Lovely Sasang ซาแซง (ไม่) แกล้งรักกับดักยัยจอมดื้อ
เขียนโดย lovelydog
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 17.16 น.
แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 17.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) You're driving me crazy again (70%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“พี่กาอิน?” ฉันพูดเสียงกระซิบเพราะคิดว่าที่อีกฝ่ายเงียบไปนั้นมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
[พะ...พะ...]
“พะ?”
[พี่จีซุน! อ๊ายยย เขาออกมาแล้วอ่ะพวกเธอ >_<] พี่กาอินกรี๊ดเสียงกระซิบ (?) กลับมา =_= อ่า ฉันเข้าใจสถานการณ์ละ เป็นฉันก็คงเงียบไปแบบนั้นนั่นแหละ
“นี่! หล่อนอย่าเพิ่งกระโจนใส่เขานะยะ!!” พี่โบอาพูดดักทางอย่างรู้ทัน
[อะไรอ่ะ! เขากำลังใกล้เข้ามาแล้ว ทำไงดีๆๆ >_<]
“อันดับแรก เลิกวอร์คุยกันก่อน =_= เดี๋ยวเขาได้ยิน”
[อ่า...โอเค แล้วจากนั้นล่ะ]
“สะกดรอยตามไป ได้โอกาสเมื่อไหร่ก็ฉุดเลย!”
[รับทราบ!] แล้วเสียงอีกฝ่ายก็เงียบหายไป
“เอาจริงเหรอพี่โบอา =[]=” ฉันกับยัยซูจินร้องขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“แน่นอนสิยะ ระดับนี้แล้ว เชื่อมือยัยกาอินได้เลย ไม่มีพลาดจ้ะ!”
“=O=” ฉันไม่ได้กลัวว่ามันจะพลาดค่ะ! ฉันกลัวเรื่องฉุดต่างหาก TOT เรากลายเป็นแก๊งค์ลักพาตัวตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ถ้าโดนจับได้ขึ้นมาเราไม่ต้องได้เข้าไปนอนกรี๊ดพี่เขาอยู่ในคุกกันยกแก๊งค์เลยเหรอ แงๆๆ
แต่มาถึงขั้นนี้คงติดต่อไปยกเลิกแผนการไม่ได้แล้วล่ะ ข้อหนึ่งคือพี่กาอินปิดวอร์ไปแล้ว และข้อสองคือฉันไม่มีอำนาจสั่งการน่ะสิ =_= ศูนย์รวมอำนาจนั่งแผ่รังสีอำมหิตอยู่ข้างๆ ฉันเนี่ย ใครจะกล้ากันเล่า!
ฉันได้แต่ภาวนาให้พี่กาอินทำพลาด อาเมน -_-
“แฮ่กๆๆ ออก...ออกรถเร็ว!!!” เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อหญิงสาว (?) นางหนึ่งวิ่งวิกหลุดกระจุยกระจายเข้ามาในรถของเรา ติดตามมาด้วยบรรดาการ์ดทั้งหลายปิดท้ายมาเป็นโขยง
“เกิดอะไรขึ้นน่ะพี่กาอิน” ยัยซูจินถามอย่างตกใจ
“ไว้ก่อนคุณน้อง ออกรถด่วนๆ เลยค่าาาา~” พี่กาอินเข้ามาหลบอยู่บนรถได้ทันเวลาที่รถเคลื่อนตัวออกไปอย่างหวุดหวิด ด้วยพลังการเหยียบมิดไมล์ของพี่โบอาแล้ว ไม่มีทางโดนจับได้แน่นอน อ้อ! ฉันปิดป้ายทะเบียนรถไว้แล้วเรียบร้อย แค่นี้ก็อยู่รอดปลอดภัยไปอีกหนึ่งวันละ อิๆ
“สาธยายมาซิ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
“แฮ่กๆๆ น้ำ...ขอน้ำ T^T” พี่กาอินยังไม่พร้อมเปิดปากตามคำเรียกร้องของพี่โบอา ท่าทางจะเหนื่อยมากเลยนะเนี่ย
หลังจากที่ยัยซูจินยื่นขวดน้ำไปให้ เจ้แกก็จัดการมันจนเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว อื้อหือ~ สงสัยภารกิจคราวนี้จะบรรลุตามจุดประสงค์ของฉันสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย =.,= (ฉันอยากให้พี่กาอินพลาดไง)
“ว่ามา!” พี่โบอาสั่งโดยที่ไม่ละสายตาออกจากท้องถนนเบื้องหน้า
“คืองี้นะ ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว ฉันตามเขาไปถึงห้องน้ำ แต่แล้วก็สังเกตเห็นว่าที่หัวเขามีผ้าพันแผลพันอยู่ O_O!”
“อะไรนะ? เขาได้รับบาดเจ็บเหรอคะ” ฉันโพล่งถามด้วยอาการใจหายวาบ... ไม่นะพี่จีซุน!
“ใช่! แต่เจ้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่และใครเป็นคนทำ ไม่รู้ด้วยว่าทำไม” พี่กาอินบอกเสียงเครียด ฉันเองก็เครียดตามไปด้วย ไม่นะๆๆ เทพบุตรของฉันมาบาดเจ็บแบบนี้มันต้องแย่มากแน่ๆ เลย T^T
“-_-;” พี่กาอินเงียบไปสักพักก่อนจะหันมองหน้าฉันนิ่งๆ ฉันที่รู้สึกว่าถูกมองจึงหันไปตามสายตาที่ส่งมา แต่ไม่นานพี่กาอินก็หันหน้าหนีพลางถอนหายใจ อะไรล่ะนั่น!? หมายความว่าไงน่ะ =_=?
“แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นคะ” ซูจินเอ่ยถามด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก อ่า จะว่าไป ตอนนี้พวกเราทุกคนไม่มีใครอยู่ในสภาพอารมณ์ที่ดีเลยสักคน ฮื่อๆ T^T
“เจ้ก็สะกดรอยตามไปเรื่อยๆ นั่นแหละ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีการ์ดมาจากไหนไม่รู้ มันเดินมาจีบพี่จ้า! ไอ้เราก็พยายามจะสลัดมันให้พ้น แต่ก็ยังมาตื๊อกันอยู่ได้ เฮ้อ~ เกิดมาสวยนี่ยากจะทำใจจริงๆ นะ”
“เอิ่ม...เข้าเรื่องซะที -_-^” พี่โบอาออกคำสั่งอีกครั้งก่อนที่พี่กาอินจะดึงเรื่องนี้ออกสู่ทะเล
“อุ๊ย! ลืมตัว ฮิๆ จากนั้นพี่ก็เลยใช้เสน่ห์ยั่วยวนเพื่อให้อีกฝ่ายหลงใหลและละลายตายไปเลย แต่ผิดแผนไปหน่อยตรงที่วิกมันดันหลุดออกมาเนี่ยสิ =_=; ต่อจากนั้นก็อย่างที่เห็นนี่แหละ เฮ้อ~”
“เอ่อ...ว่าแต่พี่กาอินไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ” ซูจินถามอย่างเป็นห่วงพลางจับไหล่อีกฝ่ายไว้ด้วยมือน้อยๆ อันสั่นเทา
“^^ ไม่จ้ะ ระดับเจ้แล้ว สบายมาก” พี่กาอินเอ่ยตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเพื่อให้อีกฝ่ายเบาใจ เห็นแบบนั้นฉันก็พลอยหมดห่วงไปด้วย
คงต้องกลับไปตั้งหลักกันใหม่แล้วล่ะ ภารกิจวันนี้...เสร็จสิ้น!
“-_-;;”
“พี่กาอินมีอะไรป่ะเนี่ย!?” ฉันเอ่ยถามเมื่อถูกจ้องอีกครั้ง
“ปละ...เปล๊า!” ทำเสียงสูงขนาดนั้นมันต้องมีอะไรบิดบังเอาไว้แน่ๆ ว่าแต่มันคืออะไร และฉันจะหาทางง้างปากพี่เขาได้ยังไงล่ะเนี่ย =_=;
เย็นวันนี้เรามีราเม็งไว้รองท้อง -_-; พวกเรากลับสู่เต็นท์พักแรมหน้าคอนโดฯ ของพี่จีซุนเรียบร้อยแล้วค่ะ ฟังดูเหมือนมาออกค่ายเลยเนอะ จริงๆ แล้วเรากำลังปฏิบัติภารกิจระดับชาติต่างหาก -.- การสนับสนุนศิลปินให้โด่งดังอย่างถึงที่สุดคือหน้าที่ของซาแซงอย่างฉัน และหนึ่งในนั้นก็คือนอนเฝ้าหน้าคอนโดฯ เพื่อแสดงถึงความภักดี ฮ่าๆๆ ฟังดูบ้าจัง แต่ลึกๆ แล้วขอสารภาพตามตรงว่าเราทำแบบนี้ไปเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขาค่ะ เราต้องการให้เขารับรู้ว่าเรารักเขามากแค่ไหน ก็เลยมาปรากฏตัวให้เห็นอยู่ทุกเวลาแบบนี้นี่ไง =W=
“ฟู่ๆ อากาศเริ่มหนาวแล้วเนอะเธอ” ซูจินเป่าเส้นราเม็งสองสามทีก่อนจะคีบเส้นเหนี่ยวนุ่มเข้าปากอย่างหิวโหย
“อืม นั่นสินะ” แม้แต่รางเม็งร้อนๆ ก็ยังอุ่นได้ภายในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้ หน้าหนาวกำลังมาเยือนพวกเราแล้วล่ะ
“เฮ้! ทำไมเธอกินเร็วจังล่ะเยจี” ยัยซูจินร้องท้วงเมื่อเห็นถ้วยราเม็งของฉันมันเหมือนจะเกลี้ยงอยู่รอมร่อ
“ฉันไม่ได้กินเร็ว -_- เธอต่างหากที่กินเยอะ ถ้าฉันจำไม่ผิดนั่นมันถ้วยที่สองสินะ”
“อ่า...แหะๆๆ ก็ฉันหิวนี่นา”
“เชื่อเลย! ตัวเล็กนิดเดียว ทำไมกินเยอะอย่างนี้นะ” ฉันพูดอย่างไม่จริงจังนัก พลางเอื้อมมือไปโยกหัวยัยตัวเล็กไปมา บางทีฉันก็รู้สึกว่าซูจินเป็นน้องสาวตัวน้อยๆ คนหนึ่ง และฉันก็มีหน้าที่ปกป้องดูเธอยัยเตี้ยนี่ราวกับเป็นพี่สาว -_-;
“คิกๆๆ เธอนั่นแหละกินน้อย” ยัยจะมาว่าฉันอีกนะ -_-;
ติ๊ดๆ
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นและเมื่อหยิบมันมาดูก็พบว่าคนสำคัญของฉันโทรมา
“ขอตัวเดี๋ยวนะ”
“อะ...อืม ระวังตัวด้วยนะ” ซูจินบอกอย่างรู้ดีก่อนที่ฉันจะปลีกตัวออกมาเพื่อหาจุดสงบสำหรับการคุยโทรศัพท์
ทุกวันฉันจะได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านอยู่เสมอๆ พวกเขาจะสลับกันโทรหาฉันด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่เชื่อไหมว่าไม่มีใครพยายามมาลากตัวฉันกลับไปเลย -_- เฮ้ๆ ฉันก็ไม่ได้ต้องการให้พวกเขาทำแบบนั้นหรอกนะ แม้มันจะแสดงให้เห็นถึงความรักและหวงแหนก็เถอะ แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว ฉันได้ใช้ชีวิตตามแบบที่ฉันเลือก มันก็ออกจะคุ้มค่าดีนะ
“สวัสดีค่ะ” ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างเป็นทางการ ทั้งที่คนที่โทรมาหาฉันใครครั้งนี้คือ...
[เป็นยังไงบ้าง เยจี]
...พี่ชายของฉันเอง
ระยะห่างระหว่างเราห่างออกไปทุกทีๆ ตามตารางงานที่มากขึ้นของอีกฝ่าย พี่ของฉันเรียนจบอย่างรวดเร็ว และได้เข้ารับตำแหน่งสำคัญในบริษัทของคุณพ่อคุณแม่เป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นพวกเราจึงยิ่งห่างเหินกันออกไปอีก ก่อนหน้านี้ฉันพยายามจะคุยเล่นกับเขานะ แต่เพราะภาพลักษณ์ที่พี่ฉันต้องรักษาจึงเป็นเหมือนการบังคับให้ฉันต้องตีกรอบมารยาทให้ตัวเองเสียใหม่ ฉันไม่อาจพูดจาเล่นหัวกับเขาได้ และต้องเรียบร้อยเข้าไว้เพื่อรักษาหน้าตาของตระกูล เห่อๆ
“เรื่อยๆ ค่ะ ฉันปลอดภัยดี แหะๆ” ฉันอยากจะล้อเล่นว่าฉันยังไม่ตาย แต่นั่นก็ดูจะโหดร้ายเกินไปอีกล่ะ เฮ้อ~
[อืม ดีแล้ว...]
“...”
แล้วเราก็เงียบไปพักใหญ่ =_=; ให้ตายสิ! ถ้าคุณแม่โทรมาฉันอาจจะพูดได้มากกว่านี้นะ อย่างน้อยท่านก็ใจดีและมีอารมณ์ขันอยู่บ้าง ไม่เหมือนพี่ชายของฉันที่เงียบขรึมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอมีตำแหน่งเข้ามาด้วยก็เลยยิ่งไม่พูดไม่จาเข้าไปใหญ่
[เธอ...ยังไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้นะ]
“เรื่องนั้น...” ฉันรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกชั่วขณะ ฉันมาอยู่อย่างนี้นานเท่าไหร่แล้วนะ?
[รักษาสัญญาด้วย]
“...ค่ะ เข้าใจแล้ว” ฉันรีบกลืนก้อนสะอื้นกลับลงคอไปแทบไม่ทัน ให้ตายเถอะ! รู้สึกอยากร้องไห้จัง เวลาที่เราได้อะไรบางอย่างมา เราก็ต้องเสียอีกอย่างเสมอไปงั้นสินะ ฮื่ออออ~
[งั้นไว้เท่านี้ก่อน รักษาสุขภาพด้วย]
“ค่ะ พี่ก็เหมือนกันนะคะ”
[อืม]
แล้วเขาก็ตัดสายไป ฉันได้แต่ถอนหายใจยาวพลางแหงนมองท้องฟ้าที่ไม่ค่อยจะมีดาวเท่าไหร่ ในยามราตรีเช่นนี้ควรจะมีที่ให้หมู่ดาวได้เริงระบำสินะ แต่มันกลับถูกบดบังด้วยแสงไฟจากท้องถนน บ้านเรือน และอีกมากมาย เห็นแบบนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเศร้าใจตามไปด้วย...
ฉันนี่มันไม่ต่างอะไรกับดาวพวกนั้นเลย... ถูกบดบังจนมองไม่เห็น
=======================================
ฝากเม้นท์ให้หน่อยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ