Blood Moon รัติกาลใหม่

8.8

เขียนโดย undeathgirl

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.29 น.

  2 บท
  3 วิจารณ์
  5,904 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บัดดี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ในรั้วที่แสนสงบที่มีชื่อว่าคานาเรีย  เด็กหนุ่มสาวมัธยมปลายต่างก็หมั่นศึกษาไขว่ขว้าหาความรู้เฉพาะด้านตามสาขาที่ตนไดเลือกและ...  ต่อไปนี้พวกเขาอาจจะต้องเรียนสาขาบังคับของโรงเรียนซึ่งเป็นโปรแกรมใหม่ที่เพิ่งคิดออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ไม่นาน  และสาขานั้นก็คือ...

     สาขาวิชาการต่อสู้และเอาชีวิตรอด  ซึ่งผู้อำนวยการเป็นผู้ก่อต้องขึ้นเนื่องจากลูกสาวของท่านถูกอันธพาลที่ดัดแปลงร่างกายฆ่าตาย  ท่านจึงจัดตั้งมันขึ้นมาเพื่อสอนให้นักศึกษาทุกคนเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวได้  และนั่นยังเป็นผลพลอยได้ที่มันทำให้นักศึกษามีรายได้จากการทำภารกิจที่มีคนมอบหมายให้ทางโรงเรียนส่งต่อ

 

     ตึกๆ  เสียงส้นรองเท้ากระทบกับพื้นทางเดินหินของโรงเรียนอย่างแผ่วเบา  แต่ด้วยรูปร่างและใบหน้าอันโดดเด่นของผู้เป็นเจ้าของทำให้หญิงสาวน้อยใหญ่ในชุดยูนิฟอร์มสีต่างๆ  ต่างก็เคลิบเคลิ้มไปตามๆกัน  และยังทำให้ผู้ชายหลายคนรู้สึกคันไม้คันมือและเส้นกระตุกขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน

     เด็กหนุ่มผิวขาวละเอียด  ร่างสูงโปร่ง  เจ้าของเส้นผมสีทองยาวประบ่าพริ้วพัดไปตามสายลมหนาว  ดวงตาเรียบคมรับกับนัยน์ตาสีฟ้าเย็นยะเยือกมองตรงไปด้านหน้าโดยไม่สนใจสิ่งเร้ารอบตัว  คิ้วเรียวได้รูปและริมฝีปากที่ไม่เคยแย้มยิ้มทำให้เขาดุมีเสน่ห์และน่าค้นหายิ่งนักสำหรับเหล่าหญิงสาวผู้อาจหาญ

     เขาสวมเสื้อโค้ทสีครีมทับยูนิฟอร์มสีน้ำเงินเข้มของโรงเรียนซึ่งนั้นก็ยิ่งทำให้เขาดูเท่ห์เข้าไปใหญ่

      

     ฉันไม่ได้เรียนนิเทศสักหน่อยมองกันอยู่ได้  เขาคิดอย่างเหนื่อหน่ายในขณะที่เดินตรงไปยังอาคารซึ่งเป็นจุดนักหมายในเช้าวันนี้ของนักเรียนทั้งหมด  เห็นว่าผู้อำนวยการจะประกาศรูปแบบการศึกษาแบบใหม่...  ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่ดีเลยเวลาตาแก่หัวเถิกนั่นออกมาขอแก้ไขรูปแบบการศึกษา  นอกจากพูดพล่ามจนน้ำลายจะทั่วหอประชุมกับประกาศอุดมการณ์แล้วก็ไม่ทำอะไรอีกเลย...  เรียกได้ว่าน่าเบื่อเกินบรรยาย

     ถ้าไม่ใช่เพราะนี้เกี่ยวกับคณะศิลปะการต่อสู้  ฉันไม่มีวันเข้าไปนั่งฟังหมอนั่นบ่นอีกแน่  แค่ตอนปฐมนิเทศน์ก็เกินพอแล้ว!...  นึกถึงก็สยองไม่หาย  ฮึย!  เขาขมวดคิ้วนิดและแสดงออกถึงความไม่พอใจทางสีหน้าเล็กน้อยก่อนจะก้าวเดินเข้าไปยังที่ประชุมอันคับแน่นไปด้วยนักศึกษาผู้ไม่รู้จักเข็ดหลาบ

 

     "เอาหละ  ที่มาประกาศวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก  ฉันแค่อยากจะให้พวกเธอได้เรียนรู้ในรูปแบบใหม่  โดย..." ชายหัวโล้นจนแทบเรียกได้ว่าล้านยืนอยู่หลังแท่นบรรยายบนพื้นที่ยกระดับ  เขาสวมสูทเป็นทางการสีดำ...  เสียอย่างที่ว่าเขาเอาเน็คไทมาผูกเป็นหูกระต่าย  แถมยังเป็นสีชมพูลายจุดสีน้ำเงินอีกด้วย  ซึ่งมันทำเอานักศึกษาที่นั่งแถวหน้ากัดปากกลั้นหัวเราะกันจนห้อเลือดเลยที่เดียว  ส่วนพวกนิเทศก็ดีหน่อยเพราะว่าทักษะการแสดงช่วยเอาไว้มาก

     "...เราจะจัดให้มีการทำภารกิจ  แน่นอนว่าเงินรางวัลและประสบการณ์เป็นของพวกเธอ  แต่ว่าพวกเธอจะต้องมีบัดดี้  ซึ่งห้ามเป็นคนในระดับชั้นเดียวกันเพราะเดี๋ยวพวกปี1จะเดือดร้อน..." แล้วตาแก่หัวเกือบล้านก็ยังคงพูดพล่ามต่อไปจนนักศึกษาบางคนก็กลั้นหัวเราะจนท้องแข็งใกล้ตาย  หรือบางคนที่เมาน้ำลายเข้าขั้นอาการโคม่าแล้ว

     ติ้งหน่อง...  เวลาผ่านไป2ชั่วโมง30นาที  

     "...ขอจบการอธิบายเพียงเท่านี้  ไปไป  ไปหาบัดดี้ของตัวเองแล้วไปลงทะเบียนซะ"

     นี่ช่างเป็นประโยคที่ช่างชีวิตหลายร้อยชีวิตการตายที่อนาถาที่สุดในโลกเอาไว้จริงๆ...

 

     หลังจากจบการบรรยาย  เหล่าหนุ่ยสาวก็รีบปฏิบัติตามคำสั่งทันทีเนื่องจากเกรงว่าช่วงเย็นจะต้องมานั่งฟังผู้อำนวยการเทศนาเรื่องดำเนินการล่าช้าอีก

     แต่ถึงจะเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งแต่มันก็ทำให้โรงเรียนคึกครื้นขึ้นมาถนัดตาเมื่อเหล่าพวกคลั่งคนดังของโรงเรียนต่างก็รวมตัวกันเพื่อขอเป็นบัดดี้กับคนดังเหล่านั้น  และมันก็คึกคักขึ้นเรื่อยๆซะด้วย...  จนนี่ก็กลายเป็นการเกิดจราจลขยายย่อมแล้วเห็นจะได้

      "คุณเบลฟูล!  ได้โปรดมาเป็นบัดดี้ให้กับผมเถอะครับ!"

      "ไม่ใช่แก  ต้องฉันสิ  ฉันเก่งกว่าแกเห็นๆ"

      "มาเป็นบัดดี้กับผมดีกว่า"

      และอีกสารพัดคำเชิญชวนที่ไม่ได้เรื่องของเหล่าชายหนุ่มที่ยืนมุงกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ซึ่งพวกเขาก็ล้วนแต่สวมยูนิฟอร์มสีน้ำเงิน...  ชายหนุ่มของคณะอื่นๆหนะหรือ?  ตอนนี้นอนกองอยู่รอบๆแล้วหละ  อย่างว่าหละนะ  พวกคระศิลปะการต่อสู้นั้นขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังและความเถื่อนโหดโฉด

      ส่วนคณะอื่นๆ เช่น แพทย์ก็ขึ้นชื่อเรื่องหนอนหนังสือ  นิเทศก็รักสวยรักงาม  วิศวะก้ความคิดสร้างสรรค์พิลึกกึกกือ  เป็นต้น

      "ไม่!" เสียงหวานใสดั่งกระดิ่งเงินอันเต็มไปด้วยความเด็ดขาดดังขึ้นพร้อมกับร่างเพรียวเล็กในชุดยูนิฟอร์มสีขาวที่เดินกระแทกส้นรองเท้าออกมาอย่างไม่พอใจสุด  เธอมีผมสีเงินหยักศกสั้นประบ่าอันและนัยน์ตาสีแดงฉานอันเป็นเอกลักษณ์  ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยบัดนี้กลับมีอารมณ็ร้อนกรุ่นปรากฏขึ้นเล็กๆ  แต่นั่นก็มิอาจทำให้ใบหน้าหวานสวยนั้นหมดประกายไปได้

      ฉึกๆๆๆๆๆ  เสียงแทงใจดำดังติดต่อกันหลายต่อหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนในขณะที่เหล่าเด็กหนุ่มจากคณะศิลปะการต่อสู้ก็ล้มลงกองกับพื้นอย่างหมดอาลับตายอยากเมื่อถูกปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไร้เยื่อใย

      ตัวใหญ่  ใจปลาหางนกยูง(?)จริงๆ!  เด็กสาวคิดในใจในขณะที่เดินไปนั่งอ่านหนังสือที่ใต้ร่มไม้ใหญ่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุนัก  

      เบลฟูล...  เธอเป็นเด็กสาวปี1จากคณะแพทย์ที่เพิ่งเข้ามาเรียนก็มีผลงานและกลายเป็นคนดังของโรงเรียน  เนื่องจากใบหน้าที่น่ารักและน่าพิศวงในเวลาเีดียวกันกับการที่ไม่มีใครกล้าฮือกล้าอือกับเธอทั้งๆที่เธอเป็นแค่นักเรียนแพทย์ไร้ฝีมือทางด้านการต่อสู้...  ซึ่งมันทำให้เธอกลายเป็นคนที่ดังเอามากๆของคณะศิลปะการต่อสู้โดยปริยาย

     "ไงรุ่นน้อง  คนในคณะของฉันมันไม่สบอารมณืเธอขนาดนั้นเชียว?" เสียงทุ้มนุ่มลึกดังขึ้นปลุกเด็กสาวที่ตกอยู่ห้วงคำนึงที่มีแต่ตัวอักษรลอยเต็มไปหมดให้ตื่นขึ้น

     เธอเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เข้ามาทักทายก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยและปิดหนังสือในมืออย่างเซ็งๆ "ไม่ค่ะรุ่นพี่ชิลล์  ไม่ใช่อย่างนั้น  ฉันแต่ไม่ชอบพวกจิตใจอ่อนแอเท่านั้นเองค่ะ  แล้วรุ่นพี่หละค่ะ  พวกสาวสวยของคณะนิเทศศาสตร์มันไม่ตรงสเปคสักคนเลยหรือค่ะ?  ฉันคิดว่าคุณชอบผู้หญิงสวยๆซะอีก" เบลฟูลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบในขณะที่เหลือบมองพวกที่ยังคงนอนชักอยู่กับพื้นอย่างเย็นชา

     รุ่นพี่ผมทองผู้สวมชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินหัวเราะเบาๆในลำคอแลวพูดออกมาว่า "ถ้าถูกใจแล้วจะมาขอให้เธอเป็นบัดดี้ทำไมกันหละ  อีกอย่างนักศึกษาแพทย์ก็ยังเป็นหน่วยสนับสนุนที่ดีกว่านิเทศเยอะเลย" เขาพูดแล้วเดินไปกอดคอเด็กสาวจากด้านหลังอย่างถือวิสาสะ  ก็รุ่นน้องเขา  ใครจะทำไม?

     "ก็ดีค่ะ  แต่ว่ารุ่นพี่ต้องรับประกันว่าพวกผู้หญิงในฮาเร็มกับแฟนคลับจะไม่มาช่วยกันฆ่าปิดปากฉัน" เบลฟูลโต้ตอบทันที่พรางเอามือของรุ่นพี่หนุ่มออก

     "ฮาเร็ม?  พูดเป็นเล่นไป  ใครบอก  ฉันถือว่าเธอตกลงแล้วกันเพราะฉันลงทะบียนเรียบร้อยแล้ว" ชิลล์พูดอย่างไม่ใส่ใจในขณะที่ล้วงของบางอย่างจากระเป๋าเสื้อโค้ทตัวนอกแล้วโยนมันให้รุ่นน้องผู้แสนน่ารัก

     เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน...

     หมับ  เด็กสาวคว้ามันเอาไว้อย่างคล่องแคล่วแล้วมองดูด้วยความฉงน  กำไลสีเงินที่มีสัญลักษร์เรืองแสงสีฟ้าน้ำทะเลเป็นรูปขนนก "อะไรหละนั่น?  ของฝากจากต่างแดนเหรอ?"

     "เครื่องมือสื่อสาร  กดตรงนั้นแล้วมันจะแสดงแผนภารกิจและงานที่ต้องทำ  แสดงรายละเอียดของเป้าหมาย" เด็กหนุ่มชี้ไปที่รูปขนนกตรงกำไลข้อมือแล้วกดสาธิตให้ดู  แสงสีฟ้าปรากฏเป็นภาพโฮโลแกรมที่แสงตัวอักษรและคำสั่งต่างๆ "ทั้งหมดนี่สั่งการด้วยเสียง  เธอคงจะใช้เป็นนะรุ่นน้อง" เขาพูดในขณะเหลือบมองโทรศัพท์รุ่นปุ่มกดที่เขาเลิกใช้กันไปนานแสนนานแล้วซึ่งอยู่ในมือรุ่นน้องของเขา  มีเธอคนเดียวนั่นแหละที่ยังใช้รุ่นนั่นอยู่  เก่าโคตรขนาดพ่อยังไม่รู้จัก

     "เป็น"เด็กสาวตอบกลับอย่างฉุนๆทันทีก่อนจะเดินผละจากไป

 

     เด็กสาวผมเงินเดินออกมาจากความชุลมุนวุ่นวายจนมาถึงสวนน้ำพุของโรงเรียนซึ่งบัดนี้ร้างและไร้ผู้คน  ตามรูปปั้นนางพรายทั้ง5ซึ่งยื่นมือขวาไปยังบ่อน้ำตรงกลางต่างก้มีตะไคร่สีเขียวๆขึ้นเต็มไปหมดจนแทบไม่เหลือความงาม

     "จะตาม...  ฉันไม่ถึงเมื่อไหร่?" เธอเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยที่สายตายังคงมองไปยังรูปปั้นนางพรายที่บัดนี้ไม่มีน้ำไหลออกมาจากฝ่ามืออีกต่อไป  บ่งบอถึงความปล่อยปละละเลยของนักศึกษาคระนิเทศศาสตร์  ซึ่งเป็นผู้ดูแลส่วนนี้

     "รู้ตัวด้วยเหรอ?  แต่ก็ดี  พวกฉันจะได้จัดการง่ายๆหน่อย" เสียงแหลมสูงชวนปวดหัวดังขึ้นพร้อมกับเจ้าของเสียงซึ่งเป็นเด็กสาวชาวพังค์ผู้ย้อมผมสีชมพูแปร๊ดและมีนัยน์ตาสีฟ้าซีด  ยูนิฟอร์มสีน้ำเงินของเธอบอกชัดถึงสัญชาติอันป่าเถื่อน  ส่วนเพื่อนๆของเธอนั้นสวมชุดยูนิฟอร์มสีแตกต่างกันไป

     ทั้งสีเขียวของวิศวะ  สีเทาของคณะนิเทศและสีชมพูของพวกเลดี้คลับ

     "บังอาจมากมายุ่งกับคุณชิลล์แบบนี้  ยกโทษให้ไม่ได้!" นักศึกษาคนเดิมตะคอกใส่เธอด้วยเสียงแปดหลอดที่ชวนแก้วหูแตก

     "เอ้า!  ก็รุ่นพี่ฉันนี่" เบลฟูลพูดพรางเลิกคิ้วในขณะที่หันไปมองพวกนั้นอย่างจริงๆจังๆ  ฉันรำคาญเสียงยายนี่จริงๆ "หรือว่าเธอมีปัญหา?" เธอพูดในขณะที่เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อนอก  เอายังไงดี?  ทำอย่างไรถึงจะเข้ากับสถานการณ์

     "แต่เธอไม่...!!!" เด็กสาวคนนั้นหยุดปากเข้าไว้แล้วบังคับให้มันปิดสนิททันทีที่มองเห็นบางคนซึ่งโผล่มาจากด้านหลังของเด็กสาว

     "มีปัญหาอะไรหรือไงอลิซ?    เธอเป็นนักรบนะ  ไม่ควรจะเอาเปรียบผู้ที่ไร้ทางสู้และอาวุธ  และอีกอย่างการที่นำพวกมาตีผู้ที่อ่อนแอกว่าแบบนี้มันช่างไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดีเลย  เธอไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นนักรบหญิงแล้วหรือไง?" เสียงทุ้มต่ำแกมตำหนิดังขึ้นพร้อมกับเสียงส้นรองเท้าหระทบพื้นหินปูนอย่างเป็นจังหวะ

     "แต่ฉันยังไม่ได้..." เด็กสาวนามอลิซเอ่ยปากดต้เถียงด้วยเสียงที่อ่อนทุ้มลงบ่งบอกถึงความเกรงอกเกรงใจต่อกันและกัน  เธอหยุดประโยคนั้นไว้กลางอากาศแล้วหันเหลียวหลังไปมองพวกที่ตามเธอมา  ในมือของพวกนั้นมีอาวุธหลากหลายชนิดด้วยกันตั้งแต่ไม่จิ้มฟันยันยานUFO(?)  ซึ่งนั่นทำเอาเธอหมดสิทธิ์ในการแก้ตัวไปโดยปริยาย

     เด็กสาวผมเงินก็มองเช่นกัน  คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันทันที  มีบางอย่างผิดปกติ...  เธอใช้ความสามารถในการสังเกตระบุสิ่งที่ผิดแปลกไปจากปกติแล้วเอ่ยปากออกไปด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า "ถอยออกมา  รุ่นพี่อลิซ!" เมื่อสิ้นเสียงอันตื่นตระหนกของเด็กสาว  วัตถุสีเงินวาวก็ถูกขว้างออกไปโดยมือซ้ายของเธอ

     เคร้ง!  มีดสั้นในมือนักศึกษาชุดเทาคนหนึ่งตกลงบนพื้นพร้อมกับมีดเปิดซองจดหมายที่บิ่นจนผิดรูป

     อลิซรีบไถลตัวหลบมายังข้างกายของเด็กหนุ่มผมทองทันทีด้วยเหตุจะหาที่พึ่งอันไว้ใจได้  นี่มันอะไรกัน  แววหวาดวิตกจนเกินเหตุปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอและนั่นก้มาพร้อมกับดาบสั้น2เล่มซึ่งทำจากโลหะที่มีความทนทานยืดหยุ่นเป้นพิเศษ  ตัวดาบสีเงินวาวสะท้อนแสง     

     "นี่มันอะไร?" ชิลล์ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดในขณะที่ดึงดาบออกมาจากเสื้อโค้ทสีครีมตัวใหญ่  เขาไม่ได้ถามอลิซแต่เขากำลังถามฝ่ายสนับสนุนอย่างเบลฟูลที่มีหน้าที่วิเคราะห์และสนับสนุน

     "พวกเขาไม่ใช่นักเรียนของที่นี่..." เบลฟูลพูดในขณะที่ค่อยๆถอยไปยืนเป็นแนวหลัง  ใบหน้าหวานสวยดูโหดเหี้ยมขึ้นมาอยู่ชั่วครุ่ก่อนจะเลือนหายไปทันทีเช่นกัน  ความรู้สึกี่มันอะไรกัน...  เธอสามารถได้ยินเสียงหัวใจได้ชัดเจนขึ้นจนน่าแปลกราวกับว่ามีใครควักมันออกมาจากอกแล้วนาบไว้ที่ข้างหูเธอ "ปีศาจ..." น้ำเสียงของเธอฟังดูราวกับคนนอนละเมอเพ้อพูดออกมา

     แต่ว่ามันก็มีสิ่งหนึ่งที่ยืนยันคำพูดของเธอได้...  ก็พวหนักศึกษาพวกนั้นนั่นแหละ  

     นัยน์ตาเหลือกขึ้นจนขาวโพลน  เอ็นและเส้นเลือดปูดโปนจนเห้นได้ชัดราวกับจะทะลุผิวหนังออกมาพูดคุยกับผู้คน(?)  เล็กมือกลายเป็นสีดำยาว...  ไม่มีคำอื่นที่จะเหมาะไปกว่าคำนี้อีกแล้ว

     นี่มันตัวอะไรกันวะเนี่ย!  ชิลล์แสยะยิ้มเย็นแล้วเตรียมจะเข้าฟาดฟันทันทีที่สมโอกาสหรือมีการประเดิมเปิดฉากนองเลือดนี้...  และเขาก็ฉลาดพอที่จะรู้ได้ว่าไม่ควรเป็นคนประเดิมเนื่องจากไม่มีผลดีเลยสำหรับการที่จะลองของเป็นคนบ้าเลือดร้อนกระโจนเข้าหาคู่ต่อสู้ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางจำนวนเป็นสิบ     

     "พูดเป็นเล่น  ไม่ใช่พวกมนุษย์กลายพันธุ์ในห้องทดลองของพวกเธอหรือไง  ยัยพวกบ้าการทดลอง" อลิซรีบพูดถึงความเป็นไปได้ที่สูงที่สุดในโรงเรียน(?)  ก็แหงหละพวกนักศึกษาแพทย์โรงเรียนนี้ยิ่งชอบสร้างสัตว์แปลกอยู่  ไม่แน่นะนี่อาจจะเป็นหนึ่งในผลงานผิดพลาดที่หลุดออกมาก็ได้  

     "ไม่ใช่..."เบลฟูลพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง  มือขวาของเธอกุมหน้าอกซ้ายแน่นและมีอาการหอบหายใจ  ทำไม...  ทำไมหัวใจถึงได้เต้นเร็วอย่างกับ...  จะหลุดออกมาแบบนี้...  เธอพยายามแบมือซ้ายที่ตอนนี้เกร็งจนเอ็นตึงไปหมด "พวกนี้...  ไม่ใช่แน่นอน"

     "เธอเป็นอะไร?" อลิซถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกันวนในขณะที่มองพวกที่อยุ่รอบๆซึ่งค่อยๆตีวงกันเข้ามาจนแทบไม่เหลือทางออก "อุ้มยายนั่นซะแล้วฝ่าออกไป  ชิลล์นายก็รุ้ที่เป้นทางที่ไม่เสี่ยงที่สุดแล้ว"  ถึงฉันจะไม่ชอบแต่การจะปล่อยให้ใครตายต่อหน้ามันเสียศักดิ์ศรีสุดๆเลย

     "ไม่ได้หรอกอลิซ...  พวกนั้นหนะนะ" ชิลล์ส่ายหน้าเบาๆในขณะที่หยุดคำพูดเอาไว้อย่างลังเลไม่กล้าพูดต่อก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป "ฉันเคยสู้กับพวกมัน  พวกมันตายเบลฟูลมา  เป็นปีศาจ"

     "รุ่นพี่...  พวกมันไม่ถูกกับน้ำ" เด็กสาวผมเงินฝืนพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าราวคนแก่  มือของเธอก็ชี้ไปยังในบ่อน้ำด้านหลังของเธอ "ฟัน...  หัวน้ำพุ" เธอเค้นเสียงพูดออกมาก่อนที่จะทรุดลงข้างๆขอบหินของบ่อ  อะไรกัน...

     เด็กหนุ่มผมทองพยักหน้า  เขาขว้าเอวเด็กสาวทั้งสองแล้วกระโดดขึ้นใช้มือของรุปปั้นนางพรายเป็นแท่นกระโดด  ในขณะที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ  ดาบในมือของเขาก็ถูกขว้างลงไปยังในกลางบ่ออย่างแรง  เสียงเคร้งดังขึ้นพร้อมกับสายน้ำที่พวยพุ่งและกระเซ็นออกข้างอย่างแรง

     ปีศาจที่ถูกหยดน้ำกระเซ็นใส่เริ่มร้องโหยหวนด้วยเสียงแสนจะชวนเอามีดทิ่มแก้วหูให้แตก  ตามร่างกายของพวกมันมีแผลเหมือนน้ำร้อนลวก  บางตนที่โดนไปเต็มๆก็จะสลายกลายเป้นฝุ่นหรือธุลีเถ้า

     ชิลล์ทิ้งตัวลงบนเสาสูงเสาหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ  ในอ้อมแขนของเขาตอนนี้เหลือเพียงเบลฟูลเพียงคนเดียว  ส่วนอลิซเธอกระโดไปอยุ่ที่อีกเสาหนึ่งเนื่องจากไม่ค่อยชอบเล่นบทเจ้าหญิงให้เจ้าชายมาช่วย  เพราะอะไรหนะเหรอ?  เพราะมันดูอ่อนแอหนะสิ!

     ตัวเย็นและเบามาก...  ชิลล์มองรุ่นน้องในอ้อมแขนซึ่งสลบไร้สติสลับกับพวกปีศาจที่บัดนี้สลายหายไปเกือบหมดสิ้นแล้ว  "อลิซ  ห้องพยาบาลไปทางไหน?"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา