RED STONE WAR
เขียนโดย nemon
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.
แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
47) เนียโอกอยส์ 4
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกลายเป็นผลึกแดง หรือแม้แต่การลักพาตัวนำไปกักขังเอาไว้เพื่อรอที่จะแย่งชิงพลังที่ตนอยากจะครอบครอง ทางเหล่าผู้มีพลังจึงต้องมีการสร้างองค์กรขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเอง หน่วยงานต่างต่างถูกสร้างขึ้นจากทุกมุมโลก หน่วยงานที่คอยคุ้มครองเหล่าผู้มีพลังยังไงล่ะ และ หน่วยงานแรกที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาก็คือหน่วยCTSOของเราเป็นที่แรกโดยคนสี่คน”ลุงเคนกล่าว
“ทำไมถึงเป็นที่เมืองไทยที่แรกด้วยล่ะ”จัมพ์พูดแทรกขึ้นมาหลังจากฟังอยู่นาน
“อันนี่ข้าพเจ้าไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ข้าพเจ้าเคยอ่านเจอในบันทึกเล่มหนึ่ง บันทึกเล่นสีแดงเล่มนั้นข้าพเจ้าจำได้ดี ซึ่งผู้ที่เขียนหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาก็คือหนึ่งในสี่ของผู้ก่อตั้งหน่วยCTSOขึ้นมา เขาเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ประเทศไทยน่าจะเป็นจุดแรกเริ่มในการกำเนิดพลังอักขระ ซึ่งในเมืองไทยเท่าที่สำรวจดูแล้ว จำนวนผู้มีพลังอักขระที่อยู่ในเมืองไทยมีจำนวนมากที่สุดหากเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยในแต่ละประเทศ”ลุงเคนกล่าว
“ไม่เห็นจะเยอะตรงไหนเลย ที่ข้าเห็นนับนับดูก็ไม่กี่ร้อยคนเอง แล้วลุงจะมาบอกว่าเยอะที่สุดได้ยังไง”จัมพ์พูดแทรกขึ้นมาอย่างตั้งใจที่จะขัดคอ
“โฮะ โฮะ ถูกอย่างที่เจ้าว่านั่นแหล่ะ ในจำนวนที่อยู่ในการดูแลของหน่วยCTSOนั้นล้วนเป็นผู้ที่มีพลังที่ได้ทำการลงทะเบียนแล้วเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคนที่อยู่ปะปนกับคนทั่วไปแถมที่ยังไม่ได้รับการลงทะเบียนมีอีกมากที่ทางหน่วยCTSOยังไม่รู้ บางคนก็หลบซ่อนตัวปกปิดพลังของตนเพื่อที่จะสามารถอยู่รวมกับคนทั่วไปได้ แต่บางคนเลือกที่จะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยคนเหล่านั้นได้นำเอาพลังที่ได้รับ มาใช้ในทางที่ผิดไปเป็นมือสังหารบ้างเป็นนักฆ่ารับจ้างบ้าง ดังนั้นหน้าที่หลักของหน่วยCTSOก็คือดูแลและควบคุมผู้ที่มีพลังพิเศษให้อยู่ในกฏระเบียบยังไงล่ะ”ลุงเคนกล่าว
“ควบคุมดูแลงั้นรึ แต่ไม่เห็นจะต้องกำจัดโจเซฟเลย ดูตาลุงอ้วนเตี้ยนั้นทำสิ เอะอะก็จะกำจัดทิ้งอย่างเดียว ทั้งที่โจเซฟไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย มันไม่ทำตามใจเกินไปหน่อยเหรอ นึกแล้วข้าก็รู้สึกหงุดหงิดชะมัด”จัมพ์กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเมื่อพูดถึงเรื่องราวที่หน้าหน้าหลุยส์กระทำ
“โฮะ โฮะ เจ้าโกรธงั้นรึ แต่ข้าพเจ้าว่าเจ้าอย่าไปโกรธหัวหน้าหลุยส์เขาเลย เพราะอันที่จริงแล้วหัวหน้าหลุยส์ทำไปนั้นเพื่อความปลอดภัยของหน่วยCTSO การที่จะดูแลและคอยควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในกฎระเบียบได้นั้นจำเป็นจะต้องมีความเด็ดขาด บางครั้งบางทีอาจมีเกินเลยไปบ้าง มันเป็นหน้าที่ของเขา ก็ให้อภัยเขาเถิดแล้ววันหนึ่งเมื่อความจริงปรากฎ หัวหน้าหลุยส์ก็จะเข้าใจเอง”ลุงเคนพูดคล้ายกับข้อร้องจัมพ์ว่าอย่าไปโกรธหัวหลุยส์เลย จัมพ์ได้แต่มองไปในทิศทางอื่นโดยไม่ยอมสบตากับลุงเคนที่นั่งจ้องมองเค้าอยู่โดยไม่พูดอะไร
“แล้วพวกเนียโอกอยส์ ที่อยู่ในโลกภายนอกมีเยอะมั้ยครับ”ไคถามขึ้น ทำให้ลุงเคนต้องหันหน้ามามองไคด้วยความสนใจในคำถามของเค้า
“เยอะหรือไม่นั้นข้าพเจ้าก็ไม่อาจตอบเจ้าได้หรอกนะ แต่เนียโอกอยส์สามารถถือกำเนิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะมีมากมายจนเราปราบไม่หมดเราก็ต้องป้องกันและคอยจับกุมเท่าที่จะทำได้และต้องคอยค้นหาอยู่ตลอดเวลาแต่หากแม้ว่าโลกข้างนอกนั่น จะมีเนียโอกอยส์เพียงตัวเดียว เราก็ไม่อาจปล่อยเอาไว้ได้เราก็ต้องจับกุมหรือไม่ก็ต้องกำจัดทิ้งเสีย”ลุงเคนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่มีเนียโอกอยส์ตัวไหนเลยหรือครับ ที่จะไม่ถูกกำจัดเนียโอกอยส์ไม่สามารถอยู่ร่วมกับพวกเราได้เลยเหรอครับ”ไคถามต่อ
“เท่าที่ข้าพเจ้ารู้มายังไม่เคยมีเลยนะ เพราะเนียโอกอยส์ทุกตัวล้วนแล้วแต่ถูกความชั่วร้ายเข้าครอบงำจิตใจ จนสูญเสียความเป็นมนุยษ์ไปจนหมดแล้ว มีเพียงความกระหายอยากจากการล่า ความกระหายต่อพลังอำนาจ จิตใจถูกครอบงำเยี่ยงสัตว์ป่า ไม่มีทางที่เนียโอกอยส์จะสามารถอยู่ร่วมกันกับคนทั่วไปได้ แต่อาจจะมีก็ได้นะเพียงแต่พวกเรายังไม่รู้เท่านั้นเอง”ลุงเคนกล่าว
“ถ้าอย่างนั้นที่ผมเห็นเนียโอกอยส์ที่เรือนเพาะชำวันนี้ ก็ต้องเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาจริงจริง ถึงว่าทำไมทุกคนถึงดูแตกตื่นตกใจกัน”ไค
“ใช่แล้วล่ะ การที่มีเนียโอกอยส์หลุดออกมา แถมยังอยู่ในหน่วยของเราอีก เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน ในตอนที่เรากำลังนั่งคุยกันอยู่นี้ภายนอกนั้นเจ้าหน้าที่ต่างต่าง ทุกคนที่เป็นหน่วยไล่ล่าต่างก็ออกตามหาเพื่อล่าตัวเนียโอกอยส์กันอยู่ ทุกตึกทุกอาคารต่างก็ออกกฎห้ามทุกคนออกจากตัวอาคารทั้งสิ้นเพื่อความปลอดภัย รวมถึงที่นี่ด้วย”ลุงเคนกล่าว
“สัตว์ประหลาดแค่ตัวเดียว ไม่เห็นจะต้องวุ่นวายกันขนาดนั้นเลย ข้าคนเดียวก็จัดการได้ถ้าข้าเจออีกทีนะจะฟันให้ขาดสองท่อนเลยคอยดู”จัมพ์สวนขึ้นมาอย่างโอ้อวด
“โฮะ โฮะ พลังดาบของเจ้าน่ากลัวก็จริงแต่ยังห่างไกลกับพวกเนียโอกอยส์นัก เจ้าลองคิดเอาเองนะว่าการที่ผู้มีพลังพิเศษหนึ่งคนสามารถไล่ล่าผู้มีพลังพิเศษได้จำนวนมากนั้น ประสบการณ์ด้านการต่อสู้ย่อมเหนือกว่าเจ้าหลายขุมนัก พวกที่ต้องการจะเป็นเนียโอกอยส์จะต้องกำจัดผู้ที่มีพลังพิเศษถึงยี่สิบคนเพื่อจะได้สร้อยผลึกสีแดงยี่สิบเส้น แค่นั้นยังไม่พอจะต้องล่าผู้ที่มีพลังอีกถึงยี่สิบชนิดพลังในแบบอย่างที่ตนต้องการอีก ถึงแม้ว่าผู้ที่ต้องการเป็นเนียโอกอยส์ได้เจอพลังที่ตนต้องการอยากจะได้แล้ว หากคนผู้ที่มีพลังนั้นในตัวของเขามีพลังพิเศษแค่ชนิดเดียว ก็ยังไม่สามารถขโมยพลังที่ต้องการนั้นออกมาได้ซะทีเดียว จะต้องมีอีกขั้นตอนเพื่อจะดึงพลังที่ตนต้องการ”ลุงเคนกล่าว
“ขโมยพลังกันได้ด้วยรึ”จัมพ์ถามขึ้นมาอย่างสนใจทันที
“ได้สิ สมมุติว่าข้าพเจ้าอยากได้พลังอักขระของเจ้า ข้าพเจ้าก็จะจับตัวเจ้ามาแล้วใช้พลังของสร้อยสีเหลืองให้เจ้ากัดดื่มกินของเหลวภายในเข้าไป ตัวของเจ้าก็จะมีพลังถึงสองชนิดหลังจากนั้นข้าพเจ้าก็จะใช้ผลึกสีแดงดูดเอาพลังของเจ้าที่ข้าพเจ้าต้องการออกมา พอข้าพเจ้าได้พลังตามต้องการแล้วข้าพเจ้าก็จะสังหารเจ้าเสียเพื่อให้เจ้ากลายเป็นผลึกสีแดง เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้นำไปใช้เพื่อขโมยพลังของผู้อื่นต่อยังไงล่ะ”ลุงเคนกล่าว ไคและจัมพ์ได้ฟังดังนั้นถึงกับขนลุกไปทั้งตัว
“ฟังดูแล้วน่ากลัวจริงจริงนะครับ”ไค
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ข้าไม่ยอมหรอกข้ายอมตายดีกว่า ข้าจะสู้ ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำแบบนั้นกับข้าโดยเด็ดขาด”จัมพ์
“กล้าหาญดี จริงจริง โฮะ โฮะ ข้าพเจ้ามีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องของ เนียโอกอยส์ ที่ข้าพเจ้าได้พบเจอมาพวกเจ้าอยากฟังมั้ยล่ะ”ลุงเคน
“อยากครับ”ไค
“………”จัมพ์
“แสดงว่าอยากฟัง งั้นข้าพเจ้าจะเล่าให้ฟังเนียโอกอยส์ที่ข้าพเจ้าได้พบเจอมานั้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว ในขณะนั้นข้าพเจ้ายังเป็นรองหัวหน้าทีมไล่ล่าอยู่ ในตอนนั้นทางหน่วยของเราได้รับรายงานมาว่า มีคนพบเห็นสัตว์ประหลาดที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นสัตว์ประหลาดตัวสีดำ ดวงตาสีแดงสด มีหางที่งอกออกมาถึงสามหาง ไม่มีหู ไม่มีจมูกแถมยังมีควันออกจากปากตลอดเวลา รูปร่างสูงใหญ่มาก มีคนพบเห็นบริเวณริมทะเลแห่งหนึ่ง พอทางหน่วยเราได้รับแจ้ง พวกเราก็ออกเดินทางไปในทันทีพอไปถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เวลาตอนนั้นมืดค่ำแล้ว ประมาณเวลาได้ก็สามทุ่มข้าพเจ้าได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ในตอนนั้น เขาเล่าว่าวันนั้นคนที่เห็นเหตุการณ์นามสมมุติว่า ชื่อ เสก เขาได้ไปตกปลาบริเวณโขดหินแถวริมทะเลที่ชื่อว่า หาดบางเบิด ซึ่งเป็นหาดเงียบเงียบ ไม่ค่อยมีคนพุกพ่านในตอนนั้นเสกได้นั่งตกปลาอยู่ เสกได้มองไปตรงบริเวณริมหาดเขาได้เห็นเงาคนตะคุ่มตะคุ่มตัวเล็กเล็ก มองดูไกลไกลคล้ายเด็กกำลังวิ่งตรงมาทางเขา เสกจึงส่องไฟฉายที่พกติดตัวมา ก็ปรากฎว่าเค้ามองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งมาตามหาดทราย แต่สิ่งที่เสกได้เห็นทำให้เสกตกใจเป็นอย่างมาก เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่วิ่งมาหาเขาในตอนนั้น เป็นเด็กที่หน้าตาตื่นกลัวแถมยังร้องไห้ไม่หยุดเสื้อผ้าของหนูน้อย ซึ่งเป็นชุดกระโปรงสีชมพู ที่เปรอะไปด้วยคราบเลือด ทั้งใบหน้า ทั้งแขนและขาเต็มไปด้วยคราบเลือดสดสด เด็กน้อยเอาแต่ร้องไห้แล้วก็พูดเพียงแต่ว่า “ช่วยพ่อกับแม่หนูด้วย”หนูน้อยพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปทางบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว ที่อยู่อีกฝั่งของถนนซึ่งประตูหน้าบ้านเป็นแบบประตูเลื่อนที่ถูกเปิดอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังออกมาจากบ้านหลังนั้นอย่างโหยหวน น้ำเสียงที่เสกได้ยินนั้น บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่สุดแสนจะทรมานของหญิงสาวคนดังกล่าว เสกจึงส่องไฟฉายไปทิศทางเดียวกันกับต้นเสียงที่เขาได้ยิน ในขณะที่เขาส่องไฟไปที่บ้านหลังดังกล่าว เขาก็เห็นเงาของอะไรบางอย่างรูปร่างใหญ่โต มีดวงตาสีแดงสดที่กระทบกับแสงของไฟฉายที่สาดส่องไป และเขายังเห็นตอนที่เจ้าเงาดำนั้นแยกเขี้ยวก็ยังมีควันสีดำพวยพุ่งออกจากปากของมัน ด้วยความตกใจกับสิ่งที่ตัวเขาเองได้เห็น เขาจึง รีบอุ้มเด็กน้อยคนนั้นแล้วรีบวิ่งหนีไปในทิศทางตรงกันข้ามทันที เขารีบวิ่งไปยังจุดหมายคือบ้านของผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่มากนัก เสกคิดภายในใจว่า ไอ้เจ้าตัวที่เขาเห็นนั้นต้องเป็นตัวอันตรายแน่แน่ ตัวเขาและเด็กหญิงคนนี้ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เขารีบเร่งฝีเท้าอย่างเร่งรีบ แต่เมื่อเขาหันกลับไปมองที่บ้านหลังนั้นก็ยังคงเห็นเจ้าเงาสีดำตัวใหญ่ ยืนจ้องมองเขาด้วยดวงตาสีแดงอยู่ที่จุดเดิม จนเสกวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้าน พอไปถึงบ้านของผู้ใหญ่เสกก็เล่าเรื่องราวที่เขาพบเจอให้ผู้ใหญ่บ้านฟัง พอผู้ใหญ่บ้านได้ฟัง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ