No Sugar!! บ้าน่า..ฉันหลงรักนายตอนไหน?
เขียนโดย Murasaki
วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.55 น.
แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 20.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
บทนำ
ก่อนปีคริสต์ศักราช
ณ หมู่บ้านเซินหลิน
หมู่บ้านเล็กๆในป่าลึกที่เงียบสงบอยู่ในท่ามกลางภูเขาสูงและเหล่าสัตว์ป่าที่ออกหากินในเวลากลางวัน ชาวบ้านก็ต่างทำมาหากินเก็บของป่าไปขายและนำมาใช้ดำรงชีวิตประจำวัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเมื่อมีผู้มาเยือนจากแดนไกลเข้ามาที่หมู่บ้านแห่งนี้
“ท่านพ่อ...ท่านพ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักพูดกับผู้เป็นบิดาอย่างกระตือรือร้น
“ข้าได้ยินแล้ว..เบาๆเสียงของเจ้าหน่อย เหลี่ยนฮวา แล้วเกิดเรื่องใหญ่อะไร หือ?” ผู้เป็นพ่อและเป็นหัวหน้าของหมู่บ้าน นามว่า โฉวสี๋ หันไปเอ่ยกับลูกชายเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆนั้นกำลังเรียกตน
“อ้าว...ทำไมต้องดุด้วย งั้นไม่ต้องฟังแล้วข่าวที่ข้าจะบอกท่านเนี่ย” เหลี่ยนฮวาพูดกับบิดาแกมงอนที่โดนดุ
“เอ้า...เจ้านี่ งอนเป็นอิสตรีเชียว มีข่าวอะไรก็ว่ามา ข้ากำลังยุ่งอยู่” โฉวสี๋กำลังทำงานของหมู่บ้านและรอฟังลูกชาย
“ไม่มีอะไรมากหรอกท่านพ่อก็แค่มีชายแปลกหน้าเข้ามาที่นี่และพวกเขากำลังรอท่านอยู่” เหลี่ยนฮวาตอบพร้อมกับสะบัดหน้างอนๆ
“อ้าว...แล้วทำไมไม่รีบบอกข้าล่ะ ปล่อยให้แขกรอได้อย่างไรกัน”
เมื่อได้ยินที่ลูกชายบอก โฉวสี๋ก็ออกไปที่ลานของหมู่บ้านเพื่อพบกับชายแปลกหน้า แรกพบที่เห็นเป็นเด็กหนุ่ม 4 คน อายุประมาณ 18-20 ปี มีผมสีแปลกตา หน้าตาหล่อเหลา กำลังยืนรอตนที่ลานของหมู่บ้าน
“ยินดีต้อนรับท่านทั้ง 4 ข้าชื่อ โฉวสี๋ เป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ ” โฉวสี๋พูดพร้อมกับเชิญเด็กหนุ่มทั้ง 4 เข้ามาพูดคุยในบ้าน
“ขอบคุณท่านมากที่ออกมาต้อนรับพวกเรา ข้าชื่อ ปันนคนาสน์ ข้ามาขอความช่วยเหลือจากท่านโฉวสี๋” เด็กหนุ่มผมแดงยาวสลวย หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาคมกริบดังพญาเหยี่ยว รูปร่างสูงใหญ่สมชายชาตรี กล่าวกับโฉวสี๋อย่างนอบน้อม
“พวกท่านอยากได้ความช่วยเหลืออะไรจากเรารึ?” โฉวสี๋สงสัยและแปลกใจที่คนต่างถิ่นมาขอความช่วยเหลือจากคนป่า
“ข้าได้รู้มาว่า..หมู่บ้านของท่านมีดอกบัวอัจจิมาที่สามารถแก้มนต์ดำจากเทพนิรยได้ ข้าอยากได้เพื่อนำไปแก้มนต์ดำในเมืองของข้า” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ ไม่เกรงกลัวสายตาของชายวัยกลางคนตรงหน้าที่จ้องมองตนไม่วางตา
“ท่านรู้หรือไม่ว่า..ดอกบัวอัจจิมาที่ท่านพูดถึงมีหน้าตาเป็นอย่างไร”โฉวสี๋ถามเด็กหนุ่มตรงหน้าเสียงเรียบ
“ข้าไม่รู้จักหน้าตา ข้ารู้แต่เพียงสรรพคุณในการรักษาเท่านั้น” ปันนคนาสน์ตอบตามความจริงที่ตนรู้มา
“งั้นถ้าข้าบอกว่า...ข้าให้ดอกบัวแก่ท่านไม่ได้แล้วท่านจะทำเยี่ยงไร” ปันนคนาสน์แสดงสีหน้าไม่พอใจทันทีที่ได้ยิน
“ข้าคงต้องอยู่ที่นี่และเอาดอกบัวไปจากท่านให้ได้”ด้วยความหงุดหงิดปันนคนาสน์ตอบโฉวสี๋อย่างไม่เกรงกลัว
“ถ้าท่านรู้ว่า ดอกบัวอัจจิมาคืออะไร ท่านอาจจะไม่พูดเช่นนี้”โฉวสี๋ตอบเด็กหนุ่มอย่างใจเย็น แต่ปันนคนาสน์ กลับสงสัยในคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน จนสหายที่นั่งข้างๆ อย่าง “กาสร” เด็กหนุ่มผมสีดำที่มีหน้าตาหล่อเหลาดู ร่างกายบึกบึน ผิวออกคล้ำนิดๆ แต่ดวงตาดุนั้นมีเสน่ห์รีบเอ่ยเตือนปันนคนาสน์
“ข้าว่าเจ้าใจเย็นก่อน เจ้าก็พูดเกินไป แล้วยังไปบอกว่าจะแย่งของๆเขา เจ้าบ้าไปแล้วรึ?”
“นั่นสิ ข้าว่าเจ้าลองเจรจากับท่านโฉวสี๋ดีๆน่าจะดีกว่า เอ๊ะ! หรือว่าเจ้าลืมเอาหูกับตามาด้วย?” ปันนคนาสน์หันไปมอง “มัชชาร” เด็กหนุ่มผู้มีผมสีเงินและดวงตาเรียวแสนเจ้าเล่ห์นั้นว่า ปันนคนาสน์เป็นคนที่โกรธจนไม่ลืมหูลืมตา แล้วยังยิ้มสดใสอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“เอามาโว้ย! หุบปากเน่าๆของเจ้าไปเลยนะ ”ปันนคนาสน์กัดฟันพูดอย่างหงุดหงิด
มีแต่ “ผณิน” เด็กหนุ่มที่มีสายตาดุดันน่ากลัวกลับสงบปากสงบคำแต่ก็แอบส่ายหน้าหน่ายใจกับมัชชารที่เล่นไม่รู้เวลา
เมื่อโฉวสี๋เห็นเด็กหนุ่มกำลังเถียงกันก็เริ่มพูดขึ้นมาเพื่อดึงความสนใจของเด็กหนุ่ม
“เอาอย่างนี้มั้ย ข้าจะให้โอกาสท่านได้รู้จักกับดอกบัวอัจจิมา แต่ท่านต้องหาเองว่าดอกบัวนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร”
“ท่านจะให้เวลาเท่าไรในการหาดอกบัว พวกเรามีเวลาแค่ 3 เดือนเพื่อนำดอกบัวกลับไป ” ผณินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าจะให้เวลาพวกท่าน 1 เดือน เมื่อถึงเวลาข้าจะบอกว่า พวกท่านสมควรได้ดอกบัวไปหรือไม่ ”
“แล้วท่านไม่มีคำใบ้บ้างถึงมีลักษณะของดอกบัวบ้างหรอ? มันเป็นพืช คน สัตว์ ปีศาจ หรือว่า...” มัชชารพูดขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็โดนปันนคนาสน์เอ่ยขัดเสียก่อน
“เจ้านี่พูดมากจริง ดอกบัวก็ต้องเป็นพืชสิ ปัญญาเจ้านี่เท่าหางอึ่งชัดๆ!!”
“แล้วเจ้าจะมาว่าข้าทำไม ไอ้หัวโชกเลือด ข้าสงสัยไม่ได้หรือไง ห๊า!!” มัชชารเริ่มหงุดหงิดที่ปันนคนาสน์เริ่มทำแผนโยนหินถามทางของตนเสีย
“พวกเจ้านี่อายุเท่าไรกันแล้ว ไม่รู้จักโตเสียที ..ว่าแต่ท่านโฉวสี๋ ดอกบัวอัจจิมาเป็นพืชใช่หรือไม่” กาสรรีบพูดห้ามทัพระหว่างสหายทั้ง 2 และตั้งใจถามหัวหน้าหมู่บ้านที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุด แต่โฉวสี๋กลับไม่ตอบคำถามได้แต่เอ่ยปริศนาไว้ให้เด็กหนุ่มทั้ง 4 ได้ครุ่นคิด
“ปันนคนาสน์ ใจท่านนั้นช่างเหมือนกับหยดน้ำที่กลิ้งกลอกอยู่บนใบบอนสะเทือนไหวตามแรงอารมณ์ เบื้องบนได้ลิขิตให้ท่านมาตามหาดอกบัวไกลถึงที่นี่ แต่เมื่อเวลาอันสมควรมาถึงท่านย่อมรู้แน่นอนว่า..ดอกบัวนั้นอยู่ที่ใด”
ระหว่างที่พวกเขากำลังคุยก็มีเด็กหนุ่มอายุ 17-18 ปี เดินเข้ามาด้วยหน้าตาที่น่ารัก งดงามยากจะหาสตรีใดมาเทียบเทียม ผิวขาวเนียน แก้มมีเลือดฝาดเปล่งปลั่ง นัยน์ตาสวยน่าค้นหามีเสน่ห์ ดึงดูดสายตาทั้งสตรีและบุรุษ ไม่เว้นแม้แต่เด็กหนุ่มทั้ง 4 ที่นั่งมองอยู่และพลางนึกในใจว่า “ให้ตายเถอะ ทำไมนางผู้นี้ช่างงดงามอะไรอย่างนี้”
“ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องจะมาขออนุญาตจากท่าน” เด็กหนุ่มหน้าสวยเข้ามาออดอ้อนผู้เป็นพ่อจนอดยิ้มตามไม่ได้
“อะไรของเจ้า ข้ากำลังคุยธุระอยู่ไม่เห็นหรือไง” โฉวสี๋แกล้งดุลูกชายขี้อ้อน
“นี่คือลูกของท่านรึ?” ปันนคนาสน์ที่มองเพลินก็ถามออกไปด่้วยความใคร่รู้
“ใช่..นี่คือ ลูกชายของข้าเอง” ปันนคนาสน์มองเด็กหนุ่มหน้าสวยตรงหน้าตาโต อ้าปากค้าง และเด็กหนุ่มอีก 3 คนก็มีอาการไม่ต่างกันแล้วเด็กหนุ่มหน้าสวยก็หันมายิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงน่าฟังพร้อมส่งสายตาซุกซนมาให้เด็กหนุ่มทั้ง 4 คน
“ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าชื่อ..เหลี่ยนฮวา”
ปี ค.ศ.3000
ตี๊ด...ตี๊ด..ตี๊ด
แง่ม..แง่ม เฮือก!! (O_O)
นี่มันฝันบ้าอะไรกันเนี่ย!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ