Chronicles Of Legend. ปฐมบทแห่งตำนาน

7.3

เขียนโดย LanzaDeLuZ

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 19.07 น.

  67 chapter
  7 วิจารณ์
  65.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 19.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

52) ...ชิ้นที่ 4 ...(1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

================================================

 

 

 

  

             เรย์ลาลีน นีโอ คอบร้ากระโดดพรวดจากชั้นที่นั่งระดับ VIP พุ่งลงมาสู่ข้างสนามในชั่วพริบตา พร้อมกับโนอาห์ วูล์ฟแฟนธ่อมที่กระโดดตามลงมาติดๆ ทั้งๆ ที่ยังคงงงงวยในการกระทำของอีกฝ่ายก็ตาม...จอมเวทย์หนุ่มเขม้นมองกระแสม่านพลังสีใสๆ ที่กำลังแผ่ออกมาจากเสาต้นเล็กๆ ที่ล้อมรอบลานประลองจนกลายเป็นเกราะพลังงานบางๆ  ก่อนที่หมัดซ้ายที่ประจุเวทย์ธาตุสายลมระดับ 8 จะชกเปรี้ยงเข้าที่บางๆ นั้นเต็มแรง

 

             

             เปรี้ยง !!!! 

 

 

             หมัดซึ่งประจุพลังเวทย์ระดับที่มากพอที่จะป่นสนามทั้งสนามให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้  บัดนนี้กลับไม่สามารถทำลายม่านพลังงานบางๆ หรือจะพูดให้ถูก พลังของเขาแทบจะไม่สามารถทำให้ม่านพลังงานตรงหน้าเป็นรอยได้เลยด้วยซ้ำ!  แถมม่านพลังตรงหน้ายังสะท้อนพลังกลับมาจนหมัดของเขาฉีกขาด เลือดไหลเป็นสายทีเดียว

 

           " บ...บ้าน่า ?! "  ชายหนุ่มกุมหมัดซ้ายข้างที่ได้รับบาดเจ็บแน่น ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความประหลาดใจมากกว่าจะเจ็บปวด...เป็นเพราะเขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าหมัดประจุพลังระดับนี้จะถูกม่านพลังบางๆ สะท้อนกลับมาแบบนี้

 

           " ฮ ...เฮ้ย !!  เรย์ฯ !  แกทำบ้าอะไรของแกวะเนี่ย ?! "

 

           " หือ? โนอาห์...เออ แกมาก็ดีแล้ว...ฉันจะต้องทำยังไงถึงจะทำลายม่านพลังบ้านี่ได้? "

 

           " ทำลายม่านพลัง? แกจะบ้าเหรอ?!  แกเห็นเสาที่สร้างม่านพลังนั่นไหม? เสานั่นถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือของอาจารย์จอมเวทย์กับอาจารย์ผู้ใช้พลังจิตร่วมร้อยคนเชียวนะ...พูดกันตามตรง ต่อให้ยัยเฮเลนกับดาบเล่มเก่งของเธอมาเองก็ไม่แน่ว่าจะทำลายม่านพลังนี้ได้เลยด้วยซ้ำ! "

 

           

             เปรี้ยงงงงงงงงง !!!!!!!      ครืนนนนนนนนนนนนนนนนน !!!!!!

 

 

             เสียงที่ดังปานฟ้าถล่มดินทลายที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาพวกเขาถึงกับต้องหดคอแยกเขี้ยววับหลับตาปี๋  เมื่อหันหลังกลับมามองพวกเขาก็พบกับเฮเลน วอลคาโนที่ดูท่าพึ่งจะอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ชนิดผมยังไม่ทันแห้ง กำลังยกดาบออกมาจากม่านพลังงานที่ร้าวเป็นแนวอยู่ตรงหน้า...แต่ชั่วพริบตาที่เธอถอนดาบออก รอยร้าวบนม่านพลังนั้นก็เชื่อมประสานติดกันอีกครั้งจนไม่เหลือร่องรอยความเสียหายใดๆ 

 

           " อืม...จริงด้วย...ลำพังราชศาสตราขั้นต้นกับพลังของฉันไม่พอทำลายจริงๆ ด้วย....แต่ถ้าปลดผนึกดาบเป็น The Ultimate Warrior  ก็ไม่แน่...ไม่สิ...ม่านพลังแค่นี้ไม่มีเหลือแน่ๆ "  เฮเลนพูดเบาๆ พร้อมกับที่สุดยอดดาบในมือเรืองแวงขึ้นจางๆ แต่ก่อนที่เธอจะได้ทันปลดผนึกดาบ หญิงสาวก็ถูกทั้งนาซีเรียทั้งโนอาห์รวบจนคว่ำไปเสียก่อน

 

           " ทำบ้าอะไรของหล่อนย้าาาาา!! ใจคอเธอจะไม่ถามก่อนเลยรึไงว่าเจ้าบ้านั่นจะทำลายม่านพลังทำบ้าอะไร?!! "  นาซีเรียแหวลั่นพร้อมกับออกแรงกดหญิงสาวร่างเล็กที่ดิ้นพล่านด้วยพลังราวกับยักษ์กับมารอยู่ด้านล่าง

 

            

             แกร๊กกกก !!!!!!!

 

 

             ระหว่างที่เฮเลนกำลังถูกรวบที่เท้าทั้งสองข้างของเรย์ลาลีนก็ถูกเวทย์สายความเย็นหรือเวทย์น้ำแข็งบางอย่าง สร้างเกล็ดน้ำแข็งสีฟ้าผนึกการเคลื่อนไหวไว้...เมื่อเขาหันไปที่ต้นตอของพลังเวทย์ ดวงตาภายใต้คอนแท็คเลนส์ของเขาก็พบกับดวงตาสีเทาอีกคู่หนึ่งของจอมเวทย์สาวในชุดนักศึกษามหาลัยหมื่นเวทย์ที่ถูกตั้งฉายาว่า ราชินีน้ำแข็ง  จ้องกลับมาขณะที่ในมือของเธอถือไม้เท้าเวทย์ชั้นสูงชี้มาที่เขาอย่างประสงค์ร้าย

 

           " คิดจะทำอะไรของพวกนาย?! จะทำลายการประลองอันศักดิ์สิทธิ์นี้งั้นเหรอ?!! "  จอมเวทย์สาวผู้มีดวงตาสีเทาจรัสแบบเดียวกับเรย์ลาลีนเหลือบไปมองเพื่อน Challengers ฝ่ายจอมเวทย์ที่ตามมาสมทบที่ข้างลานประลองเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาที่ชายหนุ่มที่เธอผนึกขาไว้พร้อมกับเอ่ยถามเสียงเข้ม

 

             เรย์ลาลีนขมวดคิ้วเล็กน้อย ท่าทางของเขาเหมือนจะแทบไม่สนใจขาที่ถูกเวทย์น้ำแข็งผนึกอยู่เลย...สิ่งที่สะกิดใจเขามากที่สุดคือดวงตาสีเทาคู่นั้น...ถ้าเขาจำไม่ผิด...ดวงตาสีเทาแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ประจำตระกูล เมโอ คริสตัล ของเขาไม่ใช่หรอกเหรอ?

 

           " ...เธอ? "  

 

           " เดี๋ยว! ใจเย็นๆ ก่อน  คาสซานดร้า ... "  นาซีเรีย วารีเรี่ยนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้ามาห้ามทัพ  แต่ก่อนที่จอมเวทย์น้ำแข็งนามว่าคาสซานดร้าจะว่าอะไร หรือเรย์ลาลีนจะได้ทันถามอะไรออกไป เสียงระเบิดดังลั่นบนเวทีประลองก็เรียกความสนใจของจอมเวทย์หนุ่มและทุกคนทั้งข้างลานประลองและบนอัฒจันทร์กลับไปที่เป้าหมายหลักของเขาอีกครั้ง

 

 

              บรึ้มมมมมมมมมมมมมมม !!!!!!!!!!!!!

 

 

           " ฮ...เฮ้ย!?  แลนซ์?!! ...-ิบหายแล้ว!! เงินตู!! "  เสียงของใครซักคนที่เรย์ลาลีนเดาว่าน่าจะเป็นของโนอาห์ เหมือนเป็นการบอกใบ้เป็นกลายๆ แล้วว่า...ใคร...เป็นผู้ที่กองอยู่บนลานหินนั้น

 

 

             ชั่วเสี้ยววินาทีเดียวที่แลนซ์เสียสมาธิจากการประลองเพราะท่าทางของเรย์ลาลีนผู้เป็นอาจารย์ของเขา...จอมเวทย์ตรงหน้าก็ระเบิดพลังธาตุไฟสีดำสนิทเปรี้ยงโดยแทบไม่ได้ร่ายเวทย์อะไรออกมาเลย แม้ว่าแลนซ์จะประสาทไวพอจะสร้างเกราะสายลมเพื่อป้องกันได้ แต่กระแสเพลิงสีดำนั้นกลับแทบจะไม่ได้ถูกบั่นทอนลงเลย...ผลก็คืออดีตเจ้าปราการลมหนุ่มถูกลูกไฟสีดำนั่นกระแทกกระเด็นเป็นว่าวป่านขาด หล่นตุ้บลงมาแน่นิ่งอยู่ที่พื้นท่ามกลางเสียงเฮสนั่นลั่นอัฒจันทร์!!

 

           " น...นั่นมัน "  คาสซานดร้า...จอมเวทย์สาวสมญานาม ราชินีน้ำแข็ง  เป็นคนแรกที่รับรู้ถึงความผิดปกติของเวทย์ธาตุไฟบทนั้น เธอขมวดคิ้วพร้อมกับหันกลับไปมอง ในขณะที่เรย์ลาลีนใช้จังหวะนั้นทำลายผนึกน้ำแข็งที่ขาพร้อมกับพุ่งรวบตัวอีกฝ่ายไว้เพื่อกันไม่ให้เจ้าหล่อนใช้เวทย์ที่แรงกว่านี้เพื่อผนึกเขาอีก

 

           " ฟังนะ...โว้วๆ ใจเย็น...บอกไอ้พวกนั้นให้เอาไม้เท้าเวทย์ชี้ไปทางอื่นก่อนได้ไหม? ...เธอ...เอ่อ...คาสซานดร้า...ใช่ไหม? "

 

             คาสซานดร้าใช้ดวงตาสีเทาของเธอค้นหาเล่ห์เพทุบายของชายหนุ่มตรงหน้า แต่เธอกลับไม่พบอะไรนอกจากแววขอร้องจากใจจริง เธอจึงพยักหน้าให้เหล่า Challengers ฝ่ายจอมเวทย์ที่ล้อมรอบอยู่ถอยออกไป

 

           " ถ้าเข้าใจกันแล้วล่ะก็...เรย์ฯ ปล่อยหล่อนซะที!! นี่นายจะทำตัวไร้ยางอายไปถึงไหน?!! "  เฮเลนแหวดังลั่นพร้อมกับบีบราชศาสตราในมือแน่น ทำเอาเรย์ลาลีนต้องรีบคลายอ้อมกอดของตนออก...เขาหันกลับมามองอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย ก่อนเลือกที่จะปล่อยผ่านไปก่อนเมื่อมีเรื่องที่สำคัญกว่าอยู่ตรงหน้า

 

           " คาสซานดร้า...คุณเองก็สัมผัสได้ใช่ไหม? "

 

           " กลิ่นอายเวทย์นั่น...ไม่ใช่กลิ่นอายแบบปกติของชาร์ล... "

 

           " นั่นคือกลิ่นของด้านมืดของธาตุไฟขั้นต้น...ไม่แปลกหรอกที่พวกเธอจะยังไม่รู้จัก แต่นี่ไม่ใช่พลังที่ใครอยากจะใช้ก็ใช้ได้...และที่แน่ๆ ไม่ใช่พลังระดับที่ชาร์ลจะสามารถใช้ได้แน่ๆ "  ผู้ตอบคือเชรีน่า เมโอ คริสตัล ผู้วิเศษแห่งมหาลัยหมื่นเวทย์ที่กำลังลอยลงมาอย่างช้าๆ พร้อมกับผู้อำนวยการคู่แฝดสาวแห่งสถาบันผู้ใช้พลังจิต

 

           " นายท่านเชรีน่า! "  คาสซานดร้าเบิกตากว้าง ก่อนจะรีบคุกเข่าก้มหน้างทันที แต่เชรีน่าพุ่งเข้าประคองเธอไว้ก่อนพร้อมกับเขกหัวเบาๆ

 

           " ฉันบอกกี่ทีแล้วว่าฉันไม่ชอบคำนำหน้าพรรค์นั้น...แล้วก็เลิกพุ่งลงคุกเข่าทุกครั้งที่เจอฉันซะที! "  เธอดุเบาๆ แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความปรานี ชนิดที่เรย์ลาลีนแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ก่อนที่เธอจะพูดต่ออย่างเป็นการเป็นงานดังๆ

 

           " ในนามของผู้ตัดสินการประลองสูงสุด ฉันขอตัดสินให้การประลองคู่นี้เป็นโม--- "

 

 

             เปรี้ยง !!!!!  ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน !!!! 

 

 

             เสียงระเบิดดังสนั่นกลางลานประลอง พร้อมๆ กับเสียงเฮลั่นปานฟ้าถล่มดินทลายของเหล่านักศึกษาจากทั้งสองสถาบันทำเอาทุกคนต้องหันกลับไปมองที่ลานประลองอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

           " บ้าน่า!!...ทำไมการประลองถึงยังไม่สิ้นสุดล่ะ?!! แลนซ์ก็น่าจะถูกย้ายออกมาจากลานประลองแล้วไม่ใช่เหรอ? "  อเล็กซานดร้าอุทานลั่นในขณะที่เรย์ลาลีนตบหน้าผากตัวเองพร้อมกับครางเบาๆ โดยไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมองว่า

 

           " ก็เพราะแลนซ์ยังไม่ยอมแพ้น่ะสิ "

 

 

 

 

 

.....................................................

 

 

 

 

         

             ภายในลานประลองซึ่งถูกล้อมกั้นไว้ด้วยม่านพลังงานที่แข็งแกร่งจนแม้แต่เสียงก็ลอดเข้ามาไม่ได้ แลนซ์รู้ซึ้งดีเกินพอแล้วว่าการเสียสมาธิเพียงเสี้ยววินาทีเดียวในการต่อสู้ ส่งผลร้ายแรงเพียงใด....ลูกไฟสีดำประหลาดนั่นเกือบจะทำเขาลอยไปถึงสวรรค์แล้วเชียว ถ้าหากเขาไม่กระโดดออกมาจากจุดศุนย์กลางการระเบิดในเสี้ยววินาที การประลองนี้คงจะจบไปแล้วแน่ๆ

 

             แลนซ์สร้างหอกสายลมอันคมกริบซึ่งเป็นรูปแบบพลังจิตประจำตัวเขา 2 ขึ้นมาบนมือทั้ง 2 ข้างของเขา และอีก 3 เล่มลอยอยู่ด้านหลังเป็นอาวุธสำรอง พร้อมกับพุ่งเปลี่ยนทิศทางโดยใช้ธาตุประจำตัวเสริมพลังกายจนเร็วแทบมองไม่ทัน...พริบตาเดียวเขาก็มาปรากฎอยู่ด้านหลังของชาร์ลพร้อมกับหอกสายลมทั้ง 5 

 

           " หอกสายลมระยะศูนย์ !! "

 

             หอกสายลมซึ่งเป็นอาวุธธาตุระดับสูงเทียบเท่าเวทย์ระดับ 7 ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถป้องกันได้ง่ายๆ แถมยิ่งอยู่ในระยะประชิดตัวแบบนี้ เรื่องหลบน่ะเลิกคิดไปได้เลย  ว่ากันตามตรงการโจมตีของแลนซ์คราวนี้สามารถพูดได้ว่าไร้ที่ติ.....น่าเสียดายที่อีกฝ่ายดันเป็นจอมเวทย์ที่มีธาตุที่เป็นปฏิปักษ์ต่อธาตุประจำตัวของเขาอย่างที่สุด...ธาตุไฟ...

 

             เพียงชั่วพริบตาก่อนที่คมหอกจะเข้าถึงเป้าหมาย เพลิงสีดำสนิทก็พุ่งออกจากตัวของชาร์ลออกมสกัดกั้นหอกไว้ แถมมันยังกลืนกินหอกของเขาไปเสริมพลังจนเกราะเพลิงสีดำนั่นลุกโชติช่วงขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว

 

           " แกนี่เจ็บไม่จำจริงๆ น้าาาา "  ชาร์ลเหลือบหันหลังกลับมามองพร้อมกับแสยะยิ้ม

 

           " ซวยแล้วตู "  

 

 

             ตูมมมมมมมมมมมม !!!!!!!!!!!!!!!

 

 

             เป็นอีกครั้งที่แลนซ์เป็นฝ่ายต้องถูกดีดกระเด็นออกมา...แม้ว่าคราวนี้จะไม่ถึงกับกระเด็นเป็นว่าวป่านขาด แต่เมื่อเขายกกำไลโลหะซึ่งเป็นเหมือนมาตรวัดค่าพลังชีวิต กำไลของเขาก็ส่องประกายสีเหลืองแก่ๆ สะท้อนกลับมา ในขณะที่กำไลข้อมือของชาร์ลยังคงส่องประกายเหลือบสีเขียวสดอันบ่งบอกว่าพลังชีวิตของอีกฝ่ายแทบจะไม่ลดลงเลย

 

           ' อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย ...ต่อให้เพาเวอร์อัพขึ้น แต่พลังของเราซึ่งเป็นธาตุลม เมื่อเจอแบบนี้ก็ไม่ต่างจากเติมเชื้อไฟให้อีกฝ่ายเลย '  แลนซ์กระชากเสื้อนอกที่กะรุ่งกะริ่งและเต็มไปด้วยรอยไหม้ออก เผยให้เห็นร่างกายที่เริ่มกำยำขึ้นจากผลของการฝึกฝนอย่างหนัก พร้อมทั้งคิดหาหนทางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยอมรับว่าหากไม่ได้เรย์ลาลีนผู้เป็นอาจารย์แนะนำในช่วงเวลาท้ายสุด...ต่อให้เขาเก่งกว่านี้...ผลก็คงจะต่างจากเดิมไม่มากเท่าไหร่แน่ๆ

 

           " เอ้า...ดิ้นเข้าสิ...เจ้าเด็กน้อย...ดิ้นเข้าสิ...แกต้องพยายามมากกว่านี้เพื่อที่จะสร้างบาดแผลให้กับคนระดับฉันได้! "   ชาร์ลตวาดพร้อมกับหัวเราะลั่นอย่างเสียสติชนิดที่แลนซ์จำไม่ได้ว่าเคยพบเห็นจากชายตรงหน้านี่มาก่อน  แต่เขาก็ต้องเลิกคิดทันทีพร้อมกับก้มตัวม้วนหลบห่าลูกไฟที่พุ่งราวกับลูกธนูใส่เขาแบบไม่ยั้ง

 

           " เออ...แล้วนายจะได้เห็น "  

 

 

          ...ย้อนกลับไปเมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อน...บริเวณสนามหญ้าใกล้ๆ กับลานประลอง...

 

           " ก็อย่างที่เห็น...นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าหากฉันใช้พลังธาตุลมโจมตีใส่พวกผู้ใช้ธาตุไฟที่ระดับพอๆ กัน หรือสูงกว่าเรา...ผลมันจะเป็นยังไง "  เรย์ลาลีน...จอมเวทย์หนุ่มผู้เป็นอาจารย์เอ่ยเบาๆ พร้อมกับชี้ไปที่เฮเลนกับดาบของเธอด้วยตาที่ปรือเต็มที่จากการฝืนสังขารเต็มที่ ในขณะที่ตัวเขาซึ่งอยู่ห่างออกไปได้แต่พยักหน้ารับ

 

          ...ทุกครั้งที่เวทย์ธาตุสายลม...ตั้งแต่ระดับเล็กๆ ไปจนถึงระดับมหาเวทย์กระทบกับราชศาสตราดาบอัคคีเอ็กโซดัส  ดาบเล่มนั้นกลับดูดเอาเวทย์ที่โจมตีเข้าไป พร้อมกับรัศมีเพลิงที่ลุกไหม้โชติช่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามความรุนแรงของเวทย์ที่ดูดไป...ทั้งๆ ที่เฮเลนยังไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษของดาบเลยด้วยซ้ำ...

 

           " ครับ...ธาตุลมจะถูกธาตุไฟซึ่งมีฐานันดรธาตุข่มกันดูดกลืนไปเพื่อเสริมพลัง...ยิ่งธาตุลมมีระดับสูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกดูดกลืนเร็วขึ้นเท่านั้น "  

 

           " ใช่...ไม่อยากจะระลึกความหลังหรอกนะ แต่ฉันก็เคยประสบปัญหาห่วยแตกพรรค์นี้เหมือนกันที่เกาะทองคำ แถมไอ้พวกจอมเวทย์ธาตุไฟรับจ้างพวกนั้นก็คิดจะฆ่าฉันแบบจริงจังซะด้วย...ช่วงที่ลำบากสุดขีดนั่นเองฉันก็คิดวิธีนึงได้...ดูนะ "  จอมเวทย์หนุ่มพูดพร้อมกับสร้างหอกสายลมขึ้นมาอีกเล่มนึงที่ไม่ต่างจากก่อนหน้า แต่คราวนี้เฮเลนกลับยกดาบขึ้นมาตั้งรับเองอย่างไม่รู้ตัว เพราะสัญชาตญาณพิเศษบางอย่างของเธอกำลังฟ้องว่าหอกเล่มนั้นไม่ใช่หอกแบบเดียวกับก่อนหน้านี้...หอกที่มาพร้อมกับกระแสความไม่น่าไว้วางใจจนเธออยากจะถอยห่างซะเดี๋ยวนี้เลยทีเดียว

 

           " เรย์ฯ...พูดตามตรงนะ ฉันไม่ชอบหอกเล่มนั้นเลย "

 

           " เอาน่าๆ...ไม่ถึงตายซะหน่อย...เตรียมตัวนะ "

 

           " เดี๋ยว! "

 

             จะทันได้ยินหรือไม่ เรย์ลาลีนก็ซัดหอกนันออกมาแล้ว...ทันทีที่พ้นออกมาจากมือ หอกเล่มนั้นลอยอย่างเชื่องช้าเมื่อเทียบกันเวทย์สายลมอื่นๆ ของเขา...เฮเลนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยกดาบขึ้นมากัน แต่แล้วสิ่งที่เธอสังหรณ์ก็ดันเป็นจริงขึ้นมา

 

             ทันทีที่ปลายหอกสัมผัสกับดาบ หอกเล่มนั้นก็สลายกลายเป็นละอองเล็กๆ พุ่งเข้ามาในร่างของเฮเลน พร้อมกับที่ธาตุไฟในร่างของเธอปั่นป่วนขึ้น...เท่าที่เธอสัมผัสได้ มันพลุ่งพล่านขึ้นและกำลังเผาผลาญพลังในร่างกายของเธอไปเรื่อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้...ชนิดที่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ร่างกายของเธอจะต้องแห้งตายจากการไม่สามารถหยุดการไหลของพลังได้แน่ๆ

 

           " เห็นแล้วใช่ไหม...นี่คือ---- " 

 

           " ย...แย่แล้ว !!  เรย์ฯ ระวัง !!!  "

           

            ถ้าเป็นผู้มีพลังธาตุไฟคนอื่น ผลคงปรากฎไปแล้ว  แต่สำหรับผู้ใช้ราชศาสตรา...เมื่อรับรู้ถึงความคุกคาม ราชศาสตราดาบเอ็กโซดัสตัดสินใจทำการโต้ตอบการคุกคามด้วยการระเบิดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายของผู้ใช้ออกมาพร้อมกับพลังไฟระดับสูงสุดที่เทียบเท่าสเกลเวทย์ระดับ 10  โดยที่ตัวผู้ใช้ ซึ่งในที่นี้ก็คือตัวเฮเลนเองไม่สามารถควบคุมได้!!

 

 

             บรึ้มมมมมมมมมมมมมมม !!!!!!!!!!!

 

 

           " เจี๊ยกกกกกกกกก!!!! "

 

 

 

 

...................................................

 

 

 

 

 

          ...ไกลออกไปบริเวณที่ไหนซักแห่งของเกาะ...

 

             " นี่มันหมายความว่ายังไง?...คุณเซลรีเนีย? "  คลาเดีย สตอร์มการ์ด...หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของสมญานาม ชาโดว์  เอ่ยถามหญิงสาวอีกคนที่ยืนหันหลังมองวิวทิวทัศน์รอบๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบสนิท แต่ไม่อาจปิดบังความไม่พอใจที่อยู่ในน้ำเสียงได้เลยแม้แต่น้อย

 

               เซลรีเนีย...จักรพรรดิณีสาวแห่งราชอาณาจักรลูซิล ผู้ใช้ราชศาสตราสายดำลำดับที่ 2 ดาบภูติอาถรรพ์ เอ็กโซซิส  หันสายตาที่ทรงเสน่ห์ของเธอกลับมามองอย่างช้าๆ ริมฝีปากสีกลีบกุหลาบที่แต้มด้วยรอยยิ้มพรายพูดตอบกลับมาเบาๆ ด้วยเสียงใสซื่อบริสุทธิ์ว่า

 

             " หืม? ...อะไรเหรอ  ท่าน ชาโดว์  ฉันไม่เข้าใจจริงๆนะว่าเธอพูดเรื่องอะไร "

 

             " อย่ามาทำเสียงยังงั้นกับฉัน...เราต่างก็รู้ดีว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร...ทำไมเธอถึงยื่นมือเข้าไปวุ่นวายกับการประลองที่ไม่เกี่ยวข้องกับแผนของเราแบบนั้น "

 

             " แผน ของ ท่าน ...อีกอย่างนึง ฉันไม่ได้เป็นคนทำมันซะหน่อย "

 

             " แต่เธอบงการให้คนของเธอทำ!! "  คลาเดียตวาดอย่างชักจะเริ่มหมดความอดทนกับการตีฝีปากของหญิงสาวตรงหน้า...เธอกระชากคอเสื้อของเซลรีเนียเข้ามาใกล้ พร้อมกับพูดต่อ  " สิ่งที่ฉันต้องการคือการครอบครอง โบราณวัตถุ  โดยจำกัดความเสียหายต่อตัวเกาะหรือตัวนักศึกษาเองให้เหลือน้อยที่สุด! แต่สิ่งที่เธอ...ไม่สิ...สิ่งที่คนของเธอพึ่งจะทำลงไปมันเกินกว่าที่เราจะควบคุมได้! อาจจะมีใครตายเพราะการกระทำของเธอก็ได้!! "

 

               เซลรีเนียตวัดแขนรวบคลาเดียวูบจนคลาเดียล้มคว่ำลงบนพื้นหญ้า พร้อมกับใช้ท่อนแขนเรียวบางทว่าแข็งแรงเกินกว่าคนปกติกดคอต่อคลาเดียไว้เพื่อไม่ให้หญิงสาวด้านล่างขัดขืนอีก พร้อมกับก้มลงมากระซิบข้างหูอย่างช้าๆ

 

             " ฟังฉันนะ...ท่านชาโดว์...ฟังให้ดี "

 

             " กรอดดดด...นี่เธอ!! "

 

             " บอกให้ฟังไง!...ท่านอย่าได้ลืมเลือนไปสิว่าท่านมาอยู่ที่นี่เพราะอะไร?! ...อย่าบอกว่าเวลาเกือบ 3 ปีที่อยู่ที่นี่ท่านถูกความสะดวกสบายกลืนกินจนท่านลืมเลือนดวงตาของเหล่าทหารที่เคยตายในอ้อมแขนท่านไปแล้ว! ...ท่านลืมวันที่ท่านซมซานมาขอร้องฉันในฐานะผู้ใช้ราชศาสตราด้วยกันแล้วเหรอ? ...ทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงคำขอร้องอันไร้ค่าของราชาผู้ไร้บัลลังก์แท้ๆ แต่ฉันก็ยังยอมมาช่วย! "

 

             " การฆ่าผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นการช่วย!! "

 

             " ฉันรับปากว่าฉันจะช่วยท่าน ท่านชาโดว์...เราตกลงกันที่ผลลัพธ์  ส่วนวิธีการ...ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง!! "  เซลรีเนียพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจสมเป็นจักรพรรดิณ๊ของเหล่านักรบปิศาจทั้งมวล ก่อนที่เธอจะปล่อยหญิงสาวตรงหน้าด้วยการคลายล๊อคออกพร้อมกับฉุดแขนให้ลุกขึ้น...เมื่อคลาเดียหันหลังกลับมา ใบหน้าของเซลรีเนียกลับไม่ปรากฎร่องรอยของท่าทีข่มขู่เมื่อครู่เลย...มันเป็นใบหน้าของหญิงสาวที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่สุดเท่าที่หญิงสาวคนนึงพึงจะมีได้

 

             " เพราะงั้น...กรุณาเชื่อฉันเถอะนะคะ...ถึงจะขลุกขลักไปบ้าง แต่รับรองว่าฉันเอา สิ่งนั้น  มาให้ท่านได้อย่างแน่นอน "

 

               คลาเดียจ้องเข้าไปในดวงตาที่ดำสนิทราวกับรัตติกาลที่ไร้ดวงดาวของหญิงสาวตรงหน้านิ่งอย่างพยายามค้นหาความจริง แต่เธอก็ไม่อาจค้นพบอะไร  มันเป็นดวงตาของหญิงสาวที่ใสซื่อ...หรือไม่...มันก็เป็นดวงตาของผู้ที่ไม่ได้ถูกผูกมัดไว้ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอีกต่อไปแล้ว!! 

 

             " หวังว่าฉันคงคิดถูกนะที่ขอให้เธอว่าชวย...เซลรีเนีย "

 

             " คิกๆๆๆๆ  ท่านอาจจะคิดถูกอย่างคาดไม่ถึงเลยก็ได้...ท่านชาโดว์ "

 

             

 

 

 

....................................................

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา