Where are you my Princess? (Yaoi)
เขียนโดย C_W_C
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) โลกคนละใบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
อ่านบทนำด้วยนะคะ^^
ร้านกาแฟเล็กๆที่มีบริการอาหารเช้าหน้ามหาลัย กำลังเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ต้องการหาอะไรมาใส่ท้องจนโต๊ะที่มีนั้นไม่พอ แต่ถึงยังไงโต๊ะหนึ่งในนั้นก็ถูกจับจองโดยชายหนุ่มร่างเล็กบาง ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักแต่กลับบูดบึ้ง ในแววตาสีเข้มมีแววหงุดหงิด มือเรียวขาวนั้นจับผมสีออกแดงๆจากการย้อมของตัวเองเล่นไปมาอย่างพยามจะหาอะไรทำ
“อ่า ขอโทษที่มาช้านะนิว” ซีเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเดินเข้าร้านกาแฟมาแล้วเห็นเพื่อผมแดงของตนกำลังอารมณ์ไม่ดี
“มึงมาช้ามาก! มัวทำอะไรอยู่เนี่ยหิวจะตายแล้ว” นิวหรือนายนพพิชญ์ วัชระอุดมพรหันไปบ่นเพื่อนทันทีก่อนจะส่งสัญญาณเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร ทั้งสองสั่งอาหารเช้าง่ายๆพร้อมกับกาแฟกันอีกคนละแก้ว
“พอดีต้องไปส่งพี่สาวก่อนน่ะ” ซีกล่าวทันทีหลังจากที่พนักงานเดินจากไป
“ยัยสองคนนั้นอีกแล้วหรอ มึงจะตามใจพวกนั้นไปถึงไหนกันห๊ะ!”นิวขึ้นเสียงตอบอย่างหงุดหงิด ทำเอาซียิ้มเจือน
“มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนี่น่า”
“ไม่ลำบากตรงไหน แล้วไงนี่ให้ขับรถมาส่งก็จะให้ไปรับด้วยสินะ คราวนี้กี่โมงละ”
“เที่ยงน่ะ” ซีตอบเสียงอ่อยหลบสายตาอย่างรู้ว่าต่อไปจะเจอกับอะไร
“เที่ยง! เนี่ยนะที่ไม่ลำบาก มึงมีเรียนบ่ายนะโว้ย ต้องขับรถไปรับยัยพวกนั้นไปส่งบ้านแล้วตัวมึงก็นั่งรถเมย์กลับมามหาลัยเนี่ยนะ ไม่ลำบากเลยยยยย บ้านก็ยังกะอยู่ใกล้” ท้ายประโยคนิวลากเสียงบอกอย่างประชดประชัน
ซีเถียงไม่ออกได้แต่ยิ้มรับไปแบบนั้น จังหวะเดียวกับที่พนักงานนำอาหารและเครื่องดื่มมาเสริฟ
“ไอนิสัยแบบนี้ของมึงนี่น้า กูละอ่อนใจ เมื่อไรมึงจะออกมาจากบ้านนั้นซักที”พูดจบมือก็เอาซ้อมจิ้มไส้กรอกเข้าปากเคี้ยวตุ๊ยๆอย่างดูน่ารัก
“เงินเก็บมันยังไม่พอละนะ ห้องเช่าแถวนี้ก็ไม่ใช่ถูกๆ ช่วงนี้ไหนจะค่าเรียนอีก”ซีได้แต่ยิ้มเศร้าๆเพราะถึงแม้เขาจะไม่ได้ถูกไล่ออกจากบ้านแต่เขาก็ไม่ได้อะไรเลยเช่นกัน ดังนั้นค่ากิน ค่าเล่าเรียนต่างๆเขาต้องหาใช้จ่ายเองทั้งหมด
“บอกให้ยืมก่อนก็ไม่เอา ทำงานพิเศษมากๆแถมเรียนด้วย แล้วต้องมานั่งตามใจยัยสองคนนั้นอีก มึงเป็นยอดมนุษย์หรือไง” นิวบ่นพึมพำอย่างไม่จริงจังพร้อมกับมือทั้งสองที่กำลังหันไข่ดาว ส่งให้คนฟังเผยยิ้มบาง
“ช่างเถอะแล้วที่ว่ามีเรื่องจะคุยนี่อะไรละ”
“อ้อ เรื่องงานเลี้ยงของมหาลัยที่จะถึงเนี่ยแหละ เชฟที่จะมาทำอาหารในงานเลี้ยงเป็นคนรู้จักของพ่อกู แล้วเห็นว่าเขาต้องการหาคนทำของหวานเพิ่มเลยเอาขนมที่มึงทำไปให้เขาชิมน่ะ เขาชอบมากเลยนะ เลยสนใจจะให้มึงไปช่วยงาน เงินดีนะ ทำมั้ย?”
ซีไม่แปลกใจที่นิวหางานมาให้ ด้วยที่เขาไม่ยอมยืมเงินเจ้าตัวถึงมักช่วยเขาแบบนี้ประจำ บ้านนิวนั้นค่อนข้างมีฐานะพอสมควรแถมยังกว้างขวาง นิวเองก็เป็นเด็กกิจกรรมรู้จักคนเยอะ ถึงได้หางานดีๆเงินงามๆมาให้เขาได้เสมอๆ
“อืม ทำสิ ขอบใจนะนิวที่ช่วยหางานให้ ยังไงวันนั้นก็ว่างอยู่แล้วดีกว่าเดินไปเดินมาในงานเลี้ยงเฉยๆละนะ”ยังไงซะงานเลี้ยงของมหาลัยก็จัดขึ้นสำหรับน้องๆปี1เพื่อเป็นการต้อนรับและเหมือนการปล่อยให้ตายใจก่อนที่ไปเผชิญกับการรับน้องสุดโหดของพวกรุ่นพี่ ถึงจะเป็นกิจกรรมบังคับของเหล่าปีหนึ่งแต่พวกปีอื่นๆจะมาหรือไม่มาก็ได้ มันก็เหมือนเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของพี่ๆน้องๆในมหาวิทยาลัย
“แหม พูดอย่างงี้เหมือนดูถูกกันเลยน้า งานนี้คนอย่างกูเป็นแม่งานเรื่องอะไรจะปล่อยให้มันน่าเบื่อแบบนั้น หึๆ”คนตัวเล็กพรายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เต็มหน้า ดวงตากลมโตฉายแววซุกซนอย่างเต็มเปี่ยม ทุกปีแม่งานจะเวียนไปตามแต่ละคณะซึ่งปีนี้เป็นตาคณะของเขา
“คิดจะทำอะไร?”
“อีกงานที่อยากจะให้มึงทำไง รับรองกูให้ค่าจ้างอย่างงามแน่”
“อีกงาน?”
เมื่อรับฟังเนื้อหาของ‘อีกงาน’ที่เพื่อนเล่าให้ฟังสร็จ กาแฟที่กำลังดื่มอยู่ก็แทบพุ่มออกจากปาก
“จะให้กูไปทำอะไรแบบนั้น! แต่ว่า..คือทำไมคิดทำอะไรแบบนี้กันเนี่ย”
“น้าซีน้า ตอนแรกก็กะเสนอเล่นๆแต่คนอื่นเขาเห็นดีเห็นงามด้วยอ่า ก็แค่หนุกๆ นิวไม่รู้จะไปพึ่งใครก็มีแต่ซีนี่หละที่พอจะทำได้ นิวรับรองนะจะให้ค่าจ้างซีอย่างงามเลยน้า”นิวส่งเสียงหวานพร้อมกับสายตาออดอ้อที่ทำให้ใครๆที่เห็นเป็นต้องละลายไปกองกับพื้น
“อ่า คือ แต่….ก็ได้” ซีอึกอักอยู่พักใหญ่ แต่พอกันไปสบกับสายตาแบบลูกหมาของเพื่อนสนิทแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะยิ้มแล้วตอบรับไป
พอได้ฟังคำตอบที่พอใจนิวก็แอบลอบยิ้มจ้าเล่ห์ผิดกับภาพลักษ์ก่อนหน้านี้ลิบลับ เขารู้ถึงไม่ต้องใช้ท่าทางแบบนั้นซีก็ไม่มีทางปฎิเสธเขาแน่นอน ให้มันรู้ว่าใครกันที่เป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่มอต้น เรื่องนิสัยน่ะเขารู้ดีที่สุดแล้วว่าคนอย่างฉันทกรน่ะปฎิเสธใครไม่เป็นหรอก! และเพราะใจดีอย่างงี้ ขี้ใจอ่อนแบบนี้ เขาถึงได้ต้องคอยเป็นห่วงมัน
“อ่าซีใจดีที่สุดเลย งั้นเดี๋ยวมื้อนี้เราลี้ยงเอง ขอบใจที่ซีจะช่วยงานเรานะ”ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มหวาน แล้วหันไปเรียกพนักงานอย่างร่าเริง ซึ่งซีได้แต่ยิ้มเจือนๆตอบ
“ขอบใจนะ”
“เล็กน้อยน่า ไปกันเถอะเดี๋ยวกูไปส่งที่คณะ อย่างมึงคงทิ้งรถไว้ที่คณะยัยสองคนนั้นละสิ”นิวพูดพร้อมลุกขึ้นยืนนำ
เพื่อนเขาคนนี้รู้ทันเขาเสมอ และคอยให้ความช่วยเหลือเขาอยู่ตลอด ต้องถือว่าเขายังโชคดีอยู่ที่ได้เป็นเพื่อนกับนิว พวกเขารู้จักกันตั้งแต่ม.ต้น ม.ปลายก็ยังสอบเข้าที่เดียวกัน มหาลัยก็ยังตามกันมา ด้วยนิสัยที่เข้ากันได้ดีหรือว่าคบกันมานานหรืออย่างไร ถึงแม้ตอนนี้จะเรียนกันอยู่คนละคณะก็ยังคงสนิทกันอยู่ ซียิ้มรับอย่างขอบคุณ แล้วลุกขึ้นตาม แต่ในจังหวะนั้นเองเสียงภายในร้านก็เอะอะขึ้นกว่าเดิม
“นี่ๆดูนั้นสิ”
“อ๊ายยยยหล่อจัง”
“พี่ดันเต้ละๆๆ แกกกกก”
สายตาหลายคู่โดยเฉพาะสาวๆทั้งสาวแท้สาวเทียมต่างพุ่มความสนใจไปที่หน้าร้านกาแฟเรียกให้ซีต้องหันไปมองตาม และสิ่งที่ปรากฎแกสายตาคือชายหนุ่มผิวขาวผ่อง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนสะท้อนแดดน่าสัมผัสที่ผ่านการเซทมาอย่างดีส่งให้ใบหน้าคมเข้มอย่างคนเป็นลูกครึ่งดูน่าหลงไหล จมูกโด่งคมสัน ดวงตาสะท้อนแดดเป็นสีน้ำตาลอ่อนดูส่องประกายแลดุดันและแฝงไปด้วยอำนาจที่ยากจะเข้าถึง ร่างสูงโปร่งกำยำอย่างคนออกกำลังกาย กำลังเดินเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงตรงมาทางเข้าร้าน
ซีละสายตาจากภาพนั้นแล้วหันไปพยักหน้ากับนิวให้เป็นสัญญาณว่าพร้อมจะไปกันแล้ว เขาไม่แปลกใจกับเหตุการที่เกิดขึ้น ต้องเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่เจอจนชินอยู่พอสมควรเพราะผู้ชายที่กำลังจะเดินเข้าร้านมานั้นคือรุ่นพี่ดันเต้หรือนายอติวิชญ์ เกวนโดลิน คนดังของมหาวิทยาลัย
รุ่นพี่ดันเต้เรียนอยู่ปี4คณะบริหารธุรกิจ ด้วยความเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษหน้าตาหล่อเหลา ความสามารถทางกีฬาและผลการเรียนที่น่าทึ่ง อีกทั้งนิสัยความเป็นสุภาพบุรุษที่สาวๆต่างกล่าวถึง ยังไม่นับรวมฐานะทางบ้าน และหน้าตาทางสังคม ต้องเรียกได้ว่าความเพอร์เฟ็กทั้งหลายต่างรวมกันอยู่ในผู้ชายคนนี้ หล่อ รวย การเรียนดีกีฬาเด่นแถมใจดีเป็นสุภาพบุรุษ ไม่แปลกเลยที่จะเป็นที่กล่าวถึงของคนในและนอกมหาลัย ทั้งยังเป็นที่หมายปองของสาวๆทั้งหลาย
แต่สำหรับเขาที่เป็นผู้ชายแล้วก็คงจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากนับถือในความสามารถและแอบอิจฉาในความโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม..
ซีเดินตามหลังนิวตรงไปที่ทางออกของร้าน สายตาก็เห็นร่างสูงใหญ่เดินผ่านประตูร้านเข้ามาและทำท่ามุ่งตรงไปที่เคาร์เตอร์เพื่อสั่งกาแฟหรืออะไรซักอย่าง ต้องยอมรับเลยว่าชายคนนี้ช่างน่าดึงดูดไม่น้อย นิวเดินผ่านรุ่นพี่ไปแล้ว ซึ่งซีก็เดินตามไปติดๆ
ให้เทียบกันแล้ว….
ซีมองใบหน้าหล่อเหลานั้นอยูอีกครู่หนึ่ง ก่อนที่จะละสายตาแล้วเดินสวนผ่านร่างที่สูงกว่าเขานั้นออกจากร้านไป
เราต่างอยู่กันคนละโลก…
หลังเลิกเรียนร่างผอมโปร่งของซีเดินตรงไปที่ห้องชมรมคหกรรม ตัวเขานั้นถึงแม้จะเรียนและทำงานพิเศษจนแทบไม่มีเวลาแต่ก็เข้าชมรมเพราะมันเป็นที่เดียวที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายที่สุดที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก เขาอยากเป็นปาติชิเย่อยากเปิดร้านขนมหวานเป็นของตัวเอง แม้มันดูจะเป็นความฝันลมๆแร้งๆก็ตาม แล้วประธานชมรมก็ใจดี เข้าใจเขาและไม่ว่าอะไรที่เขาไม่ค่อยได้เข้าชมรม
“สวัสดีครับพี่รักษ์”เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับชายหนุ่มตัวสูงผิวสีเข้ม ใบหน้าคมคายอย่างเป็นเอกลักษ์ เส้นผมสีดำสนิทที่ซอยยาวระคอนั้นถูกมัดรวบไว้เป็นหางเล็กๆ ซีจึงส่งยิ้มเอ่ยทักประธานชมรมทันที
คนถูกทักเพียงหันใบหน้าเรียบเฉยมามองแล้วพยักหน้าตอบเล็กน้อย จากนั้นก็หันกลับไปสนใจอ่างส่วนผสมในมือต่อ ที่เขาบอกว่าพี่เขาใจดีนั้นไม่ผิด ถึงเขาจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ทางสีหน้า แต่ก็เป็นคนที่อ่อนโยนและเข้าใจเรื่องเขาดี แถมยังคอยช่วยเหลือเขาในหลายๆเรื่องเพราะถือได้ว่าเขาเป็นรุ่นพี่ที่คณะอีกด้วย
ซีทักทายพี่คนอื่นๆและเพื่อนร่วมชมรมก่อนจะเดินไปที่ล๊อกเกอร์ของตัวเองที่วางเรียงอยู่ที่ผนังห้องด้านหนึ่งแล้วควักกุญแจออกมาไข หยิบส่วนผสมทำขนมที่ต้องการออกมาก่อนจะไขปิดกลับไปเหมือนเดิม ร่างโปร่งหอบเอาของมาวางไว้ที่โต๊ะใกล้ๆ จากนั้นจึงเดินไปหยิบอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องการใช้ที่ถูกวางและแขวนเก็บไว้ในที่ต่างๆของห้อง ทุกการกระทำของเจ้าตัวจะมีรอยยิ้มระบายอยู่บนริมฝีปากอยู่ตลอดเวลาอย่างเป็นสุข
“ซี วันนี้ไม่ต้องไปทำงานอ้อ”ทอฝันหนึ่งในเพื่อนกลุ่มเดียวกันในคณะเดินเขามาทักซีขณะที่เขากำลังตวงส่วนผสมกับตาชั่ง เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กเตี้ย ท่าทางร่างเริงเป็นมิตรและเข้ากับคนง่าย
“ยังไม่ถึงเวลาเข้างานน่ะ พอมีเวลาอยู่เลยอยากทำขนมซักหน่อย”ซีตอบยิ้มๆทั้งที่สายตายังไม่ละไปจากสิ่งที่ทำ
“ซีนี่ชอบทำขนมจริงๆเลยน้า คราวนี้ทำไรอะ” หญิงสาวชะโงกมาดูส่วนผสมอย่างสงสัย
“มูสช๊อคโกแลตน่ะ ทำเสร็จแล้วจะเอาให้ลองชิมนะ”
“ว้าว รับปากแล้วนะ ต้องให้เรากินด้วย ของซีน่ะไม่ต้องชิมก็รู้ว่าอร่อยอยู่แล้ว” สาวเจ้ายิ้มแก้มแทบปริอย่างดีใจพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้อย่างยกยอ ส่งให้ซีเผยยิ้มยินดี สิ่งนี่ละที่เขาต้องการ มันเป็นความสุขเล็กๆที่มีคนชื้นชมในสิ่งที่ตัวเองทำ
ซีกำลังเก็บกวาดข้าวของหลังจากทำขนมและนำไปแบ่งให้เพื่อนๆพี่ๆในชมรมชิมเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มเหลือบดูนาฬิกาภายในห้องชมรมแล้วเห็นว่าได้เวลา จึงเดินนำของไปเก็บที่ตู้ลอกเกอร์แล้วคว้ากระเป๋า เอ่ยลาคนในชมรมแล้วตรงไปที่ทำงานทันที
ซีทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารตามสั่งไม่ใกล้จากมหาลัยนัก ช่วงนี้เป็นเวลาราวๆ5โมงเย็นซึ่งเป็นช่วงที่ผู้คนต่างเข้ามากินอาหารเย็น คนเข้าร้านจึงมากทีเดียว ร่างผอมเดินรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารอย่างคล่องแคล่วด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นปกติเหมือนที่เคยทำ ยุ่งมากจนไม่มีเวลาสนใจอะไร
แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ชายหนุ่มสังเกตตัวเองมาซักพักแล้วว่าในวันๆหนึ่งนั้น อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งเขาจะต้องเจอคนๆนั้น ถ้าวันนี้ก็..ครั้งที่2แล้ว
รุ่นพี่ดันเต้
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขามักจะเจอรุ่นพี่คนนี้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเห็นตอนเดินผ่าน เดินสวนกัน หรืออย่างที่เขามาเป็นลูกค้าแบบในวันนี้
“ของที่สั่งได้แล้วครับ”ซีเดินไปเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะของหนุ่มลูกครึ่งที่มาด้วยกันกับเพื่อนสามสี่คน ซึ่งดันเต้นั้นเพียงหันมารับจานอาหารแล้วหันกลับไปคุยต่ออย่างไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ
จะด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ไม่อาจรู้แต่ก็อย่างที่เคยเป็น เราเป็นแค่เพียงคนเดินผ่าน ที่ไม่รู้จักกัน ถึงจะเจอบ่อยแต่ก็มีแต่เขาที่สังเกตเพราะพี่เขาเล่นเด่นซะขนาดนั้น แต่ก็เพราะแบบนั้นอาจมีอีกหลายๆคนที่เขาได้เจอบ่อยกว่าพี่ดันเต้แต่เขาไม่ทันสังเกต ดังนั้นเขาถึงเห็นว่ามันไม่ได้มีอะไรพิเศษ
หลังเลิกงานตอนสองทุ่ม ซีก็ไปต่ออีกงานที่บาร์แห่งหนึ่ง ชื่อNight sky ร้านนี้เป็นหนึ่งในงานที่นิวช่วยหามาให้เพราะเขาไปบอกว่าจะหางานช่วงกลางคืนทำ ยังไงซะที่บ้านก็ไม่ห่วงว่าเขาจะกลับหรือไม่กลับบ้านอยู่แล้ว
ร้านนี้เป็นของญาตินิว เป็นบาร์เหล้าสไตร์สบายๆ ที่มีนั่งอยู่หน้าเคาร์เตอร์ และฝั่งตรงข้ามมีเวทีเล็กๆสำหรับวงดนตรีแสดงสด ตรงหน้าเวทีมีพื้นที่สำหรับเต้นรำ มีโต๊ะจัดเป็นชุดกระจายอยู่รอบๆฟรอ ภายในร้านเปิดแสงไฟออกสลัวๆ และมีดนตรีเบาๆขับกล่อม ซีนั้นมาทำงานเป็นผู้ช่วยบาเทนเดอร์ คอยบริการอยู่หลังเคาร์เตอร์และช่วยผสมเหล้าง่ายๆที่ลุงบาเทนเดอร์ช่วยสอน
ลุงบาร์เทนเดอร์คือคนที่บอกว่าเป็นญาติของนิว เขาเป็นชายวัยกลางงคนตัวผอม ที่ผมเริ่มหงอกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็มีริ้วรอยความใจดีอยู่เต็มใบหน้า หลังจากที่ซีมาทำงานที่นี่ก็ได้รับความเอ็นดูจากชายคนนี้ไม่น้อย
ร้านนี้ค่อนข้างมีระดับอยู่บ้าง และเป็นสถานที่ที่ให้คนมานั่งดื่มคุยกันแบบชิวๆ จึงไม่ค่อยเห็นนักศึกษามากนักเพราะส่วนใหญ่ก็จะไปเข้าผับกันซะมากกว่าแต่ถึงอย่างนั้น…
ดวงตาสีเข้มหลังแว่นกรอบบางเหลือบไปมองที่โต๊ะตัวหนึ่งภายในร้านแวบหนึ่งก่อนจะหันมาสนใจงานในมือต่อพรางคิดในใจ
ครั้งที่3…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ