มิติรัก ของยัยนักเขียน LOVE WRITER
เขียนโดย SmileAlive
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.32 น.
แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2556 19.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) การกลับมาของเจ้าชายจอมเวทย์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เมื่อเวลาผ่านไปหลายนาที เสียงเรียกขานหาเจ้าชายวีนัสก็เงียบสงบลง เฮเซลค่อยๆเดินออกมาจากผ้ากำมะหยี่สีแดงอย่าช้าๆ และพุ่งเข้าหาประตูบานใหญ่ เธอค่อยๆเปิดประตูออกทีละนิด ทีละนิด เพื่อที่จะดูว่าต้นเสียงนั้นยังอยู่อีกไหม เฮเซลได้ส่งสัญญาณให้เฟรนชี่รู้ว่าภายนอกห้องไม่มีผู้ใดอยู่เลย แม้กระทั่งแสงเทียนที่ส่องแสงระยิบนะยับ ยังนิ่งสงบราวกับว่าถูกแช่แข็งเอาไว้ เฟรนชี่ลุกขึ้นเดินจากเตียงนอนสีทองที่รายล้อมไปด้วยม่านบางๆสีขาว ตามเฮเซลไปติดๆ เฮเซลได้กระซิบให้เฟรนชี่เดินตามเธอมายังบันไดด้านข้างประตูทางออกห้อง เฟรนชี่ถึงกับชะงักและดึงแขนเฮเซลเอาไว้ ทั้งคู่ได้สบตากัน ด้วยความห่วงใยของเฟรนชี่สิ่งที่สื่อออกมาทางสายตาจึงชัดเจนเหมือนกับเขาได้พูดออกมา แต่นี่เป็นแค่เพียงการส่งสายตาบอกเฮเซลว่าทางข้างหน้าอาจอันตรายเท่านั้นเอง เฮเซลยิ้มให้กับเฟรนชี่พร้อมกับจับมือเฟรนชี่
“คุณไม่ต้องกลัวหรอกหน่า ทางข้างหน้าฉันรู้ดีว่าจะเจอกับสิ่งใด ฉันเป็นคนสร้างทางนี้มากับมือเชียวนะ”
“ถ้าคุณมั่นใจขนาดนี้แล้วผมก็ไม่ขัดละ”
ทั้งคู่มุ่งหน้าสู่บันไดที่นำพาไปสู่ชั้นใต้ดินของปราสาท ทางเดินของบันไดถูกโอบล้อมไปด้วยแสงเทียนระยิบระยับที่จะส่องสว่างทันทีเมื่อมีอะไรมากระทบ เทียนเหล่านี้ถูกยึดติดอยู่กับราวบันไดสีน้ำตาลอมแดงแต่ที่หน้าแปลกก็คือเทียนทั่วไปมักจะมีลักษณะที่พลิ้วไหวและร้อนเมื่อได้สัมผัส แต่เทียนตามทางนี้ เมื่อได้สัมผัสแล้วแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลยราวกับว่าได้สัมผัสกับแสงที่ออกมาจากราวบันไดเท่านั้นเอง
“ผมเริ่มชักมึนหัวแล้วนะคุณ บันไดนี่ทำไมมันช่างวนเวียนยิ่งนักตาผมลายไปหมดแล้ว ทำไมคุณไม่สร้างบันไดให้มันปกติเหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขาทำกันบ้างละ”
“อย่าบ่นได้ไหม ฉันว่าบันไดนี่เลิศสุดๆแล้วนะ ฉันใช้เวลาคิดตั้ง 7 วัน 7 คืนเลยนะ ออกแบบมาโดยเฉพาะ อ่อลืมบอกไป ลองมองลงไปที่เทียนตรงราวบันไดดูสิ คุณน่าจะรู้สึกดีขึ้นนะ”
เฟรนชี่มองลงบนเทียนตามที่เฮเซลบอก ความรู้สึกที่รับรู้ได้ตอนนั้นคือเหมือนได้ล่องลอยอยู่บนอากาศที่รายล้อมไปด้วยดอกทานตะวันสีเหลืองสด เสียงนกน้อยร้องเพลงอันไพเราะพร้อมๆกับสายน้ำที่ไหลรินลงจากหน้าผาอันสูงชัน ภาพที่ได้เห็นช่างงดงามเหนือจินตนาการ เฟรนชี่ได้เคลิบเคลิ้มอยู่กับสิ่งที่ได้เห็นเป็นเวลานานจนไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้เดินมาถึงห้องสองมิติแล้ว
“คุณ ดื่มน้ำสักหน่อยไหม”
เฮเซลได้ยื่นน้ำให้กับเฟรนชี่แต่ไม่มีการตอบรับอะไรจากเขาเลย เฮเซลจึงหันมาและพบกับเฟรนชี่ที่กำลังหลับตาและทำท่าพลิ้วไหวเหมือนกับนกที่โบยบินไปมา และเขาได้โบกมือซ้ายขวาราวกับว่าเขาเป็นคนดังอย่างนั้น พร้อมกับส่งยิ้มไปรอบทิศเหมือนกับได้รับการตอบรับที่ดีจากบางสิ่งบางอย่าง เฮเซลได้จังหวะเธอเดินไปหยิบเก้าอี้ที่วางเรียงรายเป็นระเบียบทางด้านหลังของห้อง พร้อมกับไปยืนบนเก้าอี้และถือแก้วน้ำใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำเต็มแก้วเพื่อที่จะเตรียมเทใส่เฟรนชี่ที่กำลังหลงระเริงกับจินตนาการของเขา เฟรนชี่สูงเกินที่จะเทน้ำใส่ ซึ่งแน่นอนการสาดน้ำใส่ไปแบบตรงๆคงไม่ดีเท่าไหร่เธอจึงใช้เก้าอี้เพื่อเป็นการต่อความสูงของเธอให้พอๆกับเฟรนชี่ การเทน้ำใส่หัวคงไม่แย่เท่าไหร่หรอกสำหรับความคิดแกล้งคนของเฮเซล ^^
“โอ๊ย!! อะไรกัน อะไรเนี่ย คุณ คุณทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย ผมเปียกไปหมดแล้วนะ!”
“ก็เรียกคุณแล้วทำไมไม่ตอบละ ฮ้าๆ วิธีนี้เรียกคุณได้ดีที่สุดละ”
“แกล้งผมหรอ ได้!! เอาแก้วมานี่”
เฟรนชี่แย่งแก้วน้ำจากเฮเซลเพื่อไปตักน้ำมาสาดใส่ ทั้งคู่ยื้อแย้งกันอยู่เป็นเวลานาน เฟรนชี่จับตัวเฮเซลได้เขาก็รัดไว้แน่นพร้อมกับเทน้ำลงบนศีรษะอันเล็กน้อยของเฮเซลจนเปียกแฉะ แน่นอนเฮเซลดิ้นอย่างไงก็ดิ้นไม่หลุดเฟรนชี่ตัวใหญ่และกำลังเยอะกว่าอยู่แล้ว เฮเซลมองหน้าเฟรนชี่ที่เปียกไปด้วยน้ำ น้ำค่อยๆไหลรินเป็นทางๆตามใบหน้าของเฟรนชี่จนถึงปากอันเบาบางที่เสมือนกับปากของผู้หญิงที่มีสีชมพูอ่อน
“คุณช่างหล่อกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีกนะ หล่อซะจน.......”
เฮเซลเผลอหลุดปากไปพร้อมกับหยุดชะงักเมื่อเฟรนชี่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด เฟรนชี่ค่อยๆวางแก้วลงโดยที่อีกมือยังรัดเฮเซลเอาไว้ ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันมากจนแทบจะแนบสนิทกัน เฮเซลหลับตาลงเมื่อรู้ว่า เฟรนชี่ค่อยๆขยับปากอันเรียวสวยลงบนปากของเธอ
ค่อยๆแต่งไปเรื่อยๆเนอะ ^^ ฝากด้วยนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ