RED STONE WAR

9.0

เขียนโดย nemon

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.

  86 ตอน
  9 วิจารณ์
  75.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) ลาจาก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ขึ้นรถเร็วเข้าทุกคน”พอประตูรถตู้เปิดออกพัชก็ตะโกนเรียกไคและจัมพ์ให้รีบขึ้นรถทันที คนที่ขับรถมาช่วยไคและจัมพ์ก็คือเจ้าหัวฟูพัชนั้นเอง พวกโจรเห็นดังนั้นเจ้าหัวหน้าโจรจึงสั่งให้ลูกน้องของมันระดมยิงใส่รถตู้ที่พัชขับมาทันที เสียงปืนจำนวนหลายนัดที่ระดมยิงใส่รถตู้สีขาวดังสนั่นไปทั่วโกดัง เจ้าพัชเห็นดังนั้นจึงรีบปีนจากเบาะคนขับไปหลบอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ไคเห็นท่าไม่ดีจึงลองตัดสินใจสั่งโจเซฟให้โจมตีคนพวกนั้นดู

“โจเซฟ โจมตีพวกโจรเลย”ไคตะโกนพร้อมชี้นิ้วไปทางพวกโจรที่ยืนอยู่ โจเซฟเองก็รับรู้ได้ทันทีว่าไคต้องการอะไรมันจึงกระโจนออกมาด้วยความรวดเร็ววิ่งตรงเข้าหากลุ่มโจรทันที พวกโจรเห็นโจเซฟร่างสีดำ ทะมึนกำลังวิ่งมาหาพวกตนจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากรถตู้มาเป็นเจ้าโจเซฟแทน

“พอได้ละพวกแก มันจบละ บอกลูกน้องแกให้ว่างอาวุธซะถ้าไม่อยากเห็นแกหัวหลุดจากบ่า”เสียงจัมพ์พูดเบาเบาข้างหูของเจ้าหัวหน้าโจร พร้อมกับดาบสีดำเล่มโตวางพาดหัวไหล่ชิดกับต้นคอของมัน ในตอนที่ชุลมุนอยู่นั้นจัมพ์ได้หาจังหวะแอบย่องมาข้างหลังเจ้าหัวหน้าโจรเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวหัวหน้าจึงรีบสั่งให้ลูกน้องของมันทุกคนว่างอาวุธลงให้หมด และให้มานั่งรวมกันให้หมดทุกคน ต่อมาไคจึงไปหาเชือกมามัดโจรทุกคนไว้รวมกันไว้ตรงเสากลางโกดัง

“ไอ้นี่มันตัวอะไรเนี๊ยะ เอามันไปห่างห่างข้าทีช่วยด้วยไค “พัชพูดไปพร้อมกับชี้ไปที่โจเซฟในร่างสีดำที่กำลังเดินมาหาเค้าอย่างช้าช้า ซึ่งพัชไม่เคยเห็นมาก่อน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แกตายแน่ไอ้พัชแกโดนมันเขมิบแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”จัมพ์สังเกตเห็นอาการหวาดกลัวของเจ้าพัชก็อดที่จะแกล้งไม่ได้

“โจเซฟ มานี่”เสียงไคสั่ง จากนั้นโจเซฟก็วิ่งกลับไปหาไคทันที ทำเอาพัชงงไปหมด ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง หลังจากนั้นไคจึงเล่าถึงเหตุการณ์ต่างต่างที่เกิดขึ้นให้พัชฟัง

“โห น่ากลัวจริงจริงตั้งแต่ข้ามาอยู่กับพวกแกนี่ เจอแต่เรื่องประหลาดตลอดเลยนะเนี๊ยะ”พัชเอ่ยขึ้น

“ฮ่า ฮ่า นั่นสินะ เกิดจนข้ารู้สึกชินกับมันแล้วล่ะ”จัมพ์พูดขึ้นด้วยอารมณ์ขันนิดนิดหลังจากนั้นไม่นานพอไคหาน้ำให้โจเซฟกินแล้วมันก็กลับคืนสู่ร่างปรกติเป็น ลูกสุนัขสีขาวเวสตี้เหมือนเดิมไคสังเกตเห็นที่โคนหางของโจเซฟก็รู้ทันทีว่ามันคือรอยสักนั้นเองในตอนแรกไคคิดว่ามันรอยเปื้อนหรือรอยคราบอะไรซักอย่างที่ล้างไม่ออกมาตอนนี้เค้าเข้าใจดี ว่าเค้าต้องมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชีวิตของลูกสุนัขตัวนี้ ซะแล้ว

“พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่กันเถอะ เพราะอีกไม่นานตำรวจคงจะแห่กันมาที่นี่แน่ เพราะเมื่อตะกี้เสียงปืนดังสนั่นไปสามบ้านเจ็ดบ้านแล้วล่ะ”พัชพูดขึ้น ทั้งสามคนจึงเก็บกระเป๋าเงินแล้วขึ้นรถมาสด้าสีขาวรีบออกจากสถานที่นั้นทันทีทิ้งให้พวกโจรทั้งหลายถูกมัดรวมกันไว้รอให้ตำรวจมารวบตัวเอง

“พัช ทำไมแกถึงกลับมาช่วยพวกเราวะ”จัมพ์ถาม

“ข้าจะทิ้งพวกแกไปได้ยังไงล่ะ ทีพวกแกยังมาช่วยข้าเลยเพื่อนถ้าไม่ช่วยเพื่อนก็อายหมามันแย่นะสิจริงมั้ยโจเซฟ ฮ่า ฮ่า “พัชตอบพร้อมกับหัวเราะไปพร้อมกับจัมพ์ ส่วนไคได้แต่นั่งอมยิ้มอยู่ที่เบาะด้านหลังรถ ส่วนโจเซฟก็นอนหลับอยู่บนตักของไคด้วยความเหนื่อยล้า

“แล้วพวกเราจะไปไหนกันต่อดีล่ะ ทีนี้”พัชผู้เป็นคนขับรถเอ่ยขึ้น

“ไปโรงบาลพาแกไปทำแผลก่อน”จัมพ์เอ่ยขึ้นแต่พัชทำท่าไม่สนใจกับบาดแผลเล็กน้อยพวกนี้ซักเท่าไหร่

“ไปกรุงเทพกัน”ไคพูดขึ้น

“กรุงเทพเลยเหรอ”พัชถาม

“นายไปส่งพวกเราที่สถานีขนส่งก็พอแค่นี้พวกเราก็รบกวนนายมามากแล้วเดี๋ยวพวกเราจะหาทางเดินทางไปต่อเอง เดี๋ยวเรื่องเงินส่วนแบ่งเดี๋ยวก่อนแยกกันพวกเราจะแบ่งให้แน่นอนไม่ต้องห่วง”ไคเอ่ย

“เดี๋ยวข้าไปส่งพวกแกเองแค่กรุงเทพสบายมาก สำหรับเพื่อนเรื่องแค่นี้เล็กน้อยมาก”พัชเอ่ย จัมพ์ได้แต่นั่งมองพัชอย่างประทับใจในมิตรภาพของหมอนี่จริงจริง เพราะพัชไม่ถามซักคำว่าพวกเค้าจะไปกรุงเทพทำไมกันแต่กลับยิ้มเหมือนกับว่ามีความสุขที่ได้ร่วมทางกันถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่เวลาอันสั้นก็ตามที

 

 

                              

 

 

                                  แสงแดดอ่อนอ่อนยามเช้าส่องผ่านทะลุกระจกหน้ารถลอดผ่านมากระทบตาจนทำให้จัมพ์ต้องลืมตาตื่นขึ้น เค้าค่อยค่อยลืมตาเพราะรู้สึกถึงความสว่างจ้าของแสง จัมพ์เอามือข้างหนึ่งมาบังแสงเอาไว้ค่อยค่อยตั้งสติ อ้าปากหาวจนกว้างจนแถบจะฉีกถึงใบหูพร้อมกับบิดขี้เกียจไปด้วย เค้าเหลือบตาไปมองทางคนขับคือพัชและเพื่อนของเค้าที่นั่งอยู่เบาะหลังก็คือ ไค ทั้งสองนั่งทำตาปรือหันมามองจัมพ์อย่างช้าช้า

“อ้าว ไคทำไมทำหน้าอย่างงั้นล่ะหรือแกยังไม่ได้นอนเหรอขอบตาคล้ำเชียว”จัมพ์พูดในขณะที่มองเห็นสภาพที่อดนอนของไค

“ฮ่า ฮ่า จะนอนได้ยังไงล่ะก็แกเล่นกรนซะ ดังสนั่นไปทั้งรถไม่เชื่อแกก็ลองถามโจเซฟมันดูสิมันก็ไม่ได้นอนเหมือนกันเพราะเสียงกรนของแกนะแหล่ะ ฮ่าฮ่า แต่ก็ดีนะทำให้ข้าตาสว่างทั้งคืนเลย”พัชพูดด้วยขับรถไปด้วย

“จริงเหรอวะไค โจเซฟ ข้ากรนดังขนาดนั้นเลยเหรอ”จัมพ์ถามย้ำอีกครั้ง ไคก็พยักหน้าและโจเซฟก็เห่าตอบรับทันทีหลังจากนั้นโจเซฟก็ทำท่าไม่พอใจก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างข้างไค ทำเอาทั้งสามคนอดหัวเราะไม่ได้

“ถึงไหนละเนี๊ยะใกล้จะถึงรึยัง เปลี่ยนกันขับมั้ยล่ะพัชแกจะได้นอนพักบ้าง”จัมพ์พูด

“ไม่เป็นไรหรอกเพราะตอนนี้ก็กำลังจะเข้ากรุงเทพแล้วล่ะ”พัชเอ่ยขึ้น ทั้งไคและจัมพ์ต่างก็นั่งมองวิวทิวทัศน์สองข้างทางอย่างตื่นตาตื่นใจ เพราะตึกรามบ้านช่องทั้งสองข้างทางมันช่างใหญ่โตมโหฬารและสิ่งปลูกสร้างต่างต่างอย่างน่าตื่นเต้น ไคมองอย่างสงสัยว่าทำไมแม้แต่ภาพตึกหรือภาพทางด่วน ถนนหนทางภาพเหล่านี้ทำไมไม่คุ้นตาเค้าเอาเสียเลยหรือว่าก่อนหน้าที่ความทรงจำเค้าจะหายไปเค้าอาจจะไม่เคยมาที่เมืองหลวงก็เป็นได้ส่วนจัมพ์ดูท่าทางตื่นเต้นกว่าไคหลายเท่าเพราะจัมพ์ไม่เคยเข้ามาในกรุงเทพมาก่อนเลย

“ตอนนี้เรามาถึงกรุงเทพแล้วพวกแกจะไปที่ไหนล่ะ”พัชถามทั้งสองคน

“พวกเราจะไปที่ตั้งสำนักงานของหน่วยCTSOนายรู้จักมั้ย”ไคตอบ ทำเอาพัชงงกับสถานที่ที่ไคบอกเพราะพัชเองก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหนเหมือนกัน

“ข้าไม่รู้จักแต่พวกแกจะไปที่นั่นทำไมกัน ข้าขอถามหน่อยเถอะที่นั่นมันมีอะไรเหรอ”พัชถาม ไคจึงตอบพัชตามความเป็นจริงและเล่าเหตุผลที่เค้ากับจัมพ์จำเป็นต้องไปที่นั่น เพื่อจะตามหาสาวสวยที่ชื่อเรนโบว์ถึงแม้พัชจะไม่รู้สถานที่ตั้งของหน่วยCTOSแต่พัชพอมีคนรู้จักอยู่ที่กรุงเทพเหมือนกันด้วยเส้นสายของพ่อ พัชจึงโทรศัพท์หาลูกน้องของพ่อเค้าที่อยู่ที่กรุงเทพ จึงทำให้พวกเค้ารู้ว่ามันอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นพัชจึงขับรถออกมาทางนอกเมืองแถวแถวพุทธมนฑลสายสี่ ขับต่อมาเรื่อยเรื่อยจนมาหยุดอยู่ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ทางด้านหน้าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นกำแพงขนาดใหญ่โตทั้งสองฝั่งสีขาวสูงเก้าถึงสิบเมตรเห็นจะได้ ด้านหน้าตรงกลางเป็นบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ในบ่อน้ำพุมีปลาหลากหลายชนิดว่ายวนกันไปมามีทั้ง ปลาคราฟ ปลาแรดเผือก ปลาทอง ปลาหมอสี และพวกเค้ายังสังเกตเห็นปลาลักษณะแปลกแปลกเป็นปลาสีทองเหลืองขนาดตัวของมันยาวประมาณหนึ่งศอกมีปากเหมือนจระเข้ดูน่ากลัวจริงจริง เหนือบ่อน้ำพุขึ้นไปมีรูปปั้นทำจากทองแดงเป็นรูปปั้นม้าจำนวนนับสิบตัวบางตัวก็มีขนาดใหญ่บางตัวก็มีขนาดเล็ก บางตัวก็วิ่งเล่นดูสง่างามบางตัวก็หยอกล้อกันดูเป็นธรรมชาติและเหมือนมีชีวิตจริงและทุกทุกสิบนาทีก็จะมีน้ำพุพุ่งทะยานขึ้นมาจากบ่อน้ำ แล้วแยกออกกลางอากาศมองดูคล้ายกับว่าฝูงม้าวิ่งผ่านแหวกสายน้ำเป็นทางดูงดงามยิ่งนัก มองผ่านสายน้ำพุไคก็สังเกตเห็นว่ามีประตูลูกกรงเป็นกรงเหล็กสีดำอยู่ด้านหลังบ่อน้ำพุนั้น ตรงด้านข้างมีตู้คล้ายกับตู้ป้อมยามมีชายแต่งตัวด้วยสูทสีดำเนคไทสีเลือดหมูยืนนิ่งโดยไม่ขยับตัวอยู่ ไคเองก็คุ้นเคยกับชุดแบบนั้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ถ้าไคจำไม่ผิดชายที่ชื่อโตโต้ที่ยิงปืนมาใส่เค้าและเรนโบว์ในตอนที่พบกันครั้งแรกก็แต่งกายคล้ายคล้ายกับแบบนี้

“น่าจะเป็นที่นี่แหล่ะ ไม่ผิดแน่”ไคเอ่ยขึ้น

“งั้นเราเข้าไปกันเถอะ”จัมพ์เอ่ยขึ้นแต่เค้าสังเกตเห็นอาการของพัชดูเปลี่ยนไป พัชเองก็ไม่อยากจะปิดบังเพื่อนทั้งสองคนของเค้า พัชจึงเล่าให้ไคและจัมพ์ฟังว่าเค้าคงมาส่งไคและจัมพ์ได้เพียงเท่านี้ เพราะตอนที่เค้าได้ไปสอบถาม หาสถานที่แห่งนี้ให้ทั้งสองคน เค้าก็ได้รับข่าวจากลูกน้องพ่อของเค้าว่า พ่อของพัชกำลังออกตามหาตัวพัชอย่างจ้าละหวั่น และเป็นห่วงเค้ามากจนล้มป่วยลงพัชก็เป็นห่วงพ่อจึงจำเป็นต้องขอแยกตัวไป ไคและจัมพ์ก็เข้าใจดีแถมยังเกรงใจพัชด้วยซ้ำไป ที่พัชคอยช่วยเหลือเค้าทั้งสองคนหลายหลายเรื่อง พวกเค้าต้องขอบคุณพัชเสียด้วยซ้ำ หากไม่มีพัชเค้าทั้งสองคนก็อาจจะมาไม่ถึงที่นี่เป็นแน่ ก่อนที่จะจากกันไคก็ทำตามสัญญาด้วยการแบ่งเงินที่ขายสร้อยผลึกแดงได้ให้กับพัช เค้าแบ่งเงินออกเป็นสามส่วนเท่าเท่ากันแต่พัชกลับปฎิเสธ ทำเอาไคและจัมพ์ต่างทำอะไรไม่ถูกแถมยังประทับใจในความมีน้ำใจของสหายคนนี้ ทั้งไคและจัมพ์ต่างตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าเงินก้อนนี้จะเอาไปทำอะไร เค้าหยิบเงินจากในกระเป๋าออกมาสองปึก หรือประมาณสองแสนบาท แล้วยื่นเงินทั้งหมดในกระเป๋าให้กับพัช

“พวกเราตกลงกันแล้วว่าเราสองคนเอาเงินไว้แค่นี้ก็พอ เงินส่วนที่เหลือเราของฝากให้นายเก็บเอากลับไปและอยากขอให้นายช่วยอะไรซักอย่าง เอาเงินเหล่านี้ไปรักษาดวงตาของคุณตาของหนูน้อยเจนให้ทีและส่งเสียให้หนูน้อยเจนได้เรียนหนังสือเหมือนคนอื่นเค้า รบกวนช่วยทีได้มั้ยพัช”ไคเอ่ย พัชจ้องมองไคและจัมพ์อย่างตื้นตันใจอยากมาก เค้ารับรู้ได้ทันทีว่าสองคนนี้เป็นคนดีจริงจริงเค้าโชคดีมากที่ได้รู้จักชายสองคนนี้

“ได้สิ ข้ารับปากและข้าสัญญาว่าข้าจะดูแลสองตาหลานนั้นเป็นอย่างดีพวกแกไม่ต้องเป็นห่วง”พัชรับปาก

ทั้งสองคนทั้งไคและจัมพ์กับอีกหนึ่งสุนัขจึงลาจากเพื่อนหัวฟูของเค้า ที่หน้าประตูน้ำพุนั่นเองก่อนจะจากกันทั้งสามคนได้สัญญากันเอาไว้ว่าจะต้องกลับมาพบกันอีกครั้ง ก่อนที่พัชจะขับรถออกจากที่นั่นไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา