Vampire Bangkok แวมไพร์ แบงค็อก

8.3

เขียนโดย justin

วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.33 น.

  23 ตอน
  1 วิจารณ์
  29.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 13.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ความเป็นมาของแวมไพร์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แวมไพร์อาร์ทกับแวมไพร์นัท มาปรากฏกายอีกครั้งที่คฤหาสน์ที่ไม่ใหญ่โตมากนักย่านชานเมือง คฤหาสน์หลังนี้ตกแต่งภายในอย่างหรูหราผสมผสานกับความทันสมัย ด้วยการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ชั้นนำสไตล์อเมริกันคลาสสิกนำเข้าจากต่างประเทศ ใช้วัสดุตกแต่งระดับพรีเมียม ผนังหินอ่อนจากอิตาลี ชุดประตูจากอเมริกา พื้นทางเดินเพิ่มด้วยหินเทียม และตกแต่งภายในทั้งหลังด้วยลวดลายเส้นสายดูมีความเป็นโมเดิร์นมาก อาร์ทได้ซื้อคฤหาสน์หลังนี้ไว้หลังจากที่เดินทางมาจากสังขละบุรี

ตั้งแต่อาร์ทเดินทางกลับจากเชียงตุงกลับมาอยู่ในแดนสยามอีกครั้ง ธุรกิจเหมืองพลอยของอาร์ททำเงินให้อาร์ทอย่างมากมาย เขามีเหมืองพลอยทั้งที่ในเมืองกาญจนบุรี จันทบุรีจนไปถึงเมืองตราด

หากเอยชื่อทับทิมสยาม หลายคนคงคุ้นหูกันมาตั้งแต่ในอดีต ทำให้หลับตานึกภาพพลอยสีแดงอมชมพูที่สวยงามเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับ นอกจาก ทับทิม แล้วยังมี ไพลิน บุษราคัม และ เขียวส่อง

การค้าขายแร่อัญมณีอันทรงคุณค่านี้ ไม่ได้มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้น อาร์ทยังติดต่อพวกพ้องพ่อค้าแวมไพร์ที่ต่างประเทศ ทำให้สถานะของอาร์ทเป็นเศรษฐีแวมไพร์ตนหนึงเช่นกัน

“อาร์ท เรื่องที่เกิดขึ้นกับ เอ้อ..... ค้างคาวผี...ที่นายเรียก มันคืออะไรเหรอ”

นัทยังไม่หายสิ้นสงสัย เขาถามอาร์ทด้วยความอยากรู้ กับสิ่งที่เหมือนกันกับเขาทั้งสอง หรือต่างกัน กับสิ่งที่อาร์ทเรียกหญิงสาวแวมไพร์เช่นนั้น

“นายสงสัยใช่ไหม”

“ใช่ อาร์ท เรากับเธอมันต่างกันเหรอ”

“ใช่แล้ว เราต่างกัน”

“อย่างไร”

“พวกเราสืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์มาจากราชาแวมไพร์ ตระกูลอิสคาริโอท นับกว่าสองพันปีแล้ว ท่านมีผู้รับใช้มากมาย อานาทาเซีย ท่านพ่อของเรา ก็เป็นผู้รับใช้ที่ใกล้ชิดของท่านก่อนที่ท่านจะถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ แต่มีหนึงในผู้รับใช้ของราชาแวมไพร์คิดคดทรยศ อยากจะขึ้นเป็นราชาปกครองเหล่าแวมไพร์ จึงเกิดการสู้กันขึ้น ผู้ทรยศนั้นพ่ายแพ้ และหนีไป”

“แต่ราชาก็ไม่ยอมลดละ ด้วยความโกรธ และเคียดแค้น ท่านจึงส่งเหล่าทหารแวมไพร์ออกตามล่า ทำให้ผู้ทรยศนั้นไม่สามารถย่างกายไปที่ใดได้ เขาเข้าไปหลบตัวอยู่ในถ้ำป่าลึกของเทือกเขาแอลป์ เมื่อหลบซ่อนตัวอยู่เนิ่นนานความหิวกระหายก็เพิ่มขึ้น สัตว์ป่าถูกจับกินเลือดเป็นอาหารเป็นจำนวนมาก”

“แต่ในถ้ำนั้น มีค้างค้าวยักษ์ที่ไม่ยอมและต่อสู้ ต่างต่อสู้กัน เขี้ยวแลกเขี้ยว เลือดแลกเลือด สุดท้ายผู้ทรยศไม่อาจจะต่อสู้กับค้างคาวยักษ์นั้นได้ จึงหนีออกมาจากถ้ำและถูกเหล่าทหารแวมไพร์จับได้ ถูกนำตัวไปให้ราชาแวมไพร์ตัดสินโทษ โทษนั้นถึงตายสำหรับผู้ทรยศต่อราชา”

“แต่การตายของผู้ทรยศนั้นได้ทิ้งปีศาจร้ายไว้เบื้องหลัง เมื่อค้างคาวยักษ์นั้นได้กลายเป็นค้างค้าวแวมไพร์ผีดูดเลือด มันได้เที่ยวออกล่าเหยื่อกัดกินดื่มเลือดของมนุษย์มากมายในแถบนั้น หนึ่งในนั้นมีเจ้าเมืองผู้หนึงไม่อาจหนีคมเขี้ยวของค้างคาวแวมไพร์นั้นได้ เขาถูกกัดและติดเชื้อแต่ไม่ตาย เขาได้กลายเป็นปีศาจเหมือนเจ้าชีวิตของเขา ค้างคาวผีดูดเลือด เผ่าพันธุ์ของเขายังสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้”

“หญิงที่เราพบวันนี้สินะ......แล้ว พวกเขากับเราไม่ถูกกันเหรอ”

“หลายครั้งเมื่อในอดีตที่เราสู้รบกันเพื่อขยายอำนาจแย่งอาณาเขตการปกครอง การต่อสู้ดำเนินมานับหลายศตวรรษ พวกพ้องทั้งสองฝ่ายต่างก็ล้มตายเป็นจำนวนมาก”

“จนกระทั้งราชาของเรากับเจ้าเมืองค้างคาวผีได้ทำข้อตกลงสงบศึก และเป็นพันธมิตรกัน”

“ถ้าอย่างนั้นศึกก็สงบไปแล้วสิอาร์ท”

“ไม่ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อศตวรรษที่ผ่านมา พวกพ้องของเราสืบได้ว่า พวกค้างคาวผีได้ไปทำพันธะสัญญาลับๆ กับพวกเหล่านักล่าแวมไพร์ในสแกนดิเนเวีย ความตึงเครียดจึงประทุขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้พวกมันจะพยามปฏิเสธก็ตาม แต่พวกเรามีหลักฐานเพียงพอ”

“นี่นายกำหลังบอกว่า สงครามจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเหรอ”

“มันยังไม่แน่หลอกนัท ถ้าไม่มีฝ่ายหนึง ฝ่ายใดเริ่มทำลายล้างกันก่อน”

“แล้ว...เขาไม่ใช่พวกแดร็กคิวล่าเหรออาร์ท เป็นค้างคาวผีดูดเลือดเหมือนกันนี่”

“ฮ่าๆๆๆ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น”

อาร์ทหัวเราะให้สิ่งที่นัทสนใจถาม

“นายอย่าบอกนะว่าเป็นอีกเผ่าพันธุ์หนึง”

“ถูกแล้วนัท ท่านเค้าท์แดร็กคูล่า ไม่ใช่พวกค้างคาวผี”

นัทมองหน้าอาร์ทอย่างแปลกใจ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยถามต่อ อาร์ทได้เล่าให้ฟังต่อเหมือนรู้เป็นนัยๆ อยู่แล้วนัทจะถาม

“ วลาด เทเปซ เจ้าชายแห่งแคว้นวาลาเคีย ผู้ปกครองทรานซิลเวเนียในโรมาเนียในยุคกลาง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมในการทรมานเชลยศึก แวมไพร์ผู้เป็นอมตะ อาศัยอยู่ในปราสาทที่ทรานซิลเวเนีย เป็นชายชราแต่ร่างกายแข็งแรง มีผมและหนวดเคราสีขาวโพลน ตาสีแดงมีแววโหดเหี้ยม ฟันเล็กแหลมคม ชอบสวมชุดยาวสีดำล้วน พูดภาษาอังกฤษชัดเจนแต่สำเนียงแปลก จะปรากฏตัวเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น ท่านพยายามจะขยายอิทธิพลจากทรานซิลเวเนียไปทั่วยุโรป โดยเริ่มจากลอนดอน”

“ท่านออกสู้รบต่อต้านจักรวรรดิออตโตมันหลายต่อหลายครั้ง แพ้บ้างชนะบ้าง ครึ่งหนึงเมื่อท่านออกรบ ข่าวคราวแพร่กระจายว่าท่านเสียชีวิตในสงคราม ทำให้หญิงที่ท่านรักตรอมใจ นางตัดสินใจทำอัตวินิบาตกรรม กระโดนจากหอคอยสูงของปราสาทลงไปสู่ทะเล เกลียวคลื่นได้กลืนชีวิตของนาง และสิ้นใจตายทันที หลังจากที่เจ้าชายวลาด เทเปซ กลับมา เมื่อทราบเรื่อง ท่านเสียใจมากประกาศตัวตัดออกจากพระศาสนจักรและตั้งตัวเป็นศรัตรูตั้งแต่นั้นมา มันเป็นจุดเริ่มต้นของคำสาป คำสาปที่ทำให้ท่านกลายเป็นแวมไพร์”

“อ่ะ”

“ แต่ท่านมีอำนาจในการแปลงตน”

“แปลงตน ??”

“ใช่แล้ว ท่านและพวกพ้องของท่านมีอานุภาพสามารถแปลงตนเป็นค้างคาว เป็นหมาป่า หรือเป็นงูได้ แต่พวกเราเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดและเกื้อกูลด้วยดีเสมอมา เราไม่เคยขัดแย้งหรือมีสงครามระหว่างกัน”

“ถ้าอย่างนั้นก็หมดศัตรูไปอีกหนึงเผ่าพันธุ์”

“ฮ่าๆๆๆๆ นายเข้าใจพูด”

อาร์ทยืนขึ้นเอื้อมแขนไปโอบไหล่ ผายมือลูบหัวนัทเบาๆ พร้อมกับถอนหายใจยาว

“ทุกเผ่าพันธุ์ ต่างก็ต้องการ ดำรงเผ่าพันธุ์และเอาตัวรอดด้วยกันทั้งนั้น นายอย่ากังวลเลย”

“บางครั้งเราก็สับสน ระหว่างมนุษย์ กับแวมไพร์ใครโหดร้ายกว่ากัน”

“เราต่างก็โหดร้ายด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่คนละรูปแบบ”

“เมื่อก่อนเราล่ามนุษย์เพื่อเป็นอาหารเท่านั้น แต่มนุษย์ล่าพวกเราเพื่อต้องการเราเป็นทาส แม้แต่มนุษย์กับมนุษย์ด้วยกันต่างก็ทำสงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่ อำนาจ การต่อรอง แต่ก่อนพวกเราเปราะบางมากในเวลากลางวัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว อำนาจการต่อรองจึงลดลง แม้พวกเราต้องการเดินอย่างมนุษย์ แต่พวกเขาไม่คิดว่าเราเป็นมนุษย์ เราจึงยังต้องปกปิดความเป็นตัวตนของเรา”

นัทยังยืนฟังอย่างสนใจมันเหมือนกับเปิดโลกทัศน์ที่เขายังไม่รู้มาก่อน อาร์ทยื่นแก้วที่ถูกรินด้วยเลือดสังเคราะห์ส่งให้

“ในตัวมนุษย์ยังมีความกลัว ความหวาดระแวง และการหักหลัง พวกเราทำทุกอย่างเพื่อให้พวกเขาเข้าใจว่าพวกเราไม่มีจริง เป็นแค่ตำนาน มันดีสำหรับเราและพวกพ้องของเรา”

“อย่างที่เราเคยได้ยินมาตอนที่เป็นมนุษย์ใช่ไหม”

“ถูกต้องแล้วนัท ให้มันเป็นแบบนั้นต่อไป ให้มนุษย์เข้าใจอย่างนั้นต่อไป”

เมื่อถึงเวลาที่นัทต้องกลับคอนโด อาร์ทเดินออกมาส่งด้านนอกคฤหาสน์ก่อนนัทจะเคลื่อนตัวลอยขึ้นแหวกความมืดหายไป

อาร์ทจบบทสนนาด้วยการทิ้งท้ายถ้อยคำปริศนาไว้

“ยังมีพวกมีเขี้ยวคล้ายสัตว์ป่าอีก ที่เราจะบอกนายภายหลัง”

............................................. * ................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา