RED STONE WAR

9.0

เขียนโดย nemon

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.

  86 ตอน
  9 วิจารณ์
  74.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

50) การแข่งขัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ห้าวันต่อมา

 

               สายลมพัดผ่านกระทบทั่วทั้งตัว ไปจนสุดแนวปีก ขนสีน้ำตาลอ่อนพริ้วไหวไปมาตามแรงของลมที่เข้ามาปะทะ เจ้านกกระจอกตัวน้อยบินโฉบลงมาเกาะบริเวณริมระเบียงสีอิฐ มันขยับหัวไปมาคล้ายกับว่ามันกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าใจว่าอะไรอยู่ภายในห้องเจ้านกกระจอกตัวน้อยก็สยายปีกสีน้ำตาลของมันบินจากไป ในเวลาไม่นานนักก็มีนกกระจอกตัวสีน้ำตาลอีกตัวหนึ่งซึ่งดูคล้ายกับเจ้าตัวแรกได้บินลงมาเกาะที่บริเวณเดียวกัน แต่ทันทีที่เจ้านกน้อยตัวนั้นได้ใช้เท้าของมันเกาะบริเวณขอบระเบียงห้อง ก็ปรากฎร่างเงาสีดำขนาดใหญ่กว่าตัวของมันมากนัก บินโฉบลงมาจู่โจมเจ้านกกระจอกตัวน้อยทันที เจ้านกน้อยที่กำลังสับสนและไม่ทันที่จะตั้งตัวจึงถูกเจ้านกพิราบที่ขนาดตัวใหญ่กว่ามันมากจิกเข้าที่กลางลำตัวอย่างจังหนึ่งครั้ง

 

                เจ้านกกระจอกตัวน้อยด้วยความตกใจ จึงรีบบินหนีในตอนนั้นเองซึ่งมันกำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันจึงตัดสินใจบินหลบหนีและเพื่อความปลอดภัย จากเจ้านกพิราบตัวโตที่มีขนหน้าอกสีเขียวสลับสีขาวมันบินหนีเข้าไปในห้องที่อยู่เบื้องหน้าของมัน มันบินวนไปรอบห้อง โดยมีเจ้านกพิราบอันธพาลไล่จิกอย่างไม่ลดละ เจ้านกกระจอกตัวน้อยบินโฉบเฉี่ยวไปมาและพยายามที่จะสลัดเจ้านกพิราบที่ไล่ตามมันให้หลุดไป ในตอนที่มันบินไปมาอยู่นั้นมีบางจังหวะที่ปีกของมันเกือบจะถูกใบพัดของพัดลมเพดานที่เปิดอยู่ภายในห้องเฉือนเอาแต่ใบพัดก็แค่เฉียดไปเท่านั้น มันบินลงมาเกาะบริเวณขอบเตียงไม้อยู่ครู่หนึ่ง มันสังเกตเห็นร่างของมนุษย์คนหนึ่งนอนนิ่งอยู่ และเมื่อมนุษย์คนดังกล่าวเริ่มจะขยับตัวเจ้านกกระจอกตัวน้อยจึงรีบกระพรือบินขึ้นแล้วบินออกจากห้องไปทันที ตามด้วยเสียงการกระพือปีกขนาดใหญ่ของเจ้านกพิราบที่บินไล่ตามไปติดติด การกระพือปีกของมันครั้งนั้นเสียงของมันทำให้จัมพ์ที่นอนหลับอยู่ภายในห้องสะดุ้งและลืมตาตื่นขึ้น

 

              จัมพ์ค่อยค่อย  ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าช้า กวาดสายตามองรอบรอบห้องก็ไม่เห็นมีสิ่งมีชีวิตใดอยู่เลย เค้าจึงค่อยค่อยพยุงตัวเองลุกขึ้นมาจากเตียง และเดินไปที่ประตูห้องน้ำทั้งที่ยังหลับตาอยู่

“โครมมม”

               เสียงของใบหน้าของจัมพ์ที่เดินหลับตาด้วยความสะลึมสะลือ ชนเข้ากับประตูห้องน้ำอย่างจังจนจัมพ์ต้องลงไปนั่งจั้มเบ้าอยู่กับพื้น

“โอ้ย เล่นซะเห็นดาวเลยเชียว”จัมพ์พูดกับตัวเองพร้อมกับเอามือลูบหัวตัวเองไปมา

“นี่ไคลงไปข้างล่างแล้วหรือนี่ ตื่นเช้าจังไอ้หมอนี่”พอเค้าพูดจบหลังจากที่เค้ากวาดสายตามองไปรอบรอบห้องจัมพ์เริ่มตั้งสติแล้วก็รีบลุกขึ้นเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวทันที ไม่นานนักจัมพ์ก็รีบแต่งตัวแล้วก็ออกจากห้องไป เค้ารีบวิ่งไปตามทางเดินลงโดยวิ่งลงทางบันไดเพื่อจะลงไปที่ชั้นหนึ่งของอาคาร

 

 

                 เมื่อถึงหน้าประตูบานใหญ่สีน้ำตาล หน้าห้องซ่อมแซมหนังสือของลุงเคน จัมพ์ก็รีบพลักประตูเข้าไปด้านในทันที ภาพที่เค้าเห็นเมื่อประตูเปิดออกนั้นก็คือภาพเดิมเดิม ที่จัมพ์เคยเห็นอยู่ทั้งสี่วันที่ผ่านมา นั่นก็คือทางด้านซ้ายมือของเขาก็จะเห็นหญิงสาวฮันนี่นอนเอกเขนก อยู่บนโซฟาสีเขียวข้างชั้น หนังสือ ที่วางกองเรียงรายเต็มไปหมด และ หากมองถัดไปจากโซฟาตัวดังกล่าวก็จะเป็นโต๊ะทำงานขนาดไม่ใหญ่มากซึ่งมีหนังสือกองโตวางท่วมหัว ซึ่งโต๊ะดังกล่าวเป็นโต๊ะที่ไคใช้ซ่อมแซมหนังสือ ซึ่งจัมพ์มองดูไคแล้วไม่เข้าใจว่า การซ่อมแซมหนังสือพวกนี้มันจะสนุกอะไรกันนักหนา เพราะเค้าเห็นว่าไคนั้นตื่นมาแต่เช้าทุกวัน เพื่อที่จะมาซ่อมแซมหนังสือ และในแต่ละวันดูไคมีความสุขเสียเหลือเกินเวลาที่ได้อ่านหนังสือที่ตัวเค้าเองได้ซ่อมมัน

                   และถัดไปตรงโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่มีโคมไฟเปลือกหอยสีทองตั้งอยู่ และมีชายแก่หนวดเคราสีขาว นอนหลับเอนหลังกับเบาะนั่งแล้วเหยียดขาทั้งสองข้างพาดกับโต๊ะ นอนหลับกรนเสียงดังตาลุงคนนั้นก็คือ ลุงเคนนั่นเอง

“ตื่นแล้วเหรอ คุณชายสายเสมอ”เสียงของหญิงสาวฮันนี่พูดขึ้นทักทายเป็นคนแรกเมื่อเห็นจัมพ์เดินเข้ามา เธอเอ่ยขึ้นในขณะที่ยังนั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดของเธออยู่ แต่จัมพ์ก็ได้แต่มองโดยไม่พูดอะไร เค้าเดินตรงไปทางที่ไคนั่งอยู่ทันที แต่ก่อนที่จัมพ์จะเดินไปถึงที่โต๊ะที่ไคนั่งอยู่ เจ้าโจเซฟตัวน้อยก็วิ่งสวนทางออกมา มันกระดิกหางไปมาแล้วก็กระโจนใส่จัมพ์เหมือนกับว่ามันดีใจที่เห็นจัมพ์เดินมาหา

จัมพ์จึงอุ้มเจ้าโจเซฟขึ้นมา โจเซฟก็กระดิกหางด้วยความดีใจพร้อมกับเลียตามใบหน้าของเขา

“ไค แล้วแปปซีละไม่อยู่เหรอ”จัมพ์เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปทางไค

“คุณแปปซี ไปหาซื้ออาหารให้พวกเราครับ เดี๋ยวก็คงกลับมา”ไคเอ่ย

“ถามหาแปปซีทำไมเหรอ หิวแล้วรึไง”เสียงของสาวน้อยฮันนี่พูดแทรกขึ้นมา แต่จัมพ์ก็ได้แต่เหลือบมองเล็กน้อย โดยไม่พูดอะไรเลยทำเอาสาวน้อยฮันนี่รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เธอจึงปิดหนังสือเล่มโปรดของเธอและลุกจากโซฟาตัวสีเขียว เดินตรงดิ่งมาหาจัมพ์

“อะไรกันจัมพ์ นี่ยังไม่หายโกรธฉันอีกเหรอ ผู้ชายอะไรขี้งอนจัง”ฮันนี่กล่าว

“โกรธ เกิด อะไรไม่เห็นรู้สึกอะไรซักหน่อยก็แค่ขี้เกียจเสวนากับพวกผู้หญิงที่เอาแต่ใจ”จัมพ์กล่าว

“ใคร นายหมายถึงใครที่เอาแต่ใจน่ะ ใครกันแน่ที่เอาแต่ใจว่าแต่คนอื่นลองมองดูตัวเองบ้างเถอะ เชอะ”หญิงสาวฮันนี่กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

“เอาน่า ใจเย็นก่อนทั้งคู่เรื่องแค่เล็กน้อยเองไม่เห็นต้องมาโกรธกันเลย ใจเย็นเย็นก่อนนะครับ”ไคพยายามห้ามคนทั้งสอง

“คนที่ชอบหาเรื่องทะเลาะกัน เห็นลงท้ายก็รักกันระวังนะ ทั้งสองเกิดปิ๊งปั๊งกันขึ้นมาละก็ ฮ่า ฮ่า”เสียงของแปปซีตะโกนขึ้นเมื่อเค้ากลับมาถึงพร้อมกับถุงใส่อาหารจำนวนหลายใบที่ถืออยู่ทั้งสองมือ

“รักกันเหรอไอ้หมอนี่เนี๊ยะนะ ฝันไปเถอะเชอะ ถึงแม้ผู้ชายบนโลกนี้จะเหลือแค่นายนี่คนเดียวถ้าเป็นจริงฉันยอมขออยู่เป็นโสดยังดีเสียกว่า”ฮันนี่กล่าวสวนกลับทันทีที่ได้ยินเสียงแปปซีตะโกนมา พอเธอพูดจบก็สะบัดผมเดินกลับไปนั่งที่โซฟาสีเขียวพร้อมกับกางหนังสือเล่นโปรดของเธออ่านต่อโดยไม่สนใจใครเลย

“ลุงเคนครับ ลุงเคนครับ”เสียงแปปซีร้องเรียกหาชายหนวดเคราสีขาวที่นอนหลับอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเอง ลุงเคนเองเมื่อได้ยินเสียงเรียกของแปปซี ก็ ค่อย ค่อย ลืมตาขึ้น

“แปปซี เรียกข้าพเจ้างั้นรึ”ลุงเคนกล่าว

“ใช่แล้วล่ะลุง เรื่องการแข่งขันประจำปีเริ่มพรุ่งนี้แล้วนะลุงตึกเรายังไม่ได้คนที่จะเข้าแข่งขันเลย”แปปซีกล่าว

“การแข่งขันประจำปีนะเหรอ โฮะ โฮะ ลืมไปเลยนะนี่ถึงเวลาแล้วเหรอ แล้วจะเอาใครไปลงแข่งดีล่ะ”ลุงเคนเอ่ยขึ้นพร้อมกับนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลุงเคนจึงหันไปมองทางไคและจัมพ์ที่กำลังค้นถุง ต่าง ต่าง ที่แปปซีถือมา แปปซีเองก็มองไปในทิศทางเดียวกันกับลุงเคนแล้วก็เข้าใจความคิดของลุงเคนทันที

“ไม่จริงใช่มั้ยลุง คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดนะ”แปปซีกล่าว

“โฮะ โฮะ “ลุงเคนหัวเราะเบาเบาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งมองจัมพ์และไคที่กำลังแบ่งปันอาหารที่แปปซีซื้อมาให้กับทุกคน

                 หลังจากที่ทุกคนอิ่มหนำสำราญกันแล้ว ทุกคนก็กลับเข้าประจำมุมโปรดของตน แปปซีไปนั่งเล่นโยนลูกบอลกับโจเซฟบริเวณพื้นที่ปูด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง ฮันนี่ก็กลับไปอ่านหนังสือของเธอต่อ ส่วนไคก็ขะมักเขม้นกับการซ่อมหนังสือเล่มโต จัมพ์สังเกตเห็นว่าไคนั่งอ่านไปพลางและซ่อมหนังสือไปพลางอยู่สองวันแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับนักสืบอะไรซักอย่าง ส่งสัยไคจะอยากเป็นนักสืบเห็น ถูกอกถูกใจกับหนังสือเล่มนั้นมากทีเดียว ตัวเค้าเองรู้สึกเบื่อหน่ายกับบรรยากาศแบบเดิมเดิมอย่างนี้เสียจริง เค้าจึงเดินไปหาลุงเคนที่กำลังค้นหาหนังสืออะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา

 

                เมื่อจัมพ์เดินไปถึงโต๊ะทำงานของลุงเคน เค้าก็เอามือทั้งสองข้างวางลงบนโต๊ะโดยลงน้ำหนักเล็กน้อยจนเกิดเสียงดังพอที่จะทำให้ลุงเคนหันมาสนใจเค้า

“มีอะไรรึจัมพ์”ลุงเคนกล่าว พร้อมกับส่งยิ้มให้เค้า

“ข้าเบื่อมากเลยลุง เมื่อไหร่ข้าจะออกไปข้างนอกได้ นี่มันก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้วนะ ทำไมมีแต่ข้ากับไคเท่านั้นถึงถูกกักบริเวณอยู่อย่างนี้ล่ะ”จัมพ์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

“โฮะ โฮะ เจ้าเบื่ออย่างนั้นรึ แล้วเจ้าอยากจะทำอะไรล่ะ ถ้าออกไปนอกอาคารแล้ว”ลุงเคนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าก็ไม่รู้หรอก แต่ข้าเป็นคนหนุ่มที่มีพลังงานเหลือใช้ ข้าอยากออกกำลังบ้าง ไม่ใช่มานั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องหนังสือแบบนี้”จัมพ์กล่าว

“โฮะ โฮะ แล้วเจ้าจะให้ข้าพเจ้าทำอย่างไรดีล่ะ”ลุงเคนกล่าว

“ลุงก็อนุญาตให้ข้ากับไคได้ออกไปข้างนอกได้แล้ว นี่ก็ตั้งหลายวันแล้วน่าจะพอใจได้แล้วนะ”จัมพ์กล่าวด้วยน้ำเสียงห้วน ห้วน

“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก การที่พวกเจ้าถูกกักบริเวณอยู่นี้เป็นเพราะคำสั่งของหัวหน้าหลุยส์ ถ้าพวกเจ้าจะออกไปภายนอกตัวอาคารได้ ก็ต้องมีหนังสือยืนยันจากหัวหน้าหลุยส์เสียก่อน”ลุงเคนกล่าว พร้อมกับส่งยิ้มให้จัมพ์เล็กน้อย

“โอ้ย แบบนี้ข้าทนไม่ไหวหรอกนะ ข้าจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้ล่ะ ข้าไม่สนใจคำสั่งหัวหน้าหลุยส์อะไรนั่นหรอก ข้าจะออกไป ข้าจะออกไป”จัมพ์พูดขึ้นเสียงดังจนทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องต้องหันมามอง

“โฮะ โฮะ ใจเย็นเย็นวัยรุ่นเอาอย่างนี้ดีมั้ย วันพรุ่งนี้จะมีการแข่งขันประจำปี เป็นการแข่งขันของผู้ที่มีพลังพิเศษเท่านั้น ข้าพเจ้าจะส่งพวกเจ้าเข้าแข่งขันพวกเจ้าจะได้ออกไปภายนอกตัวอาคารได้โดยที่ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎของหัวหน้าหลุยส์ด้วยเจ้าว่าดีมั้ยล่ะ”ลุงเคนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรียบ อีกครั้ง

“แข่งขันอะไรบ้างล่ะ ไอ้การแข่งขันของผู้พลังพิเศษเนี๊ยะ แล้วไคจะลงแข่งด้วยได้มั้ย”จัมพ์สวนขึ้น พร้อมกับหันไปมองทางไค ที่กำลังจดจ่ออยู่กับการซ่อมแซมหนังสือ

“แข่งได้สิ เพราะไคเองก็ถือได้ว่าเป็นผู้มีพลังพิเศษเหมือนกัน”ลุงเคนกล่าว

“แล้วเค้าแข่งอะไรกันบ้างล่ะลุง”จัมพ์ถามต่อ ด้วยน้ำเสียงปรกติโดยไม่ได้ใช้อารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนก่อนหน้านี้

               ลุงเคนนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เอื้อมมือไปดึงลิ้นชักชั้นล่างสุดของโต๊ะทำงานของเขา ลุงเคนหยิบกระดาษ เล็กเล็กขึ้นมาหนึ่งแผ่นแล้วส่งให้จัมพ์อ่านดู ถึงตารางการแข่งขันประจำปี จัมพ์อ่านข้อความที่เขียนอยู่บนกระดาษแผ่นนั้นจนจบ แล้วก็วางลงบนโต๊ะ

“นี่มันอะไรกันลุง แข่งขันอะไรกัน มีการแข่งขันวิ่งมาราธอน แข่งทำอาหารด้วยแบบนี้ข้าไม่เอาด้วยหรอกนะ”จัมพ์กล่าว

“โฮะ โฮะ เจ้าลองอ่านดูดีดีก่อนสิจัมพ์ นี่เป็นการแข่งขันประจำที่จัดขึ้นทุกปี ของทางหน่วยCTSOนะ การแข่งขันนี้เพื่อทดสอบการทำงานเป็นทีมยังไงล่ะ โดยแต่ละอาคารจะส่งตัวแทนลงทีมละห้าคน โดยจะมีการแบ่งประเภทการแข่งขันออกไปสามชนิดด้วยกัน อย่างแรกก็คือวิ่งมาราธอน จะต้องใช้นักวิ่งถึงห้าคนต่อทีมแต่เอาผู้ที่เข้าที่หนึ่งเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเพื่อที่จะให้ทีมชนะจะต้องร่วมมือร่วมใจกันต้องทำงานกันเป็นทีม ถึงจะชนะได้ การแข่งอย่างที่สองคือการทำอาหารโดยใช้ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดห้าคน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา