หนี้รัก.....หนี้แค้น (Y)
เขียนโดย nara
วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.40 น.
แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558 19.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่3 : แรกพบสบตา ( เจ๊ดอนนี่&ทวยเทพ )
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความดอนนี่ Part
วันนี้ผมมาโรงพยาบาลกับเพื่อมาเยี่ยมหรรษาเพื่อนรักของผมและก็มาหาหมอณัฐแฟนผมด้วย แต่ว่าวันนี้ก็นับเป็นข่าวดีนะ ที่หรรษาจะได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญแต่ต้องย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นด้วยค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกันแต่พวกผมก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายหรอกเราจะทำให้หรรษากลับมาหาพวกเราให้ได้แต่ตอนนี้ได้เวลาแล้วชักช้าเดี๋ยวเหยื่อหลุดมือ
“ ครับ ถ้าอย่างนั้นหมอจะได้ทำเรื่องไปทางนั้นให้เรียบร้อย ไม่มีอะไรแล้วงั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ ” หมอณัฐพูดบอกกับพวกเราก่อนจะขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อ
หมับ!!
“ แหม่ หมอก็จะรีบไปไหน อ่ะ ” ผมรีบเอยดักขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปคล้องแขนหมอณัฐ ก่อนที่หมอณัฐจะเดินออกไป ไม่ได้ ๆ พึ่งเจอกันแป๊บเดียวเองยังไม่หายคิดถึงเลย
“ เอ่อ...คือว่าผมจะต้องไปตรวจคนไข้ต่อนะครับ ” หมอณัฐตอบกลับผมอย่างสุภาพ คนอะไรไม่รู้ยิ่งมองยิ่งหล่อ ดอนนี่ ช๊อบ ชอบ ^//////^
“ อย่าพึ่งไปสิครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณหมอ ....คือว่าช่วงนี้ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้ หัวใจของผมมันเต้นแรงและเร็วผิดปกติ อ่ะครับ >////< ” ผมบอกกับหมอณัฐด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน อ้อนเข้าไว้หมอจะได้รักจะได้หลง อิอิอิ
“ เอ่อ...คุณดอนนี่ คุณเริ่มมีอาการตั้งแต่เมื่อไรครับ ” หมอณัฐถามอาการของผมด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน เป็นห่วงเค้าล่ะซิ อิอิ แฟนใครก็ไม่รู้น่ารักจังเลย
“ ก็....ตั้งแต่ที่เจอหน้าหมออ่ะ ครับหัวใจก็เต้นแรง หน้าก็แดงทุกทีเลยอ่ะครับ >////< ” ผมบอกอาการที่เป็นกับหมอณัฐพร้อมกับบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย แอบเห็นหมอณัฐน่าแดงด้วยอ่ะ อย่างนี้เขาเรียกว่าให้ท่า ต้องรุกให้หนักหมอจะได้หนีไปไหนไม่ได้ ผมยื้นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ หน้าหมอแต่ยังไม่ทันที่ผมจะรุกหมอต่อ
“ อะแฮ่ม!!! เจ๊ครับจะทำอะไรพี่หมอนะครับ ลืมไปหรือเปล่าครับว่ายังมีเด็กอย่างผมยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน และอีกอย่างผมว่าอย่ารบกวนเวลางานของพี่หมอเลยนะครับ แค่นี้ก็รบกวนเวลามามากแล้ว ” เสียงของพรรษาดังขัดจังหวะขึ้นซะก่อน อีกนิด อีกนิดเดียวแท้ ๆ ผมกำลังจะจุ๊บหมอณัฐได้อยู่แล้วเชียวขออีกซักนาทีก็ไม่ได้รีบ
“ ก็ได้ ขัดความสุขของพี่จริง ๆ เลยนะเราน่ะ ” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเซ็ง ๆ ก่อนจะยอมปล่อยหมอณัฐให้เป็นอิสระ
“ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ” หมอณัฐบอกก่อนจะเดินออกไปไปแล้วครับพ่อเทพบุตรสุดหล่อของผมกำลังเดินออกไปแล้ว เฮ้อ!!!!!!!! ได้เจอแค่แป๊บเดียวเองยังไม่ทันหายคิดถึงเลยผมยืนมองหมอณัฐที่กำลังเดินออกไปจนบานประตูปิดลง
“ แฮ่ม...ถึงกับมองตามตาละห้อยเลยเหรอครับเจ๊ดอนนี่ ” เสียงนางมารน้อยครับ ตอนนี้ยกให้เป็นนางมารเลยครับ ไม่ช่วยแล้วยังจะมาแซวผมอีก
“ ไม่ต้องทำมาเป็นพูดดีเลย เรื่องเมื่อกี้ยังไม่ได้เคลียร์เลยนะคนเขากำลังจู๋จี๋กันมาขัดจังหวะทำไมก็ไมรู้ ” ผมแว้ขึ้นหาที่ลงไม่ได้ครับ ลงกับน้องนี่ล่ะขัดความสุขของผมดีนัก
“ โอ๋เอ๋ ๆ อย่างงอนน้องเลยน๊า น้องเห็นว่าที่นี่มันโรงพยาบาลไม่เหมาะแก่สถานที่ ที่เจ๊จะกินพี่หมอเดี๋ยวเจ๊ร้องเสียงดังคนไข้เขาจะแตกตื่นเอานะครับ ” พรรษาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทะเล้น ๆ
“ อะ..ไอ้..ไอ้บ้า ใครเขาจะทำแบบนั้นกันเล่า >/////////< ” ผมว่าพรรษาออกไปไม่จริงจังนัก ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าตอนนี้หน้าของผมจะต้องแดงมากแน่ ๆ ก็ดูน้องมันพูดเข้าสิแก่แดดจริง ๆ เลย
“ อ้าววววว เหรอครับเมื่อกี้ที่ผมเห็นเนี่ยเจ๊ดอนนี่กับพี่หมอณัฐจะรวมร่างกันอยู่แล้วนะครับ ” ยังครับน้องมันยังไม่หยุดพูดให้ผมได้อาย โอ๊ย!ไม่น่าเลยครับไม่น่าพลาด ทำให้น้องมันเห็นเลยปกติแล้วเราจะพลัดกันมาเยี่ยมหรรษาน้อยครั้งที่จะมาพร้อมกันเพราะตัวของพรรษาเองไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่นักถ้าพักผ่อนไม่เพียงพอก็จะป่วยเอาได้ง่าย จนมันทำให้ผมลืมไปว่าครั้งนี้มีน้องมันมาด้วย ซวยจริง จริ๊ง
“ หยุดเดี๋ยวนี้นะ แล้วจะกลับไหมบ้านนะเดี๋ยวก็ปล่อยให้นอนที่โรงพยาบาลซะเลยนิ ” ผมพูดขึ้น ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องนี้ อยู่นานมีแต่จะอายน้องมันครับ
“ แหม่ ล้อเล่นนิดเดียวเองอย่าโกธรเลยนะ เดี๋ยวพี่หมอให้หมอหนึ่งที อิอิ ” ไม่จบครับดูท่าแล้วยันลูกบวชก็ยังไม่จบ เฮ้ออออออออออไม่น่าพลาดเลยเรา
ตอนนี้เราสองคนออกมานั่งรอเมย์อยู่หน้าโรงพยาบาลแล้วครับนี่ก็บ่ายกว่า ๆ แล้วไหน ๆ วันนี้ก็เป็นวันหยุดแล้วผมว่าก่อนกลับบ้านลองชวนพรรษาเดินห้างซักหน่อยดีกว่า ไม่ได้เดินมานานแล้ว
“ พรรษา พี่ว่าก่อนกลับบ้านเราไปเดินห้างกันหน่อยดีไหมจะได้ซื้อของใช้ส่วนตัวกันด้วย ” ผมพูดชวนพรรษา ขณะที่นั่งรอรถ
โดยปกติแล้วพรรษาจะไม่ค่อยชอบเดินเที่ยวห้างหรือไปเที่ยวที่ไหนซักเท่าไหร่ ไม่ใช่ไม่ชอบสิ แต่เป็นเพราะพรรษารอที่จะได้เดินเที่ยวกับหรรษาพี่ชายของเขา ตั้แต่เกิดเรื่องนั้นพรรษาก็กลายเป็นคนเงียบขรึมและชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวน้อยครั้งที่จะยิ้มแย้ม อย่างวันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขายิ้มออกมา ยิ้มทั้งตา ปากและหัวใจ ผมคิดว่าเขาคงดีใจที่เห็นผมมีความสุข ตอนี้ผมก็ได้แต่หวังว่าหรรษาจะฟื้นขึ้นซักที เพราะการหลับของหรรษามันได้เอาความสดใส ความน่ารัก ชั่งอ้อนของพรรษาไปด้วย
“ เอ่อ..คือว่า .......ไปก็ได้ครับ ” พรรษาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่ว
“ ดีเลยพี่จะได้มีเพื่อนช็อป เดินคนเดียวมันเหงารู้ไหม ” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมจะทำได้ผมจะต้องสดใสร่าเริงเพื่อที่จะทำให้พรรษาได้ยิ้มบ้างซักนิดก็ยังดี
“ อ๊ะ รถมาแล้ว ไปกันเถอะ” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นรถประจำทางสายที่จะขึ้นกำลังวิ่งมา
“ อุ๊ยย! ซี๊ดดด โอ๊ย พรรษา พาพี่ไปห้องน้ำก่อนได้ พี่ไม่ไหวแล้ว ” โอ๊ยอุส่าได้มาเที่ยวห้างทั้งทีทำไมต้องมาปวดท้องตอนนี้ด้วยนะ
ตอนนี้เรามาถึงห้างกันแล้วแต่ว่าผมเกิดปวดท้องซะก่อนยังไม่ได้ซื้อของสักชิ้นเดียว เลยต้องมาเดินหาห้องน้ำซะก่อน แล้วมันอยู่ตรงไหนของห้างเนี๊ยจะราดอยู่แล้วนะห้องน้ำจ๋าอยู่ไหนเนี่ยออกมาหาดอนนี่คนสวยหน่อยเร็ว ๆ
“ อ๊ะ เจ๊เจอแล้ว ทางนั้นครับ ” พรรษาพูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางขวามือของตัวเอง
“ ขอบใจนะเดี๋ยวพี่เข้าห้องน้ำก่อน อ่อ ถ้าพรรษาอยากจะเดินดูของก่อนก็ได้นะเดี๋ยวพี่โทรหา ” ผมเอ่ยขอบใจน้องก่อนโดยไม่ลืมบอกให้น้องไปเดินดูของก่อนจะได้ไม่ต้องมายืนรอผมที่หน้าห้องน้ำ
“ เฮ้อ ค่อยสบายท้องหน่อย ” ผมบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินมาล้างมือที่อ่างล้างมือ
“ อ๊ะ เฮือก!!! ฮู่ออออออออ ”ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากห้องเท้าของก็ไปสะดุดเข้ากับพื้นที่ต่างระดับกัน ดีนะที่ไม่ล้มขายหน้าชาวบ้านชาวช่องเขา สงสัยเข้าห้องน้ำเมื่อกี้นี้จะสูบพลังผมไปเยอะไปหน่อยเล่นเอาใจหายใจคว่ำหมดเลย ผมยืมลูบอกสักครู่ ก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาพรรษาเลยควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงแต่มันไม่ได้มาแค่โทรศัพท์นะสิครับกระเป๋าสตางค์มันตามออกมาด้วยแล้วมันก็ลงไปนอนที่พื้นเป็นที่เรียบร้อย ไม่รู้จะรีบแย่งกันออกทำไม ยังไม่ถึงเวลาของตัวเองสักหน่อยเลยเป็นงานให้ผมต้องก้มเก็บอีกขี้เกียจนั่งเก็บเดี๋ยวลุกไม่ขึ้น อิอิ ในขณะที่ผมกำลัก้มเก็บกระเป๋าสตางค์อยู่นั้น
หมับ!
“ ว๊ายยย!!!!!!!!! อะ...ไอ้....ไอ้บ้า ...อะ....ไอ้....ไอ้โรคจิต .....ไอ้ปลาจาระเม็ด กะ... แกจับก้นชั้น ” ผมรัวคำด่าออกไปแบบไม่ยั้งก็ผมกำลังก้มเก็บของอยู่ดี ๆ ไม่รู้ไอ้บ้าที่ไหนมันมาจับแก้ม(ก้น)ผม มันไม่รู้หรือไงว่าผมจะเก็บเอาไว้ให้หมอณัฐจับคนเดียวหมดเลย หมดกันก้นผม ผมหันหน้าไอ้คนที่มันบังอาจมาจับแก้ม(ก้น)โฮ่ หล่ออ่ะ ^O^ ไม่ใช่ล่ะ
“ เฮ้ย! เอ่อ คะ..คือ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ ผมสะดุดขอบประตูห้องน้ำนะ ผมขอโทษครับ ” ไอ้หน้าหล่อโรคจิตมันตอบผมพร้อมกับหน้าเจื่อน ๆ
“ ฉันไม่เชื่อ แกอย่ามาแก้ตัวซะให้ยากแกจงใจจับก้นฉัน ” ผมไม่มีทางเชื่อมันหรอกคนดี ๆ ที่ไหนจะมาเดินสะดุดแถวห้องน้ำ
“ อ้าว นี่คุณอย่ามากล่าวหาผมนะ อีกอย่างเรื่องเมื่อกี้นี้มันเป็นอุบัติเหตุแล้วผมก็ขอโทษคุณแล้วด้วย ”ไอ้โรคจิตมันยังคงแก้ตัวไม่เลิก
“ ฉันไม่เชื่อ แกไอ้../เกิดอะไรขึ้นครับเจ๊ ” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ด่ามันพรรษาก็เข้ามาขัดซะก่อน
“ ก็ไอ้บ้านี่มันจับก้นพี่ ” หันมาบอกพรรษา
“ อ้าว!!คุณทำไมพูดแมว ๆ แบบนี้ล่ะครับผมบอกคุณไปแล้วนะว่ามันเป็นอุบัติเหุต ” ยังครับมายังแถไม่หยุด
“ ทำไมก็ผมพูดเรื่องจริง คุณ-จับ-ก้น-ผม ชัดไหมไอ้โรคจิต ไอ้../พอเถอะเจ๊อายคนเขาดูสิมองกันเต็มเลย ” ผมพูดย้ำให้มันฟังชัด ๆ ให้มันได้อายกับสิ่งที่ทำและกำลังจะด่ามันต่อถ้าพรรษาไม่ห้ามผมเอาไว้ซะก่อน
“ ฝากไว้ก่อนเถอะ ” ผมพูดทิ้งท้ายก่อนถูกลากออกไป
“ อย่าลืมมาเอาคืนนะครับผมรออยู่ ” มันตะโกนไล่หลังผมมา เจ้าพระคุ๊ณอย่าได้พบอย่าได้เจอกกันอีกเลยขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายเหอะคนอะไรน่าเกียจที่สุด
****************************************************************************************************************************************************************************************************************************
โธ่เจ๊ดอนนี่ไม่รู้ตัวบ้างรึไงน๊าว่าในอนาคตข้างหน้าไอ้ที่เขาจับนะจะไม่ใช้แค่แก้ม(ก้น) อิอิแล้วที่ ๆ เขาสะดุดน่ะที่เดียวกกับเจ๊ไม่ใช่เหรอ อิอิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ