When I'm here เมื่อฉันอยู่ในโลกของซอมบี้!

-

เขียนโดย Sky_Dream

วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.06 น.

  2 ตอน
  2 วิจารณ์
  5,064 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 2

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ประกายไฟพวยพุ่งลิบลิ่ว ซากซอมบี้ลุกไหม้มากมายกระเด็นกระดอนไปทั่ว จนเกลื่อนเต็มพื้นถนน อาจมีบ้างที่ไปเกลื่อนอยู่ตามบนต้นไม้ ตามบนหลังคา หรือหนักๆเข้า อาจจะไปเกลื่อนอยู่ตามเสาไฟฟ้า ...ไปเกลื่อนยังไงวะนั่น...

และแรงระเบิดครั้งนี้ ก็ได้สะเทือนไปถึงร้านขายยา หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Drug store... มันแปลว่าร้านขายเป็ดต่างหาก ไม่ใช่ร้านขายยา ...ห๊ะ? ทำไมล่ะ... เพราะเป็ด...ก็คือDuck ตึ่งตะลึ่งตึ่งโป๊ะ! ...โว้ย! มันไม่ใช่ดั๊กยังง้านนนน!...

"พรู้ดดดดดดดดดด!!" ถึงกับสำลักเป็ดเลยทีเดียว ...ใช่ซะที่ไหนกันเล่า โว๊ะ เอ๊าๆ บรรยายต่อดีๆ ไปได้แล้ว... จริงๆแล้วไม่ใช่สำลักเป็ดหรอกท่านผู้อ่าน สำลักน้ำนี้แล เพราะว่าแรงระเบิดเมื่อตะกี้นี้มันรุนแรงเกินไปหน่อย คุณก๋อง วิสิษประเสริฐ ของเรา จึงเกิดอาการลำคอตีบตัน กลืนน้ำไม่ลง และเผลอพ่นพรูดออกมา ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายในอุบัติเหตุครั้งนี้ก็คือสาวเจ้าอิม ยัยหนูเสียงแปดหลอด ประธานชมรมประสานเสียงโอเปร่าของเรานั่นเอง!

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด..!" เสียงกรีดร้องทะลุโสตประสาทดังลั่นร้านขายยา แต่เป็นเสียงกรีดร้องที่ถือได้ว่าที่มีชั้นเชิงในการเล่นเสียงเป็นอย่างสูง และมีความไพเราะเป็นเลิศยิ่งนัก จนนันท์ที่กำลังเช็ดตัวก๋องอยู่ถึงกับน้ำตาไหลพราก มือไม้เกิดอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมากะทันหัน จนหล่นไปอยู่ตรงหว่างขาของก๋องเข้าพอดิบพอดี และเมื่อถึงเส้นโค้งเสียงสุดท้ายที่อิมเปล่งออกมา นันท์ก็เผลอบีบผ้าที่กำลังกำแน่น โดยไม่รู้ตัว ก๋องหน้าเขียว...

"แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก" อิมหอบหายใจเหนื่อย อ้าปากสูดอากาศเข้าปอดให้เต็มที่ โดยมีนันท์มองตามอย่างทึ่งๆ

"โห สุดยอดเลยอิม! ดูเราสิ...น้ำตาไหลพรากๆเลยเนี่ย ก๋องก็เหมือนกัน ดูสิดู น้ำตาไหลพรากๆยิ่งกว่าเราซะอีก" นันท์ปาดน้ำตา ส่วนก๋องเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจตาย

"ไอ้คุณนันท์ครัชชชชชช!" ก๋องรีบตะโกนโวยวายเรียกความสนใจจากนันท์ ที่ดูจะไม่รู้ห่าเหวเลยว่ากำลังบีบอะไรอยู่

"อะไร?" นันท์หันมามองด้วยสายตาประมาณว่า อย่าเพิ่งมาขัดจังหวะจะได้มะ ใส่ก๋อง ก๋องทำหน้าบึ้งซะยิ่งกว่าบึ้ง(มันเป็นยังไงวะ?)ใส่นันท์ นันท์เกิดอาการงงเต็ก และก่อนที่นันท์จะได้เพิ่มระดับความงงไปมากกว่านี้ ก๋องก็ดึงหัวฟูๆ ของคนข้างบนลงมาตบเกรียนดังป๊าบ!

นันท์ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ...ทีมงานครัช เราควรจะมอบรางวัลสุดยอดงงให้คุณนันท์เขาดีหรือไม่ครัช งงได้งงดีซะเลยเกิน...

และก่อนที่นันท์จะได้เอ่ยปากถามอะไร ก๋องก็โวยวายออกมาซะก่อน

"ที่น้ำตากูไหล ไม่ใช่เพราะกูซึ้ง แต่เพราะคุณมึงกำลังบีบ--กูอยู่ต่างหาก!" และแล้วคุณนันท์เขาก็บรรลุเสียที

"เฮ้ย! กูขอโทษว่ะก๋อง กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะเว้ย กูขอโทษ" นันท์รีบปล่อยมือออกอย่างรวดเร็ว ก๋องถอนหายใจเฮือกใหญ่

"ว่าแต่เมื่อกี้มันเสียงระเบิดใช่มั้ยว่ะ?" นันท์เริ่มเปิดประเด็น อิมที่กำลังเช็ดหน้าอยู่ ถึงกับต้องหยุดเช็ด "ก็ต้องเสียงระเบิดสิยะ คิดว่าเสียงรำวงงานวัดแถวบ้านรึไง?" คำตอบโต้ของสาวเจ้าอิม มันช่างเจ็บแสบไปถึงไส้ติ่งยิ่งนัก ...ว่าแต่ เสียงรำวงงานวัดบ้านใคร เขาเป็นเสียงยังงี้กันฟะ?...

"ให้ตายเถอะ นี้มันบ้าไปแล้วชัดๆ โอ๊ย...ปวดหัว" ก๋องที่กำลังคิดจะออกความเห็นกับเขาบ้างก็ต้องหยุดชะงัด เพราะสภาพร่างกายในตอนนี้ไม่ค่อยจะอำนวยเท่าไหร่นัก

"เอ้า กินยาซะ แล้วอย่าพ่นใส่ฉันอีกล่ะ" อิมยื่นยาชุดใหม่ และน้ำขวดใหม่ให้ ก๋องรับมันไป ยัดเข้าปาก และกำลังจะตามด้วยน้ำ

ปัง!! เสียงปิดประตูข้างล่างดังสนั่น

"พรู้ดดดดดดดดดดดดดดด! ใครอยู่ข้างล่างนั้นหน่ะ!?" ก๋องได้เผลอทำผิดร้ายแรงไปอีกครั้งหนึ่งจนได้ นันท์รีบเอามืออุดหู เพราะรู้ดีว่ามันจะไม่สวยงามอย่างครั้งที่แล้วอีกแน่

"ใครจะอยู่ข้างล่างก็ช่างมัน... แต่ตอนนี้... กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด.....!!!" นกแตกรังหือเป็นย่อมๆ ไส้เดือนรีบมุดเข้ารูแทบจะไม่ทัน จิ้งจกตามฝาผนังถึงกับร่วงลงมาตายกันเกลื่อนพื้น แมลงสาบที่ว่าโคตรจะอึดแล้วยังต้องยอมศิโรราบ

ก๋องตัวแข็งเป็นหิน ..ไม่รู้ว่าตอนนี้แก้วหูเขายังอยู่ดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าอาจจะสลายไปแล้วก็ไม่รู้สินะ..

พออิมหยุด ก๋องก็ล้มลงกับพื้น เสียงดังตึง! เช่นเดียวกับแขกคนใหม่ข้างล่าง ที่ตอนนี้คงไม่เหลือชิ้นดีแล้วล่ะ... นันท์มองภาพเบื้องหน้าด้วยความสยองพองเกล้าสุดขีด ...โอ้บร๊ะเจ้า ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าพุฒ เดชอุดมซะอีก หากเธอรู้ว่าเราเคยเอารองเท้ากุชชี่ของเธอไปเล่นจนตกคลองหายจ้อย เธอไม่กรี๊ดซะเอาเราตายไปข้างหนึ่งเลยรึไง... ...แน่นอนว่าต้องกรี๊ดสิ...

"หึ่ย! เปียกอีกแล้ว รู้มั้ยว่านี้มันยี่ห้ออะไร!! ชาแนลเลยนะย่ะ!" อิมตะโกนใส่ร่างที่ไม่ได้สติของก๋องอย่างโมโห

"เอ่อ... แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ฉันเพิ่งเห็นเธอไปเดินตูดบิด เอ๊ย ฉันไม่ได้ตั้งใจมองตรงนั้นของเธอหรอกนะ แต่ฉันแค่อยากจะบอกว่า...ฉันเห็นเธอไปเดินแบบ.. แบบชิลๆ ซื้อชุดแบบนี้ที่แถวตลาดบ้านฉันอยู่เลยหน่ะ น่าจะราคาซัก...ตัวละ199มั้ง หรือไม่จ..." ...จู่ๆ ก็รู้สึกฝืดคอขึ้นมาแปลกๆแหะ... นันท์กลืนน้ำลายดังเอื๊อก จับคอของตัวเองหมุนไปมาหาความผิดปกติ โดยไม่รับรู้เลยว่ามีภัยอะไรกำลังจะมาถึงตัวในไม่ช้านี้

"เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ..." ...รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างตรงนี้ค่ะ! อุ๊ย รู้สึกขน--ลุกซู่ไปหมดเลยค่ะ! ช่างรุนแรงจริงๆ ต้องรีบลี้ภัยด่วนเลยค่ะ มันอยู่ไม่ด้ายยยยยยยแล้ว...

"เอ้า ก็ฉันบอกว่าชุดแบบเนี้ย ที่ตลาดบ้านฉันก็มีขาย ตัวละ199เอง...ดูสิ ป้ายราคายังติดอยู่เลย ..ร้านป้าแช่ม ยี่ห้อแช่มแช่ม ไฮโซ โก้หรูทุกยี่ห้อเพราะไปก๊อปเขามา ราคาสบายกระเป๋า แค่ตัวละ199บาท ซื้อ3แถมไข่ฟรีให้อีก1ฟอง.. หูย ยี่ห้อนี่แม่ฉันก็ใช้ ตอนนี้บ้านฉันหน่ะเลยมีแต่ไข่เต็มไปหมด กินแต่ไข่ทุกวันวันละ3มื้อ จนหน้าแทบจะกลายเป็นไข่อยู่แล้วเนี่ย...แต่แม่ฉันบอกว่าถ้ากินไข่บ่อยๆแล้วจะช่วยบำรุงสมอง ฉันจะได้ฉลาดขึ้น ดูฉันสิ...ฉลาดขึ้นจริงๆ! สอบคณิตทีไรได้แต่0 0 0 0 และ0! รู้มั้ยทำไมฉันถึงได้แต่0 เพราะฉันจะได้กินแต่ไข่ไง จะได้ฉลาดขึ้นอีกๆๆๆๆๆ! แต่ไม่รู้ทำไมพ่อกับแม่ถึงเอาแต่ด่าว่าฉันโง่ก็ไม่รู้สิเนอะ...คุณครูก็อีก! บอกให้ฉันไปไถนาด้วยน่ะ! รู้มั้ยฉันตอบครูไปว่าไง 'ครูด่าผมว่าเป็นรถไถเหรอ!? ให้ตายเถอะ นั้นมันสุดยอดไปเลย! ขอบคุณ คุณครูมากๆเลยนะครับที่ด่าผม' เงี้ย ครูถึงกับเงิบ! ฉันเจ๋งใช่มั้ยล่ะ!!"

"เอ่อ..." อิมถึงกับเงิบ รังสีอาฆาตเมื่อกี้หายไปทันใดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

"ฮี่~" นันท์ฉีกยิ้มกว้าง ...ช่างเป็นบุคคลที่สุดยอดซะจริงๆ...

"ช่างมันเถอะนะ..." อิมยังไม่หายเงิบ นันท์ยิ้มใส่อย่างใสซื่อ

"ยังไงก็ฝากดูแลไอ้ก๋องต่อด้วยละกันนะ เดี๋ยวเราจะลงไปดูข้างล่างเอง..." ก็ยังไม่หายเงิบครัช

"โอเค เดี๋ยวเราดูไอ้ก๋องให้ ไปดีมาดีล่ะ" ก็ยัง smile~~ ต่อไป

"อือ อืม... แหะ..แหะ" เงิบ...

"^=^" ยิ้มเข้าไป๊...

อิมรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว โดยไม่พยายามที่จะหันไปมองข้างหลัง แต่เสี้ยววิหนึ่งเธอได้หันไป ... ยิ้ม... ช่างเป็นรอยยิ้มที่พาให้เตลิดไปไกลได้ซะเลยเกิน! ...

ฮือออออออออ...ทำไมโรง'บาลศรีธัญญายังไม่มารับตัวมันไปซักทีว่ะ! กูกลัว!...สวนกรุงเชียงใหม่ก็ได้!

จนมาถึงชั้นล่าง...

ความมืดแผ่ไปทุกอณู เงาตะคุ่มๆ ของข้าวของต่างๆมันช่างสยองขวัญยิ่งนัก พอนึกไปถึงรอยยิ้มเมื่อตะกี้ของไอ้นันท์เข้า ก็คอยขวัญกระเจิดกระเจิงไปหมด

"แม่เอ๋ยแม่จ๋า หนูไม่รู้หรอกนะว่าหนูอยู่ที่ไหน...แต่แม่ช่วยส่งกำลังใจมาให้หนูสู้ต่อไปทีเถิด สาธุ..."

"ว่าไงอิม..."

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด... อีแม่เอ๋ยยยย! ซ่อยข้อยแหน่!!" อิมกรีดร้องดังลั่น เหวี่ยงตัวพร้อมกับเหวี่ยงฝ่ามือไปยังด้านหลังสุดแรงเกิด

เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือดังสนั่นในความมืด ก่อนจะตามติดๆมาด้วยเสียงล้ม ดังตึง!

"โอะโอ๊ยยยยยยยย... เจ็บชะมัด" ...ผีมันร้องโอ๊ยได้ด้วยเหรอ?...

แต่พอเบิ่งดูดีๆ มันมิใช่ผีแต่อย่างใด แต่มันคือคุณนันท์เจ้าเก่าเจ้าเดิมต่างหาก!

อิมตกใจซะยิ่งกว่าเห็นผี

"ละ...ลงมาทำไมเนี่ย แล้ว...แล้วก๋องล่ะ ก๋องอยู่ไหน!" อิมละล่ำละลักถาม นันท์ยิ้มกว้างตามแบบฉบับของเจ้าตัว แต่อิมกลับคิดเตลิดไปไกล... ว่ามันคือรอยยิ้มของคนบ้า! รอยยิ้มของฆาตกร! ...ในตอนนี้จินตนาการของอิมกำลังแล่นพล่าน... หมอนี่ มันต้องฆ่าก๋องไปแล้วแน่ๆ ไม่นะก๋อง ไม่! เราจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของมันเป็นคนต่อไปหรอก ไม่มีทาง!

"เข้ามาเลยไอ้ฆาตกร! เข้ามา!" ตั้งหมัดเตรียมสู้สุดฤทธิ์ นันท์งงเป็นไก่ตาแตก

"ฆาตกร? อ้อ! เธอจะเล่นเกมใช่มะ ให้เธอเป็นตำรวจ ให้ฉันเป็นฆาตกร แต่ว่าฉันไม่อยากเป็นฆาตกรอ่ะ เรามาสลับบทกันมะ?" นันท์ถามด้วยความใสซื่ออินโนเนะ อิมจ้องนันท์ตาขวาง ก่อนจะปล่อยหมัดซ้ายออกไปสุดแรงเกิด... นันท์หลบได้! แถมยังจับแขนเธอไว้แน่นอีกต่างหาก!

"ป..ปล่อยนะ ปล่อยซิ" อิมตกใจสุดขีด นันท์รีบเอานิ้วจุ๊ปากอิมไว้

"ชู่... เงียบๆก่อน ฉันว่าฉันเหมือนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างนะ.." นันท์ทำหน้าตาเคร่งขรึม เห็นยังงั้นอิมก็ไม่กล้าเถียงอะไร เพราะมันแปลก... ปกตินันท์จะไม่ทำหน้าตาเคร่งขรึมยังงี้ ยกเว้นก็แต่เวลาที่ดูจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น... เรื่องไม่ดี...งั้นเหรอ

"นันท์... นายได้ยิน...อะไรงั้นเหรอ?" อิมถามเสียงสั่น รีบวิ่งปรู๊ดเข้าไปหลบหลังนันท์อย่างว่องไว โดยลืมไปแล้วว่าเมื่อตะกี้นี้ได้ทำอะไรเอาไว้

นันท์กวาดสายตาไปยังความมืดเบื้องหน้า โดยมีอิมมองตาม

"เงียบนะๆ..." นันท์หันมาสั่งอิมที่ยืนเกาะอยู่ทางด้านหลัง อิมผงกหัวเป็นเชิงรับรู้

แล้วนันท์ก็ค่อยๆ ก้าวขาออกไปยังความมืดเบื้องหน้า อิมก็ค่อยๆก้าวเดินตามไป...

ตึก... ตึก... ตึก... ตึก...

"โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย... โอยยยยยยยยยยยยยยยยย..."

มีเสียงครางอันเจ็บปวดดังขึ้น! เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปใกล้เคาท์เตอร์จ่ายยาสภาพเก่ากึก

"น นันท์!" อิมกระชับตัวเข้าไปกอดนันท์มากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ จนขาแทบจะก่ายหัวนันท์อยู่รอมร่อ แต่นันท์กลับแอบอมยิ้มชอบใจอยู่คนเดียว จับแขนของอิมมาโอบรัดเอวของตัวเองให้แน่นยิ่งขึ้นไปอีก อิมก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะกำลังอยู่ในอารมณ์กลัว ..ส่วนนันท์...พอเห็นว่าสาวเจ้าไม่ขัดขืน ก็เอี้ยวตัวไปทางด้านหลัง และกอดหมับเข้าให้เต็มๆร่างเล็ก

"ไม่เป็นไรๆ เราอยู่ตรงนี้แล้ว...เราจะคอยปกป้องเธอเองนะ ไม่ต้องเป็นห่วง" พูดปลอบอย่างอ่อนโยน พลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ยังไม่พอแค่นั้น... เรียกว่าได้ทีก็เอาใหญ่....ทั้งกอด ทั้งแต๊ะอั๋ง ทั้งซุกไซร้ แถมยังได้สูดดมความหอมสดชื่นจากศีรษะของสาวเจ้าไปเต็มๆฟอดใหญ่ แถมยังไม่วาย...ยังจะพยายามจะลวนลามส่วนสงวน(ด้านหลัง)ของเจ้าหล่อนอีก! ...ช่างชั่วช้าซะจริงๆ... แต่ก่อนที่นันท์จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น นั้น...

"อ๊ากกกกกกกก!!" ก็มีมือปริศนาโผล่มาจ้วง และบิด--ของนันท์ด้วยความรุนแรง ...ถ้าถามว่ารุนแรงขนาดไหนหนะเหรอ... ก็ไม่รู้สินะ ...พอดีไม่ใช่ผู้ชายอ่ะค่ะ...

"อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!! พอ...พอได้แล้ว! พอ!!!" นันท์ยอมยกธงขาว รีบกระโดดออกห่างจากตัวของผู้หญิงเบื้องหน้าทันทีด้วยความทรมานทรกรรม เขากุมส่วนตรงนั้นของตัวเองไว้แน่นด้วยสีหน้าคล้ายกับว่ากำลังอมบอระเพ็ดไว้เต็มปาก

อิมมองตามอย่างงงๆ "เป็นอะไรไปหน่ะ?"

"ก็เจ็บนะสิ... กล้าบีบมาได้ไงหน่ะเธอ ทั้งแท่งเลยนะนั้น..ไม่รวมไข่อีกสองฟองที่ขนาบข้างอยู่"

"บีบ...? บีบอะไร??" อิมถามออกไปด้วยความงงงวย ...เธอจะไปบีบอะไรไม่รู้ของอีตานี้ได้ยังไงกันเล่า ในเมื่อ เมื่อกี้มือของเธอกำลังกระชาก ทั้งทึ้ง ทั้งดึง ทั้งขย้ำเสื้อของหมอนี้อยู่แท้ๆ มันมั่วรึเปล่า!? แล้วเมื่อกี้มันพูดว่าอะไรนะ?? ที่เป็นแท่งๆหน่ะ???...

"อ อ้าว เธอ.... ไม่ได้เป็นคนขย้ำน้องชายของฉันหรอกเหรอ???" นันท์ก็งงไม่แพ้กับอิม แต่อิมดูจะงงกว่ามาก ...ไอ้บ้านี้... มันพูดเรื่องอะไรของมันมาตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้วว่ะ?...

"เธอ........ไม่ได้ทำจริงๆเหรอ????" นันท์เริ่มจิตตก ...ถ้าอิมไม่ได้เป็นคนขย้ำน้องชายของเขา แล้วใครกันล่ะที่ขย้ำ?... นันท์เซด้วยความงงงวย เริ่มเกิดอาการประสาทหลอนแปลกๆ

"ก็เออสิย่ะ! แล้วนี้ไม่ทราบว่านายกำลังพูดถึงอะไรอยู่เนี่ย?" ...กูงงนะเว้ย!?...

อิมจ้องหน้านันท์ด้วยความขุ่น(เคือง)ข้อง(ใจ)สงสัยเป็นอย่างมาก ...จู่ๆก็มาถามอะไรกันแปลกๆแบบนี้ ประสาทป่ะเนี่ย!... หือ... ประสาท? ให้ตายเหอะ! พระเจ้าช่วยกล้วยปั่น! บ้ายังไม่พอ หมอนี้ยังพ่วงด้วยโรคประสาทมาอีกเหรอเนี่ย!!!

สงสัยตอนนี้โรคคงจะกำเริบ... แล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะทีนี้!! โอ๊ยยยยยย!..อยากจะบ้าตาย!! ประสาทเริ่มจะแด๊ก(คนสวย)แล้วเนี่ย ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆเลยค่ะ!

"น นันท์ เป็นอะไรมากมั้ยนั้น?" ถึงในใจสาวเจ้านั้นจะแสดงออกว่ารังเกียจชายตรงหน้าขนาดไหน แต่อิมก็ค่อยๆยื่นมือเข้าไปจับไหล่นันท์ด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดซึ้ง ...อึ๋ย อย่าแด๊กแขนกูน้าาาา กูยังไม่อยากเป็นEด้วนตอนนี้... ...อย่างสุดซึ้ง...

ในขณะที่อิมกำลังดูอาการของนันท์อยู่อย่างห่างๆ ด้วยความห่วงๆนั้น ก็ดูเหมือนว่าจะมีบุคคลไม่ได้รับเชิญกำลังมองตามพวกเขาอยู่ใกล้ๆ ในความมืดเบื้องล่าง

"อิมมมมมมมมม ผมเจ็บจังเลยยยยยยยยยย" แพร๊บ!(เสียงเหยียบ)

"อั่ก....." เสียงบุคคลปริศนาที่บางเบา

"อย่าเข้ามาใกล้สิย่ะ อยู่ตรงนั้น เออๆ ตรงนั้นแหละ อา โอเค พอ... เฮ้ย! อย่าขยับมามากกว่านี้นะ พอเลย พอ" แพร๊บ!

"อู้ยยยยยยยย... ไอ้เอี้ยเอ๊ย" คนเบื้องล่างกระทุบพื้นเร่าๆ ด้วยความเจ็บปวด ...ช่วยมองลงมาข้างล่างหน่อยเห้อคร้าบพวกคุณๆทั้งสอง... คือมือกูจะแหลกเลวอยู่แล้วเฟ้ย! นี้ถ้ากูไม่ได้กำลังเจ็บคออยู่นะ กูตะโกนบอกคุณมึงทั้งสองไปตั้งนานแล้ว... อู๊ยยยยยย เจ็บปวดรวดร้าวเหลือเกิน ...แล้วก็ไอ้แห้งคนนั้นหน่ะ! ที่กูบีบ--มึงไป มันยังไม่พอใช่มั้ย!...

"น้าอิมน้า มาดูผมหน่อยเร้ว ผมเจ็บ..." ...เสียงอ่อยเลยนะมรึง... เดี๋ยวจะได้โดนอีกสักรอบ

"ไม่เอาย่ะ! ไปไกลๆเลยนะ" อิมโบกมือไล่นันท์ด้วยท่าทีรังเกียจอย่างสุดซึ้ง ส่วนฝ่ายนั้นก็ไม่สน... ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆๆอย่างไม่ลดละ

แพร๊บ!

...อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก... กูไม่ทนมันแล้วเว้ย!!!

"โอยยยยยยยยย! จะเหยียบหาพระแสงอะไรกันนักกันหนาฮะ! กูเจ็..แค่ก! แค่ก! แค่ก! แค่ก! มือ!"

"เสียงใครวะ?" ...มองลงมาข้างล่างนี้สิครัชชชช!...

"กู แค่ก! แค่ก! อยู่...ข้าง แค่ก! ล ล่า แค่ก! ล่าง!" ...แล้วนั้นไปมองข้างบนหาพระบิดาคุณมึงรึไงครับ! กูบอกว่ากูอยู่ข้างล่างเว้ย!...

"ไหนว่ะ?" ...มันจะไปมีได้ยังไงกันเล่าไอ้บ้า! กูอยู่ข้างล่างต่างหากเล่าเว้ย!...

"ไม่เห็นจะมี..." ...สุดจะเพลียว่ะ...

"เฮ้ย!! แล้วไอ้บ้าที่ไหนมานอนอยู่ข้างล่างนี่ละเนี่ย" ...พระเจ้าท่านทรงเมตตาข้าน้อยแล้ว อะเฮือก... ในที่สุด... ก็เห็นกูซะที

ผมเผลอยิ้มออกมาซะกว้าง ไอ้คนปริศนาข้างบนนั้นจึงเกิดอาการงงว่าผมยิ้มอะไร

"ยิ้มอะไรของมันวะ?" ...กูดีใจไงเว้ย... แต่มันคงไม่รู้หรอกว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

แล้วทันใดนั้น ผมก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนบางอย่างที่หน้าผาก... ใครอีกว่ะ?

"เธอไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย? แต่ตัวร้อนมากเลยนะเนี่ย นันท์...รีบอุ้มเขาไปไว้ชั้นบนเร็ว" ผมกำลังมองนางฟ้าอยู่ใช่รึเปล่าเนี่ย... มือของเธอช่างอบอุ่นซะเหลือเกิน แล้วแสงสีขาวรอบๆตัวเธอนั้นมันอะไรกัน ...ช่างเจิดจ้าตาผมซะจริงๆ...

"แค่ก! เอะอะอะไรกันนักกันหนาครับคุณๆทั้งสอง แล้วนั้นใครนะ?" แล้วบุคคลผู้นั้นคือใครกันอีกล่ะ?

"ก๋อง! ยังไม่ตายอีกเหรอเนี่ย!" อิมป้องปากด้วยความอัศจรรย์พันลึก ...โอ้พระเจ้า นึกว่าถูกไอ้บ้านันท์ฆาตกรรมไปแล้วซะอีก!...

"ไหงทักกันยังงี้ล่ะคร้าบคุณอัครภาภรณ์ เห็นงี้ผมก็อึดน่าดูน้า... ว่าแต่หมอนั่นใคร?" จากที่ผมฟังๆมา เขาคนนี้คงน่าจะชื่อ ก๋อง ส่วนนางฟ้าคนนี้น่าจะชื่ออิม ไอ้แห้งนั่นน่าจะชื่อนันท์

"เอ้านันท์! มัวยืนบื้ออะไรเล่า ช่วยกันแบกสิ!" อิมส่งฝ่ามือเข้าไปประทับเต็มๆกลางหลังของนันท์ดังป้าบ! ใหญ่ หมอนั้นเซเล็กน้อย ก่อนที่จะโผเข้ามาหิ้วปีกผม แบ่งๆกับน้องนางฟ้าคนสวยอิมคนละข้าง

"ขอบ...คุณ แค่ก! ครับ.. แค่ก! แค่ก!" ผมเอ่ยคำขอบคุณอย่างยากลำบาก นางฟ้ายิ้มให้ผมอย่างงดงาม โอ๊ย...ละลายครับ ส่วนนันท์... หมอนั้นตีหน้าบึ้งตึง แถมยังแยกเขี้ยวใส่ผมยกใหญ่ ปานหมาหวงกระดูก ผมแลบลิ้นใส่หมอนั้นไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้ หมอนั้นก็แลบลิ้นตอบ ผมก็แลบลิ้นย้อนไปอีกหนึ่งที หมอนั้นก็แลบลิ้นกลับ ...ดูท่าว่าสงครามประสาทนี้ จะไม่จบง่ายๆซะแล้วสิ...

ก๋องยืนมองไอ้ปัญญาอ่อนสองคนที่กำลังแลบลิ้นไปมาใส่กันอย่างหน่ายๆ

"เฮ้อ... ว่าแต่ว่านายชื่ออะไรเหรอ?" ก๋องถามเสียงเบา ก่อนจะกระแอมไอออกมาเล็กน้อย

"ผมหน่ะเหรอ?" ...เออ มึงหน่ะแหละ...

"แล้วคิดว่าฉันถามใครล่ะ?" ก๋องเหล่ตามอง แอบเห็นนันท์เบ๊ะปากวอนteenอยู่ข้างๆ ...ไอ้นี้ก็เหมือนกัน สะดีดสะดิ้งซะเหลือเกิน เดี๋ยวจะได้ลองโดนteenคนป่วยดูสักรอบบ้าง เผื่อจะได้สงบปากสงบคำมากขึ้น...

"ผม...ชื่อแฟรงครับ" ชายแปลกหน้าเอ่ยออกมาเสียงเบา

"แฟรง?" ทั้งสามคนอุทานออกมาพร้อมกัน ...คุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้แหะ...

"ครับ... แฟรง แฟรง ธิติชานนท์"

"นายชื่ออะไร" หนุ่มผมทองถามชายร่างเล็กตรงหน้าด้วยมาดและแววตาเข้มขึงขัง ชายผู้ถูกถามทำท่าทีอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบ

"ผม... ชื่อหยางครับ หยาง...กุลธีร์"

"ชื่อดีนี้" ชายอีกคนเอ่ยชมออกมา ทั้งปากคาบบุหรี่

"ขอบคุณครับ..." หยางพูดเสียงค่อย

"เอาน่า! อย่าทำหน้ายังงั้นซิ ตอนนี้พวกเราก็เป็นกลุ่มเดียวกันแล้วนะ หยาง!" ชายท่าทางร่าเริงอีกคนออกปากพูดอย่างเป็นมิตร ทำให้หยางค่อยๆคลายความอึดอัดในใจออกมาทีละนิดๆ แต่พอเห็นว่ากำลังโดนจ้องด้วยเจ้าของหน้าตาเคร่งขรึมที่มีรอยบากรอยใหญ่น่ากลัว จิตใจของเขามันก็ฝ่อลงทุกที

"โธ่ เดกซ์เตอร์ครับ อย่าทำหน้าตาเคร่งให้เขากลัวยังงั้นซิครับ" ชายผู้เป็นมิตรเข้าไปถองศอกใส่ชายหน้าโหด หรือเดกซ์เตอร์อย่างหยอกล้อ เดกซ์เตอร์หัวเราะ หึ ในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาจากปากฟอดใหญ่

"ก็หน้าหมอนั้นมันเป็นยังงี้อยู่แล้วนี้น่า ชวารล์" ชายคนที่เอ่ยชมว่าชื่อหยางดีพูดออกมาติดๆ

"ผมว่าคุณน่าจะยิ้มบ้างน้าเดกซ์ เนอะ จิลล์" ชายผู้ร่าเริงหรือชวารล์หันไปถามความเห็นจากสาวสวยเพียงคนเดียวในกลุ่ม จิลล์

"ฉันไม่สนหรอกย่ะ" จิลล์ก็ตอบกลับมาอย่างเย็นชา

ดูท่าว่าตอนนี้ทุกคนจะเอาแต่พูดถึงเรื่องของตัวเองกันไปหมด โดยมีแต่เรื่องที่หยางไม่รู้อะไรเลยทั้งนั้น เขาจึงอึดอัด... แต่ก็ได้ไม่นาน เมื่อมีเสียงรถเคลื่อนเข้ามาใกล้ในบริเวณที่เราพักอยู่ ทุกคนจึงหันไปให้ความสนใจกับมันแทน

"นาธานกับเอียนกลับมาแล้ว!" มีเสียงตะโกนดังมาจากข้างนอก ทุกคนวิ่งออกไปดู รวมถึงหยางด้วยเช่นกัน

พวกเราวิ่งกันมาถึงรถกระบะคันใหญ่สีดำที่จอดสนิทอยู่ที่ลานกว้าง ทุกคนต่างมุ่งตรงไปยังทางด้านหลังรถกระบะทันทีที่ย่างมาถึง หยางกระโดดเหยงๆ ยืดตัวมองดูกลุ่มคนมุงมากมายอย่างยากลำบาก(ก็เตี้ยหนิ) เขาแอบเห็นนิดหน่อยตรงหลังกระบะ มันแน่นเอี๊ยดไปด้วยข้าวของต่างๆที่มีประโยชน์เยอะแยะเลยหล่ะ ทั้งอาหาร น้ำ น้ำมัน และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ยังใช้การได้

"วันนี้ได้มาเยอะเลยนี้น่า เจ๋งเป้งเลยเอียน" ชวารล์ออกปากชมเอียน ที่มีรูปลักษณ์เป็นหนุ่มแว่น ร่างบาง แต่กลับสะพายปืนหนักๆตั้งสองกระบอกห้อยไว้ที่ด้านหลังของตัวเอง

"ก็วันนี้ทางโล่งสะดวกจะตาย เนอะธาน"

"อืม" ชายท่าทางเซอร์ๆตอบกลับเสียงยานคาง

"เออจริงสิเดกซ์..." เอียนพูดกับเดกซ์ แต่พวกเราคนอื่นๆกลับเข้าไปสนใจกันอย่างหน้าด้านๆ โดยการเดินอยู่แถวๆนั้นคอยฟังสิ่งที่พวกเขาจะพูดกัน หยางก็เอากับเขาด้วย...โดยการไปยืนผิวปากอยู่ข้างๆเอียนอย่างเนียนๆ ผลก็คือถูกเดกซ์เตอร์จ้องเข้าให้ เขาจึงแอบถอยออกมาบ้าง แต่ก็นิดเดียวนะ ย้ำ...แค่นิดเดียว

"ฉันเจอผู้รอดชีวิตอีกคนล่ะ เป็นเด็กผู้หญิง" เอียนพูดออกมาอย่างตื่นเต้น ทุกคนหูผึ่ง

"ใคร? ไหน?" ชวารล์ดูจะออกนอกหน้ากว่าเพื่อนมากทีเดียว

"อยู่ในรถ เธอบาดเจ็บด้วยหน่ะ" เอียนบอก

"เจ็บหนักไหม?" จิลล์ถาม

"ไม่...มั้ง" ดูท่าเอียนจะไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นะนั้น

"รีบๆ เอาตัวเธอออกมาก่อน ฟินธ์ อุ้มเธอไปซะ" เดกซ์เตอร์สั่งฟินธ์เสียงเข้ม ฟินธ์รีบดับบุหรี่ ก่อนจะตรงมาที่รถ แล้วอุ้มเธอออกไป

"เลือดท่วมเลยนะนั้นหน่ะ!"

"เงียบน่าชวารล์" จิลล์เอ็ดเสียงดุ

หยางแอบชะเง้อมองดูเหตุการณ์ เขาแอบเห็นใบหน้าของผู้รอดชีวิตเล็กน้อย... แล้วนั้นมันก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ... เขาเคยรู้จักเธอมาก่อนรึเปล่านะ? นี้คือสิ่งที่หยางคิดขึ้นมาได้ในหัว

...รู้สึกแปลกๆแหะ?...

- To be continued -

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา