ความรักของตุ๊กตา

9.0

เขียนโดย Kuroki

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 16.29 น.

  31 ตอน
  4 วิจารณ์
  34.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558 15.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) พลังเศษเสี้ยวที่1ของเรน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               หลังจากที่พวกเรนเดินออกจากถ้ำมาทางหัวกะโหลกก็พบกับทางเข้าป่าที่มีบรรยากาศที่สดชื่นมากๆพร้อมมีนกตัวเล็กๆบินผ่านไปและทางด้านหน้าทางเข้ามีพื้นหญ้ามากมายล้อมรอบ

             ‘’โห~~สุดยอดอากาศแถวนี้ดีสุดๆเลย’’       

             ‘’นั้นสิ อากาศดีสุดๆไปเลย’’

             ‘’กระผมก็เห็นด้วยนะ~~’’

              ทั้ง3คนยืนกางแขนเล็กน้อยพร้อมกับแล้วสุดอากาศเข้าลึกๆพร้อมกัน

             ‘’พวกคุณเอเลนนี้เหมือนพี่น้องเลยนะค่ะ’’แมร์รี่ยืนดูทั้ง3คนกำลังสูดอากาศกัน

             ‘’นั้นสินะ เหมือนจริงๆ’’เอมี่ยืนข้างๆแมร์รี่

             ‘’ไม่เหมือนสักนิด!’’เรน เกียร์ และเอเลนหันมาพูดพร้อมกัน

             ‘’เหมือนสิ~~’’เอมี่กับแมร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนพร้อมๆกัน

             ‘’ไม่เหมือน!!!’’เรน เกียร์ และเอเลนเถียงคำเดิม

             ‘’เหมือน!!!’’เอมี่กับแมร์รี่ก็เถียงสวนกลับไปเช่นกัน

               ทั้ง5คนยืนเถียงกันซ้ำไปซ้ำมาสัก10นาทีจู่ๆก็มีบางอย่างวิ่งออกมาจากป่าด้วยความเร็วเหนือเสียง5เท่าโดยที่เอเลน แมร์รี่ เอมี่ และเกียร์ไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่เถียงกันทันใดนั้นพวกเอเลน แมร์รี่ เอมี่ และเกียร์ก็ยืนนิ่งไปเพราะถูกเหมือนอะไรสักอย่างที่แหลมเหมือนเข็มมาจิ้มที่เส้นประสาทในการเคลื่อนไหวทำให้ทั้ง4คนหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราวทันทีและจู่ๆก็มีร่างของผู้หญิงผมสีคำคลับเหมือนความมืดมิดยาวเลยข้อพับเข่าไปนิดหน่อยมีหูกับหางเป็นแมวสีดำสูงประมาณ150cm.สวมชุดเกาะอกสีดำมรกระดิ่งที่ปลายเสื้อ มีปลอกคอสีดำตรงกลางปลอกคอมีจี้วงกลมสีม่วงมีดาวสีดำอยู่ตรงกลาง สวมกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีดำ มีปลอกแขนสีม่วงตรงข้อมือมีกำไลสีดำม่วง ถุงน่องสีม่วง ยืนอยู่ตรงหน้าเรนและแสยะยิ้มจนเห็นเขี้ยวแล้วใช้มือข้างขวาแทงเข้าที่อกข้างซ้ายไปเต็มๆทำให้เรนกระอักเลือดอย่างรุนแรงจนกระเด็นมาใส่หน้าผู้หญิงผมดำคนนั้นและทรุดลงกับพื้นไปนอนจมกองเลือดตัวเอง

              ‘’อั๊ก!!!’’เรนกระอักเลือดและทรุดลงไปนอนจมกองเลือดตัวเองกับพื้นและตาค่อยๆพร้ามัว

              ‘’กรี๊ด!!!!!ไม่นะเรน!!!!’’เมื่อสิ่งที่จิ้มเส้นประสาทคลายออกครบทั้ง4คนเอมี่ก็ตกใจและกรี๊ดลั่นและตัวสั่นกับสภาพของเรนที่นอนหายใจช้าเหมือนใกล้จะตายตาย

              ‘’เธอเป็นใครกัน!!!! ทำไมถึงต้องฆ่าเรนด้วยฮ้ะ!!!’’เกียร์หันไปตะคอกใส่ผู้หญิงผมสีดำคนนั้น

              ‘’นี้เธอ.........ยังไม่ตายอีกหรอยัยมังกรดำลูกครึ่งลูกผสม3สายพันธุ์....กระผมจำได้ว่าฆ่าเธอไปแล้วนี่’’เอเลนพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆและทำหน้าขมวดคิ้ว

              ‘’ใช่แล้วละ~ข้ายังไม่ตายนายนะประมาทไปนะตอนที่กำลังจะฆ่าข้านะเพราะว่าข้านะแบ่งพลังสำรองไว้ก่อนที่จะมาหานายไงละ ที่ทำไปข้าแค่อยากรู้ว่าหมอนี้ใช่เจ้านายของน้องสาวข้ารึป่าว’’ผู้หญิงผมสีดำพูดพร้อมกับหันไปมองเอเลนและเลียเลือดของเรนที่มือขวา

              ‘’เรน!!! เรน!!! ทำใจดีๆไว้นะเรน!! ’’แมร์รี่ประคองเรนและเขย่าตัวเรนเบาๆ

              ‘’นี้เธอ....ทำแบบนี้มันเกิดไปแล้วนะ อยากรู้อะไรกัน!!นี้มันจงใจฆ่าชัดๆเลยไม่ใช่หรอ!! สรุปเธอเป็นใครกันแน่!!ถึงบังอาจมาทำเพื่อฉันแบบนี้ได้ไง’’พอเอมี่ตั้งสติได้ก็เดินไปจับไหล่ทั้ง2ข้างของผู้หญิงผมดำไว้แน่นมากและจ้องมองหน้าของผู้หญิงคนนั้นด้วยแววตาที่โกรธจัด

              ‘’อะไรกันๆ~ ข้าบอกไปแล้วไงว่าข้าแค่อยากรู้ว่าใช่เจ้านายของน้องสาวของข้ารึป่าวทำไมถึงปล่อยให้น้องสาวของข้าเข้าสู่ความอันตรายแบบนี้และก็ยังปล่อยให้ยัยเอเรียสมาควบคุมจิตใจของน้องสาวฉันอีก แล้วก็นะดูดีๆสิหมอนั้นยังไม่ตายหรอกเห็นไหม’’พี่สาวของแพนโดร่าพูดพร้อมกับจับข้อมือของเอมี่ทั้ง2ข้างก่อนที่จะบีบอย่างแรงจนเอมี่ปล่อยทันทีและชี้ไปที่รอยแผลตรงอกข้างซ้ายของเรนที่ค่อยๆคืนสภาพเดิม

              ‘’อะ......เมื่อกี้.....เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ....’’เรนค่อยๆลืมตาพร้อมกับพูดด้วยเสียงที่เหมือนพึ่งจะตื่น

              ‘’เรน!! นายฟื้นแล้วเย้!!!’’แมร์รี่กอดเรนด้วยความดีใจ

              ‘’ปกติเธอไม่เคยใช้เลือดรักษาใครเลยนี้....แล้วไหงมาใช้กับเรนละ’’เอเลนพูดพร้อมกับกอดอกแล้วหันไปมองเรนที่กำลังโดนเอมี่กอด

              ‘’อะไรของนายละเอเลน เห็นโหดๆแบบนี้ก็ข้าก็นิสัยใจคอคล้ายๆกับแพนโดร่าน้องสาวข้านะย่ะ=_=+’’พี่สาวของแพนโดร่าพูดพร้อมกับยืนเท้าเอวพร้อมขมวดคิ้วแล้วส่ายหางแมวสีดำไปมาเหมือนแมวที่กำลังโกรธ

              ‘’ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ปล่อยให้น้องสาวของคุณไปเสี่ยงอันตราย...คุณ....เออ...ว่าแต่คุณรู้ได้ไงว่าผมเป็นเจ้านายของแพนโดร่านะ’’เรนลุกขึ้นยืนพร้อมกับกล่าวคำขอโทษแล้วมองไปที่ผู้หญิงพี่สาวของแพนโดร่าด้วยความสงสัย

              ‘’นั้นสิ แถมหน้าตาเธอเหมือนกับแพนโดร่าเปี๊ยบยังกับฝาแฝดกันเลย’’เกียร์พูดเสริมต่อจากเรน

              ‘’ใช่ๆ พอลองสังเกตดีๆแล้วหน้าคล้ายแพนโดร่ามากเลยละแต่ต่างตรงที่เธเตี้ยกว่าแพนโดร่าและ.....’’เอมี่พูดพลางจับจ้องตาไปที่น่าอกของคนที่เรียกแพนโดร่าว่าน้องสาวที่ใหญ่ซะจนสะดุดตา

              ‘’ทำไมจะไม่รู้ละก็เพราะข้าเป็นบรรพบุรุษของตระกูลอินฟีนีตี้ฮาร์ตของแพนโดร่าที่ฟื้นคืนชีพด้วยพลังของมังกรแห่งความมืดชื่อพลูเทีย มูนสตาร์’ดาร์กเนส’แบล็คดราก้อน(Plutia Moonstar’darkness’blackdragon)ไงละ’’พลูเทียพูดพร้อมกับยิ้มและกอดอก

              ‘’หรืออีกชื่อคือคุโระกิ อินฟีนีตี้ฮาร์ตใช่ไหมละ~’’เอเลนพูดสวนขึ้นมาก่อนที่พลูเทียจะพูดจบ

              ‘’นายอย่าพูดชื่อนี้ให้ฉันได้ยินอีกนะ.....ข้านะได้ทิ้งตัวตนในอดีตพร้อมกับชื่อนั้นไปแล้วละ ข้านะไม่อยากนึกถึงอดีตนั้นนะ’’พลูเทียพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งๆก่อนที่จะเปลี่ยนมือให้กลายเป็นกรงเล็บมังกรสีดำและพุ่งไปหาเอเลนด้วยความเร็วที่แม้แต่เอเลนยังมองไม่ทันพร้อมกับเอากรงเล็บจ่อที่คอเอเลน

              ‘’เอิ่ม.....ผมว่าอย่าพึ่งฆ่ากันตอนนี้เลยนะครับคุณพลูเทีย เอเลน’’เกียร์เดินไปห้ามทั้ง2

              ‘’ก็ได้...อ้อ!เกือบลืมพวกนายรีบๆตามข้ามาก่อนเดี๋ยวนี้’’มือของพลูเทียกลับมาเป็นปกติและเดินนำเข้าไปในป่าทันที

              ‘’ดะ เดี๋ยวสิ’’ทุกคนพูดพร้อมกันและรีบเดินตามพลูเทียยกเว้นเอเลนที่ไม่พูดและยืนนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางก่อนที่จะรีบเดินตามไปทุกๆคนไป พลูเทียก็เดินนำเข้าไปในป่าจนแสงที่สาดส่องมาตามต้นไม้เริ่มหายไปเพราะเริ่มเข้าสู่ทางป่าทึบ

              ‘’โอ้ย!! จะ...เจ็บจัง’’จู่ๆเอมี่ก็ล้มลงเพราะรู้สึกเจ็บข้อเท้าข้างซ้ายขึ้นมา

              ‘’อะ อาวเอมี่!!’’เกียร์หันไปมองทันทีเพราะได้ยินเสียงเอมี่ร้องและรีบไปพยุ่งเอมี่ขึ้นมา    

              ‘’ พวกมนุษย์นี่น้า....ความอดทนมีน้อยกันจริงๆแต่ก็นะพวกเธอแตกต่างจากข้าอยู่แล้วนิ’’พลูเทียหยุดเดินแล้วหันไปมองเกียร์ที่กำลังให้เอมี่ขี่หลังพร้อมกับยืนกอดอก

              ‘’แล้วจะพาพวกผมไปไหนหรอครับ’’เรน แมร์รี่ เอเลนและเกียร์หยุดเดินตามพลูเทีย แล้วเรนก็พูดถามพลูเทียที่กำลังยืนกอดอก

              ‘’ข้าจะพาไปที่บ้านพักข้านะ ที่ข้าพาไปก็เพราะข้าจะให้พวกเจ้าใช้ที่นั้นเป็นที่พักชั่วคราวก่อนเพราะถ้าพวกเจ้า5คนเดินไปเรื่อยๆโดยไม่มีใครนำทางพวกเจ้าตายอยู่ในป่าแน่ๆแล้วก็อีกไม่กี่ก้าวก็ถึงทางเข้าบ้านพักข้าแล้ว’’พลูเทียพูดพร้อมกับยืนเท้าเอวและชี้ไปทางข้างหน้าที่มีแต่ต้นไม้และพุ่มไม้เยอะแยะเต็มไปหมด

              ‘’แต่ข้างหน้ามันมีแต่ต้นไม้และพุ่มไม้ล้วนๆเลยนะจะเข้าไปยังไงละ’’แมร์รี่พูดแทรกขึ้นทันทีที่พลูเทียพูดจบพร้อมกับชี้ไปทางข้างหน้า

              ‘’จริงๆการที่จะเข้าไปต้องมีข้านำเข้านะเพราะไม่งั้นพวกเจ้าจะ.......’’ในขณะที่พลูเทียกำลังพูดเอเลนก็พูดแทรกขึ้นว่า

              ‘’แบบนี้สินะ’’เอเลนพูดแทรกพลูเทียพร้อมกับเดินไปทางที่แมร์รี่ชี้ จู่ๆเอเลนก็หายวับไปกับตาทันที

              ‘’เฮ้ย!! ถ้าเจ้าไปทั้งๆที่ไม่มีข้าระวังจะ.....’’พลูเทียพูดไม่ทันขาดคำเอเลนก็กระเด็นออกเหมือนโดนเหวี่ยงหน้าถะไหล่ไปกับพื้นจนรอยตามทางมาจากทางเข้าทันที

              ‘’เป็นอะไรไหมนะเอเลน=A=’’เรนเดินไปถามเอเลนที่นอนคว่ำหน้า

              ‘’ไม่ฟังข้าเองเป็นไงละ=-=’’พลูเทียยืนมองสภาพของเอเลนแล้วกระดิกหู

              ‘’เมื่อกี้ใครโยนข้าออกมานะ แล้วที่นี้ที่ไหน? แล้วฉันเป็นใคร?’’เอเลนลุกขึ้นมานั่งและทำหน้าเหม่อเหมือนเป็นคนลืมความจำ

              ‘’เอเลนสมองเสื่อมไปแล้ว!!!=[]=’’เรน เกียร์ เอมี่ และแมร์รี่ต่างพากันตกใจกันเป็นแถว

              ‘’เอากินนี้ซะเจ้าผู้บุกรุก!’’จู่ๆก็มีเสียงของชายหนุ่มคนนึงดังมาจากมิติทางเข้าบ้านพักของพลูเทียและมีผลไม้รูปร่างกลมเล็กเหมือนเชอร์รี่แต่เป็นสีม่วงอมดำกลิ้งไปหาเอเลนที่กำลังนั่งงง

              ‘’หืม?นี้ผลไม้อะไรเนี้ย โอ้ย!!’’เอเลนหันไปมองผลไม้รูปร่างคล้ายเชอร์รี่แต่ทีสีม่วงอมดำแล้วหยิบมันขึ้นมากินทันทีทันใดนั้นจู่ๆเอเลนก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทำให้ถึงกับลงไปนอนกับพื้น

              ‘’เอเลน!!’’เรนรีบวิ่งไปพยุ่งเอเลนและเริ่มตรวจอาการปวดหัวเอเลนทันทีโดยการที่เอามือไปแตะที่หน้าผากเอเลนแล้วหยิบยาแก้ปวดหัวแบบน้ำให้เอเลนกินผลของยานี้จะออกประมาณ3นาที

              ‘’เอ๋ ทำไมละทำไม่ถึงอาการปวดหัวไม่ลดละ’’เวลาผ่านไป3นาทีอาการของเอเลนที่นอนปวดหัวยังไม่หายทำให้เรนและคนอื่นๆกังวลสุดๆ

              ‘’เฮ้อ.....อัลทีมิสนี้ก็.....มานี้เดี๋ยวจัดการเอง’’พลูเทียผลักเรนออกแล้วยื่นมือไปจับหัวของเอเลนจู่ๆอสีดำก็ลอยออกมาจากหัวของเอลนทำให้อาการดีขึ้น

              ‘’อะ...เกิดอะไรขึ้นเนี้ย...พวกนายทำหน้ากังวลกันทำไมละนั้น=_=’’เอเลนลุกขึ้นแล้วมองหน้าพวกเรน เกียร์ เอมี่ที่มองเพราะเจ็บข้อเท้า และแมร์รี่ที่ทำหน้าแบบกังวลสุดๆ

              ‘’เอาละทีนี้เกียร์แบกเอมี่ตามข้ามาส่วนคนที่เหลือก็ตามด้วยละ’’เมื่อพลูเทียพูดจบเธอก็เดินนำเข้าทางเข้าทันที เกียร์ก็แบกเอมี่และคนอื่นๆก็ตามเข้าไปเช่นกัน

                หลังจากที่พลูเทียนำพวกเรนเข้ามิติทางเข้าไปจู่ๆก็มีร่างของชายหนุ่มสูงราวๆ197ผมสีส้มแดงไถเกรียนด้านซ้ายนิดหน่อย นัยต์ตาสีส้ม สวมเสื้อคลุมสีขาวมีฮู้ดเสื้อข้างในเป็นสีดำ มีปลอกแขนสั้นสีแดงและสวมกางเกงยีนสีดำปรากฏออกมาจากหลังต้นไม้ที่ห่างจากมิติทางเข้าประมาณ100เมตรกำลังแสยะยิ้มและพูดเบาๆว่า’’เจอตัวเธอแล้ว~’’หลังจากที่พูดจบชายคนนั้นก็หายไปทันที

              ‘’กลับมาแล้วทุกคน~’’พลูเทียพูดพร้อมกับเปิดประตูบ้านพักที่ลักษณะดูใหญ่มาก

              ‘’โอ้โห!!!=A=นี้บ้านพักหรือคฤหาสน์เนี้ย’’พวกเรนยืนอึ้งขนาดของบ้านอยู่หน้าประตูบ้านของพลูเทีย

              ‘’มัวยืนอะไรอยู่ละรีบตามาสิพวกเจ้านะ’’พลูเทียหันไปมองพวกเรนและยืนเท้าเอวพร้อมกับขมวดคิ้ว

              ‘’เจ้าพวกมนุษย์นั้นใครครับคุณหนู’’เสียงของชายหนุ่มสูงประมาณ170ผมยาวถึงบ่าสีดำมัดหางม้าเล็กๆไว้หลังหัวสวมชุดคล้ายๆพวกนายพล มีนัยต์ตาสีม่วงเข้มเหมือนกับอัญมณีเดินมาพลูเทียพร้อมกับมองพวกเรนด้วยสายตาที่ดุเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อให้ได้

              ‘’คนรู้จักฉันนะอัลทีมิส....อย่าคิดจะทำร้ายพวกนี้เชียวไม่งั้นฉันลงโทษนายแน่ไปบอกทุกคนด้วย แล้วก็เกียร์พาเอมี่ตามข้ามาส่วนที่เหลืออัลทีมิสพาไปที่ห้องนั่งเล่นก่อนเดี๋ยวข้าตามไป’’พลูเทียหันไปจ้องมองอัลทีมิสด้วยสายตาที่ดุดันพร้อมกับสั่งอัลทีมิสก่อนที่จะเดินนำเกียร์ที่ให้เอมี่ขี่หลังอยู่มาด้วยไปที่ห้องนอนของตน

              ‘’ปะ...ประทานโทษครับคุณหนูเดี๋ยวกระผมจะรีบไปบอกให้ เอาละพวกนายตามฉันมา’’เมื่ออัลทีมิสพูดจบก็เดินนำเรน เอเลนกับแมร์รี่ไปที่ห้องนั่งเล่น

              ‘’เอาละ....พวกนายนั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าเตาพิงนั้นก่อนเดี๋ยวข้ากลับมา’’อัลทีมิสพามายังห้องนั่งเล่นที่กว้างมากและชี้ไปที่โซฟาหน้าเตาพิง

                    *ตัดฉากไปในห้องนอนของพลูเทีย*

              ‘’เกียร์นายพาเอมี่ไปที่เตียงฉันก่อนนะขอตัวเอาหากล่องปฐมพยาบาลในกล่องเก็บของก่อน’’พลูเทียพูดพลางเปิดประตูห้องนอนให้และเดินนำเข้าไปแล้วชี้ไปที่เตียงจากนั้นก็เดินไปที่กล่องเก็บของอยู่ข้างๆเตียง

              ‘’ครับ’’เกียร์พาเอมี่มานั่งบนเตียงของพลูเทียจากนั้นก็หันไปมองพลูเทียที่กำลังนั่งหากล่องปฐมพยาบาลในกล่องเก็บของของเธอ

              ‘’คุณพลูเทียค่ะฉันมีเรื่องจะถามอย่างนึงจะได้ไหมค่ะ’’เอมี่หันไปถามพลูเทีย

              ‘’โอ้~เจอละ หืม?จะถามอะไรหรอ’’พลูเทียหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาแล้วหันไปหาเอมี่ที่เรียกตน

              ‘’พลังเมื่อกี้เนี้ยได้มายังหรอค่ะ’’

              ‘’มันมีตั้งแต่เกิดแล้วนะจ้ะ เอาละทนเจ็บหน่อยนะ’’พลูเทียพูดพร้อมกับเดินไปนั่งตรงหน้าข้อเท้าของเอมี่และถกขากางเกงข้างที่เอมี่เจ็บขึ้นมานิดหน่อยพอเห็นข้อเท้าและเอามือทั้ง2ข้างมาใกล้ๆข้อเท้าทำให้เกิดแสงสีดำอ่อนๆรอบๆข้อเท้าของเอมี่ข้างเจ็บทำให้อาการเจ็บเริ่มเบาลงและหยิบผ้าพันแผลมาพันให้

              ‘’เอาละไหนลองเดินสิ’’พลูเทียเงยหน้าพูดพร้อมกับยิ้มให้นิดๆ

              ‘’ว้าว! หายแล้วขอบคุณนะค่ะคุณพลูเทีย’’เอมี่ลองยืนขึ้นและเดินดูปรากฏว่าอาการเจ็บที่ข้อเท้าหายไปแล้ว

              ‘’ในเมื่อคุณพลูเทียรักษาเอมี่ของผมหายแล้วทำไมถึงต้องพันแผลละครับ’’เกียร์เดินมาถามพลูเทียใกล้ๆ

              ‘’ทำไมนะหรอ ก็เพราะถ้าฉันทำจนเป็นนิสัยละมั้ง เอาละข้าว่ารีบไปหาพวกเพื่อนของพวกเธอดีกว่าก่อนที่อีก14คนนั้นจะจัดกัน’’พลูเทียก้มหน้าไปสักพักแล้วก็เงยขึ้นมาและรีบลุกขึ้น

              ‘’อีก14คน? หมายความว่าไงค่ะ’’เอมี่ทำหน้าสงสัย

              ‘’นั้นสิครับ’’เกียร์ก็หันไปถาม

              ‘’ก็เพราะบ้านนี้มีทั้งหมด15ตนไงละ และอีกอย่างพวกนั้นไม่ค่อยชอบมนุษย์สักเท่าไรหรอกข้ากลัวพวกนั้นจะแกล้งนะสิรีบไปเถอะ’’พลูเทียพูดจบก็จับมือทั้ง2และพาเดินไปที่ห้องนั่งเล่นทันที

               เมื่อพลูเทีย เกียร์และเอมี่มาถึงห้องนั่งเล่นก็พบว่า......พวกเรน เอเลนและแมร์รี่กำลังโดนจับมัดห้อยหัวไว้บนเพดานอย่พร้อมมีร่าง6ตนยืนเงยมองอยู่

              ‘’ทุกคน....ข้าสัมผัสได้เวลาคุณหนูมา’’อัลทีมิสรู้สึกเสียวสันหลังวูบเลยหันไปบอกคนที่เหลือและพอหันไปมองพร้อมกันก็ถึงกับยืนนิ่งกันเลยทีเดียวเพราะพลูเทียยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆและกำลังทำหน้าโมโหอยู่ด้วย

              ‘’ฉันบอกพวกเธอแล้วใช่ไหมว่า.....อย่าทำอะไรพวกนี้นะ!!!!’’ภายในพริบตาร่าง6ตนที่ยืนมองก็ล้มลงไปนอนกับพื้นด้วยฝ่ามือตบเกรียนพิฆาตของพลูเทียหลังจากนั้นพลูเทียก็ดีดนิ้ว2ครั้งทำให้เกิดเบาะนุ่มๆขนาดใหญ่รองข้างล่างและทำให้เชือกที่มัดพวกเรนขาดทันทีและทำให้ร่างของพวกเรนร่วงลงมาบนเบาะพอดี

              ‘’ขอโทษครับ!!/ค่ะ’’ร่าง6ตนนั้นรีบนั่งคุกเข่าขอโทษทันที

              ‘’เฮ้อ~ ช่างเถอะดีละที่พวกนี้ไม่เป็นอะไร เป็นอะไรไหมเรน เอเลน แมร์รี่’’

              ‘’พวกเราไม่เป็นไรครับคุณพลูเทีย’’เรนนั่งลูบหัวตัวเองพร้อมกับยิ้มให้พลูเทีย

              ‘’ใช่ค่ะ แต่เมื่อเล่นซะใจหายหมดเลยนึกว่าจะโดนฆ่าซะแล้ว’’แมร์รี่หันไปมองพลูเทียแล้วพูดต่อจากเรน

              ‘’เอาละ ข้าว่ามาเริ่มแนะนำตัวกันดีกว่าไหม’’พลูเทียยืนเท้าเอวพร้อมกับหันไปมองร่างทั้ง6ตนและหันมามองพวกเรน

              ‘’ขอรับงั้นกระผมขอแนะนำตัวละกันนะครับกระผมชื่ออัลทีมิส เป็น1ใน3องครักของคุณหนูพลูเทียและยังเป็นหัวหน้าองครักษ์ทั้งหมดด้วย’’อัลทีมิสกล่าวแนะนำตัวพร้อมกับโค้งให้พวกเรนเล็กน้อย

              ‘’ส่วนข้าฮาโอ เป็น1ใน3องครักของคุณหนูพลูเทียเช่นกัน’’ชายผมสั้นแสกกลางหน้าผากสีดำตาสีม่วงอ่อนส่วมชุดคล้ายๆหัวหน้าโจรสลัดสีดำสูงไล่เลี้ยกับอัลทีมิสแต่เตี้ยกว่านิดหน่อยพูดพร้อมกับโค้งให้เช่นกัน

              ‘’ข้าโลกิ เป็น1ใน3องครักษ์ของคุณหนูพลูเทียเช่นกันครับ’’ชายผมสั้นสีดำตาสีม่วงเข้มกว่าของฮาโอนิดๆสวมชุดเหมือนกับฮาโอแต่ตรงคอปกเสื้อกับตรงปลายแขนเสื้อเป็นสีม่วงสูงเท่าๆกับฮาโอพูดพร้อมกับโค้งให้เช่นกัน

              ‘’ข้า.....คือร่างแฝดที่1ของพลูเทียชื่อคุโระ....ฝากตัวด้วย...’’ผู้หญิงผมยาวถึงข้อพับเข่าสีขาวดุจดั่งหิมะตัดหน้าม้าดวงตาตาสีเหลืองทองเหมือนอัญมณีมีหูกับหางเป็นแมวสีขาวสวมเสื้อแขนกุดสีฟ้าอ่อนกระโปรงรัดรูปสีแดงสูงประมาณ170cm.ยืนกอดอกพร้อมกับทำหน้านิ่ง(นิ่งมาก)ใส่พวกเรน

              ‘’ส่วนฉันนะ~ชื่อไกอาร์นะเนี้ยว เป็นร่างแฝดที่2ของพลูเทียจี้นะ ฝากตัวด้วยเช่นกันนะเนี้ยว~~ โอ้ะ!!เธอคนที่ผมสีชมพูนะน่ารักจังเลยนะชื่ออะไรหรอ>w<’’ผู้หญิงผมสีส้มดุจดั่งดวงอาทิตย์มัดทวินเทลยาวถึงข้อพับเข่าดวงตาสีฟ้าอ่อนเหมือนท้องฟ้ามีหูกับหางแมวสีส้มอ่อนสวมเสื้อแขนกุดกับกระโปรงรัดรูปเหมือนคุโระแต่เสื้อเป็นสีฟ้าเข้มส่วนกระโปรงเป็นสีน้ำเงินสูงประมาณ165cm.พูดแล้วยิ้มแย้มและพุ่งเข้าไปกอดเอมี่แน่นๆและเอาหัวถูไถแขนเอมี่ไปมา

              ''ฉะ ฉันชื่อเอมี่ ไวโอฮาร์ตค่ะ ยินดีที่ได้รู้จะนะค่ะคุณไกอาร์''เอมี่พูดพร้อมกับมองไกอาร์ที่กำลังเอาหัวถูไถแขนตัวเอง

              ''ส่วนฉันชื่อคิรันจ้ะ ส่วนผมคิสึรันครับ พวกเราเป็นฝาแฝดปีศาจจิ้งจอกที่มาขออาศัยที่นี้นะ''ผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในบ้านนี้มีผมสีเหลืองทองมัดผม2ข้างไว้ที่ไท่ทอยสวมชุดมิโกะสีน้ำเงินสูงประมาณ180กับผู้ชายยาวถึไท่ทอยสีเหลืองทองเหมือนคิรันสวมชุดกิโมโนสีเดียวกับคิรันและสูงเท่าคิรันพูดพร้อมกันและยิ้มให้พวกเรน

              ''ตะ..ต้องขอโทษด้วยนะเจ้าค่ะที่...ฉันแกล้งพวกคุณเมื่อกี้ ชะ...ชื่อเบอร์มิวด้าค่ะ ขะ..ขอฝากตัวด้วยเช่นกันนะค่ะ''ผู้หญิงตัวเล็กดูบอบบางสูงพอๆกับแมร์รี่ผมสั้นปอยผมด้านข้างยาวถึงข้อพับแขนสีฟ้าส่วนผมด้านหลังเป็นสีน้ำเงินมีมงกุฏอันเล็กอยู่บนหัวดวงตาของเบอร์มิวด้าแปลกไปจากคนอื่นคือไม่มีนัยต์ตาแต่มีสีฟ้าเข้มสวมชุดแขนกุดสีฟ้าอ่อนตรงอกเว้นช่องไว้รูปหัวใจทำให้เห็นน่าอกนิดๆใส่กระโปรงนักเรียนสั้นเหนือเข่าสีน้ำเงินตรงแขนทั้ง2ข้างมีปลอกแขนสีขาวปลอยปลอกแขนกว้างประมาณ6-12นิ้วขอบปลอกแขนเป็นสีน้ำเงินบนใบหน้าเธอมีเกล็ดเหมือนเกล็ดปลาสีน้ำทะเลตรงแก้มพูดอย่างเขินอายและรีบไปแอบหลังคิรันพร้อมกับจับชายแขนเสื้อของคิรัน

              ''เอาละต่อไปก็พวกเจ้านะ....เริ่มจากเจ้าก่อนเจ้าเจ้าหัวม่วงหน้าหวาน''คุโระพูดพร้อมกับยืนกอดอกและมองเรน

              ''ผมชื่อเรน เอเทนอลฮาร์ตต่างหากครับ=-=''เรนพูดพร้อมกับชี้ตัวเอง

              ''ส่วนผมเกียร์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณคุโระ''เกียร์พูดพร้อมกับเดินไปกุมมือทั้งข้างของคุโระ

              ''เกียร์....=_=+''เอมี่พูดพร้อมกับเดินไปหยิกแก้มเกียร์ทำให้เกียร์รีบปล่อยมือจากคุโระทันที

              ''ขอโทษครับT^T''เกียร์โดนเอมี่ดึงแก้ม

              ''ส่วนฉันแมร์รี่ อีวิลสปีริตจ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ''แมร์รี่พูดพร้อมหันไปมองเบอร์มิวด้าที่แอบหลบข้างหลังคิรันอยู่แล้วยิ้มให้

              ''ส่วนกระผมคือชายที่หล่อที่สุดในกลุ่มนี้ชื่อเอเลน...''ในขณะที่เอเลนกำลังพูดเรน กับเกียร์ก็พูดสวนขึ้นมาว่า

              ''หล่อตายละ!''

              ''อะเฮือก~ ทำไมพูดอย่างงั้นละครับT^T''เอเลนพอได้ยินคำพูดของเรนและเกียร์ก็ถึงกับไปนั่งกอดเข่ามุมห้องกันเลยทีเดียว

                ในขณะที่ทุกๆคนกำลังขำเอเลนที่ไปนั่งกอดอยู่มุมห้องอยู่นั้นจู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าเหมือนกำลังรีบวิ่งมาทางห้องนั่งเล่นที่พวกเรนและพวกพลูเทียอยู่และเปิดประตูอย่างแรงจนดัง ปั้ง!

              ''คุณหนู!!! แย่แล้วครับเจ้านั้นกำลังจะพังมิติเข้ามาที่นี้ครับ!! แต่พวกท่านพี่กำลังต้านไว้อยู่''เสียงของชายตัวเล็กพอๆกับเบอร์มิวด้าและแมร์รี่ผมสั้นสีเหลืองออกฟูนิดๆใส่ที่คาดผมสีแดงดวงตาสีเหลืองอ่อนสวมชุดนินจาสีดำแถบเหลืองพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนไปเจออะไรสักอย่างที่น่ากลัว

              ''ว่าไงนะธันเดอร์!!! งั้นนายไปบอกคนอื่นๆก่อนว่าฉันจะรีบตามไป พวกนายอยู่ที่นี้ก่อนนะ คุโระ ไกอาร์ คิรัน คิสึรัน เบอร์มิวด้า อัลทีมิส ฮาโอ โลกิรีบตามฉันมาเร็วเข้า!!''พลูเทียหันไปพูดพร้อมกับตกใจและรีบวิ่งออกจากห้องนั่งเล่น แต่ในขณะที่พวกพลุเทียกำลังจะวิ่งออกไปเรนก็พูดขึ้นว่า

              ''ให้พวกเราไปด้วยเถอะนะครับคุณพลูเทีย''

              ''ถ้าเป็นเอเลน แมร์รี่ เกียร์ และเอมี่ละก็พอให้ไปได้นะ แต่นายไม่มีพลังอะไรเลยไม่ใช่หรอ''พลูเทียหันไปมองเรน

              ''ถึงผมจะไม่มีพลังก็เถอะ แต่ว่าถ้าผมพยายามผมอาจจะทำได้นะครับขอร้องละเชื่อผมเถอะนะ''เรนจ้องมองไปที่พลูเทียด้วยสายตาที่จริงจังมากจู่ๆสร้อยคริสตัลสีฟ้าที่เรนสวมตลอดเวลาก็ส่องแสงอ่อนๆโดยที่เรนไม่รู้ตัว คุโระก็สะกิดพลูเทียแล้วก็กระซิบบางอย่างในพลูเทียฟังก่อนที่จะวิ่งนำออกไปพร้อมกับคนอื่นๆยกเว้นเรนกับพลูเทีย

              ''งั้นถ้านายบาดเจ็บละก็ข้าไม่รับผิดชอบนะ''พลูเทียพูดพร้อมกับขมวดคิ้วนิดๆ

              ''ครับ ผมจะพยายามเต็มที่''เรนพูดพร้อมกับพยักหน้า

              ''งั้นก็รีบตามข้ามาให้ทันละกัน''พลูเทียพูดจบก็วิ่งนำเรนไปอย่างรวดเร็วทันทีเรนก็รีบวิ่งตามไปเช่นกัน

                        เมื่อออกไปข้างนอกมิติทางเข้าก็พบว่าพวกที่วิ่งออกไปก่อนหน้านี้นอนสลบกันอยู่บนพื้นตอนนี้เหลือแต่คุโระ ไกอาร์ และอัลทีมิสที่ยังสู้อยู่แต่ในขณะที่คุโระ ไกอาร์ และอัลทีมิสกำลังจะถูกศัตรูแทงด้วยหอกสีแดงเลือดนั้นพลูเทียก็เรียกดาบดาร์กลอร์ด(ดาบดาร์กลอร์ดนมีลักษณะเป็นดาบสีดำทั้งเล่มมีความยาวประมาณ2.5เมตร)ที่เธอใช้พลังของเธอสร้างเองออกมาภายในเสี้ยววินาทีและพุ่งไปช่วยและเอาดาบดาร์กลอร์ดกันหอกนั้นเอาไว้ด้วยความเร็วเหนือเสียง5เท่า

              ''นายหาที่นี้เจอได้ยัง....บังอาจมากที่มาทำร้ายคนของฉัน! ชิโดกิ!!''พลูเทียพูดพร้อมกับใช้ดาบดาร์กลอร์ดกันหอกของอีกฝ่ายไว้และแววตาของเธอเปลี่ยนไปดูดุมากขึ้นและจ้องมองชายหนุ่มสูงราวๆ197ผมสีส้มแดงไถเกรียนด้านซ้ายนิดหน่อย นัยต์ตาสีส้มตรงหางตามีอายชาโดว์สีแดง สวมเสื้อคลุมสีขาวมีฮู้ดเสื้อข้างในเป็นสีดำ มีปลอกแขนสั้นสีแดงและสวมกางเกงยีนสีดำที่

              ''ว่าไงจ้ะ~ไม่ได้เจอกันนานเลยนะที่รัก~ ยังหุ่นดีเหมือนหลายพันปีก่อนเลยนะโดยเฉพาะน่าอกนะดูใหญ่ขึ้นรึป่าวนะ~''ชิโดกิพร้อมกับยิ้มและมองร่างกายของพลูเทียทุกสัดส่วนและมาหยุดสายตาที่น่าอกของพลูเทีย

              ''ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าที่รักเลยนะ!!! เรน คุโระ ไกอาร์ อัลทีมิสรีบพาทุกคนกลับเข้าไปก่อนด่วนเลย!!ฉันจะต้านหมอนี้ไว้เอง''จู่ๆที่มือและเท้าของพลูเทียก็มีไฟสีดำปรากฏขึ้นมาเมื่อไฟสีดำปรากฏขึ้นมาพลูเทียก็ฟาดดาบดาร์กลอร์ดใส่ชิโดกิไปเต็มแรงทำให้ชิโดกิกระเด็นออกไปประมาณ5เมตร

              ''แต่ว่า!ผมอยากช่วยนะครับ''

              ''ถ้าอยากช่วยข้าก็รีบพาทุกคนไปก่อนสิ!! อั๊ก!!''ในขณะที่พลูเทียกำลังพูดนั้นชิโดกิได้ขว้างหอกสีแดงเลือดของเขามาทางพลูเทียด้วยความเร็วสายฟ้า(ง่ายๆคือเป็นความเร็วในพริบตาที่ขนาดพลูเทียยังตามไม่ทัน)ทำให้พลูเทียโดนหอกเข้าที่ท้องเต็มๆและลงไปนอนจมกองเลือดทันทีโดยที่ป้องกันไม่ทัน

              ''คุณพลูเทีย!''เรนรีบวิ่งไปประคองตัวพลูเทียที่กำลังนอนจมกองเลือด

              ''ฮ่าๆๆๆ!!! แหม่ๆที่รักทำไมถึงไม่ดึงจี้นั้นออกจากปลอกคอละจะได้สู้กันอย่างดุเดือนเหมือนตอนนั้นไง''ชิโดกิเอามือข้างว้ายกุมตัวเองไว้พร้อมกับหัวเราะอย่างสะใจและใช้มือข้างขวาดีดนิ้วทำให้หอกกลับมาอยู่ที่มือขวาเหมือนเดิม

              ''ระ....รีบกลับเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ....เรน...ไม่ต้องห่วงข้า..อีกสักพัก..แผลของข้าก็จะฟื้นฟูเองเจานะ...ระ..รีบไปซะ''พลูเทียพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยมีแรง

              ''ไม่ครับ!! คุณพลูเทียนะก็เหมือนกับพี่สาวคนนึงของผม! ถึงผมจะไม่มีพลังอะไรผมก็อยากปกป้องคนสำคัญของผมนะ!''

             

              ''อะไรกันๆ~นายบังอาจมาพูดจาน้ำเน่าแบบนั้นกับที่รักของข้าได้ไงว่ะ งั้นข้าจะจัดการเจ้าก่อนคนแรกเลยกันนะ!!''เมื่อชิโดกิพูดจบก็พุ่งเข้ามาหาเรนทันทีและง้างหอกเตรียมฟาดเรนแต่ในเสี้ยววินาทีที่เรนกำลังจะโดนหอกของชิโดกิฟาดทันใดนั้นสร้อยคริสตัลสีฟ้าของเรนก็มีแสงส่องออกทำให้มีรอยสักรูปหัวมังกรปรากฏตรงหน้าผากของเรนและดวงตาของเรนเป็นสีดำมีนัยต์ตาเป็นสีม่วงเกิดบาเรียในลักษณะโดมปกคลุมตัวเองและพลูเทียทำให้ชิโดกิกระเด็นออกไปทันทีแต่ชิโดกิก็ตั้งตัวทันทำให้ไม่ล้มลงไป

              ''หืม~นายนี้ก็ไม่เบาเลยนะ งั้นข้าจะมาหาใหม่นะที่รักไว้เจอกัน''เมื่อชิโดกิพูดจบชิโดกิก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาทั้ง2ทันที 

          เมื่อชิโดกิได้หายตัวไปต่อหน้าเรนเรนก็รีบอุ้มพลูเทียกลับไปที่บ้านพักของเธอทันที

           *เอาละ ขอโทษที่ลงช้านะค่ะพอดีช่วงนี้คิดไม่ค่อยออกแล้วก็การบ้านเยอะและเครียดนิดหน่อย ยังก็ขอบคุณที่มาอ่านกันนะค่ะ>0<*

              

              

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา