ราชันบุปผาไหว้ศพ (ฉบับร่าง)
เขียนโดย snowred
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 22.30 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
บทนำ
บทนำ
[บรรยายโดยผู้ประพันธ์]
“นี่…พลับพลึง”เด็กหญิงแต่งกายแบบสมัยก่อนสวมเครื่องประดับเล็กน้อยเดินมาพร้อมกับดอกไม้ในมือริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างสดใสเด็กหญิงอีกคนที่แต่งกายแบบสมัยก่อนเช่นกันแต่ไม่ได้สวมเครื่องดับแถมเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบสกปรกเล็กน้อยยิ้มตอบให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าไปหา
“วันนี้เจ้ามาได้ฤ?”
“ได้สินี่ข้าเอาดอกไม้มาฝากด้วยเจ้าชอบไหม?”เด็กหญิงสูงศักดิ์ยื่นดอกไม้ให้พลับพลึงก่อนจะจูงมือแล้วเดินไปยังอุทยานทั้งสองต้องกึ่งเดินกึ่งย่อเพื่อไม่ให้มีใครจับได้
“เจ้าอยากได้ดอกไหนล่ะ?”
“มิเอาดีกว่าคมกฤชบัดเดี๋ยวก็จับได้ดอก”พลับพลึงโบกมือไปมาเด็กหญิงสูงศักดิ์เจ้าของนามคมกฤชเด็ดดอกไม้มาดอกหนึ่งก่อนจะเสียบไว้หลังหูของพลับพลึง
“น่ารักจัง”
“เหมือนคนบ้ามากกว่า”
“อย่าพูดเช่นนั้นสิ! เจ้าออกจะน่ารัก”คมกฤชยื่นนิ้วจิ้มแก้มพลับพลึงอย่างหยอกล้ออีกฝ่ายหน้าบู้แต่ก็ไม่ขัดอะไรปล่อยให้เพื่อนของตนทำตามใจตนเองแล้วทั้งคู่ไปเล่นอย่างอื่นต่อ
ก่อนหน้าที่จะเป็นเพื่อนกันคมกฤชลอบออกจากพระราชวังไปเดินในตลาดแล้วเผอิญชนเข้ากับพลับพลึงเพราะมัวแต่มองไปรอบๆจนไม่มองทางดูเหมือนพลับพลึงจะมีเรื่องด่วนเลยรีบเก็บของแล้ววิ่งต่อแต่ถูกคมกฤชดึงมือไว้รั้งไม่ให้ไปแล้วพามาคุยด้วย
‘เจ้าขายของฤ?’
‘ใช่’
‘ยังเด็กอยู่แท้ๆเชียวแล้วนี่พ่อแม่หายไปไหนล่ะ’
‘พ่อแม่ข้าตายไปนานแล้วเหลือแต่ข้านี่แหละ’น้ำเสียงของพลับพลึงเศร้าหมองจนทำให้บรรยากาศอึมครึมคมกฤชเห็นท่าไม่ดีเลยจับมือไว้เพื่อปลอบ
‘งั้นต่อไปนี้เล่นกับข้าไหมล่ะ?’
‘เล่น…’พลับพลึงทวนคำเบาๆคมกฤชพยักหน้าก่อนจะเอ่ยต่อ ‘เจ้าคงจะเหงาสินะข้าเองก็เช่นกัน’พลับพลึงมองคมกฤชอย่างเห็นใจระหว่างนั้นก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายมีบรรยากาศที่แตกต่าง …เหมือนชนชั้นสูง
‘เอ่อนี่ข้ารู้สึกว่าเจ้ามิเหมือนชาวบ้านธรรมดาเลย’
‘อย่างไรฤ?’ คมกฤชถามโดยไม่มองหน้าพลับพลึงเพราะกลัวด้วยความคิดที่ว่าอีกฝ่ายอาจจะจับได้ว่าตนเองไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดานึกสงสัยว่าทั้งๆที่ใส่ชุดสกปรกแล้วเอาเขม่ามาทาตามเนื้อตามตัวแต่ทำไมถึงไม่รอดสายตาพลับพลึง?
‘ก็…ข้าเองก็มิรู้นะแต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าดูสูงส่งน่ะ’
‘…’
‘เจ้านะ…เป็นองค์หญิงฤ? เอ่อ…อย่าทำหน้าเช่นนั้นสิข้าแค่รู้สึกเองคิดอันใดอยู่เจ้าน่ะ?’ พลับพลึงพยายามกลบเกลื่อนเธอยิ้มแห้งๆให้คมกฤชทว่าคำพูดต่อมาของคมกฤชทำให้เธอต้องกลั้นหายใจเพราะคาดไม่ถึง
‘ใช่…’
‘ถ้างั้น….’พลับพลึงทำท่าจะถอยออกไปเพราะรู้แล้วว่าตนนั้นไม่สมควรจะนั่งกับผู้ที่มีฐานะสูงกว่าทว่าถูกคมกฤชรั้งไว้
‘มิต้องทำอันใดทั้งนั้นข้ามิถือดอก …อย่าทำเช่นคนอื่นๆเลยนะข้าอยากมีเพื่อนเล่นบ้างน่ะอยู่แต่ในวังน่าเบื่อมากเลยข้าขอร้องล่ะมองข้าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเถิด’คมกฤชเอ่ยวิงวอนด้วยน้ำเสียงเหมือนจะหมดความหวังมือขาวนวลเปลี่ยนเป็นมากอดอีกฝ่ายแล้วซุกหน้าพลับพลึงเห็นดังนั้นก็อดเห็นใจไม่ได้เธอเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเพราะตัวเธอเองก็อยู่คนเดียวเหมมือนกันถึงจะมีเพื่อนคนอื่นๆอยู่ก็เถอะแต่ก็รู้สึกเหมือนไม่มีอยู่ดี
‘งั้นต่อไปนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ’
หญิงสาวแต่งกายแบบสมัยก่อนสีดำยื่นมือขาวซีดดึงร่างของหญิงสาวขึ้นมาหญิงสาวนั่งนิ่งไม่ขยับเหม่อมองบ่อเลือดน้ำตาไหลออกมาความน้อยใจเสียใจเคียดแค้นกัดกินหัวใจนางค่อยๆลุกขึ้นริมฝีปากซีดพึมพำด้วยเสียงที่สั่น
“ข้าจะต้องฆ่าพวกมันโดยเฉพาะเจ้าคมกฤช!!” นางเอ่ยด้วยความโกรธในอกร้อนเสมือนมีไฟลุกโชนนึกถึงหญิงสาวเจ้าของนามคมกฤชซึ่งเคยเป็นเพื่อนของตน
หญิงสาวผู้ถูกดึงเข้าไปยังก้นลึกของบ่อเลือดถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครช่วย …แม้กระทั่งเพื่อนของนางเอง
…คมกฤช…
เมื่อนานมานั้นมีวิญญาณดวงหนึ่งได้ออกจากมิติโลกธรรมดานี้ได้ไปสร้างอีกมิติหนึ่งโดยที่รวบรวมวิญญาณดวงอื่นมาด้วยเหตุที่ต้องสร้างนั้นเพราะวิญญาณเบื่อหน่ายกับชีวิตโลกนี้ที่มีแต่เรื่องเดิมๆเลยคิดจะสร้างอะไรบางอย่างให้เกิดความแตกต่างออกไปมิติที่สร้างใหม่เหมือนกับโลกนั้นทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้วนเหมือนกันแต่พื้นที่ของมิตินี้ใหญ่กว่ามากวิญญาณตนนั้นคิดว่าแม้จะเหมือนกันแต่พอดำเนินไปเรื่อยๆก็คงมีความแตกต่าง
วิญญาณดวงแล้วดวงเล่าที่สร้างขึ้นก็รวบรวมตัวเป็นร่างเนื้อเสมือนหุ่นตุ๊กตาที่เลียนแบบวิญญาณดวงนั้นพอใจจากนั้นก็สร้างอย่างอื่นด้วย
สมบูรณ์แบบ…แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างขาดไปวิญญาณดวงนั้นคิดอยู่นานแต่ก็นึกไม่ออกว่าตนลืมใส่อะไรลงไปในร่างมนุษย์ก่อนจะละความสนใจแล้วล่องลอยไปสถิตตามเดิมและเฝ้ามองผู้คนที่ตนสร้างขึ้นวิญญาณดวงอื่นที่มาด้วยก็กลับไปที่โลกเดิม
ผ่านไป๒เดือนผู้คนก็เริ่มแตกแยกทำสงครามกันจนเสียชีวิตนับไม่ถ้วนวิญญาณดวงนั้นออกมาดูก่อนจะคิดว่ามันก็ไม่แปลกอะไรเพราะที่โลกเดิมสงครามก็มี
…ทว่าผู้คนเหล่านั้นต่างฉีกกระชากผิวหนังและอวัยวะส่วนอื่นทานแววตากระหายเลือดนั้นทำให้วิญญาณหวาดกลัว
ไม่ใช่สัตว์ประเสริฐแต่เป็นสัตว์เดรัจฉาน
วิญญาณตนนั้นหนีไปที่อื่นที่คาดว่าวิญญาณที่ออกจากร่างในการเสียชีวิตจะไม่มีสิ่งที่วิญญาณตนนั้นสร้างมันก็คือสัตว์เดรัจฉานดีๆนั่นเองเมื่อผ่านไปเรื่อยๆจนมาพบกับหญิงสาวผิวขาวซีดผมยาวสีดำสนิทถึงหัวเข่ามีเขากระทิงโง้งจากศีรษะแต่งกายด้วยโทนสีดำและสีแดงในมือมีตรีศูลขนาดยาวสีดำนางมองวิญญาณตนนั้นสักพักก่อนจะเอ่ย
‘สิ่งที่เจ้าสร้างมันเป็นเพียงของปลอมผู้คนนั้นเป็นสัตว์เดรัจฉาน’
‘ข้ามิรู้…ว่าเรื่องมันจะเป็นเช่นนี้’วิญญาณตนนั้นหน้าซีดเมื่อนึกถึงสภาพผู้คนหญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเอ่ย
‘โลกเดิมที่เจ้าเคยอยู่ผู้คนก็ร้ายแล้วพอเจ้าสร้างอีกมันก็มิมีทางที่จะสมบูรณ์กว่านี้ได้…จำไว้เสียของปลอมมันมิมีทางดีกว่าของจริง’
หญิงสาวกล่าวจบก็พันธาการวิญญาณด้วยโซ่อาคมก่อนจะพาลงไปในนรกและขังวิญญาณตนนั้นเรื่อยมา…
หญิงสาวตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้วผู้สร้างไม่ใช่ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
…แล้วผู้คนก็ดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความกระหายเลือด…
.
.
.
“ข้าเฝ้ามองเหล่ามนุษย์ที่มีจิตใจสกปรกทุกคนล้วนไม่สมบูรณ์มีกิเลสเป็นของตนเองแต่นั่นเป็นเรื่องธรรมดาของสิ่งมีชีวิตที่เทพได้สร้างขึ้นมนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐแต่ไยพวกมันถึงไม่ยอมทำความดีโอ้…นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกันนี่แต่ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน”
นามเป็นความลับ
“ชาตินี้พ่อผมเกิดเป็นเด็กชายที่ไม่มีพ่อแม่ส่วนแม่ในชาตินี้ก็ไม่ค่อยมีใครอยากคบเพราะเป็นอสูรของตระกูลผมอยากเข้าไปกอดท่านเหลือเกินแต่ในชาตินี้ผมก็เกิดอยู่วัยเดียวกับพวกเขายิ่งแม่เป็นผู้หญิงด้วยแล้วเป็นเรื่องไม่เหมาะสม
แต่ผมขอสัญญาว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ขอสาบานด้วยสายเลือดเมื่อชาติก่อน”
เสไพรพงพิษ
“เรามองหญิงสาวนางนั้นมาโดยตลอดเป็นหญิงที่งดงามมากจนแม้มวลบุปผายังต้องหุบกลีบเพราะละอายแต่ชีวิตของนางช่างอาภัพนักเพราะผู้คนรอบตัวและคนใกล้ชิดกับสายเลือดอสูรนางมิใช่สตรีที่อ่อนแออย่างเช่นการสู้รบที่สตรีนางอื่นทำมิได้หัวใจของนางช่างแกร่งกล้าและเด็ดเดี่ยวเราเฝ้ามองนางมาหลายภพหลายชาติจนกระทั่งชาติปัจจุบันในสมัยรัตนโกสินทร์นางเกิดเป็นเด็กหญิงประถมผู้ที่ผู้คนต่างรังเกียจเพราะเป็นอสูร”
“ช่างน่าเวทนาเหลือเกินยักษิณีผู้บาปหนา”
พินทุอิซากุรตรี
“เราอยากออกไปจากที่นี่ช่วยด้วย…ช่วยด้วย……
เราร่ำไห้ในใจด้วยความโศกเศร้าอยากออกไปจากหัวใจของเธอคนนี้
อสูรผู้กล้าแกร่งแต่อาภัพ
เธอมักจะมาคุยกับเราในใความฝันมีเพียงเธอเท่านั้นที่จะทำให้เราหายเหงาเราเป็นอีกร่างหนึ่งของเธอแต่หน้าตาไม่เหมือนกันเพียงแต่นิสัยเท่านั้นที่คล้ายเรารักอสูรมากเพราะเธอเองก็ไม่มีเพื่อนเหมือนเราไม่สิเพราะเราไม่ได้ออกไปไหนเลยไม่มีเพื่อนเธอมักจะมีรอยยิ้มที่อบอุ่นเสมอเราชอบมากเราอยากอยู่กับนางไปตลอด”
ไม่มีนาม
“ลูกรัก…ลูกรักของแม่สังรศรีผู้น่ารัก
แม่เป็นหญิงที่แย่จริงๆทอดทิ้งหนูไปตั้งแต่ยังทารกแม่ไม่ได้เกลียดหนูนะรักมาก…รักจนหัวใจยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้หนูอยู่กับแม่แต่เพราะหน้าที่มันพรากเราจากไปเพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแม่จึงต้องทำตามหน้าที่
ย่าก็ด้วย
พี่สาวหนูก็ด้วย
และก็พ่อ…
ไม่อยากนึกถึงชายชั่วคนนั้นเลย
เมื่อใดที่หน้าที่เสร็จสิ้นครอบครัวของเราก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
โอ๋…อย่าร้องไห้ไปเลยนะ………”
นามเป็นความลับ
“นี่มันอะไรกัน!”
เสียงที่โกรธเคืองมาจากของหญิงสาวผมยาวถักเปียห่มตะเบงมานนุ่งโจงกระเบนข้างๆขาท่อนบนมีชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมคล้องไว้นางโมโหกับเนื้อหาในจดหมายที่เพิ่งอ่านจบดวงตาประกายความโกรธออกมาอย่างเห็นได้ชัดข้อความประกาศท้าที่อาจหาญกับทุกคนในกรุงศรีอยุธยาลักมีดอรัญญิกไปไว้ในกำมือเช่นนี้มันหยามเกินไปแล้ว!หญิงสาวคิด
เนื้อหาที่นางอ่านนั้นมีเนื้อความว่าจะลักมีดอรัญญิกซึ่งเป็นมีดของราชวงศ์อยุธยาซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธราชวงศ์ของสยาม
ก๊อกๆ
“เข้ามา”
ประตูทำจากไม้สักแกะสลักอย่างงดงามเปิดออกร่างของหญิงสาวเกล้ามวยผมเกล้าผมสองข้างแล้วที่เหลือก็ปล่อยไม่รวบผ้าสีชมพูอ่อนๆคล้องไว้บนบ่าแล้วปล่อยชายสองข้างเข้ามาพร้อมกับถือซอหญิงสาวยิ้มบางๆให้นาง หญิงสาวผมยาวถักเปียกรนรานเมื่อผู้ที่เข้ามาคือผู้ที่มียศศักดิ์กว่าเธอนางลุกนั่งลงบนพื้นทำท่าจะเคารพแต่หญิงสาวผู้ที่เข้ามายกมือห้ามก่อนจะถาม
“อรัญญิกเมื่อกี้ข้าได้ยินเสียงของเจ้ามีเรื่องอันใดฤๅ”หญิงสาวเจ้าของนามอรัญญิกมีท่าทีร้อนรนนางตอบ
“ม่ะมีสาสน์ส่งมาเจ้าค่ะท่านซอ”
“แล้วข้างในเขียนเรื่องอันใดฤ?”หญิงสาวนามซอถามด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งแตกต่างกับอรัญญิกที่ไม่เป็นอันสงบจิต
“…” หญิงสาวผู้น้อยไม่อาจบอกได้ไม่อยากให้อีกฝ่ายกังวล กิริยานั้นท่านหญิงเข้าใจจึงบอกกับนาง“บอกมาเถิดข้ามิสังหารเจ้าดอก”
นางยังก้มหน้าสักพักหนึ่งก่อนจะเงยแล้วบอกกับท่านหญิง
“สาสน์…สาสน์ท้ามีผู้ลักมีดอรัญญิกแห่งราชวงศ์ไปเจ้าค่ะ”
“ส่งสาสน์นั่นมาสิ”
“เจ้าค่ะ…”อรัญญิกยื่นจดหมายให้อย่างนอบน้อมซอสังเกตว่ามือของนางสั่นนางจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนเป็นการปลอบรอยยิ้มที่งดงามนั้นทำให้จิตใจที่ร้อนนั้นของนางเย็นขึ้นมาซอคลี่กระดาษแล้วอ่านไม่ถึงนาทีนางก็อ่านจบเพราะเนื้อหาข้างในค่อนข้างสั้นซึ่งมีไม่ถึง๖บรรทัดนางเอ่ย
“เนื้อหาสั้นนักเช่นนี้น่าจะเขียนด้วยเศษกระดาษจะดีกว่า”
“ข้าเห็นด้วยเจ้าค่ะแต่ท่านซอเจ้าคะท่านโปรดคุยเรื่องการลักมีดก่อนเถิดเจ้าค่ะ” สีหน้าของอรัญญิกวิตกเห็นได้ชัด “อย่าวิตกไปเลยอย่างไรเสียนายิกาคนอื่นก็ต้องช่วยกันสืบและตามจับนั่นแหละ
“---เจ้าค่ะ”อรัญญิกไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรจึงตอบสั้นๆ …ดูเหมือนว่าซอจะเพิ่งนึกอะไรได้จึงกล่าวด้วยความไม่พอใจ “อรัญญิก ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้มานั่งข้างบน เราเป็นคนรักกันนะมิใช่นายกับบ่าว แถมเจ้าเองก็เป็นรองนายิกาด้วยจะทำตัวเยี่ยงนี้ทำไม?”
“ก็มันมิชินนี่เจ้าคะ” อรัญญิกตอบเสียงอ่อยพร้อมกับลุกขึ้นแล้วยกเก้าอี้มานั่งข้างๆ ซอเห็นดังนั้นจึงเขยิบเก้าอี้เข้าไปกอดแขนอรัญญิกอย่างอ้อนๆ เห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกอ่อนใจกับความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ
ตอนนี้อรัญญิกเผลอลืมเรื่องคดีลักมีด ส่วนซอเองแม้จะทำทีว่าไม่สนใจแล้วก็แหย่อรัญญิกด้วยความสนุก ในใจก็หวนนึกไปถึงความฝันที่นางเคยพบเห็นในห้วงนิทรา
แว่วเสียงดนตรีราวกับเสียงสายลมให้รื่นหูแว่วเสียงไพรราวกับอยู่ในอีกโลกา
ประโยคนี้…นางคุ้นเคยเหลือเกินและมักจะบอกกับนางยังที่ความฝันเริ่มจะจางหายแล้วตื่นน้ำเสียงนั้นฟังแล้วสงบนิ้วของนางมักจะเผลอแตะกับซอคู่ใจนั่นเองที่มักจะทำให้นางนึกถึงความฝัน
ในความฝันนั้นที่เหมือนจะทบทวนนางในอดีตซอพยายามนึกอยู่หลายครั้งหลายคราแต่จนแล้วจนรอดนางก็นึกไม่ออกบุคคลในความฝันนั้นสง่างามแม้จะอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำสายฝนทำให้ดวงตาพร่ามัวจึงทำให้นางมองคนผู้นั้นไม่ชัดแต่เมื่ออยู่ในอากาศที่อบอุ่นแสงอาทิตย์ก็เลอะเลือนจนทำให้นางมองไม่เห็นเช่นกัน
เกราะสีเงินที่เปื้อนเลือดบนร่างบางที่ถือดาบอย่างแข็งแกร่งชูดาบเหนือศีรษะสะท้อนกับแสงอาทิตย์อย่างอาจหาญ
นางมิเคยลืมเลย…
คนผู้นั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งในสายตานาง
สง่างาม
งดงาม
และ…อาจหาญอย่างซื่อตรงต่อแสงสุริยะที่ถักทอฉายทาบทับบนโลกาดาบที่ชูนั้นเหมือนจะวิงวอนและสั่งให้สุริยะนั้นเป็นสักขีพยาน
ต่อจากนี้ความลับความจริงและความทรงจำในอดีตจะเปิดเผยใครกันที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของโลกทั้งหมด
แล้ววิญญาณผู้สร้างมิตินี้แท้จริงแล้วคือใครกัน?กำลังถูกคุมขังในนรกหรือเป็นอิสระกันแล้วนะ?
----------------------------------------------------------------
โปรดอ่านตรงนี้ก่อนอ่านเนื้อเรื่องค่ะ (กลัวอ่านแล้วจะเข้าใจผิด เลยต้องอธิบายค่ะ) สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่เข้ามาชม (และอ่าน) (แสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ ><) ผู้แต่ง (หรือในนามปากกาสีไทย) จะขอกล่าวกับนิยายเรื่องนี้เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น นิยายเรื่องนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่าบุปผาไหว้ศพ (ผู้ที่อ่านเนื้อหาแล้วอาจจะคิดว่าเกี่ยวอย่างไรกับชื่อเรื่อง ซึ่งจะเฉลยในตอนจบภาคสุดท้ายค่ะ)ซึ่งได้ลงเนื้อหาที่เว็บขีดเขียนด้วยค่ะ (และอีกเว็บหนึ่ง เว็บอะไรนะ จำไม่ได้)
เรื่องนี้มีเนื้อหาไม่เหมาะสมด้วยนะคะเรื่องนี้มีทั้งหมด ๘ ภาค ซึ่งแต่ละภาคมีทั้หมด ๑๐๐หรือ ๒๐๐ กว่าตอนค่ะ (มากเลยนะเนี่ย)หากภาคนี้ซึ่งเป็นภาคที่ ๑ จบก็จะแต่งอีกเรื่องโดยใช้ชื่อเดียวกันแต่จะมีคำว่า ภาค ๒ ลงท้ายด้วยซึ่งจริงๆ แล้วหนูยังไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากที่จะแต่งเป็นภาคๆแต่เพราะมันเป็นความตั้งใจของหนูอยู่แล้วเลยอยากแต่งน่ะค่ะ (เพราะทุกวันนี้หนูทุ่มเทให้กับนิยายจนแทบจะไม่ได้เล่น)โทนอารมณ์ของเรื่องหนูตั้งใจจะให้มีดราม่าผสมตลก แต่จะเน้นดราม่าและความลับ (ที่ไม่ใช่ปริศนา)https://www.facebook.com/profile.php?id=100003845377470&sk=photos&collection _token=100003845377470%3A2305272732%3A69&set= a.345992068872303.1073741840.100003845377470&type=3
ลิงค์นี้เป็นอัลบั้มภาพที่หนูวาดเองเป็นภาพแนะนำตัวละครในเรื่องค่ะ บางคนอาจจะมีในภาค ๑ส่วนบางคนอาจจะมีในภาคอื่น (เพื่อความเข้าใจเวลาที่บางท่านอ่านแล้วไม่เข้าใจเครื่องแต่งกาย)แนะนำให้อ่านตั้งแต่บทนำประมาณแรกๆแล้วไปท้ายเลยค่ะ เพราะเนื้อเรื่องจะเริ่มเข้าตรงนั้นแม้ในเรื่องจะมีคดีเกิดขึ้นแต่ยังไม่ใช่แก่นหลักของภาคนี้เพราะแก่นหลักจริงๆ คืออดีต และการพบกันของแต่ละคน โดยเฉพาะนางเอกที่ชื่อศรี (แต่จริงๆ บางตอนถ้าไม่อ่านนี่ไม่เข้าใจเลยนะสรุปคืออ่านทุกตอนจะดีที่สุด ((ฮา))
ในเรื่องจะใช้คำสรรพนามไม่เหมือนกันค่ะ (หากอ่านบทนำอาจจะเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น)ช่วงแรกๆ อาจจะสับสนแต่ถ้าอ่านเรื่อยๆน่าจะเริ่มจำได้ (น่าจะนะ)ส่วนเรื่องภาษาพูดนั้นอย่างคำว่า รึ หนูพิมพ์ ว่า ฤส่วนคำว่าหรือ หนูพิมพ์ว่า ฤๅสำหรับตัวละครที่ใช้คำสรรพนานามแบบสมัยก่อนเหตุผลที่ใช้แบบนี้เพราะคำว่า ฤๅ นั้นไม่ได้ออกเสียงจัตวาแบบคำว่าหรือซึ่งหนูไม่แน่ใจว่าสมัยก่อนเขาใช้แบบนี้หรือไม่ (เคยเห็นในภาพยนต์บางเรื่องก็ไม่ได้ออกเสียงจัตวาน่ะค่ะ)
เรื่องนี้หนูได้แต่งแบบให้สามารถนำไปวาดเป็นการ์ตูนเลยอาจจะมีสะดุดบ้าง (เพราะหนูจะทำเป็นแบบการ์ตูนด้วยค่ะ) ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะในแต่ละตอน ผู้ที่ดำเนินเรื่องจะแตกต่างแล้วแต่ความเหมาะสม บางตอนผู้แต่งก็เป็นผู้ดำเนินเรื่องและบางตอนตัวละครก็จะเป็นผู้ดำเนินเรื่องซึ่งถัดจากที่พิมพ์ว่า บทที่ --- จะมีบอกว่าใครเป็นผู้ดำเนินเรื่องค่ะหนูได้พิมพ์ผิดค่ะ
ในเรื่องที่มีคดีเกี่ยวกับดาบจริงๆ แล้วต้องเป็นมีด เลยมีการเรียกสลับกันช่วงนี้ก็จะพยายามแก้ไขค่ะในเรื่องมีเพียง ๒ มิติค่ะ คือมิติที่สร้างใหม่และก็มิติที่ๆ เราอยู่ และเรื่องนี้เป็นแนวอิงประวัติศาสตร์ไทยแต่ไม่ใช่ว่าจะเหมือนจริงๆเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นอีกมิติที่สร้างใหม่แน่นอนว่าต้องมีสิ่งที่ลอกเลียนแบบมิติเดิมและเกิดขึ้นใหม่จนเป็นความแตกต่างและบางตำนานที่เล่าในเรื่องมีและ ไม่มีอยู่จริงค่ะอาจมีการกล่าวถึงบุคคลสำคัญในสมัยก่อนแต่หากกล่าวถึงแล้วทำให้ไม่พอใจบอกได้เลยนะคะ (เพราะบางทีนำมายกตัวอย่างแต่อาจจะกล่าวแรงอะไรงี้)
ในเรื่องจะมีตอน ๒ แบบ แบบที่ ๑ ชื่อเมื่อก่อน อดีต เพื่อนซึ่งจะเล่าเกี่ยวกับพวกของนางเอกเมื่อครั้นตอนอยู่มิติเดิมก่อนที่จะมาที่มิติใหม่ส่วนแบบที่ ๒ ชื่อ อดีต มิตรภาพ ความรักเป็นการเล่าเกี่ยวกับตัวละครที่มีตำแหน่งนายิกาในสมัยยังเด็กหรือจะก่อนเป็นเป็นนายิกาในเรื่องจะมีทั้งแนวชายรักหญิง และมีแนวรักเพศเดียวกันด้วยค่ะ
เหตุที่ไม่พิมพ์ชื่อเรื่องลงท้ายด้วย y เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ได้เน้นแนวรัก เผลอๆหากทำแบบนั้นแล้วผู้ที่ชอบอ่านแนว y อ่านเรื่องนี้แล้วไม่ค่อยประทับใจก็ต้องขออภัยด้วยค่ะทั้งนี้ หากผู้อ่านคิดว่าความสัมพันธ์ของตัวละครนั้นเกินจริงก็ต้องขออภัยอีกเช่นกัน (หากคิดว่าทำไมรักกันง่ายจัง)
เนื่องจากตัวละครส่วนใหญ่เคยเจอกันแล้วเลยไม่ได้อธิบายว่าทำไมคนนี้ถึงรักคนนี้ซึ่งผู้แต่งจะแต่งบางตอนเพื่อย้อนอดีตความผูกพันธ์ของตัวละครว่าทำไมจึงกลายเป็นความรักได้และตัวละครบางคนทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกันมก่อนแต่ทำไมถึงรักอีกฝ่ายซึ่งจะขออธิบายว่า
ในเรื่องตัวละครเคยมีความรู้สึกผูกพันธ์มาตั้งแต่ชาติก่อน)เรื่องนี้จะมีการใช้ตัวย่อเพื่อไม่ให้เป็นการเปิดความลับรวมทั้งไม่ได้อธิบายว่าตัวละครคนนี้คือใครเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะเฉลย (เพราะถ้าเฉลยเดี๋ยวความลับจะไม่มี)เลยอาจจะทำให้สับสนได้ทั้งนี้ผู้แต่งพยายามใบ้ให้ผู้อ่านสุดความสามารถแล้วหรือถ้าอยากให้ใบ้แบบไหนเพิ่มเติมบอกได้นะคะในภาคนี้เหตุการณ์ของเรื่องเกิดในปีพุทธศักราช ๒๕๕๘ (ปีหน้า คาดว่าคงจะแต่งจบในปีนี้แหละ)(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ)สุดท้ายนี้ ฝากผลงานแปลกๆ (?) ไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ