อลวนรักของหนุ่มน้อยหน้ามึน [Yaoi]

8.5

เขียนโดย JR_ST

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.16 น.

  12 chapter
  10 วิจารณ์
  20.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 18.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ทำความเข้าใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมถูกไอดีฟจูงออกจากสถานที่แห่งนั่นจนมาถึงโรงรถ ผมอยากจะถามแต่เจ้าตัวไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ถามซักคำ ดีฟเอาแต่จูงผมจนผมเหนื่อยหอบเมื่อถึงรถของไอดีฟผมจึงสลัดมือออกอย่างแรง แล้วถามเรื่องราวเมื่อครู่ ผมงงไปหมดแล้ว

“ ไอดีฟ เมื่อกี้มันคืออะไร “ผมถาม

“ อะไร ? “ ไอดีฟแสร้งทำเป็นไม่รู้ ผมเริ่มหงุดหงิด

“ ก็ ..... / ขึ้นรถได้แล้ว ! “ ผมกำลังจะถามแต่มันตัดบท ผมจึงต้องทำตาม ผมขึ้นรถแล้วนั่งเงียบไม่พูดอะไร

ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางคิดเรื่องเมื่อครู่   ในหัวสมองมีแต่คำถามมากมายเต็มไปหมด ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมเธอต้องพูดคล้ายกับกำลังดูถูกผม ทำไมเธอจึงถามกับไอดีฟอย่างนั้น

“ ดีฟ ทำไมเด็กนั่น... “

“ ทำไม ?

“ เพราะเด็กนั่นใช่มั้ย ?...เพราะเด็กนั่นที่ทำให้เมษไม่หันกลับมามองเมย์ ... “

“ อาจจะใช่ “

พวกเขาเป็นอะไรกัน หรือว่า “ แฟน “ ผมชักสีหน้า ความรู้สึอึดอัดค่อยๆทับถมเข้ามาในใจ แล้วทำไมผมต้องไปใส่ใจ ต้องมาคิดเรื่องความสัมพันธ์บ้าๆพวกนี้ด้วย  

   ตลอดทางผมกับไอดีฟไม่พูดจาอะไร ในเมื่อเขาไม่ยอมบอกก็ไม่เป็นไร....

 

ดีฟเห็นร่างเล็กไม่ยอมพูดจาอะไร     เขาคิดว่าร่างเล็กคงน้อยใจที่เขาไม่บอกเรื่องที่เขากับเมย์เป็นอะไรกัน เขาก็เป็นคนเอาใจใครไม่ค่อยเปนสักเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจจะเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเมย์กับเขาให้ฟัง เขาคิดว่า เมษคือคนที่เขาไว้ใจมากที่สุดแล้วล่ะ

“ เมย์กับฉันเคยเป็นแฟนกันมาก่อน “

“ .........” เมษเบิกตากว้างแล้วหันกลับมามองร่างสูง เขาเงียบ รอฟังดีฟอธิบายต่อ

“ แต่....อยู่มาวันหนึ่งเธอมาบอกเลิกฉันเพราะเธอเจอคนอื่นที่ใช่ เรื่องก็มีอยู่แค่นี้ “

“ เอี๊ยด “ ร่างสูงเล่าจบจึงหยุดรถ เมษตกใจ เขาไม่น่าถามออกไปอย่างนั้นเลยและตกใจที่ดีฟหยุดรถหลังจากเล่าเรื่องราวของเขาให้เมษฟัง ร่างสูงจ้องมองไปที่ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย เขารู้สึกชอบดวงตาคู่นั้น เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างแฝงอยู่ในนั้น

 

“ นี่ มองฉันทำไม ? “ ผมถามเมื่อไอดีฟมันหยุดรถแล้วเอาแต่จ้องตาผม แต่มันหาฟังผมไม่ ! ไอดีฟขยับตัวเข้าหาผม ใจผมเต้นแรง

 

ดีฟเลื่อนมือไปสัมผัสบนใบหน้าเนียนขาวของร่างบาง เขารู้สึกชอบร่างบาง ทั้งๆที่เขาไม่น่าจะมีความรักคงเพราะร่างบางตรงหน้าคอยป่วนเขา คอยตามเขาเพื่อที่จะกลั่นแกล้งเขา เขาไม่อยากเจ็บซ้ำสอง หากเขาพูดออกไปร่างบางจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับเขาอย่างไร เพราะทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้เมษ มันรู้สึกอบอุ่น เขาชอบในความปากมากของเมษ ความร่างเริงของเมษ ทำให้ดีฟหลงรักเมษ

 

“ฉันรักนาย “ ไอดีฟเอ่ย นี่ผมหูฝาดหรือเปล่า ผมเป็นผู้ชายนะ

 

ตึก ตึก หัวใจผมเต้นดังไม่หยุด ทำไมผมต้องใจเต้น

 

“ แต่เป็นผู้ชายด้วยกัน.....” ผมตอบอย่างลังเล พอถูกสารภาพแบบนี้ผมทำอะไรไม่ถูก

“ ไม่เห็นเป็นไร....”ไอดีฟบอกเสียงเรียบมันลดมือไปปลดที่คาดเข็มขัด มะ มันจะทำอะไรผม ! มันต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ผมเป็นผู้ชายนะเว่ย

“ เฮ้ย ออกไป ! “ ผมใช้มือดันร่างสูงเมื่อไอดีฟมันเข้าใกล้ผมมากเกินไป แต่ถึงอย่างไรผลก็ออกมาเท่าเดิน แรงมันเยอะกว่าผมตั้งหลายเท่า ร่างสูงจับแขนร่างบาง ร่างบางร้องโอย เขาหลงใหลร่างบางเหลือเกิน...... เขาค่อยโน้มใบหน้าประกบทาบริมฝีปากเรียวบาง

“ อื้อ “ ร่างบางไม่ยอมเปิดปาก เขาใช้ลิ้นร้อนเลียปากเรียวจนยอมเปิดออก

 

ลิ้นของไอดีฟเข้ามาเล่นซุกซนภายในปากผม มันตวัดควานหาอะไรสักอย่าง ผมพยายามบิดแขนทั้งสองข้างแต่ไม่ได้ผม   ไอดีฟจับที่ท้ายทอยของผม

“ อือออ อืมมม...” รสจูบของหมอนี่มัน...นุ่มนวล อ่อนโยน จนผมเริ่มเคลิ้มตามรสจูบของไอดีฟ ไอดีฟเปลี่ยนจากจับแขนผมเป็นกอดผมแทน

“ อื้ม “ ร่างบางส่งเสียงเพื่อบอกสัญญาณว่าหายใจไม่ออก ร่างสูงจึงผละจูบออก เขาก้มลงสูดดมซอกคอขาวนั้น เมษสะดุ้งเฮือกทันที

“ จะ จะทำอะไร ! “ผมถาม

“ จูบไม่เป็นสินะ “ ในชีวิตใครจะจูบเป็นวะ ในชีวิตไม่เคยจูบใคร และนี่ก็เป็นครั้งแรกของผม ไอเวรเอ๊ย !!

“ ไอเลว ! “ ผมสบถด่ามัน ผมพยายามจะดันออกแต่ไอดีฟกลับกอดผมแน่นยิ่งขึ้น!

“ ได้โปรด.... “ เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสลด บรรยากาศภายในรถเริ่มเปลี่ยนไป

“ อะไร ? “

“ เป็นแฟนกับฉันได้มั้ย ? “ ดีฟเอ่ย เขาอยากรู้คำตอบของร่างเล็กที่เขากำลังกอดแน่นอยู่   หัวใจของเขาสั่งให้ปากพูดไป เขารู้ว่าเรื่องรักแบบนี้มันคงเป็นไปไม่ได้แต่เขารักร่างเล็ก ไม่ใช่เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบหรอก

“ ทำไมต้องมาบอกแบบนี้กับฉัน “ ผมบอกเชิงปฏิเสธ ผมไม่ชอบความรัก ผมไม่อยากมีความรัก ผมไม่อยากทำให้ใครต้องมาเจ็บตัวเพราะผม.....

“ เพราะว่าฉันรักนาย... “ ดีฟคลายกอดแล้วจ้องตาผม ผมรู้สึกหวั่นๆอย่างบอกไม่ถูก อย่าบอกนะว่าไอรี่มันรักผมจริงหรือว่ามันแกล้งผม

“ แต่ฉันไม่ได้รักนาย “ ผมบอก ไอดีฟทำหน้าเสียดายเล็กน้อย

“ หึ ก็ได้ แต่ฉันจะทำให้นายรักฉันให้ได้ เมษ “

“ อยากทำก็ทำไป ฉันไม่สน... “ ผมกอดอกสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น ดีฟยิ้มและฉวยโอกาสที่เมษหันไปทางอื่น

ฟอด ร่างสูงหอมแก้มร่างเล็กที่ไม่สนใจเขา ร่างเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำทันทีพร้อมกับด่าร่างสูงยกใหญ่

“ ไอบ้า อีวิปริต ไอ.../ถ้าพูดอีกคำฉันจะจับกดซะ “ ระหว่างทที่ร่างเล็กด้วยอารมณ์เดือดถูกร่างสูงพูดตัดบทซะก่อน เมื่อเมษได้ยินจึงหุบปากเงียบ

 

    

“ ไอบ้าเอ๊ย มึงมันเลวที่สุด ไอ ไอ ไอกร๊วกเอ๊ย !“ ผมด่าไอดีฟในใจ

เรื่องบ้าๆแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นในชีวิตของผม ผมนี่ซวยจริงๆ ผมว่าแล้วไอดีฟมันไว้ใจไม่ได้ ผมไม่เชื่อว่ามันรักผม ใครมันจะลืมคนที่เรารักได้เร็วขนาดนี้ ตั้ง 1 ปีเชียวนะ

ผมไม่อยากเจ็บปวดเพราะการที่ต้องไปผูกมัดหรือให้ความรักกับใครสักคน ผมกลัว กลัวว่าผมจะปกป้องคนที่ผมรักไม่ได้ เหมือนที่ผมปกป้องผู้เป็นที่รักของผม......

 

 

 

“ แม่ครับ “

 

 

 

วันต่อมา

ไอดีฟส่งผมเช่นเคย ผมไม่พูดสักคำ พอรถจอดผมก็รีบลงจากรถ ไม่อยากเจอหน้ามัน ผมเกลียดคำว่า “รัก “ เมื่อเท้าถึงพื้นจึงรีบวิ่งออกไปโดยไม่คิดชีวิต

“ นี่ เมษ ! “ ไอดีฟวิ่งไล่ตามผมมา ผมมองหาที่ซ่อน ขณะนี้ผมวิ่งออกจากลานรถ ผมมองหาที่ซ่อน ไอดีฟยังคงวิ่งต้อนผมอยู่ ผมเห็นต้นไม่ใหญ่ต้นหนึ่งสามารถซ่อนได้เป็นอย่างดี ผมรีบวิ่งหลบเข้าไปในหญ้าซ่อนตัว ไอดีฟที่ออกมาจึงหาผมไม่เจอ ผมนั่งพักหายใจ ไอดีฟยังคงเดินหาผมวนเวียนอยู่แถวนี้ ไอ้ดีฟ มึงไปได้แล้ว....เสียงฝีเท้าไปดีฟหยุด แต่มีเสียงอื่นเข้ามาแทน

“ ดีฟ มาทำอะไรตรงนี้น่ะคะ “ เสียงใสเอ่ย ผมค่อยๆชะเง้อคอขึ้นมาดู พี่เมย์เดินมาหาไอดีฟมัน

“ อ่อ เปล่า “ ไอดีฟทำเหมือนไม่มีอะไร หึ สุดท้ายมันก็บอกสารภาพผมหลอกๆ เมย์เดินมากอดไอดีฟ ผมมองภาพนั้น พวกเขาช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน ดีฟไม่ขัดขืนอะไร ทำไมล่ะ เอ๊ะ แต่ก็ดีแล้วนี่

“ ดีฟ เมย์ขอโอกาสได้มั้ย “

“ ไม่ “ ไอดีฟตอบปฏิเสธ เธอกำหมัดยับยั้งอารมณ์ ใบหน้าของเธอเลื่อนไปที่ข้างหูพร้อมกับพูดอะไรซักอย่าง ผมไม่ได้ยิน

“ เมย์ ! “

“ว่ายังไงล่ะ “ เธอทวงถาม

“ ได้...ห้ามผิดสัญญาล่ะ “ หัวใจผมกระตุก

 

แปล๊บ !!

 

มันรู้สึกเจ็บแปล๊บที่หน้าอก ทั้งๆที่มันบอกรักแต่มันกลับ...อึก....กลับไปคบกับผู้หญิงคนนี้ ผมรอให้สองคนนั้นเดินออกไปผมจึงใช้จังหวะนั้นเดินหนี ผมวิ่งเข้าห้องน้ำในตึก   ผมเดินเข้าไปเลือกห้องลึกๆแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาช้าๆ

“........” ผมร้องเก็บเสียง แต่มีเสียงสะอื้นออกมาเล็กน้อย

            ผมทำไมมึงมันโง่แบบนี้ “ ไอเมษ “ ใครมันจะมารักเราได้ชั่ววันข้ามคืนแบบนี้ล่ะ ผมไม่น่าเผลอให้มันจูบ ผมไม่น่าเชื่อใจมัน  

 

“ นี่ มึง ได้ยินข่าวลือรึเปล่า “ นร.ชายตุ๊ดซักถามเพื่อนสนิทตน

“ อะไรหรอมึง “ เพื่อนสนิทถามกลับ

“ ก็ข่าวลือที่ว่า พี่ดีฟกัพี่เมย์เดินจับมือด้วยกันน่ะ มึงว่าเหมาะสมกันดีเนาะ “

“ อื้อ คู่นี้เหมาะสมกันมาเลยล่ะ “

“ แต่ก่อนหน้านี้เห็นมีข่าวลืออีกอย่าง มีนร.ชาย ม.4 สลบแล้วพี่ดีฟพาไปส่งที่ห้องพยาบาล“

“ โครตอ่อนแอเลยว่ะแก.....” ไม่นาน นร.ปากเสียก็ออกจากห้อง เหลือเพียงร่างเล็กที่นั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำอย่างเดียวดาย

            เขารู้สึกเหมือนมีอะไรมาเสียบแทงที่หน้าอก มันเจ็บปวดมากที่สุด ขนาดแค่ได้ยินข่าวลือเมย์กับดีฟจับมือกันแทบจะขาดใจตาย ไม่พอยังถูกใครต่อใครดูถูกเหยียดหยาม เขาเจ็บเหลือเกิน   ในเมื่อไม่มีใครเข้ามาห้องน้ำ เขาจึงปล่อยร้องโฮออกมา

 

แต่ทว่า...เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ นร.ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ

 

นร.ชายเดินเข้ามาพบว่ามีเสียงใครบางคนกำลังร้องไห้อยู่ที่นี่ ภายในห้องน้ำ เขากลัวจับใจ เขาเตรียมเท้าจะวิ่งออก แต่......

“ ฮือ ฮือ “

“ เฮ้ย ผะผี....” นร.ชายพึมพำ

“ ฮือฮือ “ แต่พอฟังดีๆกลับไม่ใช่ เขาจำเสียงนี้ได้ เขาเดินตามต้นเสียงจนมาหยุด ณ ห้องห้องๆหนึ่ง เขาเคาะประตู

“ นี่ ใครอ่ะ “

“ ฮือ ฮือ “

“ มึงเป็นเหี้ยไรสัส.... “

“ฮือฮือ” เสียงข้างในเอาแต่ร้องไห้ เขาเริ่มรำคาญ จึงเตะประตู จนคนข้างในต้องเปิดประตูออกมา

 

“ ปัก ปัก ปัก “ ไอคนข้างนอกมันเตะประตู ผมจึงตัดสินใจเปิดออกไปอย่างกล้าๆกลัว ไอคนที่เตะประตูมันคือ.....

“ ไอตุล “

“ ไอเมษ.....มึงเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้ ? “ ไอตุลถามผม ผมเข้าโผกอดเพื่อนรักของผม ผมกอดมันแน่น ผมปล่อยให้น้ำตาไหล ไอตุลไม่ได้ถาม ถึงถามผมก็ไม่ตอบอะไร ผมร้องไห้จนตัวสั่น  

“ นี่ ไอเมษ มึงจะบิกกูได้ยังว่ามึงเป็นอะไร “

“ ไม่ มันไม่สำคัญ “

“ มึง ถ้าปล่อยไว้คนเดียวมึงน่ะจะลำบากนะ “ไอตุลพูดพลางจับบ่าผมทั้งสองข้าง ผมไม่อยากให้มันต้องมาลำบากใจเพราะผม

“ ไม่เป็นไร กูไม่เป็นไร ^_^ “ ผมแสร้งยิ้มแล้วแกะมือมัน ไอตุลถอนหายใจ

“ มึงไปล้างหน้าหก่อนไป “ ผมเดินไปล้างหน้าพอเสร็จมันก็จูงผมขึ้นห้อง ผมเดินไปยังที่ของตัวเอง ไอกันย์ยังไม่มา แปลกแฮะปกตอมันจะมาเร็วกว่าพวกผม แต่วันนี้มันกลับมาช้ากว่าพวกเรา ผมนั่งลงแล้วมองเหม่อลอยออกนอกหน้าต่าง

 

            ไอดีฟ มึงมันเลว มึงแค้นอะไรกูนักหนาถึงปั่นหัวผม ผมจะไม่เชื่อใจมันอีก   ต่อไปนี้ผมจะไม่เชื่อฟังนอกจากคำสั่งที่พี่ผมบอกมัน ผมต้องเข้มแข็งสิ อา น้ำตาผมจะไหลอีกแล้ว ไม่ ผมต้องอดทน ....

 

“ สวัสดีเพื่อนทั้งหลาย “ เสียงของไอกันย์ทักทายพวกผม ผมหันไป ไอกันย์สะดุ้งเมื่อเห็นผมทำหนน้าตาซึม

“ เฮ้ย มึงทำไมตาบวม “ ไอกันย์ถามด้วยความเป็นห่วง

“ ไม่มีอะไร “ ผมตอบมัน แล้วมองเหม่อไปทางหน้าต่าง ผมเสียบสายหูฟังเข้าโทรศัพท์แล้วฟังเพลงไปเรื่อย

 

กันย์นั่งลงพลางมองเมษ เขาสะกิดตุล

“ ไอตุล ไอเมษเป็นไรวะ “

“ กูไม่รู้ แต่กูเห็นมันในห้องน้ำนั่งร้องไห้....มันร้องหนักมาก กูถามมันไม่ยอมบอกว่ะ “ ตุลบอกกันย์ หรือว่ามันจะอกหักวะ กันย์คิดในใจ

“ มึงกูว่าไอเมษเหมือนคนอกหักเลยวะ “ กันย์บอกเสียงเบากลัวเมษจะได้ยิน

“ ไอเมษเนี่ยนะ “ตุลพูดอย่างไม่เชื่อ

“ มึงก็ลองดูดิ ปกติมันเป็นแบบนี้เหรอ “ กันย์พูดให้ตุลคิดตาม ตุลก็เชื่อคำบอกของกันย์ พวกเขาตกลงกันเฝ้าดูอาการของเมษอยู่ใกล้ พวกเขาคิดว่าเมษต้องมีอะไรปิดบังพวกเขาอยู่แน่ พวกเขาอยากให้เมษกลับมาเป็นคนที่แจ่มใสร่าเริงอีกครั้ง

 

 

“ นี่ ทุกคน ครูศิริบอกให้เราไปเรียนโรงยิมแต่จะมีห้องอื่นมาเรียนด้วย “ หัวหน้าห้องเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลูกน้องทราบ คาบนี้คาบพละ พวกเมษจึงเตรียมพร้อมที่จะลงไป เมษยังคงมีบุคลิกเช่นเดิม คนที่ซึมเศร้า ไม่พูดคุยกับใครแม้กระทั่งเพื่อนในกลุ่มของตนเอง

   นักเรียนทุกคนต่างนั่งกันเป็นแถว พวกเมษรีบนั่งลงเพราะคุณครูกำลังเข้ามา พร้อมกับ นร.ต่างห้อง

“มึง นั่น ห้อง 5/8 “ กันย์เอ่ย ผมสะดุ้ง ไอดีฟมันเรียนห้อง 5/8 แค่ทำเป็นไม่สนใจก็พอ มันกำลังเดินมาพร้อมกับเพื่อนมัน ครูศิริบอกให้พวกมันทั่งคู๋กับห้องเรา เราแถว4 แถวมันเดินเข้ามาต่อแถวเรา ทำไมบังเอิญอย่างนี้วะ มันนั่งลง ผมเบนหน้านี้ ไม่อยากเห็นหน้ามัน

“ กึก “ มือผมสั่น ผมพยายามยับยั้งควบคุมอารมณ์   ผมลองเหลือตาไปมองไปดีฟ ไอดีฟกำลังคุยกับผู้หญิงที่มันยอมตกลงคบ

“ ดีฟ วันนี้ไปส่งเมย์หน่อยสิ “ เธออ้อนวอนขอร้องไอดีฟ

“ เอ่อ ก็ได้ “มันตอบตกลงผู้หญิงคนนั้นแล้วกลับมามองผม

“ รู้แล้ว ! “ผมขึ้นเสียงพูดตัดบทพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

            ผมอยากให้เวลาหมุนผ่านเร็วๆ ผมไม่อยากนั่งตรงนี้ ผมไม่ชอบ

“ ดีฟ เมย์อยากนั่งกลับกับดีฟสองต่อสอง “เมย์เธอพูดอ้อนไอดีฟมัน สองต่อสอง ผมคงเป็นถ่วง ไปขัดก้างขวางคอสินะ

“ แต่เมย์...”ไอดีฟเอ่ยอยากลังเล ผมสงสัย มันจะลังเลอะไร ในเมื่อตัวแองเต็มใจกลับมาคบกับเธอ

“ ไปเถอะ ฉันกลับเองก็ได้ และก็นายไม่ต้องห่วงหรอก แฟนนายอยากกลับกับนายไม่ใช่ เหรอ ^___^ “ ผมบอกมันพร้อมกับแสร้งยิ้มให้   ไอดีฟขมวดคิ้วก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ดิ้ง ด่อง “ เสียงออดดัง

 

“ นร ทำความเคารพ “ หัวหน้าห้องบอก                                  

“ ขอบคุณค่ะ/ครับ “ นร.ทั้งชายและหญิงต่างยกมือไหว้ทำความเคารพครูศิริตามมารยาทไทย   นร.ต่างพากันออกจากโรงยิมหลังจากที่เลิกเรียนคาบสุดท้าย ผมค่อยๆลุก

“ นี่ มึง ไอเมษ ทำไมมึงทำหน้าเหมือนคนอยากตายจังวะ ? “ ไอกันย์มันถามผมระหว่างที่ผมกำลังเดินไปหา ไอรี่มันปากเสีย ใครมันทำหน้าอยากตาย ผมคิดว่าผมก็ทำหน้าปกติดีนะ

“กูทำหน้าปกติ “ผมตอบ

“ เออ “มันตอบ ผมแลหาไอตุลเห็นมันกำลังทะเลาะกับพี่ดิว คู่นี้ดูสนุกสนานดีเนาะ ดูร่าเริงถึงแม้จะเต็มไปด้วยคำด่า  ผมยิ้มแสดงความยินดีให้กับไอตุลกับพี่ดิว นี่ผมคงเพี้ยนไปแล้ว ยิ้มอยู่คนเดียว

“ ดีฟค่ะ เราไปกันเถอะ “ ผู้หญิงเสียงใสเอ่ยแล้วยื่นมือไปเกาะแขนดีฟชายร่างสูง  

“ อืม...ไอดิวกูไปก่อนนะ กูรีบ “ ดีฟบอกดิวผู้เป็นเพื่อนก่อนจะรีบออกจากสถานที่แห่งนี้ เขาไม่อยากให้คนที่เขารักต้องเจ็บปวดเพราะยืนทนเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้  

 

ร่างสูงบอกพี่ดิวก่อนจะรีบเดินออกจากที่นี่   ผมเจ็บแปล๊บที่หัวใจเมื่อได้เห็นภาพบาดตาภาพนั้น ภาพที่ผู้หญิงคนนั้นเดินกอดไอดีฟ......ทำไมผมถึงเจ็บ ผมเอามือกุมที่หน้าอก

“ ไอเมษ มึงเป็นอะไร ! “ ไอกันย์ถาม   ผมเดินไปกอดมัน มันพยายามจะแกะด้วยความสยิวขนลุก ผมก้มหน้าซบลงบ่าไอกันย์มัน เสียงคู่ที่ทะเลาะห่างจากพวกเราเล็กน้อยค่อยๆเงียบแล้วเดินมาทางเมษ....

“ไอเมษ มึงเป็นไร “ กันย์ถาม เมษไม่บอกแต่มีเสียงสะอื้นแทน

“ ไอเมษมึงร้องไห้....” กันย์พูดพร้อมกับเลื่อนมือขึ้นลูบกลุ่มไรผมสีน้ำตาลเงางามนั้น เมษกอดรัดร่างของเพื่อนแน่นยิ่งขึ้นด้วยความรู้สึกกลัว....

            ตุลสาวเท้าเดินเข้าไปหากันย์ที่ถูกเมษกอดดิวเดินตามหลังมา เขารู้สึกรำคาญมาก เขาไม่ชอบร่างสูงซะเลย   เมื่อเขาไปถึงเขาได้ยินเมษร้องไห้   ตุลมองหน้กันย์ที่กำลังลูบหัวร่างเล็ก

“ กันย์ เมษเป็นไร ? “ตุลถามเสียงแผ่ว กันย์ส่ายหน้าด้วยความไม่รู้

 

 

“ ไอเมษ มึงเป็นไร บอกพวกกูก็ได้ “ ไอตุลเอ่ย ผมชะงัก ถ้าผมบอกแล้วพวกมันจะรับได้มั้ย

“ อึก...”

“ อย่างน้อยพวกกูจะได้ช่วยเหลือมึงได้นะเมษ “ กันย์บอกผม ช่วยหรอ มันอาจจะป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ถ้าผมบอกมันจะชอบผมมั้ย ผมกลัวพวกมันตัดเพื่อนกับผม

            ผมผละตัวออกผมหยุดร้องแต่ปนเสียงสะอื้นเล็กน้อย ผมมองหน้าไอ้สองคนนี่

“ กูจะเล่านะ...” ผมเอ่ย ก่อนที่ผมจะเล่าไอตุลไล่พี่ดิวให้ไปไกลๆก่อน

“ กูจะเล่าล่ะนะ....” ผมเล่าเรื่องราวให้หมด

            ผมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เรื่องที่ไอดีฟมาสารภาพรักผมและเข้ามาจูบผมตอนแรกพวกมันทั้งสองคนก็อึ้งแต่ก็กลับมาฟังผมเล่าต่อเรื่องความสัมพันธ์ของดีฟกับเมย์  น้ำตาผมเริ่มไหลออมาอีกครั้ง ผมเจ็บมาก

“ ฮึก กูจะทำยังไงดี.....”ผมร้องไปเช็ดน้ำตาไป ผมเม้มปากกัดปากตัวเองจนปากแตก

“ ไอเมษ “ ตุลเอ่ยด้วยความตกใจแล้วเข้ากอดผมอีกครั้ง      

            ไออุ่นจากร่างกายร่างเพื่อนผมมันทำให้ผมอบอุ่นขึ้นมา ผมปล่อยร้องออกมา ผมคิดว่าการร้องไห้ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่มีครั้งต่อไปเด็ดขาด ผมต้องเข้มแข็งต่อมา [ แฮะๆๆ ดราม่านิดนึงคงไม่เป็นอะไรนะคะ รีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน ^[ ]^ ‘’: ไรท์เตอร์]

 

 

ทางด้านดีฟ : DeeF

            ผมจำใจต้องกลับไปคบกับเมย์อีกครั้ง   ทุกคนคิดว่าผมเป็นคนขี้ขลาดก็ได้ ผมไม่อยากคนที่ผมรักต้องเป็นอะไร เพราะผมเคยเสียคนที่ผมรักมากๆผมปกป้องเขาไม่ได้ ผมกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนั้นซ้ำสองกับร่างเล็ก ผลเลยยอมทำตามข้อตกลงของเมย์

 

ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อตอนเช้า

ผมวิ่งไล่ตามร่างเล็กแต่คลาดซะก่อน ผมเดินหาเมษ ระหว่างที่หาคนเสียงใสทักผมแล้วเดินมาทางผม

“ ดีฟ มาทำอะไรตรงนี้น่ะคะ “ เมย์ทักผมแล้วเดินเข้าใกล้ผม เธอคิดจะทำอะไร

“ อ่อ เปล่า “ ผมตอบ แต่ที่จริงผมกำลังหาเมษอยู่  ไอ้ตัวแสบ เมย์เข้าสวมกอดผม

“ ดีฟ เมย์ขอโอกาสได้มั้ย “ เธอเอ่ยแล้วตีหน้าเศร้า ผู้หญิงคนนี้ผมแทบไม่เหลือใจให้เธออีกแล้ว ผมมีใจให้ร่างเล็กต่างหาก

“ ไม่ “ ผมปฏิเสธ เธอทำหน้าตกใจ เธอเลื่อนใบหน้าขึ้นที่ข้างใบหูผม

“ถ้าไม่คบเมย์รับรองความปลอดภัยของไอเด็กนั่นหรอกนะ....หึ “ เธอพูดกระซิบข้างหูพร้อมแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“ เมย์ ! “ ผมขึ้นเสียง

“ว่ายังไงล่ะ “ เธอทวงถาม

            เรื่องเมื่อวานผมคิดจะทำกับร่างบางจริงๆ เรื่องที่ผมสารภาพรักผมบอกเมษออกมาจากใจจริง แต่วันนี้ผมต้องตอบตกลงหาไม่ตอบเมษจะไม่ปลอดภัย เมย์เธอเป็นผู้หญิงที่อันตราย เธอทำทุกอย่างได้เพื่อคนที่เธอรัก.....นี่ล่ะคือข้อเสียของเธอ ผมตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง

“ ได้...ห้ามผิดสัญญาล่ะ “ ผมตัดสินใจตอบตกลง เธอทำหน้าดีใจ

 

กลับมาที่ปัจจุบัน

ผมกำลังขับรถไปส่งเมย์ที่บ้าน ระหว่างทางผมเอาแต่คิดแต่เรื่องเมษ เมษจะสบายดีรึเปล่า แต่มันเป็นไปไม่ได้ เมษต้องโกรธผมมากอยู่แน่ๆเลย......

“ เมย์ เธอทำแบบนี้ต้องการอะไร ? “ ผมเอ่ยถาม ผมจำได้ว่าเมื่อตอนก่อนจะออกจากโรงพยาบาลเธอยังเกลียดเมษพร้อมกับใช้คำพูดท้าทาย

“ เมย์อยากให้ดีฟกลับมาคบ “เมย์เอ่ย

“ แล้วทำไมตอนนั้นเธอถึงบอกเลิกกับฉัน “ ผมถามแล้วจ้องตาเธอ เธอกลอกตาไปมา ผมจึงหยุดรถริมถนนเพื่อรอคำตอบจากเธอ

“ เมย์ขอโทษ....เมย์มันผู้หญิงสองใจ”เธอตอบผม สองใจเหรอ ?

“ หมายความว่าไง ? เมย์ “

“ มะ เมย์...เมย์ดันไปรักคนๆนึงเข้า “ ผมจึงรู้คำตอบว่าทำไมเมย์ถึงเลิกคบ แต่อย่าคิดนะว่าผมจะมีใจให้เธอ ผมแทบไม่ได้มีใจให้เธอ ผมรักเมษเท่านั้น ไม่รู้ทำไมผมถึงรักเด็กนั่น เด็กนั่นเหมือนมีอะไรดลใจให้ผมหลงใหลมัน

“ แค่นี้ใช่มั้ย...” จากนั้นผมจึงออกรถ เมย์ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร   พอมาถึงหน้าบ้านผมก็โบกมือลาทำใบหน้าเรียบเฉยแล้วขับรถกลับไปบ้านเมษ.......

จบ ParT DeeF

 

 

ผมเดินกลับบ้านกับพวกเพื่อนผมแต่วันนี้มีพี่ดิวติดเข้ามาในกลุ่มกับพวกเรา พี่เขามักจะเดินข้างๆไอตุลประจำ ไอตุลมันทำหน้าขยะแขยง

“ เฮ้ย มึงพรุ่งนี้เจอกัน ^_^ “ ผมโบกมือลาพร้อมกับยิ้มให้ไอตุลกับไอกันย์   ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้วล่ะหลังจากที่ได้ปลดปล่อยความทุกข์ในใจอย่างเต็มที่ ผมเดินเข้าซอยที่ 15 แล้วเดินไปยังตัวบ้าน บ้านผมอยู่หลังที่สามจากฝั่งซ้าย บ้านไอตุลอยู่ถัดจากซอยผมไปสามซอย ส่วนไอกันย์อยู่ไกล ซอย 21

            ผมสาวเท้าเดินเข้าบ้านวันนี้ผมไม่ได้ขึ้นห้องตามเคย ผมเดินเลี้ยวไปหลังตัวบ้านบ้าน เดินเข้าไปยังสระว่ายน้ำ

ผมเดินไปที่ขอบสระแล้วนั่งลงวางกระเป๋าข้างๆ ตัว   ผมค่อยๆหย่อนขาลงในน้ำสีฟ้าใสสะอาด

 

 

“ ฟิ้ว...” เสียงของลมพัดผ่านร่างบาง ไรผมสีน้ำตาลปลิวไสวตามทิศทางของลม   สายตาคู่สวยเหม่อลอยย้อนถึงภาพความทรงจำของร่างบางในวัยเยาว์.......

 

 

ภายในห้องนอนผนังสีครีมอ่อน มีร่างญิงวัยกลางคนผู้เป็นแม่นอนกล่อมลูกน้อยที่กำลังนอนตักเธอ แสงสีส้มของโคมไฟที่สว่างทำให้แม่ลูกสองคนเป็นจุดเด่นของห้องนี้ เธอค่อยเขยื้อนปากขับร้องบทเพลงแสนไพเราะพร้อมกับลูบศรีษะของลูกน้อยที่เคลิ้มเป็นอย่างดี.........เธอมองลูกด้วยแววตาโศกเศร้า เธอสงสารลูก เพราะอะไรกันนะ ?

 

ย้อนกลับมาปัจจุบัน

 

ร่างบางยังคงนั่งแกว่งขาไปมาเสียงน้ำกระทบกัน เขานึกถึงเหตุการณ์ที่ตนยังอยู่กับแม่ เขาคิดถึงเหลือเกิน... ปากเรียวค่อยๆเขยื้อนออกช้าๆแล้วขับร้องบทเพลงในความทรงจำ

“ 夕月夜 顔だす 消えてく 子供の声

แหงนหน้ามอง แสงของพระจันทร์ยามพลบค่ำ

เสียงของเด็กๆที่วิ่งเล่นกันเลือนหายไป

遠く遠く この空のどこかに 君はいるんだろう

ภายใต้ท้องฟ้านี้ ไกลแสนไกล เธออยู่ที่ไหนกันนะ

 

夏の終わりに2人で抜け出した この公園で見つけた

あの星座 何だか 覚えてる?

เมื่ฤดูร้อนหมดลง เราสองคนออกมาเจอกันที่นี่

เธอยังจำหมู่ดาวนั้นได้อยู่มั๊ย

 

 

会えなくても 記憶をたどって 同じ幸せを見たいんだ

ถึงจะไม่ได้เจอกัน แต่ก็ยังมองเห็นความทรงจำที่มีความสุขนั้นอยู่ เหมือนมีเธอตรงนี้

あの香りとともに 花火がぱっと開く “

ได้กลิ่นของดอกไม้ไฟที่สว่างขึ้นมานั้นไปพร้อมๆกัน

 

ผมร้องบทเพลงของคนที่ผมอยากเจออีกครั้งที่สุด แต่ท่านก็ไม่อาจจะกลับมาอีกได้แล้ว   ดวงตาผมเริ่มร้อนผ่าว หยดน้ำอุ่นไหลลงอาบแก้มผม

“ ฮึก..” ผมร้องไห้อีกแล้ว ทำไมผมเป็นคนอ่อนแออย่างนี้นะ แค่ไอหมอนั่น จะไปร้องทำไม ผมใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา แต่มันกลับยิ่งไหลมากขึ้นเรื่อย

 

“ ตึก ตึก “ เสียงฝีเท้าใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในสระแล้วหยุดลง ทำให้ผมชะงักหยุดร้องไห้

 

“ เพลงเพราะดีนะ....” เสียงทุ้มหนักถามผม ผมไม่หันก็รู้ว่าเจ้าของเสียงนี้มันคือใคร....ผมเช็ดน้ำตาแล้วหยิบกระเป๋าแล้วยืนขึ้น   ผมหลบหนั้นไปทางอื่น ที่ที่ไม่มีไอใบหน้านั่น

“ ...........”ผมไม่พูดอะไร ผมรีบเดินออกจากที่นี่ แต่กลับถูกมือใหญ่จับแขนรั้งเอาไว้

“หมับ ! “ แขนใหญ่จับแขนเล็ก ผมหันไป ไอดีฟมันมองผมด้วยแววตาเศร้าๆแต่ผมไม่สนใจ ผมสะบัดแต่ไม่ได้ผม ไอดีฟยิ่งเพิ่มแรงบีบมากยิ่งขึ้น

“ ปล่อย ! “

“ ฉันมีเรื่องจะบอก “ไอดีฟพูดเสียงจริงจัง ผมควรจะเชื่อดีมั้ย ? แต่คนอย่างนายมันก็แค่คนหลอกลวงเท่านั้น

“ ปล่อยกู ! “ ผมสะบัดแต่มันรวบตัวผมเข้ากอดผม

“ ตุบ” กระเป๋าหล่นลงจกพื้น

 

“ เมษ ฟังกูก่อน “ไอดีฟมันบอก มันก็พูดคำหยาบได้นี่ ต่อไปผมคงไม่ต้องใช้ภาษาสุภาพแล้วล่ะนะ

“ ........”

“ กูรักมึงจริงๆนะ” คิดจะหลอกเราอีกงั้นเหรอ

“มึงหลอกกู”

“ กูพูดจริงๆ แต่ที่กูทำเพื่อความปลอดภัยของมึงนะ เมษ “ เพื่อความปลอดภัยหมายความยังไง มันทำเพื่อผม ผมดันตัวมันออก ผมมองไอดีฟอย่างตกใจ

“มึงพูดว่าไรนะ”

“เพื่อความปลอดภัยของมึง ถ้ากูไม่ทำ เมษ มึงจะถูกเมษจัดการ กูกลัวว่ามึงจะเป็นอะไรไปเพราะกู กูต้องทำตามที่เมย์บอกกู “ ดีฟพูดด้วยความสำนึกผิดและแย่   ผมควรจะเชื่อดีมั้ย

“ โกหก !! “ ผมขึ้นเสียงใส่มัน น้ำตาผมเริ่มไหลอีกครั้ง

ดีฟเดินเข้าไปหาร่างบางแต่ร่างบางผลัก ตัวเขาแค่ขยับถอยเล็กน้อย พอเขาเข้าใกล้ร่างบางร่างบางกลับทุบเขาใหญ่ เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของร่างบาง

“ เมษ ฟังกูก่อน “

“ กูไม่ฟัง “

“กูพูดเรื่องจริงนะ ! “

“ฮึก มึงมันคนหลอกลวง รักไม่..! “ ดีฟรีบประกบจูบทันทีก่อนที่ร่างบางจะพูดคำๆนั้นออกมา

 

“ อื้ม “ ผมถูกริมฝีปากใหญ่ทาบลงบนริมฝีปากเล็กเรียวของผม ลิ้นร้อนเลียตามปากล่างเมื่อผมไม่ยอมเปิดปาก   ไอดีฟมันจึงกัดปากผม ผมเผลออ้าปากจึงทำมห้อีกฝ่ายฉวยโอกาสนั้นไว้

“ อื้ออ  อืออ ...”ผมส่งเสียงในลำคอแล้วใช้มือที่ว่างอยู่ข้างหนึ่งทุบมันแต่มันไม่เป็นผลเลย

“ อื้อออ อือออ.....”ลิ้นร้อนเล่นซุกซนในโพรงปากผม มันควานหาอะไรบางอย่าง ผมคล้อยตามรสจูบของมัน เจ็บใจนัก ขาผมเริ่มอ่อนแรง ขาผมค่อยๆทรุดลง ไอดีฟผละจูงผม

“ ฮือ ฮือ ทำไมมึงทำกับกูอย่างนี้ “ผมร้องเสียงสะอื้น

“ เมษ กูรักมึงจริงๆนะ กูกับเมย์เราเลิกกันแล้วนะ กูทำเพื่อความปลอดภับของมึง กูไม่อยากเสียคนที่กูรัก กูไม่อยากให้ใครทำร้ายมึง “ไอดีฟเข้าสวมกอด ผมไม่เห็นใบหน้าตอนนี้ของมัน แต่รู้ว่ามันคงจะพูดความจริงกับผม  

“ กูเชื่อมึงได้มั้ย ? “ ผมเอ่ยเสียงแผ่ว

“ ได้สิ กูจะพิสูนจ์ให้มึงดู “

“ เหรอ...กูรัก....”ผมกำลังจะพูดแต่ปลืกตาผมมันหนักอึ้ง เห็นแต่ภาพสีดำ

“ เมษ..เมษ”ดีฟเรียกเมษเมื่อเสียงเมษมันเงียบขาดตอน เขาลองหันไปเผชิญใบหน้าเรียวสวยพบว่าเมษสลบ   เขายิ้มแล้วอุ้มแล้วค่อยๆประคองเมษพร้อมกับถือกระเป๋าของเมษไป....

 

 

________________________

 

ตอนนี้คงไม่สนุก ไม่ฟินกันนะคะ  พอดีแต่งพวกนี้ไม่ค่อยเก่งนะคะ

 

ขอบคุณค่ะ....

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา