจเป็นเพราะไอ้เสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ใส่นี่แม่งก็ร้อน แอร์ในห้องก็ไม่ได้เปิด แถมเรายังนั่งกอดกันกลมจนเหงื่อออกเป็นสายอีก ผมคงนอนไม่ได้ถ้ายังไม่สบายตัวอยู่แบบนี้ แล้วพอคิดไปคิดมาก็เริ่มสงสัยในสิ่งที่กำลังทำ.. ว่าเพื่อนผู้ชายเขาปลอบกันแบบนี้แน่เหรอวะ?

 

            มึงไม่อาบน้ำแล้วไง?” ผมผุดตัวลุกขึ้นมานั่งผิงพนักหัวเตียง ก่อนถามแก้เก้อ

 

            ก็มึงโอเคยังอ่ะ

 

            อือ.. โอเคแล้ว” ....มั้ง?

 

            งั้นกูไปอาบน้ำก่อนธีร์ก้มลงเก็บกางเกงยีนส์ตัวสีเทาที่ถอดวางกองไว้กับพื้นขึ้นมาวางบนเตียง ก่อนเตรียมจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ผมดึงแขนข้างนึงของมันไว้ทันทีที่คิดได้ว่า...

 

            เดี๋ยว กูอาบด้วยดิ่ ร้อน..

 

            เจ้าตัวหันมาเลิกคิ้วมอง แล้วพยักหน้าอือออหงึกหงัก ผมสะบัดหัวให้หายมึนนิดหน่อย ก่อนจัดแจงถอดเสื้อกับกางเกงออก ผมวางเสื้อตัวเก่งไว้บนเตียง ถอดเข็มขัด แต่แล้ว........... ซิปกางเกงแม่งเป็นห่าไรไม่รู้ ไมรูดไม่ลงวะ!

 

            เชี่ย ติดไรเนี่ย รูดไม่ลง..ผมพยายามรูดแล้วรูดอีกแต่ก็ไม่ลงสักที ไม่รู้ปัญหาเกิดจากซิปหรือผมหมดแรงจะรูดกันแน่

 

            อ่อน แค่ซิปก็รูดไม่เป็นไงวะ ไหนมาดูดิธีร์ปัดมือผมออก มันใช้มือข้างหนึ่งลองดึงซิปขึ้นลงดู แต่ก็ต้องขมวดคิ้วยุ่งเมื่อพบว่าติดเหมือนกัน แล้วมาว่ากูอ่อนนะ เหอะๆ ผมนั่งนิ่ง กระพริบตาปริบๆ มองมัน เนื่องด้วยไม่รู้จะช่วยยังไง...

 

            จะว่าไปพอสังเกตใกล้ๆ แล้วไอ้ธีร์หล่อแถมหุ่นดีขึ้นมาก เมื่อก่อนที่ผมเห็นแม่งยังตัวกะเปี๊ยกเดียวหัวเกรียนแบบเด็กๆ อยู่เลย แต่พอขึ้นม.ปลายตัดรองทรงแบบนี้ดูรับกับรูปหน้าคมของมันมาก หุ่นก็ไม่หนาไม่บางดูสุขภาพดีไม่มีส่วนเกิน จนผมที่เป็นผู้ชายชอบผู้หญิงยังอดชื่นชมไม่ได้... พอคิดถึงตรงนี้ คำพูดของไอ้โม่เมื่อเช้าก็ลอยผ่านเข้ามา......

 

            มึง...ผมเรียกมันเสียงเบา

 

            มีไรคนถูกเรียกตอบกลับทั้งที่ยังพยายามดึงซิปตรงเป้ากางเกงผมให้ออก

 

            เคยมีไรกะผู้ชายป่าววะ?ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามไปแบบนั้น (ถ้าไม่เมาคงทำไม่ได้) แต่พอสิ้นเสียง ธีร์ก็เงยหน้าขึ้นสบตาผมงงๆ แทบจะทันที

 

            "ไม่เคยอ่ะ... ไมวะ อยากลองเหรอ"

 

            ผมลองคิดทบทวนคำถามนั้นไปมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงตะโกนไปว่า 'ไม่' ได้อย่างเต็มปาก แต่ตอนนี้กลับไม่พบคำตอบที่แน่ชัด "......ไม่.....รู้ดิ..."

 

            สายตาคมของธีร์ยังคงจ้องตาผมกลับ ริมฝีปากบางนั้นยกยิ้มขึ้นมุมปากดูเจ้าเล่ห์ เพิ่งรู้สึกตัวว่าสิ่งที่พูดกับสถานการณ์ตอนนี้มันล่อแหลมขนาดไหน มือธีร์ค้างอยู่ที่เป้ากางเกงผม ในขณะที่ท่อนบนของพวกเราเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปกปิดอยู่เลย

 

            "ลองกันมั้ยล่ะ" อีกฝ่ายเขยิบตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิม ผมไม่รู้ว่าประโยคนั้นของมันคือคำถามหรือคำเชิญชวนกันแน่ รู้เพียงแต่ผมไม่ได้ตอบปฏิเสธไป "ว่าไง..." สายตาเราประสานกันนิ่ง ประกายบางอย่างในดวงตาสีนิลคู่สวยของธีร์วาววับราวกับกำลังท้าทายอยู่... ก่อนจะเป็นเสียงผมตอบอ้อมแอ้มในลำคอ

 

            "อือ..."

 

            ผมไม่รู้ว่ามันผิดแค่ไหน

 

            และผมไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป

 

 

 

 

 

 

----------Make It Right----------

 

 

แหม่ะ ไม่รู้ได้ไงล่ะ พูดกับตัวเองหยกๆ อิอิ

แล้วแบบนี้ฟิวส์จะเสร็จธีร์หรือเปล่าเนี่ย รอติดตามต่อไปนะค้าบ >_<

 

แอบมีรีดเดอร์ถามว่านะเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกหรือเปล่า? ไม่ใช่เรื่องแรกครับ

แต่เอาลงที่เด็กดีเป็นเรื่องแรก ^^ ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ มีอะไรก็ถามได้ คุยได้นะครับ ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นท์เลย

 

แล้วเจอกันจ้า!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา