Love Devils
เขียนโดย รีบอร์น
วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 12.39 น.
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 16.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) เดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่พวกเราผ่านทาง 'อาณาเขตความตาย' มาได้สามชั่วโมงโซลก็นำลูกทีมซึ่งมีฉัน โชยะและฮิบายะหยุดพักใกล้ๆริมธาร ฉันนั่งมองบรรยายกาศรอบๆตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ มันทั้งสวยและคล้ายคลึงกับในฝันเสียจริงแต่มันก็แตกต่างหลายๆอย่าง
"ทานนี้หน่อยนะครับ..."
"อ๊ะ ขอบคุณค่ะ"
ฉันรับห่อกระดาษสีเทาที่ถูกห่ออย่างประณีตก่อนมองห่อกระดาษนั้นนานพอควรแล้วตัดสินใจแกะห่อออกอย่างลุ้นระทึก(ทำยังกับว่ามันจะมีอะไรโผล่ออกมาจะเอ๋ยังไงล่ะ) ภายในห่อเป็นข้าวปั้นสามก้อนฉันมองข้าวปั้นในห่อก่อนเหลือบไปมองฮิบายะที่นั่งกินข้าวปั้นอย่างเงียบๆก่อนจะหันกลับมามองข้าวปั้นในห่อกระดาษที่ถืออยู่อย่างขอบคุณ ทุกคนนั่งพักและกินข้าวปั้นจนหมด สายลมอ่อนๆพัดผ่านร่างของพวกเราไปช้าๆอย่างกับว่ามันกำลังทักทายพวกเราและค่อยๆจากไป
"เงียบสงบจังเลยนะค่ะ ที่แบบนี้"
"ชิมงก็คิดเหมือนก็กันสินะ"
"แต่ก็ใช่ว่ามันจะเงียบสงบไปซะทุกเวลานะ โลกที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์เหนือมนุษย์อยู่นะ...มันไม่ได้สวยงามอย่างที่เห็นในตอนนี้นักหรอกนะ"
โซลพูดขณะที่ร่างยังคงนอนหันหลังให้ทุกคนอยู่อย่างกังวลเล็กน้อย ทุกคนเงียบไปพักใหญ่ก่อนที่สายลมจะพัดผ่านร่างพวกเราไปอีกครั้งความเงียบเหล่านี้ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดจนกระอักกระอวมจะอาเจียนเสียให้ได้
"ไม่เอาน่า โซล...พูดขู่แบบนั้นชิมงก็กลัวแย่เลยนะสิ"
"ก็ถ้าไม่ขู่ให่กลัว แล้วจะเอาชีวิตรอดจากโลกที่โหดร้ายแบบนี้ได้เหรอไงกัน"
"คุณก็ค่อยจะถนอมจิตใจของชิมงซังบ้างนะครับ...คุณโซล"
"ฮึ"
เสียงหัวเราะในลำคอของโซล ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวฉันมันแตกต่าง มีบ้างไมนะที่เเขาคิดจะถนอมน้ำใจฉันซักครั้งฉันก้มหน้าเม้นริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงเม้นจนความรู้สึกชาไปทั้งปาก คาวโลหิตปนเปไปกับน้ำลาย สายลมพัดผ่านอีกครั้ง...แต่พัดพาเอาสิ่งที่ไม่คาดคิดติดมาด้วย
"โซล"
"...ชิ...หนีเข้าไปในป่าเร็ว"
โซลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเชิงรำคาญก่อนวิ่งนำไปอย่างว่องไวฉันที่วิ่งตามไปหันไปมองทางด้านหลัง ร่างของสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างคล้ายยักษ์(ก็ยักษ์นั้นแหละ)ใบหน้าที่บึ้งตึงของมันทำเอาฉันขนลุกซู่...ฉันเริ่มเข้าใจในคำพูดของโซลขึ้นมาแล้วล่ะว่าทำไมถึงพูดไม่ถนอมจิใจกันแม้แต่น้อย ฉันวิ่งสุดกำลังก่อนจะมีความรู้สึกว่าตัวเองเท้าลอยฉันเหลือกไปมองคนที่หิ้วฉันอย่างงุนงงและตกตะลึง...ชายที่ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจอย่างโซลจะทำเรื่องแบบนี้ได้ไงกัน
"ฉันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนั้นหรอกนะ ยัยขี้สงสัย"
"([])!!!"
ฉันอ้าปากค้างก่อนหันไปมองด้านหลังซึ่งมียักษ์ตามมาอย่างหวาดกลัวเล็กน้อยมันยังคงวิ่งตามมาอย่างไม่ลดละและดูเหมือนว่ามันจะเข้าใกล้กลุ่มของพวกเรามาเรื่อยๆยิ่งเห็นหน้ามันที่เข้าใกล้มาเรื่อยแล้วขนลุก...ใบหน้าที่มีแต่เมือกของมันนั้นเต็มไปด้วยเศษซากของศพ
"ฉัน อยากจะอ้วก"
"ใครเห็นมันก็อยากอ้วกกันทุกคนนั้นแหละ...ก็มันเป็นยักษืที่กินซากศพนี้นะถ้ามันหิวโหยขนาดหนักศพกี่ร้อยร่างก็ไม่พอจะทำให้มันอิ่มหรอกนะ"
"แล้วทำไมมันถึงไล่ตามเรามาล่ะย่ะ"
"ก็เพราะมันได้กลิ่นเธอไงล่ะ ยัยโง่...อาณาเขตความตายก็ได้กลิ่นเธอ..."
"ไม่เข้าใจเลยม้แต่นิดเดียว"
"หุบปากแล้วอยู่เฉยๆ"
โซลตวาดก่อนโยนร่างฉันใส่พุ่มหญ้าหนา ร่างของฉันที่ถูกโยนมานั้นกระแทกเข้ากับพื้นดินอยากแรงก่อนที่โชยะจะถลาเข้ามาหาฉันตามมาด้วยฮิบายะ...ที่ดูจะไม่ได้เหงื่อตกแม้แต่นิดเดียว เพราะเท้าของเขาวิ่งอยู่บนอากาศตลอดเวลาฮิบายะมองฉันแวบหนึ่งก่อนหันไปมองทางโซลที่วิ่งออกไปเผชิญหน้ากับยักษ์กินศพแสนน่าเกลียดนั้นอย่างไม่เกรงกลัวอะไร(ก็ดูจะไม่กลัวอะไรอยู่แล้วสิ)ฉันมองเขาอย่างตกตะลึง ร่างกายของเขาค่อยๆกลายเป็นเสือขนดำเงาวับดวงตาสีเหลืองขแงเขาทำให้ฉันตกอยู่ในภวงค์ชั่วครู่...ขนาดตัวแม้ว่าจะต่างกันเล็กน้อยแต่ที่เหลือโซลไม่ด้อยเลยหรือจะพูดได้ว่าเขาเก่งกาจที่สุดก็ว่าได้ โซลใช้เท้าหน้าตบยักษ์อย่างแรงก่อนตะครุบร่างที่ล้มลงอย่างว่องไว
"โซลเนี่ยสมกับเป็นเสือดผสมจริงๆนะครับ"
"ถ้าโซลได้ยินเข้า ฮิบายะก็ไม่เหลือซากพอดี"
"แหมๆ ความจริงนิครับ"
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างไม่วิตกกังวลอะไร ฉันพอจะเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่วิตกกังวลเพราะโซลมีฝีมือพอดูแต่สำหรับฉันมันก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ดี ฉันมองโซลที่ตบอีกฝ่ายอย่างแรง อย่างกับเวือที่กำลังเล่นกับเหยื่ออยู่ยังไงยังั้น จนสุดท้ายเขาก็ถอยออกมาปล่อยให้ยักษ์ตัวนั้นหน้าซีดวิ่งจากไป เขามองตามมันไปจนสุดสายตาเหมือนที่ฉันมองอยู่ก่อนจะหันกลับมาทางพวกเรา...
"อี๋...เหม็นเมือกชะมัด"
"...เมือกของพวกศพที่มันกินเข้าไปนะครับ...โซลคงต้องอาบน้ำครั้งใหญ่เลยนะครับเนี่ย"
"หุบปากนะ พวกแก...ถ้าเหม็นขนาดนั้นล่ะก็นะ"
โซลมองมาที่ฉันก่อนยกเท้าหน้าที่ดูจะใหญ่มากยิ่งเขาเข้ามาใกล้ขนาดตัวก็ใหญ่เสียจนอาจจะเหยียบพวกเราตายก็เป็นได้ กลิ่นเมือกเริ่มรุนแรงขึ้นเขาทำในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิด เขาป้ายเมือกเหม็นเน่าพวกนั้นใส่ฉันก่อนจะหัวเราะอย่างพึงพอใจ ฉันที่ทั้งเหม็นเมือกและโกรธระเบิดเสียงด่าทออย่างโมโห
"อีตาบ้า...นายทำอะไรของนายกันย่ะ มันเหม็นนะ...นายทำให้ฉันต้องอาบน้ำด่วนเลยเห็นไม..."
"โวยวายจริง...นู้น...เดินไปนู้นแล้วอาบเลยไป"
โซลตอกกลับก่อนคืนร่างเดิม ร่างเดิมของเขาก็สุดจะทนเมือกที่เปอะเปื้อนไปทั่วร่างทำเอาฉันและคนอื่นๆถอยอ้าว...ฉันรีบเดินไปตามที่โซลแนะอย่างไม่รอช้า ฉันหันกลับไปมองทางเลี้ยวซ้ายแลขวาก่อนปลดสัมภาระลงวางไว้ที่พื้นก่อนจะมองทุกด้านด้วยความอาย
"ไม่เคยคิดเลยนะ ว่าต้องทำแบบนี้นะ"
ฉันพึมพำออกมาอย่างเขินอาย แม้จะอยู่คนเดียวก็ยังอายเสียจนแทบจะโดนลงน้ำทันทีฉันค่อยปลดเสื้อผ้าออกที่ละชิ้นก่อนรีบโดดลงน้ำ น้ำทั้งใสและเย็นสบายทำเอาฉันแทบไม่อยากขึ้นเลยแม้แต่นิด...ฉันมองเหล่าลูกปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายผ่านตาไปอย่างสนุกก่อนจะมีเสียงแว่วขึ้นมา
"อย่ามัวเล่นสิ เราไม่ได้มาเที่ยวนะ"
"ซะ โซล นาย"
ฉันลดตัวลงแช่น้ำโดยอัตโนมัติแม้จะได้ยินเพียงเสียงก็ตามฉันก็อายเสียจนจะว่ายน้ำหนี ฉันรีบล้างเมือกที่เหม็นเน่าออกอย่างรีบร้อนก่อนรีบขึ้นจากน้ำมือก็คว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรีบร้อนจนเวลาล่วงไปสามสิบนาทีได้ฉันจึงตัดสินใจออกจากพุ่มไม้สูงพอควรแล้วเดินผ่านโซลอย่างเขินอาย
"ฉันไม่สนใจเธอหรอก...มีหุ่นจะโครตเอ็กซ์เซ็กซี่ขนาดไหนก็เถอะ...แต่ถ้าแต่งตัวให้สมหญิงอีกนิดฉันอาจจะสนก็ได้นะ"
"..."
"ฮา ว่าชิมงแบบนั้นก็แย่นะสิ"
"อย่างน้อยชิมงซังก็สวยกว่าคนที่โซลเรียกมานอนด้วยนะครับ"
"เฮอะ...สวยใส ไร้สมอง"
โซลทำหน้าเยาะเย้ยก่อนเดินนำต่อไป...ทุกคนยิ้มอย่างสนุกสนาน 'หนอย' ฉันมองโซลที่เดินนำอย่างสบายใจมายืนดูคนอื่นอาบน้ำแล้วมาวิพากวิจารณ์ร่างกายคนอื่นแบบนี้มันมากไปแล้วนะ...
"บ้า"
"หืม"
"อีตาบ้า"!!!
__________________
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ