รักใสๆฉบับคุณหนูมาเฟีย

-

เขียนโดย รีบอร์น

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 20.32 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  10.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2557 17.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฉันเงยหน้ามองอาคารเบื้องหน้าอย่างตกตะลึง มันทั้งใหญ่โตและกว้างขวาง...เนี่ยนะเหรอ โรงเรียนของมาเฟีย...มันช่างแตกต่างจากที่คิดจริงๆ

 

“คุณจะให้ผมช่วยอะไรอีกไมครับ...ควีนสั่งไว้”

 

“ไม่แล้วค่ะ คุณลุงอาร์เตอร์เองก็มีงานท่วมตัว ถ้าลำบากถึงขีดสุดจริงๆ เมเน่จะโทรเรียกนะค่ะ”

 

“แน่ใจนะครับ...”

 

“ค่ะ เมเน่ต้องขนของขึ้นหอก่อนหกโมงเย็น...เมเน่ไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณค่ะ” ^_^  ฉันเอ่ยกับคนสนิทของพ่อ อาร์เตอร์อย่างมีมารยาทก่อนมองเขาขับรถจากไป เอาล่ะเราก็คงต้องขนของขึ้นห้องแล้วสิ ว่าแล้วฉันก็ก้มลงหมายจะยกลังของแต่เพราะเกิดมาไม่เคยยกของหนักเหมือนพี่ๆเลยทำได้แค่ยืนมองลังของอย่างอ่อนใจ เฮ้อ...เมเน่...แกเนี่ยมันคงไม่มีทางก้าวไปถึงตำแหน่งหัวหน้าแก๊งได้เหมือนพี่ๆแน่นอนเลย ขณะที่ได้แต่นั่งถอนหายใจอยู่นั้นเสียงละมุนหูของใครบางคนก็ทำให้ฉันเหลียวไปมองทันที

 

“มีไรให้ชวยไมครับ..”

 

“ค-ครับจะเป็นการรบกวนไมครับ”

 

“ไม่เลยครับ ผมกำลังว่างพอดี”^_^ ชายแว่นผมดำดกซอยสั้นเอ่ยก่อนยกกล่องที่หนักที่สุดอย่างกับว่ามันเบามาก นี้...กว่าฉันจะยกกล่องนี้มาได้ใช้สมองคิดแล้วคิดอีกนะ ฉันมองอย่างอึ้งๆก่อนจะยกของที่ตัวเองพอยกได้เดินตามไป

 

“เธออยู่ห้องไหนล่ะครับ ผมห้องสามขวามือชั้นห้าครับ”

 

“ผ-ผมน่าจะห้องสุดท้ายจากขวามือนะครับ น่าจะชั้นห้า”

 

“อ้อ นอนห้องเดียวกันกับ โซล...ฮา ไปอยู่กับพ่อคนนั้นก็เตรียมใจเป็นข้ารับใช้ด้วยนะครับ”

 

“...ทำไม...หรอกครับ”

 

“ความลับที่คุณต้องสัมผัสเองครับ” (^()^)! เขายิ้มพลางหัวเราะเบาๆในลำคอฉันมองรอยยิ้มนั้นอย่างหวาดหวั่น ฉันจะเจออะไรจากเพื่อนร่วมห้องเนี่ย แล้วความลับของฉันจะแตกไมเนี่ย ฉันคิดก่อนจะเดินมาหยุดด่านหลังของชายแว่นอย่างอัตโนมัติเขาวางกล่องก่อนเคาะประตูห้องอย่างแรงถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดก็มีสิทธิ์ว่าประตูอาจมีพังเป็นแน่ ไม่เกินอึดใจประตูถูกเปิดทันทีพร้อมร่างสู้เปลือยท่อนบนO.O!

 

“อะไรของแกว่ะ ไอ้เคนตะ คนจะนอนแล้วนั้น...เพื่อนใหม่สินะครับ”เปลี่ยนไปไวทันใจจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขายิ้มละมุนละไมให้ฉันก่อนหันไปแยกเขี้ยวให้เคนตะ ฮาทั้งสองดูสนิทกันดีดูจากการสนทนากัน

 

“แล้ว...นายชื่อไรเหรอ”

 

“ปาร์ค มินครับ...เป็นลูกชายคนสุดท้ายของ ปาร์ค เฮสเตอร์”

 

“ปาร์ค เฮสเตอร์” โซลทวนชื่อก่อนเงียบไป ใบหน้าดูจะตึงเครียดพอควร จากใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มก็เยือกเย็นเสียจนฉันเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว เคนตะยิ้มแหยะๆก่อนค่อยๆขยับเข้ามาทางฉัน

 

“มินคุง...นายคงต้องเจออะไรขั้นเลวร้ายอีกนานเลยนะ”

 

“ท-ทำไมเหรอครับ”=___=?!? ฉันถามก่อนเหลือบมองโซลที่หันมามอง เขาแสยะยิ้มให้ก่อนหันไปช่วยจัดของให้ฉันต่อ อึ้ย...น่ากลัวง่ะ เคนตะเอียงหน้ากระซิบต่อ

 

“เพราะหมอนั้นคือ คัง โซล ลูกชายเพียงหนึ่งเดียวของ คัง เจก้าคู่อริของพ่อนายนะ” สิ้นคำฉันถึงกลับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ก่อนมองโซลอย่างหวาดหวั่น ลูกของคู่อริพ่อไงเหรอ กรี๊ด ตายแน่ๆยัยเมเน่แกตายแน่ๆฉันยิ้มแหยะๆให้โซลที่หันมากระตุกยิ้มเยาะใส่ก่อนหันมาเสียใจหน้าตายมีอะไรจะโชคร้ายไปกว่านี้ไม ถ้ามีก็รีบๆผ่านมาแล้วรีบๆผ่านไปที่เถอะ ฉันจะได้ชนะเกมบ้าๆนี้ซะที จนผ่านไปถึงสองทุ่มเศษการเก็บของจึงเสร็จสิ้น เคนตะรีบขอตัวไปทำธุระต่อทั้งทีความจริงเขาบอกเองว่าวันนี้เขาว่าง! จะสตอเบอแหลไปไมย่ะ...ตอนนี้ในห้องก็เหลืออยู่แค่สองคนคือฉันและโซล...ฮือๆ...ซวยแล้ว ภายในห้องเงียบสงัด บรรยากาศยิ่งกว่าป่าช้า ทั้งอึดอัด และตึงเครียด ฉันได้แต่นั่งเขียนบันทึกบนโต๊ะมุมห้องฝั่งของฉันเองอย่างเงียบๆแต่ในใจมันกำลังเต้นรัว กลัวก็กลัว ความแตกก็เกมส์โอเวอร์แหงๆ เสียงของนาฬิกายังคงดังบอกเวลา ฉันเหลือบไปมองนาฬิกาตรงหัวเตียงก่อนพ่นลมหายใจก่อนหันไปมองเพื่อนร่วมห้อง แถมยังเป็นลูกชายคู่อริของพ่ออีก เฮ้อ...ฉันพ่นลมหายใจก่อนปิดสมุดบันทึกคู่ใจแล้วเท้าคางมองเวลาอยู่อย่างนั้นจนมีเสียงเคาะประตูจากหน้าห้อง พร้อมเสียงเรียก

 

“เฮ้...โซล...เข้าไปนะโว๊ย” สิ้นคำประตูก็เปิดเข้ามาพร้อมร่างของชายผมทอง หวา...หัวทองมาเชียว เขาหันมามองก่อนเดินดิ่งเข้ามาหาฉัน

 

“หวัด-ดี เพื่อนใหม่ นายชื่อไร มาจากไหน ห้องไร ปีไร”

 

“ผ-ผม...” เขายิงคำถามไม่รู้จบไม่เว้นให้ฉันได้ตอบแม้แต่คำถามเดียว ฉันเริ่มจะหมดความอดทนเต็มทนเพราะนี้เขายิงคำถามไม่รู้จบมาเป็นนับสิบๆรอบ และคำถามเดิมๆ ฉันกำหมัดแน่นก่อนจะสวนหน้าอีกฝ่ายแต่ก็ถูกใครบ้างคนฉุดไว้ได้ทัน

 

“อย่ามาสะเออะกับของๆฉัน”

 

“เอาน่า เจ้าหน้าสวยนี้ไม่ใช่สเปกฉันแน่นอน” เขายกมือขึ้นเป็นเชิงว่าจะไม่ยุ่งกับฉันอีกก่อนจะยิ้มระรื่นให้ฉันและโซล แล้ว...ฉันเป็นของนายตอนไหนย่ะเนี่ย แล้วสเปกเนี่ยมันหมายความว่าไง???? ขณะที่คำถามภายในใจเกิดขึ้นมากมาย ปากกำลังจะแก้ต่างให้ตัวเองนั้น มือใหญ่ของโซลก็ปิดกั้นคำพูดเหล่านั้นไป

 

“อย่าให้เห็นว่ามายุ่งย่ามกับของๆฉันแล้วกัน” -_- โซลเอ่ยก่อนสะบัดมือไล่อีกฝ่ายไปอย่างไม่ใยดี ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมไปแต่โดยดีทิ้งไว้เพียงคำถามเดิมๆที่ยิงมานับร้อยนับ...ซักวันฉันจะเอาปืนไปกราดยิงแกไอ้หัวทองปัญญาอ่อน จนประตูปิดลง โซลจึงคลายมือออกจากปากของฉันแล้วจากไป เขาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปก่อน อาพ่อฮีโร่...ต้องขบคุณนายมากๆนะที่ทำให้ฉันกับนายกลายเป็นคู่เกย์ไปในพริบตา ว่าแต่...สามทุ่มกว่าแล้วเหรอเนี่ยจะได้เวลานอนแล้วนิ ต้องรีบอาบน้ำนอนแล้วสิ ฉันคว้าผ้าขนหนูบนเตียงก่อนวิ่งเข้าห้องน้ำไป แต่เพียงเปิดประตูก็ต้องตะลึง ตาค้าง...

 

“กรี๊ด”!!

 

“หุบปาก...อ๊ะ...นาย” ตายยกกำลังสอง ฉันหน้าถอดสีก่อนเอาผ้าปิดหน้าปิดตา หรือจะพูดให้ถูกฉันคลุมตัวด้วยผ้าขนหนูในมือ เสียงซ่าของน้ำและเสียงฝีเท้าของโซลที่ก้าวเข้ามาใกล้ทุกทีก่อนจะมีเสียงตึงทั้งสองด้านของฉัน ฉันค่อยๆเปิดผ้ามอง ดวงตาที่มองมากำลังยิงคำถามมากมายมาที่ฉัน สร้างแรงกดดันแบบสุดๆ

 

“นาย ไม่สิ...เธอสินะ” เสียงของอีกฝ่ายกล่าวก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาสีดำเกินกว่าจะแหวกว่ายไปถึงก้นของความมืดนั้น ความอายและความหวาดกลัวเข้าโจมตีจนดวงตาเริ่มพลามัวพลับสติกลับดับวูบลงไปในพริบตา...

 

“เฮ้”!!

...............

โปรดติดตามตอนต่อไป

...............

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา