Oh! My Girl Friend สะดุดหัวใจ ยัยเพื่อนซี้

9.0

เขียนโดย ตะขบพบรัก

วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 17.51 น.

  6 ตอน
  2 วิจารณ์
  12.52K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 20.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) อาย... ไม่รู้จะอธิบายยังไง?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            เวลาล่วงเลยมาประมาณหกโมงเย็น  ฝนก็เริ่มซาลงไปมากแล้ว แต่ท้องฟ้าก็ยังดูอึมครึมอยู่  ฟ้าใสเดินทอดน่องมุ่งหน้าไปยังโรงยิม  เธอพยายามเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้  ในใจก็หวั่นๆ เมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองต้องเผชิญกับทิม

           ‘ทำยังไงถึงจะไม่ประหม่า ไม่อายนะ’     ฟ้าใสพึมพรำกับตัวเอง

            ภายในโรงยิมมีนักเรียนที่เป็นนักกีฬาอยู่ราวๆ 30 กว่าคน  ซึ่งแต่ละคนต่างก็มุ่งมั่นฝึกกีฬาในประเภทที่ตนเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นแบตมินตัน  หรือเทควันโด ท่าทางแต่ละคนดูเอาจริงเอาจัง เหมือนกำลังแข่งขันกันอยู่ยังไงยังงั้น            ฟ้าใสเลี่ยงทางเดินในโรงยิม แล้วเดินจากฝั่งด้านหน้า  เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนชมรมแบตมินตันให้เสียสมาธิ 

            ส่วนทางด้านชมรมเทควันโด  ใบหม่อนกำลังสู้อยู่กับเจ็ท นักเรียนชายตัวโต  สายตาทั้งสองคู่จ้องแขม่งใสกันเหมือนกำลังจะกระโดดตะครุบเหยื่อ  พอโค้ชให้สัญญาณมือเจ็ทก็บุกเข้าไปหาใบหม่อนทันที ใบหม่อนเห็นท่าไม่ดีจึงถอยออกมาตั้งหลัก จากนั้นก็เป็นฝ่ายบุกเข้าไปบ้าง  ท่าที่ใบหม่อนถนัดที่สุดก็คือท่า Jump high kick หรือ กระโดดเตะสูง  ด้วยช่วงขาที่เรียวยาวและส่วนสูง 168 เซนติเมตร จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ใบหม่อนจะกระโดดเตะเข้าที่ท้ายทอยของเจ็ท แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ใบหม่อนจะไม่ใช้ท่านี้กับเพื่อนที่เป็นคู่ต่อสู้   ในรอบนี้ใบหม่อนสามารถเอาชนะเจ็คได้จากการทุ้มเจ็ทติดต่อกัน 3 ครั้ง

            “โห้..  เธอนี่ก็โหดสุดๆ เลย ทุ้มนายเจ็ทได้ยังไงเนี่ย ไม่หนักเหรอ?”  ฟ้าเดินเข้าไปถามใบหม่อนด้วยความสงสัย

            “หนักสิ! ใครว่าไม่หนัก แต่ถ้าเราฝึกบ่อยๆ ก็จะชินกับน้ำหนักแบบนี้ แล้วอีกอย่างนายเจ็ทเองก็ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักตัวเองลงมาเต็มที่ด้วยก็เลยไม่ค่อยหนักมากเท่าไหร่”  ใบหม่อนอธิบายให้ฟ้าใสฟัง

            “อ่อ...”  ฟ้าใสพยักหน้าเข้าใจ  ทั้งสองสาวเดินคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงอัฒจันทร์ ตรงที่กระเป๋าของใบหม่อนวางอยู่ 

            “อึ้มม์  แล้วเอาร่มไปคืนพี่ทิมรึยังละ?”  ใบหม่อนถามเข้าประเด็น  จากนั้นก็หยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม

            “ยังอ่า.. หม่อนเอาไปคืนให้หน่อยดิ ฟ้าใสไม่กล้า”  ฟ้าใสเกาะแขนของใบหม่อนเป็นเชิงขอร้อง 

            “จะบ้าเหรอ เธอเป็นคนใช้มันนิ!!”  ใบหม่อนแทบสำลักน้ำที่กำลังดื่ม เมื่อได้ยินประโยคที่ฟ้าใสพูด

            “ก็ฟ้าใสอายนิ  แค่เห็นเงาพี่ทิมก็อายแล้ว”  ฟ้าใสหน้าแดงขึ้นมาทันทีที่พูดถึงชื่อทิม

            “จะอายทำไม เราก็แค่พูดในสิ่งที่เราควรพูด” ใบหม่อนพูดให้ฟ้าใสมีกำลังใจ

            “ไม่รู้แหละ!!  ช่วยฟ้าใสหน่อยนะ นะหม่อนนะ”  ฟ้าใสยังคงดึงดันให้ใบหม่อนช่วย

            “ไม่!! เธอเอาคืนเองละกัน  พี่ทิมเดินมานู้นแล้ว”  ใบหม่อนใช้สายตาชี้ให้ฟ้าใสรู้ว่า ทิมกำลังเดินเข้ามาในโรงยิม

            “เฮ้ย!”    ฟ้าใสหันไปดูแว๊บหนึ่งแล้วอุทานด้วยสีหน้าตกใจ

            “ฉันจะไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุด  ส่วนเธอก็ควรจะจัดการเรื่องของเธอซะ!”  ไม่รีรอให้ฟ้าใสได้อ้าปากตอบกลับ  พอจบประโยคใบหม่อนก็เดินออกจากตรงนั้นทันที  ปล่อยให้ฟ้าใสยืนเคอะเขินอยู่อย่างนั้น

            “ดะ เดี๋ยวก่อนสิ หม่อน  ใบหม่อนๆ!!!”  ฟ้าใสตะโกนเรียกใบหม่อนเบาๆ  เพราะกลัวว่าทิมจะได้ยิน 

            ฟ้าใสทำสมาธิยืนในท่าสงบ หลับตาแล้วสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอดเพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเอง   เอาวะเป็นไงเป็นกัน!!!’

            เธอหยิบร่มพกที่อยู่ในกระเป๋าออกมาถือแนบไว้กับอก  สายตาจับจ้องไปที่ทิม

            ตึก~  ตึก~  ตึก~  

            หัวใจของฟ้าใสเต้นเป็นจังหวะเหมือนกลอง

            ทิมกำลังนั่งเช็ดเหงื่อให้ตัวเองหลังจากที่เป็นคู่ซ้อมให้กับรุ่นน้องที่เพิ่งเข้าชมรมมาใหม่  หางตาก็ไปสะดุดเข้ากับเงาของใครบางคน

            “อ้าว!  ฟ้าใส”  ทิมดีดตัวลุกขึ้นทันทีที่เห็นว่าเจ้าของเงานั้นคือฟ้าใส  เมื่อยืนเทียบคู่กันแล้ว ฟ้าใสสูงเลยบ่าของทิมไปแค่นิดเดียวเอง

            “สวัสดีคะพี่ทิม”  ฟ้าใสก้มหน้ากรอกตาไปมาเพราะไม่กล้าสบตาทิม เพราะกลัวว่าทิมจะเห็นหน้าของเธอตอนนี้ที่แดงจนแทบจะมีควันออกมา

            “สวัสดีจ๊ะ”  ทิมก้มมองฟ้าใสที่พยายามหลบสายตา

            “ฟ้าใสเอาร่มมาคืนคะ”  ฟ้าใสยื่นร่มพกในมือคืนให้ทิม 

            “ขอบคุณครับ  เอ่อ...  ฟ้าใสนั่งก่อนสิ ยืนคุยกันแบบนี้เดี๋ยวจะปวดขา”  ทิมมองดูร่มที่ฟ้าใสยื่นมาให้  ก่อนจะชวนให้ฟ้าใสนั่ง

            “คะ!”  ฟ้าใสนั่งลงอย่างง่ายดายตามที่ทิมบอก

            “มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย พี่ไม่เห็นตอนฟ้าใสเข้ามาเลย”

            “สักพักแล้วคะ ตอนที่ฟ้าใสมาพี่ทิมกำลังยุ่งอยู่”

            “แล้วเจอไนน์กะใบหม่อนรึยัง?”

            “ยังไม่เจอไนน์คะ  เจอแต่ใบหม่อน”

            “อ่อ..  แล้วใบหม่อนไปไหนซะละ?”

            “ไปเปลี่ยนชุดคะ”

            “อึ้มม์...”  ทิมพยักเป็นเชิงเข้าใจ  จากนั้นก็ชวนฟ้าใสคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ  เพื่อสร้างความสนิทสนมและไม่ให้ฟ้าใสเกร็งจนเกินไป

            ทางด้านใบหม่อน  เธอยืนมองทั้งคู่ผ่านประตูทางเข้า  เยื่องๆ ด้านหลังอัฒจันทร์ที่ทั้งสองนั่งอยู่

            “ไง!  แอบสังเกตผลงานตัวเองเหรอ?”  ไนน์เดินเข้าทักจากด้านหลังของใบหม่อน

            “อึ้มม์.. เธอว่าสองคนนี้จะไปกันรอดไหม?”

            “ไม่รู้สิ...  ทั้งพี่ทิมและฟ้าใสต่างก็รู้สึกตรงกัน แต่ก็ไม่มีใครปริปากออกมา”  ไนน์ตอบแบบเซ็งๆ

            “นั้นสิ...  เอ่อ  แล้วนี่ไนน์จะกลับตอนไหน”

            “คงอีกสักพักอ่ะ  พอดีรับปากกับน้องบิวว่าจะเป็นคู่ซ้อมให้  แล้วหม่อนละ”

            “กลับตอนนี้แหละ  เหนียวตัวอยากอาบน้ำ”

            “อ่อ.. งั้นก็กลับบ้านดีๆ นะ พรุ่งนี้เจอกัน”

            “พรุ่งนี้เจอกัน!”

            สองสาวแยกย้ายกันไปคนละทาง  ไนน์เดินเข้าไปทักฟ้าใสได้สักพักหนึ่งก็โดนน้องในชมรมเรียกเข้าไปเป็นคู่ซ้อม  ส่วนใบหม่อนก็เข้าไปในห้องพักสำหรับนักเรียนหญิงเพื่อชำระล้างคราบเหงือไคลที่ได้จากการฝึกซ้อม  เธอเลือกเสื้อยืดคอกลมสีชมพูอ่อนๆ และกางเกงวอร์มกีฬาสีดำจากตู้ล็อคเกอร์ออกมาใส่ จากนั้นก็สวมเสื้อวอร์มกีฬาที่เข้ากับกางเกงทับอีกที  

♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥

    

            ตอนนี้ฟ้าใสเองก็เริ่มพูดคุยเป็นกันเองกับทิมมากขึ้นกว่าช่วงแรกๆ  แม้ภายนอกทิมจะดูขรึมๆ ไม่ค่อยพูด  แต่พอลองได้คุยด้วยนานๆ  ฟ้าใสก็รับรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วทิมเป็นคนที่ชอบพูดติดตลก และยังสรรหาเรื่องตลกๆ มาเล่าให้เธอฟังตลอดช่วงเวลาที่นั่งคุยกัน  จนทำให้บางครั้งฟ้าใสก็หลุดหัวเราะเสียงดังออกมา

            “ใบหม่อนเดินมานู้นแล้ว”  ทิมชี้ไปที่ด้านหลังของหน้าใส  เป็นเหตุให้ฟ้าใสต้องเหลียวมองตาม

            “เสร็จแล้วเหรอหม่อน”  ฟ้าใสหันไปถามใบหม่อน

            “อึ้มม์..  แล้วจะกลับกันรึยัง” 

            “กลับสิ!  ตะกี้แม่โทรมาบอกว่าให้ชวนหม่อนไปทานข้าวที่บ้าน และก็ย้ำเด็ดขาดด้วยว่าเธอต้องอยู่ทาน”  ฟ้าใสใช้น้ำเสียงจริงจัง

            “ .........”   ใบหม่อนพยักหน้าเข้าใจ

            “พี่ทิมคะ  ฟ้าใสขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”  ฟ้าใสหันกลับไปลาทิม

            “ครับ.. ถ้างั้น กลับบ้านกันดีๆ นะ”  ทิมมองหน้าฟ้าใส ในใจก็นึกเสียดายที่ไม่ได้คุยกันต่อ 

            “บ๊ายบาย คะ!”  ฟ้าใสยกมือขึ้นโบกลาเบาๆ

 

            หลังจากที่ล่ำลากันเสร็จเรียบร้อย  สองสาวเดินคุยกันมาจนถึงโรงรถที่มีรถของใบหม่อนจอดอยู่ ตลอดระยะทางกลับบ้าน ฟ้าใสพูดถึงเรื่องของทิมแทบไม่หยุดพักหายใจ เหมือนเด็กน้อยที่กำลังเห่อของเล่นใหม่

            “แสดงว่าต่อไปเวลาเจอ ฟ้าใสคงไม่เขินอีก”

            “ไม่หรอก จริงๆ ก็ยังเขินอยู่ ทำไมเวลาอยู่ใกล้พี่ทิมถึงรู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่เลย”  ฟ้าใสเอียงหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ หูใบหม่อน

            “ค่อยๆ ปรับตัวไปสิ ถ้าได้เจอ หรือได้คุยบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเอง”

            “คงงั้นแหละ  ฮิๆๆ”  ฟ้าใสหัวเราะชอบใจ  พร้อมทั้งเอาหน้าไปซุกที่แผ่นหลังของใบหม่อน  แขนทั้งสองข้างโอบเอวบางของคนขับเอาไว้  ผมที่ถูกรวบเอาไว้หลวมๆ ก็ถูกลมพัดพลิ้วไหวไปมาจนทำให้คนที่ซ้อนอยู่ได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆ 

            ‘หอมจัง!’    

            ฟ้าใสรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับกลิ่นแชมพูที่ติดอยู่บนเส้นผมของใบหม่อน  เวลาที่ใบหม่อนเข้าใกล้เธอ  เธอมักจะได้กลิ่นหอมๆแบบนี้เสมอและเธอเองก็ชอบกลิ่นนี้ด้วยไม่รู้ทำไม  ถ้าใครได้ใบหม่อนไปเป็นแฟนคงโชคดีมิใช่น้อย  ทั้งน่ารัก   เรียนเก่ง  แถมตัวยังหอมอีก  ถ้าเป็นผู้ชายละแม่จะไม่ปล่อยให้หลุดมือเลยเชียว!!!  อุ๊ย!  ฉันแอบคิดอะไรอยู่เนี่ย

 

            เอี๊ยด!   

            เสียงรถเบรกทำให้ฟ้าใสสลัดความคิดที่คิดเมื่อสักครู่ออกไป

            “ถึงบ้านแล้วเหรอ?”  ฟ้าใสยังดูมึนๆ อยู่เพราะตลอดทางเธอแทบไม่ลืมตามองรอบๆ ข้างเลย

            “ก็ใช่นะสิ!”  ใบหม่อนขมวดคิ้วสงสัยท่าทางแปลกๆ ของฟ้าใส

            “แฮะๆๆ”  ฟ้าใสยิ้มแห้งๆ กลบเกลื่อนความคิดของตัวเอง  มือทั้งสองข้างก็พยายามปลดตัวล็อกของหมวกออก แต่ไม่ว่าจะปลดยังไงก็ไม่ออกสักที่  ‘ติดอะไรอยู่นะ!’ 

            ใบหม่อนซึ้งกำลังง้วนอยู่กับการเก็บกระเป๋านักเรียน และชุดฝึกอยู่ ก็เข้ามาช่วยถอดให้

            “เป็นอะไร?”

            “มันติดอ่ะ  ถอดไม่ออก”

            “ไหน.. ขอเราดูหน่อย”  ใบหม่อนวางกระเป๋าลงกับพื้นแล้วเข้าไปดูหมวก  ฟ้าใสปล่อยมือของตัวเองจากหมวก เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ใบหม่อนถอดได้ถนัดขึ้น

            ใบหม่อนเอียงคอเข้าไปมองดูใกล้ๆ ว่าตัวล็อกมีอะไรติดอยู่รึเปล่า  และก็พอดีกับช่วงจังหวะที่ฟ้าใสกำลังขยับตัว  จนทำให้ใบหน้าของทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงนิ้วเสียด้วยซ้ำ

            กลิ่นหอมในตัวของใบหม่อน ทำให้ฟ้าใสรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับมันอีกครั้ง 

            ตั้งแต่รู้กันกันมา ฟ้าใสไม่เคยอยู่ใกล้กับใบหม่อนมากขนาดนี้มาก่อน  เธอเผลอไปจับเอวบางคอดของใบหม่อน  พร้อมทั้งสำรวจใบหน้าของเพื่อนคนนี้โดยไม่รู้ตัว  รูปหน้าที่เรียวยาว  ดวงตากลมโตดำสนิท  ขนตายาวงอนเป็นแพร  แถมปากยังอมชมพู  ....น่าจูบ  เอ๊ะ!  ทำไมวันนี้รู้สึกว่าใบหม่อนน่ารักขนาดนี้นะ!!

            ‘จะว่าไป... ก็อยากลองจูบเรียวปากแบบนี้ดูสักครั้งจัง’  

            ฮะ!     จะ   จูบ   จูบเหรอ!!!!!!

            ตึกตัก!    ตึกตัก!    ตึกตัก!   

            ไม่รู้เพราะอะไร  อยู่ดีๆ หัวใจของฟ้าใสก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะเหมือนกลองที่ตีรัว 

            ‘อั๊ยย่ะ!   แอบคิดอะไรแบบนี้ขึ้นมาได้นะ ฟ้าใส?’   ตายๆๆๆๆๆ  น่าอายที่สุด  รู้ถึงไหนอายถึงนั้น!

 

            แกร็ก!     เสียงล็อกของหมวกหลุดออกมา

          ใบหม่อนถอดหมวกออกให้ฟ้าใส  แต่ก็ตกใจเมื่อว่าแก้มของฟ้าใสแดงไปจนถึงใบหู

            “ฟ้าใส!  ทำไมหน้าแดงละ ไม่สบายเหรอ?”   ใบหม่อนจ้องหน้าฟ้าใส แล้วใช้หลังมือแตะที่หน้าผาก   

            เหมือนน้ำมันราดบนกองไฟ  จากที่แดงเฉพาะแค่แก้ม ตอนนี้มันดันลามไปทั่วทั้งใบหน้าของฟ้าใส 

            “ตัวก็ไม่ร้อนนะ  เอ๊ะ!  รู้สึกว่ามันจะแดงกว่าเดิมรึเปล่าเนี่ย?”  ใบหม่อนตกใจที่ตอนนี้หน้าของฟ้าใสแดงจนแทบจะมีควันออกมาจากหน้า

            “ฟ้าใสว่าเรารีบเข้าบ้านเถอะ!”  ไม่ต้องรอให้ใบหม่อนได้อ่าปากตอบ  ฟ้าใสก็วิ่งเข้าไปจนถึงในบ้านซะแล้ว  

            “อะไรของเขา?”  ใบหม่อนยังคงงงกับอาการแปลกๆ ของฟ้าใส เธอหยิบเอากระเป๋านักเรียนแล้วก็เดินเข้าบ้านตามอีกคนที่วิ่งเข้าไปก่อนเธอ 

 

 สนุก ไม่สนุก ยังไงก็ช่วย คอมเม้นด้วยนะคะ

ผู้เขียนจะได้นำไปพัฒนาฝีมือต่อ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา