สาวซ่าประธานเสี่ยว
เขียนโดย Aviva
วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.14 น.
แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม พ.ศ. 2557 16.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
5)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เวลาอาบน้ำเนี้ยเป็นอะไรที่สะบายตัวที่สุดของฉันและ อยากแช่นานๆจังเลย
“ไอยูนานไปแล้วเว้ยจะแช่ให้ตัวเปื้อยเลยหรือไง” และความสุขของฉันก็ต้องมีมารมาพะจน จนได้--*
“เออๆ กำลังออกแล้วเว้ยยย” ฉันตะโกนออกไปแต่ก็ไม่รู้หมอนั้นจะได้ยินหรือเปล่า อยากแช่ต่อจังเสียดาย
“เดี๋ยว!” ระหว่างที่ฉันกำลังเดินขึ้นห้องซันก็รีบเรียกเอาไว้เสียก่อน ฉันมองซันก่อนจะขมวดคิ้วกลับแสดงถึงความไม่พอใจ
“ฉันรู้เรื่องหมดแล้วนะ” ฉันจ้องซันนิ่งอย่าง งง หมอนี้ไปรู้เรื่องอะไรของฉันอีกและไม่มีเรื่องจะแบคเมล์แล้วนะเนี้ย
“เรื่องอะไร” ฉันถามอย่างหน้าตาเฉยสุดๆ
“เรื่องเธอกับไอเรน” ซันรู้แล้วเหรอเนี้ยสงสัยหมอนั้นโทรมาบอกซันแน่เลย ตาบ้าเรนโจ
“ก็ ฉัน”
“ไม่ต้องพูดแก้ตัวเลย แกรู้ไหมว่าฉันกุสาไม่บอกมันว่ามีน้องสาวแต่เธอกับไปบอกมัน โถ่เว้ย แล้วแกก็ไปหลงเสนห์มันอีกเอาเข้าไป”
“ใครหลงเสน่ห์ใครห่ะ” ฉันตะคอกใส่ซันที่นั่งกุมขมักอย่างเคร่งเครียดอยู่
“ก็แกนั้นแหละจะใครเล่า” ตอนนี้เป็นฉันเองที่ต้องมานั่งกุมขมักแทนเจ้าพี่ชายชอบคิดเองเออเอง
“พี่จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้หลงเสน่ห์หมอนั้นสักนิด” ฉันพูดก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างรับไม่ได้กับความคิดของพี่
“งั้นแกจะบอกว่าไอเรนมันโกหกงั้นสิ”
“หมายความว่าไงหมอนั้นพูดอะไรกับพี่” ฉันเปลี่ยนเป็นนั่งตัวตรงเปลี่ยนโหมดใหม่ทั้งที
“มันบอกว่าแกเป็นแฟนมัน”
“หะ ห่ะ ฟะ แฟน งั้นเหรอ” จะบ้าไปกันใหญ่แล้วฉันไม่ได้เป็นอะไรกับหมอนั้นสักหน่อย ทำไมหมอนั้นต้องพูดแบบนั้นด้วยนะมีแผนอะไรอีกแล้วละสิ
“เอาเป็นว่าพี่สะบายใจได้ฉันไม่ได้ เป็นแฟนหมอนั้น” ฉันพูดก่อนจะยิ้มให้พี่ชายตัวแสบของตัวเอง ซันเองก็พยักหน้าเข้าใจฉัน
“เธอห้ามเข้าใกล้มันอีกนะยู” ซันเงยหน้ามาพูดกับฉันอย่างจริงจัง เป็นครั้งที่สองที่เห็นเขาทำหน้าแบบนี้ ครั้งแรกที่หมอนี้ทำหน้าจริงจังก็คือเรื่อง ฉันไปแย่งของเล่นเขาแล้วแทนที่ฉันจะโดนด่าแต่กลับเป็นพี่ซะงั้น(ปัญญาอ่อนจริงๆ--*)
“ทำไมอ่ะ” ฉันถามซันทันทีทันได
“ไม่ต้องถามเหรอน่าบอกให้ทำอะไรก็ทำตามที่บอก”
“ทำไมฉันต้องเชื่อ” ฉันพูดอย่างท้าทายซันถึงกับถอนหายใจกับความดื้อของฉัน
“แกเป็นเด็กในปกครองฉันตอนนี้ แกต้องเชื่อฉันสิ”
“ถ้างั้นเด็กคนนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะถามผู้ปกครองสิ” ซันจ้องฉันอย่างดุแต่คนอย่างฉันเหรอจะกลัวฉันจ้องซันกลับ จนซันต้องยอมแพ้
“มันกับพี่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ปี1 เพราะนิสัยมันและมุขเสี่ยวๆบ้าบอของมันทำให้สาวๆหลายๆคนตกหลุมพรางมันมานักต่อนักแล้วและฉันก็ไม่อยากเห็นเธอไปเป็นของเล่นชิ้นใหม่ให้มัน” เป็นครั้งแรกที่ฉันมองซันเป็นคนใหม่ในทันทีเขาดูห่วง หวง ฉันมากขึ้นเหมือนพี่ชายคนอื่นที่รักน้องสาวของตัวเอง
“แต่ฉัน”
“ไม่มีแต่ยู ถ้ามันมายุ่งกับเธอ เธอต้องบอกพี่ก่อนคนแรกเข้าใจไหม” ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะยิ้มให้ซันและรีบลุกขึ้นเดินไปขึ้นห้องทันที สิ่งที่ฉันจะบอกซันมันไม่ยอมหลุดออกจากปากไม่รู้ทำไมฉันถึงกลายเป็นคนอ่อนแอร์ไป
‘ช้างๆน้องเคยเห็นช้างอ่ะเปล่า’
ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นเสียงรินโทนโทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น ฉันมองดูเบอร์แปลกที่กำลังโทรเข้ามาอย่างประหลาดใจ ใครกันแม่เหรอ หรือพ่อกันนะแต่ท่านก็มีโทรศัพท์กันนี้เบอร์พวกท่านฉันก็เมมไว้แล้วด้วยแปลกจัง ฉันช่างใจครู่หนึ่งก่อนจะกดรับเบอร์แปลก
“สวัสดีค่ะยูมิพูดค่ะ” ฉันกรอกเสียงทักทายอีกฝ่ายทางโทรศัพท์
‘ยูซัง ฉันเรนโจนะ’ ชื่อของอีกฝ่ายทำเอาฉันถึงกับอึ้งไปช่วงหนึ่ง เขาเอาเบอร์ฉันมาจากไหนกัน
“นายไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหน” ฉันพูดด้วยเสียงที่เย็นชาสุดๆเพื่อฟลุตเขาเลิกยุ่งกับฉัน(คิดได้ตื้นมากกกก)
‘ฉันเป็นประธานนักเรียนนะจะเอาเบอร์เธอมาได้ก็ไม่เห็นแปลก’ ครั้งหน้าฉันสมัครเป็นประธานบ้างดีกว่าเพื่อฟลุตได้เบอร์จากึนซอก(ดาราเกาหลี) มาคุยเล่นบ้าง ‘ ลืมไปพูดภาษาเกาหลีไม่เป็น^-^’
“มีธุระอะไรก็ว่ามา ฉันจะนอนแล้ว” ฉันพูดด้วยความเร็วก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเดียวอย่างเกียจคราน
“ฉันก็โทรมาคุยเล่นกับเธอก็เท่านั้นไม่มีอะไรหรอก” ท่าทางบ้านจะเป็นเจ้าของโรงงานเครือข่ายโทรศัพท์ โทรได้ไม่อัน--*
“งั้นแค่นี้นะ “ ฉันพูดก่อนจตัดสายทิ้งไปเสียดื้อ หวังว่าหมอนี้คงไม่บ้าโทรมาอีกรอบหรอกนะ
‘ช้างๆน้องเคยเห็นช้างอ่ะเปล่า’
หมอนี้บ้าจริงๆด้วย--* ฉันกดตัดสายก่อนจะปิดเสียงและวางโทรศัพท์ไว้บนหัวเตียงก่อนจะเผลอนอนหลับไป
“ยู ทำไมลูกไม่ซ่อมนาฬิกาปลุกสักทีห่ะ เดี๋ยวจะสายแล้วรีบยัดเข้าปากไปเลย” แม่ที่เห็นฉันทำอะไรเอื้อยๆรีบเดินเข้ามาเอาขนมปังยัดปากฉันทันที ฉันหลับทั้งที่มีขนมปังอยู่ในปาก(ทำไปได้--*)
“โถ่ยู พ่อขอละตื่นเร็วลูกรีบไปเอากระเป๋าเดี๋ยวพ่อไปส่ง” ฉันเดินไปหยิบกระเป๋าตามที่พ่อบอกก่อนจะมายื่นหลับอยู่หน้าประตูบ้าน
“ซันใส่รองเท้าให้ยูหน่อยเร็ว ช้ามากแล้ว” แม่ตะโกนจากห้องครัวมาหาซันที่นั่งดื่มโกโก้ร้อนอยู่บนโต๊ะ ซันถอนหายใจก่อนจะลุกเดินมาหาฉัน
“ฉันไม่ใช่เบ๊เธอนะเว้ย รีบใส่รองเท้าแล้วตามพ่อไปได้แล้ว ยัยถึก” คำว่าถึกเหมือนเป็นยากระตุ้นสำหรับฉันเลยทีเดียว พอซันพูดจบก็ลงไปจุกอยู่กับพื้นทันที ฉันอ้าปากหาวก่อนจะเดินไปขึ้นรถพ่อ เพื่อเดินทางไปโรงเรียนหน้าตาเฉยทำหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ยูมิ พรุ่งลูกหยุดใช่ไหม” พ่อหันมถามฉันที่นั่งสับพงกอยู่กับเบาะด้านหน้า
“ค่า” ฉันหรี่ตามองพ่ออย่างสงสัยว่าท่านถามทำไม และดูเหมือนท่านจะรู้ตัว
“พ่อกับแม่จะพาลูกสองคนไปออกงานสักหน่อย” ว่าแล้วเชียว ชาตินี้ฉันคงได้แต่ใส่ชุดขาวลายลูกไม้เป็นตุ๊กตาประดับงานทั้งชาติแน่เลย
“หนูต้องไปทำรายงานบ้านเพื่อนค่ะ” หวังว่าซันคงยังไม่ใช่มุขนี้ไปนะ
“มุขนี้ซันใช้แล้ว” โถ่เว้ยยยยย
“พ่อค่ะหนูพูดจริงๆนะค่ะ” ฉันตีสีหน้าให้ดูหน้าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
“ไปให้พ่อนิดนึงนะ” ว่าแล้วว่าท่านต้องไม่ฟังที่ฉันพูด
ยูมิ ยอมแพ้!!!!
“แปปเดียวนะค่ะ” ฉันย่ำพ่อก่อนที่รถจะแล่นเข้าสู้ประตูโรงเรียน
“จ้า” พ่อตอบก่อนจะมาตีมือกับฉันเหมือนที่เราทำกันเป็นประจำ หวังวว่าคงไม่น่าเบื่อเหมือนปีที่แล้วนะ เฮ้ออ
“ยูซังงง” ทำไมต้องมาเจอหมอนี้ตอนนี้ด้วยเนี้ย!!!โถ่เว้ยยย ฉันยืนมองรถBMWสีดำเงาวับที่ตอนนี้ข้างในมีผู้ชายตัวโตกำลังจับพวงมาลัยอยู่ เขาคนนั้นก็คือเรนโจนั้นเอง เขาควักมือเรียกฉันเป็นการใหญ่ ฉันมองเขาก่อนจะหันหลังเดินเข้าโรงเรียนไปอย่างไม่สนใจแต่ระหว่างเดินอยู่นั้นฉันก็เริ่มสงเกตว่าสาวๆในระแวกนี้กำลังมองมาที่ฉันอยากอาฆาตยังไงๆก็ไม่รู้ (ฉันไปเผ่าบ้านพวกหล่อนหรือไงยะ)
“ยูมิ !” ระหว่างที่ฉันเดินอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเดียวดาย ท้ามกลางกลุ่มสัตว์ป่าแสนอัตรายก็เหมือนจะมีเสียงนางฟ้าแสนใจดีมาโปรด
“คาโอรุ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ