Darksiders :The Chaos Word
เขียนโดย ไีรโฮ
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.44 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) Day 4 Mission 11 Awakend of God steel
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบู้ม!! แซนร็อควิ่งผ่านกลุ่มเจเนรอล อย่างรวดเร็วทันทีที่วิ่งผ่าน ทรายที่อยู่ในบริเวณนั้นก็ระเบิดอย่างรุนแรงและดูดพวกเจเนรอลทั้งหมดลงไปในทะเลทรายอย่างรวดเร็ว
“โย่ว! ไอ้พวกกระจอกทั้งหลายรับพลังนี้ไป!!!”แซนร็อครวบรวมพลังวิญญาญทั้งหมดไปที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง
ขณะนั้นเองพวกเจเนรอลแฮมเมอร์ยี่สิบตัวก็ออกมาตั้งโล่เตรียมกันพลังที่กำลังจะถูกปล่อยมา
“เห้ๆ!! คิดว่าจะต้านพลังฉันได้ เหรอ!!”
แซนร็อคฟาดพลังจากมือทั้งสองข้างไปใส่ ขบวนรถที่จอดอยู่นิ่งและมีเหล่าเจเนรอลแฮมเมอร์ตั้งการ์ดป้องกันทันที บึ้ม!!! ทันทีที่พลังทั้งสองพุ่งชนโล่ของเจเนรอลแฮมเมอร์ก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง และทรายจำนวนมากที่อยู่ในเขตขบวนรถย์ก็พุ่งขึ้นท้องฟ้า แล้วค่อยๆกลายเป็นหนอนจำนวน 2 ตัว
“กินมันเลย!!! กินให้เต็มที่ไอ้พวกเจเนรอลเยอะขนาดนั้นพวกแกกินเข้าไปคงอิ่มได้ทั้งเดือน”แซนร็อคพูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนานเหมือนกำลังเล่น
กร๊วบ! กร๊วบ! เสียงกระดูกแตกดังออกมาเจเนรอลหลายตัวถูกหนอนสองตัวไล่กินอย่างเอร็ดอร่อย เจเนรอลแฮมเมอร์หลายตัววิ่งหนีออกจากจุดที่หนอนสองตัวกำลังอาละวาดไล่กิน ซูม!!! หนอนอีกตัวที่มีขนาดใหญ่มากพุ่งออกมาจากทรายแล้วงับพวกเจเนรอลแฮมเมอร์หลายตัวที่วิ่งหนีออกมาก่อนที่จะกลืนลงท้องไป
ผ่านไป 5 นาที
ขบวนรถย์ถูกทำลายจนย่อยยับ และเจเนรอลทั้งหมดที่คุ้มกันรถก็โดนหนอนทะเลทรายของแซนร็อคทั้งหมดสามตัวกลืนกินไปจนสิ้นซาก แซนร็อคโดนเข้าไปสำรวจสิ่งของที่กระจุยกระจายออกมาจากตัวรถ
“ของพวกนี้เหรอ ที่บริษัทเฮลการ์ดจะทำการทดลองกับมนุษย์”
ขณะนั้นเองแซนร็อคก็เหลือบไปเห็นหลอดแคปซูลที่ยังไม่แตกหนึ่งขวดหล่นอยู่บนพื้น แซนร็อคก้มตัวลงไปเกือบขึ้นมาดูแล้วพิจาราณาดู
“ท่าทางนี้จะเป็นตัวไวรัส ซอมบี้นั้นสิน่ะ... เอายังไงดีล่ะคราวนี้ จะส่งให้พวกลิเวียหรือว่าจะส่งให้พวกไฟตติ้งฮิวแมนดี..”
ประเทศแห่งหนึ่ง
ค่ายทหารแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่และกว้างมาก และมีบริษัทหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางกองทัพ ที่ตัวตึกชั้นบนสุดเขียนชื่อบริษัทเอาไว้ว่า “Fighting Human”
ห้องประชุมข้างในบริษัท
“คณะกรรมการทุกท่าน ตอนนี้โครงการ Robot for Destroy Chaos กำลังดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและตอนนี้พวกเรากำลัง จะเผยข้อมูลโปรเจคต์ที่นำตัวเครื่อง A1 ซี่รี่ย์ นั้นก็คือ Beat Machine Destroy ซี่รี่ย์”
ชายในเสื้อประธานกำลังกล่าวเปิดโปรเจคต์ ขณะนั้นเองที่กล่องสี่เหลี่ยมที่อยู่หน้าที่นั่งของเหล่าผู้คนในห้องประชุม ก็ฉายภาพแบบแปลนและข้อมูลต่างๆของหุ่นในตระกูล Beat Machine Destroy ขึ้น
“นี้นะเหรอ หุ่นในซี่รี่ย์ที่ว่า”
“ถ้าทางจะช่วยให้พวกเราลดการสูญเสียระหว่างการต่อสู้กับพวกคาออสไปได้มากเลยทีเดียว”
“แต่แบบนี้จะเวิร์คหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“พวกปีศาจชั้นเจเนรอลค่อนข้างที่จะโหดพอสมควรเลย”
เสียงพูดคุยในห้องประชุมเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ประธานการประชุมเริ่มเห็นว่าคนในห้องเริ่มวิจารณ์ต่างๆนาๆแล้ว จึงเอ่ยขึ้น
“ทุกท่าน กรุณาอยู่ในความสงบด้วย”ประธานกล่าวขึ้น
เสียงในห้องประชุมค่อยๆเงียบลงไป ทุกคนต่างรอฟังข้อมูลโปรเจคต์นี้อย่างใจจดใจจ่อ
“ชื่อของซี่รี่ย์นี้ก็บอกอยู่แล้ว่า สุดยอดเครื่องจักรแห่งการทำลายล้าง(Beat Machine Destroy) รุ่นนี้ไม่ใช้เครื่องผลิตจำนวนมากแบบ A1 พวกเราได้แอบทดสอบมาแล้ว่า A1 ต่อกรได้กับแค่ปีศาจชั้นซอมบี้เท่านั้น หากเป็นปีศาจชั้นเจเนรอลขึ้นไปละก็ A1 นั้นถูกทำลายได้อย่าง่ายได้ โดยเครื่องหุ่นในซี่รี่ย์นี้มีเพียงเครื่องเดียในตอนนี้ที่พวกเราออกแบบมาให้สู้กับ พวกปีศาจชั้นเจเนรอล และปีศาจในทุกชั้นได้อย่างแน่นอน”
ภาพที่ฉายออกมาทั้งหมดเปลี่ยนไปเป็นรูปหุ่นยนต์ส่วนสูง 8 เมตร ร่างกายสีดำมีส่วนหัวที่มีลักษณะและองศาคล้ายมนุษย์
“นี้คือ หุ่นตัวแรกในซี่รี่ย์ BMD มีนามว่า BMD-01-Hades Nova”
เปรี้ยง!! เสียงฟ้าผ่าลงมาอย่างรุนแรงและตามมาด้วยสายฝนที่กระหน่ำตกลงมา
เวลา 10.30 น. รีสอร์ท บ้านพักของวายุ
“งืม......”
วายุยังนอนหลับอยู่บนเตียง และผลิกตัวไปมาโดยไม่มีท่าทีแสดงให้เห็นว่าจะตื่นโดยแต่อย่างใดแม้จะมีแสงพระอาทิตย์ส่องเข้ามาในห้องก็ตาม แอ๊ด! เสียงประตูเปิดออก
“ตื่นได้แล้วๆ นี้สายมากแล้วน่ะ”โซม่าพูดขึ้นขณะที่เดินมาหาวายุที่เตียง
“งืม..ขอ..อีกสัก 5 นาทีคร้าบ”
“ไม่ได้ๆนี้สายมากแล้วน่ะ”โซม่าพูดปลุกพลางเขย่าตัววายุ
“งืม....ขอสัก 5 นาทีน่ะ แม่น่ะ....”
โซม่ายืนนิ่งไปสักพักกับคำพูดนั้น แม้จะเป็นคำพูดละเมอเพราะวายุคิดว่าตัวเองอยู่บ้านแต่มันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่โซม่าได้สักเล็กน้อย
“ฉันไม่ใช้แม่นายน่ะ ตื่นๆ”โซม่าเขย่าตัววายุอีกครั้ง
วายุค่อยๆลืมตาด้วยอาการง่วงจัด ก่อนที่จะบิดขี้เกียจไปมาแล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้จากเตียง
“งืม เช้าแล้วเหรอครับ”วายุพูดพลางขยี้ตา
“นี้มันสายมากแล้วย่ะ รีบไปอาบน้ำได้แล้วไป”โซม่าไล่วายุไปอาบน้ำ
“มันหนาวอ่ะ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น”
“จะไปหรือไม่ไป”โซม่ารวมพลังวิญญาญสีม่วงไปที่มือขวา
“ไปแล้วคร้าบๆ”วายุรีบลุกไปทันที
โซม่าสลายพลังแล้วยืนมองดูวายุที่เดินเข้าห้องน้ำด้วยอาการโงเงน เหมือนเด็ก
‘คิกๆ ตอนนี้ก็ดูน่ารักดีน่ะ’
1 นาทีต่อมาในห้องน้ำ
“ซี๊ด!! หนาวชะมัดเลย”
วายุแสดงอาการหนาวจนตัวสั่นได้อย่างชัดเจนขณะพยายามอาบน้ำฝักบาว
“หนาวๆๆๆ”วายุพูดด้วยอาการหนาวจนปากสั่น
ก็อก!ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“จะให้เข้าไปขัดหลังให้ไหม”โซม่าถามเข้าไป
“ก็ดีน่ะครับ แต่เดียวน่ะ เห้ย! ไม่ต้องก็ได้ครับ!!”
แต่ไม่ทันการ โซม่าในร่างเปลือยเปล่าเปิดประตูเข้ามาข้างในห้อง แต่วายุไม่กล้าหันไปมองแต่ได้ยินเสียงเปิดประตูและปิดประตูจึงพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้แต่นั่งที่เก้าอี้เล็กด้วยอาการหน้าแดง โซม่าเดินมานั่งข้างหลังวายุแล้วราดน้ำที่เย็นยะเยือกใส้ด้านหลังของวายุ ก่อนที่จะบีบสบู่เหลวใส่มือแล้ว ใช้มืออีกข้างถือฟองถูกตัวแล้วใช้มือสองข้างถูไปมาที่ด้านหลังของวายุท่ามกลางน้ำจากฝักบัวที่เย็นยะเยือก แต่ตอนนี้ไม่ว่าสายน้ำจะเย็นเท่าไหร สำหรับวายุมันก็ไม่น่าหนักใจเท่ากับคนที่กำลังเปลือยเปล่าถูหลังให้
“ค..คุณโซม่าไม่หนาวเลยเหรอครับ”วายุกลั้นใจตอบ
“เอ ไม่เห็นจะหนาวเท่าไหร่เลยนี้ แล้วเธอล่ะได้ยินบ่นหนาวๆมาตั้งแต่เมื่อกี้ล่ะ”โซม่าตอบพลางราดน้ำเอาฟองสบู่ออกจากหลังของวายุ
“ไม่แล้วครับ คุณโซม่าทำแบบนี้จะดีเหรอครับ”
“ทำแบบไหนเหรอ”โซม่าเอาตัวแนบหลังของวายุ ก้อนเนื้อนุ่มนิมสองลูกเบียดกับหลังของวายุทันที
‘เหื้อก!!!!!!! เวรแล้วไง!!!!’วายุตกใจและหน้าแดง
“หัวใจเต้นแรงจังเลยน่ะวายุ คิดอะไรอยู่หรือเปล่าน่ะ”โซม่าถามพลางใช้มือลูบไหล้แขนสองข้างของวายุ
“คือๆ...เอ่อ...อ่า ตอนนี้มันกี่โมงแล้วนี้ครับ ช่วงบ่ายเขานัดไปท่องเที่ยวไม่ใช้เหรอครับ เอ่อ...อ่า”วายุถามด้วยอาการลุกลี้ลุกล้นอย่างเห็นได้ชัด
“เพิ่งจะ 10 ใกล้จะ 11 โมงเองยังมีเวลาอีกตั้งเยอะ”โซม่าตอบ
ลมหายใจของโซม่าที่หายใจออกมากระทบแผ่นหลังของวายุ ทำให้วายุรู้สึกเสียววาปไปถึงด้านหลัง
“ปะ..ปล่อยได้แล้วมั้งครับคุณ..ซะ..โซม่า”
“ไม่อยากปล่อยเธอเลย”โซม่าโอ้บแขนกอดรัดตัววายุไว้แน่น
“ปล่อยเถอะครับ มีคนมาเห็นเขามันจะไม่ดีน่ะครับ เหื้อก!”วายุเริ่มใจเต้นแรงผลจากที่โซม่ากอดตัววายุไว้แน่น
บึ้ม!! เสียงระเบิดดังขึ้น
“อ่ะ เกิดอะไรขึ้นรีบไปดูกันเถอะครับ!!?”
วายุถือโอกาสคว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งออกไปจากห้องน้ำทันที โซม่าหันไปมองตามด้วยสายตาเอ็นดู
“เป็นเด็กที่น่ารักมากจริงๆ”
2 นาทีต่อมา
วายุและโซม่าเดินไปที่จุดระเบิด
“เห เตาแก็สระเบิดเองเหรอเนี่ย”วายุพูดพลางเช็ดเหงื่อ
วายุและโซม่ายืนมองไฟที่กำลังลุกท่วมตัวโรงครัว ผู้คนวิ่งแตกตื่นนักเรียนบางคนช่วยกันสาดน้ำดับไฟ
‘วู้ แต่ก็ต้องขอบใจละน่ะ ที่ช่วยให้รอดจากสภาวะวิกฤตินั้นได้ ฟู่! เกือบแย่”วายุคิดพลางถอนหายใจ
“แค่ไฟไหม้เองเหรอ งั้นไปอาบน้ำกันต่อเถอะ”โซม่าจับมือวายุแล้วทำท่าจะลากกลับไป
“เดียวๆ!!! ไม่ต้องไปอาบอีกก็ได้มั้ง!”วายุรีบพูดขึ้นทันที
“อะไรเล่า เธอยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยน่ะ ไปอาบน้ำซะดีๆฉันจะได้ถูหลังให้สะอาดๆ”
“ผมอาบเองก็ได้น่าไม่ต้องมาถูหลังให้หรอกน่า!!”วายุพูดพลางหน้าแดง
ขณะนั้นเองนักเรียนหลายคนที่อยู่แถวนั้นก็พูดซุบซิบนินทากัน
“ดูนั้นสิ ยัยโซม่ากินเด็กล่ะ”
“สงสัยไม่มีคนอายุเท่ากันเอา เลยไปเอาเด็กมาควง”
“แต่จะว่าไปคู่นี้ก็ดูเหมาะกันดีน่ะ”
“แต่มันขัดหลังให้กันเลยเหรอ ความสัมพันธ์มันไวไปมั้ง”
“นั้นสิเห็นพึ่งจะรู้จึกกันเมื่อวานเอง”
“แบบนี้ละมั้ง รักแรกพบ”
บ้านลิเวีย
ปึง! ลิเวียวางกองหนังสือลงบนโต๊ะ แล้วนั่งลงเหมือนจะเริ่มทำอะไรบางอย่างด้วยความมุ่งมั่น
“เอาละน่ะ!!พรุ่งนี้วายุก็จะกลับจากค่าย แล้วก็เป็นวันเกิดของวายุด้วย! ได้เวลาทำของขวัญให้ซะแล้ว!!”ลิเวียพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
ลิเวียเริ่มเปิดหนังสือออกมาอ่านดูทีละเล่ม หน้าปกหนังสือเขียนชื่อหนังสือไว้ “วิธีการทำของขวัญพิชิตใจแฟนหนุ่ม”
ลิเวียหยิบคัดเตอร์ขึ้นมา พร้อมกับหยิบกล่องกระดาษขึ้นมา ก่อนที่จะเริ่มทำตามที่หนังสือบอกไว้
“ต้องทำแบบนี้ๆ แล้วก็แบบนี้ๆ”ลิเวียอ่านวิธีทำพลางลงมือ
5 นาทีต่อมา
ลิเวียทำแบบงานไปได้ครึ่งหนึ่งก่อนที่จะเลื่อนหน้ากระดาษไปยังหน้าถัดไปเพื่อดูขั้นตอนต่อไป “อืมแบบๆนี้”ลิเวียใช้คัตเตอร์ตัดกระดาษออกจากกันเป็นสามแฉก
ขณะนั้นเองคัตเตอร์ก็บาดนิ้วลิเวียเลือดไหลออกมา แต่ลิเวียก็ไม่ได้สนใจแล้วทำงานประดิษฐ์ต่อไปด้วยแววตาและท่าทีที่มุ่งมั่นสุดๆ
‘ค่อยดูน่ะ คราวนี้แหละฉันจะต้องมอบของขวัญนี้ให้นายให้ได้ วายุ’
ณ หอคอยที่สูงสุดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองร้างแห่งหนึ่ง
“ด้วยพลังแห่งยูเรีย ทำให้นายได้รับพลังแห่งแสงไปสิน่ะ”ธนการในร่างเสื้อเกราะพูดขึ้น
ธนากรยืนสนทนากับชายคนนหนึ่งบนยอดหอคอยที่สูงสุด
“ใช้ แล้วพลังก็บอกให้ฉันมาหานาย”ชายผอมสูงร่างกายกำยำเสื้อสีขาวกางเกงสีดำผมสั้นสีดำ พูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นกว่าคนทั่วไป
“ปกติแล้วฉันมีข้อกำหนดไว้ก็คือ จะรับใครเข้ากลุ่มก็ต้อง มาลองฝีมือกันสักหน่อย”ธนากรเรียกเซงยาฉะเบลดออกมา ก่อนที่จะใช้มือข้างขวาจับตัวดาบไว้มั่น
“ก่อนที่ฉันจะมา ฉันก็ได้สร้างอาวุธฉันไว้สองอย่าง”ชายลึกลับพูด
“ว่าแต่นายน่ะชื่ออะไร”ธนากรหันไปมองชายลึกลับ
“มูโซ ฉันเป็นชาวญี่ปุ่น”ชายที่ชื่อมูโซตอบ แล้วเรียกอาวุธลักษณะหอกยาวออกมา
“อาวุธนั้นพลังธาตุแสงรุนแรงดีน่ะ”
“ใช้แล้ว ไดไรสเปียร์ คือชื่อของมัน”
มูโซพุ่งเข้าหา ธนากรทันที เป้ง! ธนากรใช้เซงยาฉะเบลดรับไดไรสเปียร์ที่ถูกแทงมาทันที ก่อนที่จะยกขาขึ้นแล้วถีบเข้ากลางลำตัวของมูโซ แต่มูโซก็เลื่อนตัวไดไรสเปียร์กลับมากันไว้ แต่ด้วยแรงถีบทำให้ตัวมูโซกระเด็นออกไปเล็กน้อย มูโซขว้างไดไรสเปียร์ใส่ธนากรทันที ฉัวะ! ไดไรสเปียร์เฉียดแขนธนากรไปแต่ก็สร้างรอยแผลไว้เล็กน้อย แล้วไดไรสเปียร์ก็พุ่งกลับไปหามูโซทันที ทันใดธนากรก็ฟาดคลื่นพลังจากเซงยาฉะเบลดใส่ มูโซทันที ปึง!! มูโซสร้างบาเรียเวทย์กันไว้ แต่ก็ถูกพลังของเซงยาฉะทำลายไปอย่างรวดเร็ว แล้วส่งผลให้มูโซกระเด็นไปชนต้นเสาร์ที่อยู่ด้านหลัง
“อึก!! พลังรุนแรงไม่เบานี้”มูโซพูดชม
“เหอะ นายก็เหมือนกันแบบนี้ สิถึงจะเข้ามาร่วมกลุ่มกันได้”ธนากรพูดพลางสลายเซงยาฉาะเบลดไป
“งั้นก็ฝากตัวด้วย ในนามผู้พิทักษ์ความยุติธรรม จัสติก”มูโซสลายไดไรสเปียร์ไป แล้วเดินเข้าหาธนากร
ทั้งสองจับมือกันแล้วด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส
“ยินดีตอนรับ มูโซ!”ธนากรพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับสนุกๆ”
ทางฝั่นลิเวีย
ลิเวียวางกล่อมของขวัญที่พึ่งห่อเสร็จไว้บนโต๊ะด้วยท่าทีภูมิใจ
“ในที่สุดก็ทำเสร็จจนได้!!!”ลิเวียพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจ
ลิเวียเหลือบไปมองนาฬิกา นาฬิกาชี้บอกเวลา 13.50 น.
“เห จะบ่ายสองแล้วเหรอ ไปหาอะไรกินก่อนละกัน แต่ว่าวันนี้เหมือนลืมอะไรสักอย่างแฮะ”
ลิเวียยืนครุ่นคิดสักพัก ปึง! เหมือนมีเหล็กหนักหลายตันหล่นใส่หัวลิเวีย
“จ๊าก!!!!!!! ลืมไปวันนี้มันวันศุกร์!!! มีเรียนๆ ต้องรีบไปแล้ว!!!!!!”ลิเวียร้องออกมาพลางวิ่งเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อ
ลิเวียวิ่งออกมาจากห้อเปลี่ยนเสื้อแล้วรีบวิ่งลงไปจากห้องทันที
10 นาทีต่อมา
“แฮ่กๆ แฮ่กๆ”ลิเวียยืนหอบอยู่หน้าประตูโรงเรียน
“โรงเรียนงดสอนเป็นเวลา 1 วัน” กระดาษแปะอยู่หน้าประตูรัวโรงเรียนเขียนไว้
“ง่า ลืมไปเลยว่าวันนี้งดสอน”ลิเวียพูดพลางหอบ
ขณะนั้นเอง แว่นก็เดินผ่านมาพอดี
“อ้าว คุณลิเวียมาทำไหมเหรอครับ”แว่นทักลิเวียขึ้น
“อ่อ พอดีลืมไปน่ะว่าวันนี้โรงเรียนงดสอน”
“งั้นเหรอครับ แต่ดูท่าว่า ถ้าโรงเรียนสอนคุณลิเวียไม่ได้มาสายนะแบบนี้ เรียกว่ามาบ่ายซะมากกว่า”แว่นพูดแซวเล่น
“ห่ะๆ มุขแป็กดีน่ะ”
“ก็ว่างั้นแหละครับ ผมขอตัวก่อนละกันครับมีงานต้องทำ”
แว่นพูดจบแล้วรีบวิ่งไปทางอื่นทันที ขณะนั้นเองลิเวียก็เหมือนจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้
‘อะไรกันน่ะ จิตที่รุนแรงเกินมนุษย์ จิตที่ไม่น่ะใช้พวกปีศาจแต่น่าจะเป็นมนุษย์ แต่มันรุนแรงเกินมนุษย์ สัมผัสนี้มันอะไรกัน’ลิเวียเริ่มคิดมาก
ด้านพวกวายุ
ชิ้ง! ทั้งวายุและโซม่าก็เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังที่รุนแรงเกินมนุษย์
“พ..พลังจิตที่รุนแรงแบบนี้มันอะไรกัน!!!? มนุษย์ไม่น่าจะมีพลังจิตระดับนี้ได้!”วายุพูดด้วยความตกใจขณะใช้มือจับหัวตัวเอง
“ฉัน ก็สัมผัสได้ แบบนี้มันรุนแรงเกินกว่ามนุษย์ และมันไม่น่าจะใช้ของพวกปีศาจทั้งหลาย”โซม่าพูดด้วยความวิตกกังวล
“มันอะไรกัน!!!? จู่ๆก็สัมผัสได้ถึงลางร้าย!!! หุ่นเหล็กฮาเดสสีดำ จะกวาดล้างปีศาจทุกตัวด้วยความบ้าคลั่ง!!!!!”
“ฮาเดสสีดำงั้นเหรอ?”โซม่าถามพลางพยายามสัมผัสให้ได้แบบวายุ
“ไม่ต้องฝืนสัมผัสให้ได้แบบผมหรอก มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผม”
ขณะนั้นเองท้องฟ้าก็เริ่มครึ้ม เมฆจำนวนมากก็เริ่มปกคลุ่มทั่วบริเวณทุกมุมโลก
“อะไรกัน จู่ๆก็มีเมฆทึบ เมื่อสักครู่ยังไม่มีเมฆเลยน่ะ”โซม่าพูดด้วยความตกใจ
“ความโกลาหลกำลังจะเริ่มขึ้น ไม่ว่าจะไลทคาออส ดาร์คคาออส หรือ จัสติกคาออส ก็จะถูกตามล่าด้วยหุ่นเหล็กฮาเดส ถ้าเราไม่ทำให้หุ่นเหล็กฮาเดส ตาสว่างว่าใครคือศัตรู ใครคือมิตร สงครามวันสิ้นโลกก็จะเริ่มขึ้นเพราะมนุษย์มีพลังมากขนาดล้มทั้ง 3 ฝ่ายได้”วายุพูดพลางเหงื่อตก
“เธอเห็นหมดนั้นเลยเหรอ”โซม่าหันไปถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“สภาแห่งเพลิงส่งภาพในอนาคตมาให้ผมดูเหมือสักครู่นี้”
“เท่ากับว่า....”
“สภาแห่งเพลิงได้มอบภารกิจนี้ให้ผมและไลทคาออสทั้งหมดแล้ว”
หอคอยที่สูงที่สุด
“สัมผัสพลังนี้ได้ไหม!!!!”มูโซถามขึ้นด้วยความวิตกกังวล
“ใช้ สัมผัสได้มันรุนแรงเกินกว่าจะเป็นของมนุษย์ และมันไม่ใช้ของปีศาจตนใหนอย่างแน่นอน”ธนากรพูดพลางเหงื่อตก
มูโซมองไปบนท้องฟ้ารอบๆ เห็นเมฆกำลังครึ่มไม่มีแสงแดดลอดผ่านมาแม้แต่แสงเดียว
“อึก!! แบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น พลังจิตแบบนี้พวกเราคาดการณ์ไม่ได้เลย!!! ไลทคาออส ดาร์คคาออส!!? ฝ่ายไหนกันแน่ หรือว่าจะเป็นพวกไฟตติ้งฮิวแมน แต่ว่าพวกมนุษย์ธรรมดามันไม่น่าจะมีพลังจิตแบบนี้!!”ธนากรเริ่มวิตก
“เหมือนว่าหายนะกำลังคลืบคลานเข้ามาแล้ว”
บริษัทเฮลการ์ด
“ชิ!!!! พลังจิตที่รุนแรงนี้มันอะไรกัน!!!!!”หญิงสาวโวยวายขึ้น
“ใจเย็นๆสิ มาเรีย พลังจิตแบบนี้ฉันก็ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน”ออลเดรย์พูดขึ้นด้วยควาวิตกกังวล “อะไรกัน!!แฟนทอมเจเนรอล ยังกลัวกับพลังจิตรุนแรงนี้เหรอ!!?”หญิงสาวที่ชื่อมาเรียยังไม่หยุดโวยวาย
ออลเดรย์หันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ในเสื้อสูทสีดำ ที่กำลังแสดงความกังวลและเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นอะไรไปอัลเบิร์ต ดูนายจะกังวลมากทีสุดน่ะ”ออลเดรย์ถามขึ้น
“มันดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ไลทคาออส เหรอ จัสติกคาออสเหรอ เจ้าพวกนั้นมันไม่น่าจะมีพลังแบบนี้ได้”ชายหนุ่มที่ชื่ออัลเบิร์ตตอบด้วยความกังวล
“งั้นก็คงต้องเรียก โซม่า กลับมาแล้ว”มาเรียพูดขึ้น
“ช้าก่อน ปล่อยให้เธอพักผ่อนสักหน่อยเถอะ”อัลเบิร์ตทักท้วง
“ใช้ เด็กมันทำงานเหนื่อยมากแล้วน่ะ ให้พักผ่อนสักวันสองวันก็ยังดี”ออลเดรย์พูดเสริม
ปึง!!! มาเรียทุบโต๊ะด้วยความไม่พอใจ
“อะไรกัน!! ฉันอยากรู้ใจจะขาดแล้วจะให้รอเหรอ!!!!!! เรียกกลับมาเดี๋ยวนี้!!!!!!”มาเรียโวยวาย
“อึก!! ก็ได้”อัลเบิร์ตฝืนรับคำสั่ง
‘ยัยแม่มดเอ้ย!!!’ออลเดรย์ด่ามาเรียในใจ
ณ ค่ายทหารแห่งไฟตติ้งฮิวแมน
เปรี้ยง!!!! เสียงสายฟ้าผ่าลงมา ขณะนั้นเองหุ่นยนต์สูง 8 เมตร ร่างกายสีดำมีลักษณะคล้ายมนุษย์ มีปืนใหญ่สองกระบอกที่ไหล่ ที่ด้านหลังเป็นแบ็คแพคที่เชื่อต่อกับปืนใหญ่สองกระบอก มีดวงตาสีแดงที่หน้าอกด้านซ้ายมีสัญลักษณ์ FH กำลังถูกปลดออกจากการเชื่อต่อของฐานข้อมูล
“ทุกอย่างโอเค!!!!”
“การถอดถอนปลั๊กออกจากตัวเครื่องจะสำเร็จในอีก 30 วินาที!!!”
“ไพล็อตเป็นไงบ้าง!!! หวังว่าคงไม่สลบไปแล้วน่ะ!!”
ปี๊ด! เสียงจากภายนอกถูกตัดขาดไปจากค็อกพิท
“เหอะ ดูถูกกันเกินไปแล้วไอ้พวกวิศวะกระจอกๆ”ชายหนุ่มผอม ในเสื้อนอมอลสูทรัดรูปเล็กน้อยสีดำ สวมหมวกไพล็อตสีดำไว้ใส่ถุงมือสีดำ ที่หน้าอกข้างซ้ายเขียนชื่อว่า โอเวอร์แมน เกลกุ๊ก
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงสัญญาญพร้อมถอดปลั๊กดังขึ้น โอเวอร์แมนกด accept ทันที แล้วปลั๊กก็ค่อยๆถูกถอดออกจากตัวเครื่องอย่างรวดเร็ว แล้วตัวเครื่องก็เริ่มรัน ระบบต่างๆบนหน้าจอในค็อกพิทก็เริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว โอเวอร์แมนสอดแขนข้างขวาเข้าไปในช่องแขนทางขวามือ และแขนซ้ายทางช่องตรงซ้ายมือ แล้วระบบก็เริ่มสแกนม่านตาของโอเวอร์แมน
“Accept Pilot Please Wailt for Use Profile”
“Accept Comepleate Please use Password”
“เทพแห่งความตายจุติใหม่!!! ฮาเดสโนวา ทำงาน!!!!!”โอเวอร์ตะโกนออกมา
วิ้ง!!! ดวงตาของหุ่นยนต์สีดำที่มีนามว่าฮาเดสโนวาก็เปล่งประกายออกมา แล้วตัวเครื่องก็ทำงานได้อย่างเต็มที่
“โอ้ว ฮาเดสโนวา ทำงานได้แล้ว”ผบ.ที่ดูจากหอบังคับบัญชาการพูดขึ้น
“เลือกไว้ได้ไม่ผิดคน มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ฮาเดสโนวาทำงานได้ ที่เหลือก็ต้องคอยดูว่าเขาจะทนแรงกระแทกจากการต่อสู้ได้หรือไม่”ดร.คนหนึ่งพูดขึ้น
ขณะนั้นสายฝนก็โปรยปรายลงมาอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยเสียงฝ่าผ่าที่ดังติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง เทพแห่งความตายผู้จุติใหม่พร้อมด้วยพลังจิตที่รุนแรง ได้ทำกำเนิดขึ้นระหว่างสงครามของทั้งสามฝ่ายแล้ว เปรี้ยง!!! เสียงสายฟ้าอีกอันดังขึ้นแต่ไม่ใช้สายฟ้าธรรมดา
“มีศัตรูกำลังมาทางนี้ครับ!!!!!”โอเปเรเตอร์รายงานขึ้น
“มันกำลังมุ่งมาทางฮาเดสโนวาครับ!!!!!”
ฟ้าว!!!! โครวซิลเวอร์ที่ร่างกายครอบไปด้วยพลังสายฟ้ากำลังพุ่งเข้าใส่ฮาเดสโนวาด้วยความเร็วสูง
‘จะให้ ไอ้ของแบบนั้นมาประกาศตัวว่าเป็นเทพแห่งความตายไม่ได้!!!!! มันก็แค่หุ่นกระป๋องที่มนุษย์สร้างขึ้น!!!!’
โครวซิลเวอร์เร่งความเร็วใกล้จะถึงตัวฮาเดสโนวา
“สิบโท โอเวอร์แมน เอาเครื่องหลบเร็วเข้า!!!!”ผบ.ตะโกนบอก
แต่ช้าไป ปึง!!! โครวซิลเวอร์พุ่งถึงตัวฮาเดสโนวา แต่ถูกหมัดข้างขวาของฮาเดสโนวาต่อยกระเด็นไถลไปกับพื้น
“อัก!!!!!!! อะไรกัน!!!!!”โครวซิลเวอร์ตกใจ
ฮาเดสโนวาค่อยๆเดินอย่างช้าเข้าหาโครวซิลเวอร์ ตึง! ตึง! เสียงฝีเท้าของฮาเดสโนวากระทบกับพื้น
“โห่! เทพงั้นเหรอ แต่ว่ามาดูหน่อยละกัน!! ว่าจะสู้กับเทพแห่งความตายเหล็กใหลนี้ได้ไหม!!!”โอเวอร์แมนพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“อ่ะ! พลังจิตที่รุนแรงแผ่ออกมาจากเจ้านั้น!!!”โครวซิลเวอร์ตกใจ
ฮาเดสโนวาชาร์จพลังไปที่ปืนใหญ่ทั้งสองกระบอก
“เอาไปกิน!!! คาลามิตี้แคนนอน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ฮาเดสโนวายิงคาลามิตี้แคนนอนจากไหล่ทั้งสองข้างใส่ โครวซิลเวอร์แต่ โครวซิลเวอร์กางบาเรียเวทย์ไว้ บึ้ม!!!!!!!! พื้นบริเวณนั้นระเบิดเป็นวงกว้างอย่างรุนแรง แต่โครวซิลเวอร์ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่บาเรียเวทย์ก็เสียหายมาก
‘อึก!!! พลังมันรุนแรงมาก!!!!! ปืนใหญ่นั้นยิงออกมาตามพลังจิตงั้นเหรอ!!?’
ขณะนั้นเองมือข้างซ้ายของฮาเดสโนวาก็หมุนอย่างรวดเร็ว
“โนวา พันช์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
มือข้างซ้ายของฮาเดสโนวาพุ่งเข้าไปหาโครวซิลเวอร์อย่างรวดเร็ว เพล้ง!!!!! บาเรียเวทย์แตกทันทีแล้วโครวซิลเวอร์ก็โดนหมัดยักษ์กระแทกเข้าที่ตัวเต็ม จนโครวซิลเวอร์กระเด็นไถลไปกับพื้น
“แฮ่กๆ แฮ่กๆ”โครวซิลเวอร์ในสภาพเสื้อเกราะและเสื้อขาดออกหลายส่วน
ฮาเดสโนวาเรียกหมัดกลับมา แล้วเตรียมพร้อมที่จะปล่อยท่าต่อไปใส่โครวซิลเวอร์
“หึ่ย!!! ไอ้พวกมนุษย์!!!!!”
เปรี้ยง!!! สายฟ้าผ่าลงที่ตัวโครวซิลเวอร์แล้ว โครวซิลเวอร์ก็หายไป
“แฮ่กๆ แบบนี้สิ!!!! ฮาเดสโนวา!!! สมแล้วที่ได้ชื่อว่า Beat Machine Dsetroy!!!!!”โอเวอร์แมนพูดด้วยน้ำเสียงบ้าเล็กน้อย
ขณะนั้นเองฮาเดสโนวาก็หยุดทำงาน ตามความคิดของโอเวอร์แมน
ด้านวายุ
วายุและโซม่านั่งดูวิวเล่นๆที่หน้ารีสอร์ท
“ตอนนี้พลังจิตที่รุนแรงเบาลงแล้วนี้น่า”วายุพูดขึ้น
“งั้นเหรอ หวังว่าคงไม่มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นน่ะ”
“ก็ไม่อยากให้มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นเหมือนกัน”
วูบ!!! ลมพัดรุนแรงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
“แบบนี้หรือว่า!! วายุไปซ่อนตัวก่อนเร็ว!!!”
“มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ!!!!”
“บอกให้ไปก็รีบไปซะสิ!!!!!!”
วายุไม่เคลื่อนตัวแต่ใช้พลังแห่งแมสออฟชาโดวสลายตัวเองกลายไปเป็นเงา ของต้นไม้ต้นหนึ่ง ขณะนั้นเองอัลเบิร์ตก็ปรากฏตัวขึ้นหลังจากลมแรงสงบ
“ขอโทษทีน่ะ โซม่า ที่ต้องมาขัดขวางการพักผ่อนแต่ว่า ช่วยไม่ได้ท่านประธานเรียกเธอกลับแล้ว”อัลเบิร์ตพูดขึ้น
“งั้นเหรอ คงหมดเวลาพักแล้วสิน่ะ งั้นจะกลับเดียวนี้แหละ บอกท่านประธานไปด้วยว่าขอเวลาอีกแค่ 5 นาที”โซม่าตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนเดิม
แล้วลมก็แรงขึ้นอีกครั้งอัลเบิร์ตหายไปพร้อมกับสายลมที่รุนแรง หลังจากที่อัลเบิร์ตหายไปวายุก็ออกจากผลของแมสออฟชาโดว
“ไปสิครับ คุณโซม่า”วายุทักขึ้น
“อืม หวังว่าฉันคงไม่ต้องมาสู้กับเธอน่ะ”
“ถ้าเราอยู่คนละฝั่งกันสักวันพวกเรา ต้องห่ำหันกันอยู่แล้วครับ”
“ไว้คราวหน้าเจอกันไหมน่ะ”โซม่ายกมือบายๆ บอกลา
“เช่นกันครับ”
วูบ! โซม่าวาปหายไปทันที วายุยืนนิ่งครุ่นคิดสักครู่
‘ท่านประธานเหรอ? ตะกี้ไอ้อัลเบิร์ต มาบอกคุณโซม่าว่าท่านประธานเรียก แสดงว่าต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องพลังจิตรุนแรงนั้นแน่ๆ งั้นกลับก่อนกำหนด 1 วันละกัน’
วายุแผ่พลังออกมาเปลี่ยนเสื้อนักเรียนให้กลายเป็นเสื้อประจำตัว แต่ผ้าคลุ่มสีแดงที่ขาดถูกเย็บไว้ให้แล้ว วายุหันไปมองรอยเย็บผ้าคลุ่มที่ขาดนั้น
‘ขอบคุณมากครับ คุณโซม่า’
วายุเรียกรูนออกมา แล้วกระโดดขึ้นขี่รูน
“ไปกันเลยรูน!! กลับไปหาคุณลิเวียกัน วิ่งด้วยความเร็วสูงให้มนุษย์ธรรมดามองตามไม่ทันล่ะ!!’
แล้วรูนก็เริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วสูง
ณ ค่ายทหาร
ฮาเดสโนวากำลังเชื่อมต่อปลั๊กอีกครั้งเพื่อ รับข้อมูลการต่อสู้มาสำรองไว้ ฟีด! ค็อกพิทของฮาเดสโนวาเปิดออก โอเวอร์แมนลงมาจากตัวฮาเดสโนวาในสภาพปกติไม่มีอะไรผิดปกติ ขณะนั้นเอง ดร.คนหนึ่งก็เดินเข้ามาหา
“ฮาเดสโนวา เป็นยังไงบ้าง”ดร.คนนั้นถามขึ้น
“เคลื่อนไหวตามความคิดได้ทันใจแบบนี้น่ะสุดยอดยไปเลย คาลามิตี้แคนนอน โนวาพันช์ เหอะ สุดยอดชะมัด”โอเวอร์แมนตอบด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน
“แขนทั้งสองข้างล่ะเป็นอะไรบ้างมั้ย”
“ไม่นี้ ปกติทุกอย่างก็แค่เวลาจะขยับแขนหุ่นก็ต้องขยับตามแค่นั้น ก็ไม่ได้หนักอะไรมาก”
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านหลังโอเวอร์แมนหันไปมองเห็นชายในชุดผบ.เดินเข้ามา
“ทำได้ดีมากสิบโท เมื่อกี้ถือเป็นการประกาศแสนยาณุภาพของเราให้พวก คาออส ได้เห็นแล้ว”ผบ.พูดชมขึ้น
“งั้นเหรอ แต่แค่ประกาศแสนยาณุภาพ มันไม่สนุกเอาซะเลยน่ะ ฉันอยากจะสู้กับปีศาจชั้น กากอย ซะแล้วสิ”โอเวอร์แมนพูดด้วยน้ำเสียงหยาบๆ
“หลังจากโอนข้อมูลการต่อสู้เสร็จ หน่วย A1 จำนวน 3 เครื่อง และกองทหารไบโอสูทจำนวน 50 นาม รถถังชั้นแม็กซิมัมจำนวน 10 เครื่อง เฮอลิคอปเตอร์ทำลายล้างชั้น เมก้าช็อปเปอร์ จำนวน 5 เครื่อง และ เครื่องบินรบชั้น เมก้าเวรฟไรเดอร์ จำนวน 30 ลำ จะบุกเข้าโจมตีเมือง เชอโนบิล ที่พวกคาออสได้ยึดเอาไว้ นายก็จะได้สู้ตามที่หวังไว้”
“งั้นก็รีบๆหน่อยละกัน”
บริษัท เฮลการ์ด
เพี้ยะ!! มาเรียตบหน้าโซม่าไปทีหนึ่ง
“ยัยเด็กเวรเอ่ย!!!!!! อยู่กับไอ้เจ้าวายุแล้วทำไหมไม่ลงมือฆ่ามันสักที!!!!”มาเรียถามด้วยความหงุดหงิด
“ขออภัยค่ะ ดิฉันไม่สามารถทำได้เพราะพลังของเขาและดิฉันเทียบกันไม่ติด”โซม่าไม่กล้าหันไปสบตามาเรีย
“คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าตอนนี้แกมีความสัมพันธ์ยังไงกับไอ้วายุนั้น!!!”
อัลเบิร์ตเดินเข้ามาอยู่ใกล้ๆโซม่า แล้วพูดขึ้น
“พอได้แล้วน่า ท่านประธาน เธอคนนี้ยังเด็กอยู่น่ะ อีกอย่างเด็กคนนี้อาจจะสู้วายุไม่ได้จริงๆ พลังมันคนละระดับกัน”
“ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนเลย!!! รีบไปๆไสหัวไปให้พ้น!!! ฉันให้เวลา 1 ชั่วโมงค้นหาสถานที่ตั้งของพลังจิตรุนแรงนั้นให้ได้!! ไม่งั้นแกจะโดนโยนลงไปในกรงของพวกเจลเลอร์!”มาเรียพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
อัลเบิร์ตพาโซม่าเดินออกมานอกห้อง ขณะนั้นที่นอกห้องออลเดรย์ก็ยืนดักฟังจากข้างนอกอยู่แล้ว
“ยัยแม่มดนั้นน่ะ เอาแต่ใจอีกแล้วสิน่ะ”ออลเดรย์พูดขึ้น
“แต่ว่า เรื่องนี้ก็เป็นความผิดของฉันจริงๆ”โซม่าตอบแต่ไม่มีวี่แว่วว่าจะร้องไห้
“ก็ใช้เป็นความผิดเต็มๆของเธอ แต่ยัยแม่มดมันก็ทำเกินไป ทั้งๆที่ก็รู้ว่า พลังของซิลิธานและวอร์ มันต่างกันขนาดไหน”
วิ้ง!!! ทั้งสามสัมผัสพลังบางอย่างได้
“จิตสังหารรุนแรง!!!”อัลเบิร์ตพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
“กำลังจะ..”โซม่าเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“มุ่งหน้ามาทางนี้!!!!!! ห่ะๆ!! สนุกละสิคราวนี้!!!!”ออลเดรย์หัวเราะลั่นออกมา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ