ไนล์...เส้นทางแห่งรักฟาโรห์
เขียนโดย ลูกอมมายด์มิ้น
วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.08 น.
แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคุณเคยเจอเรื่องที่น่าประหลาดอัฒจรรย์หรือเปล่า
แล้วคุณเชื่อถึงเรื่องราวอดีตชาติหรือไม่
หากมี และเราเกิดมาเพื่อใครคนนึง คุณจะยอมรับไหม?
ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนผันชะตาชีวิตของคุณ คุณจะทำเช่นไร?
อียิปต์ หรือประเทศอียิปต์ ประเทศที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณยาวนานมามากกว่าห้าพันปีและที่นี่ยังมีแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก นั่นคือ “แม่น้ำไนล์” เพราะในอดีตกาล แม่น้ำไนล์แห่งนี้เปรียบเสมือนเส้นโลหิตใหญ่ที่คอยหล่อเลี้ยงผู้คนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรที่เกรียงไกร รวมถึงเหล่าราชวงศ์ที่ปกครองแม่น้ำสายนี้อีกด้วย
ณ นครเพตรา
“จับมันไปโบยและให้มันบอกความจริงมาว่าใครอยู่เบื้องหลังการกระทำอันต่ำช้าเช่นนี้” น้ำเสียงดุดันที่เต็มไปด้วยความโกรธ เค้นเสียงออกมาจากลำคอเคียดแค้นและโกรธผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้จนใจเขาแทบจะระเบิด
“กรี๊ดดดด ฝ่าบาท ขะ…ข้า”
“ตอบข้ามานังแม่มด ใครเป็นคนสั่งเจ้าให้กระทำการชั่วช้าเช่นนี้”
“ขะ…ข้าไม่ตอบ ฮ่าๆ กรี๊ดดดดดด”
“โบยมันต่อไป เดี๋ยวนี้!!!”
“พะยะค่ะ ฝ่าบาท” แล้วทหารก็โบยไม้ลงแผ่นหลังหญิงวัยกลางแต่งตัวมอซอผมเผ้ารุงรังกระเซอะกระเซิง แม้เธอจะเจ็บสักแค่ไหนแต่ริมฝีปากเธอกลับมีรอยยิ้มพร้อมกับเสียงหัวเราะที่เค้นออกมาจากลำคอของเธอ
“จะ..จงฟังใว้พระราชา คนที่จะ…เจ้าตามหานั่นอยู่ใกล้เจ้านั่นแหละและข้าเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของนังอสรพิษนั่น” เสียงสุดท้ายได้หลุดออกมาจากริมฝีปากบางซีดเซียวพร้อมกับลมหายใจที่หยุดลง
“นางตายแล้วพะยะค่ะฝ่าบาท”
“อื้ม”
“ฝ่าบาทพะยะค่ะ ฝ่าบาท”
“มีอะไรซาเดล”
“อะ..องค์หญิงทรงแย่แล้วพะยะค่ะ”
“ลูกหญิง!!!”ทรงพูดได้แค่นั้น กษัตริย์เบนนอลแห่งราชอาณาจักรเพตราก็รีบเสด็จไปห้องบรรทมขององค์หญิงซึ่งเป็นแก้วตาดวงใจของพระองค์อย่างรวดเร็ว
ห้องบรรทม
“ลูกหญิงทรงเป็นอย่างไรบ้าง”
“อาการไม่สู้ดีเลยเพคะท่านพี่”พระมเหสีก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“หมอหลวง องค์หญิงเป็นอย่างไรบ้าง ”
“อะ…เอ่อ องค์หญิงทรงโดนพิษอันร้ายแรงที่ทรงเกิดจากงูเห่าและ….”
“ข้าไม่ต้องการรู้ว่าพิษบ้านี่มาจากอะไร แต่ที่ข้าอยากรู้คือองค์หญิงจะหายไหม”กษัตริย์เบนนอลพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล
“กระหม่อมจะพยายามจนสุดฝีมือพะยะค่ะ”ยังไม่ทันที่หมอหลวงจะหันไปรักษาต่อ เสียงสำลักเลือดก็ดังมาจากพระโอษฐ์องค์หญิงน้อยวัยหกชันษาที่นอนบนแท่นบรรทม
“เรซูยา”พระมเหสีซาเรียและกษัตริย์เบนนอลรีบวิ่งเข้าไปใกล้แท่นพระบรรทมขององค์หญิงเรซูยา
“หมอหลวงลูกข้าเป็นอย่างไร ลูกข้าเป็นอย่างไร ฮือๆ”
“อะ…เอ่อ องค์หญิงทรงสิ้นพระชนม์แล้วพะยะค่ะ”
“ไม่ ไม่ ไม่ ข้าไม่เชื่อ เจ้าโกหกข้า”
“พระมเหสี!!!”
“พามเหสีไปห้องพระบรรทม
“เพคะ”
วิหารอามุนรา
“ข้า ผู้ปกครองนครเพตราผู้สืบเชื้อสายแห่งเทพราห์ อยากจะขออ้อนวอน ตอนนี้ในพระราชวังมีมีแต่ความวุ่นวาย ริษยา นำมาซึ่งความตายของธิดาข้าซึ่งเป็นสายเลือดของท่าน อยากจะขอให้ท่านช่วยรับดวงวิญญาณของนางไปดูแล เพื่อรอวันที่นางจะหวนคืนมาสู่ดินแดนของเราอีกครั้ง” สิ้นเสียงของกษัตริย์เบนนอล ฝนก็ตกลงมาราวกับเบื้องบนรับรู้ในสิ่งที่กษัตริย์เบนนอลอ้อนวอน ประตูและหน้าต่างของวิหารอามุนราปิดเองเสียงดังโครมคราม ภายในห้องมีแต่ความมืด เสียงสีเหลืองนวลสว่างตรงกลางวิหารอามุนราซึ่งเป็นรูปปั้นของเทพอามุนรา ทำให้เห็นเป็นรูปร่างหญิงสาวคนหนึ่งมีศรีษะเป็นวัว รูปร่างอวบอิ่มมีน้ำมีนวลปรากฏตรงหน้ากษัตริย์เบนนอล
“ข้ารับรู้ได้ในสิ่งที่ท่านอ้อนวอน”เสียงหวานเอ่ยขึ้น
“ทะ…ท่าน”
“ข้ามีนามว่า ไอซิส”
“เทพีไอซิส พระนางช่วยลูกด้วย”
“ข้ารู้ และสิ่งที่ท่านอ้อนวอน ข้าจักทำให้เป็นจริง”
“เทพีไอซิสข้ารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถดูแลนางได้”
“มันเป็นชะตากรรมของนาง เจ้าไม่ต้องห่วง นางจะปลอดภัย ขอให้เจ้ากลับไปทำหน้าที่ของเจ้า และไม่นานข้าจะพานางกลับหวนคืนสู่อียิปต์อีกครั้ง” สั้นเสียง ประตูและหน้าต่างก็เปิดกลับเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ
“เนธลู”
“พะยะค่ะฝ่าบาท”
“กลับ”
“พะยะค่ะ”
ปีพุทธศักราช 2530 ณ โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
“เบ่งเต็มที่เลยนะคะ”
“กรี๊ดดดดด”
“อุ แว๊ อุ แว๊”
“ดีใจด้วยนะคะ น้องเป็นผู้หญิง หน้าตาน่ารักเชียว ” พูดจบก็วางน้องลงบนท้องคุณแม่เพื่อให้คุณแม่ได้เห็นหน้าลูกน้อย
“ลูกแม่”หญิงสาวร่างเล็กยิ้มทั้งน้ำตาให้กับลูกคนแรกที่เฝ้าฟูมฟักมาตลอดเก้าเดือนด้วยความรัก มือเรียวเล็กพยายามยื่นมืออันสั่นเทาเพื่อ
“เดี๋ยวดิฉันขอพาน้องไปล้างตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะพาน้องตามคุณแม่ไปที่ห้องนะคะ”
“ค่ะ” หญิงสาวผู้ให้กำเนิดเด็กน้อยผ่อนลมหายใจอย่างช้าๆและหลับตาลงสิ่งรอบข้างเริ่มมืดมิด ห้วงความรู้สึกเริ่มจมดิ่งลงเรื่อยๆ
“ขอโทษนะคะ มีใครอยู่ที่นี่ไหมคะ ” หญิงสาวตะโกนถามเพราะที่นี่ไม่มีใครเลยแถมยังมีหมอกมีขาวหนาเต็มไปหมด
“มีใครอยู่ไหมคะ” ขาของเธอเริ่มออกเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับตะโกนเรียกไปเรื่อยๆเผื่อว่าจะมีคนบ้างไม่ใช่เห็นแต่หมอกขาวหนาทึบแบบนี้ และแล้วแสงสีเหลืองนวลสว่างตาก็ปรากฎอยู่ข้างหน้าเธอ ทำให้มองเห็นเป็นรูปร่างของหญิงคนหนึ่งในชุดโบราณแปลกตา
“สวัสดี จันทิมา เราพบกันอีกครั้งแล้วสินะหลังจากที่เจ้าเริ่มตั้งครรภ์”
“คุณรู้จักชื่อของฉันได้ยังไงคะ ละ…แล้วคุณคือใคร?” จันทิมาพูดจบหญิงคนนั้นก็ยิ้มบางๆ
“คุณต้องการอะไร?”
“ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
“คะ”
“ข้าขอฝากเรซูยาไว้ในความดูแลของเจ้า เจ้าจะทำให้ข้าได้ไหม”
“ทะ…ทำได้ค่ะ”
“เมื่อถึงเวลาข้าจะมารับเรซูยาคืน ”
“แต่ท่านให้ลูกฉันมาแล้ว ท่านจะเอากลับไปไม่ได้นะคะ ”
“เรซูยาต้องกลับไปยังที่ๆเขามา ดูแลเขาให้ดี หาไม่แล้วล่ะก็ข้าจะพาเขาไปทันที จำไว้” แสงสีเหลืองนวลเริ่มเลือนรางลงเหลือแต่เพียงหมอกสีขาวหนาทึบคงเดิม
“เดี๋ยวสิคะ เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งไปค่ะ”
“………………………………”
“คุณให้ลูกกับฉันมาแล้ว คุณจะเอากลับไปไม่ได้ เอาไปไม่ได้ เอากลับไปไม่ได้ กรี๊ดดดดดด!!!”
“คุณจันทิมา คุณจันทิมาคะ” พยาบาลเขย่าแขนเรียกจันทิมาเพื่อปลุกให้เธอตื่นจากการหลับไหลจนเธอสะดุ้งจนตัวโยน
“คุนจันทิมาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ปะ…เปล่าค่ะ ลูกฉันล่ะคะคุณพยาบาล”
“อยู่ข้างเตียงไงคะ ดิฉันพาน้องมาดื่มนมจากอกคุณแม่ค่ะ เดี๋ยวยังไงดิฉันขอตัวนะคะ สักพักดิฉันจะพาน้องกลับไปนะคะ ”
“ค่ะ” จันทิมาหันมามองลูกสาวตัวน้อยที่เธอเฝ้าฟูมฟักมานานนับเก้าเดือนด้วยความรัก ตัวของเด็กน้อยเล็กนิดเดียว ตากำลังหลับพริ้ม ปากนิด จมูกหน่อย ผิวสีแดง จันทิมาอุ้มทารกน้อยแทบอกของเธอพร้อมกับเขย่าตัวลูกน้อยเบาๆคล้ายเป็นการกล่อมลูกน้อย
“ลูกแม่ เราจะไม่มีวันพรากจากกัน”
“เอ๊ะ นี่อะไรน่ะ” จันทิมาจับแขนขวาของทารกน้อยพลิกไปด้านซ้ายทำให้สายตาเธอเห็นปานสีเขียวช้ำๆที่แขนรูปร่างคล้ายดอกบัว น้ำตาของจันทิมาจึงไหลโดยไม่รู้ตัวพร้อมทั้งกอดทารกตัวน้อยไว้แน่ “แม่จะรักและดูแลลูกอย่างดี เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะลูกรัก”
………………………………………………………………………………………………………
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ