Phantom School
เขียนโดย Wondergirl
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18.10 น.
แก้ไขเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
บทนำ
ในยามสนธยา แสงอาทิตย์พลันเลือนหายไปและปล่อยให้ท้องนภาอันเวิ้งว้างถูกย้อมไปด้วยสีม่วงออกน้ำเงิน ทุกสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในเขตนี้เริ่มหาที่ซุกตัวหลบนี้ความหนาวและมืดมิด เว้นเสียแต่พืชพันธุ์หลากสีที่ทำเพียงหลับไหลไปอย่างเงียบเชียบและเหล่าสัตว์หากินกลางคืนที่เริ่มตื่นจากนิทรา
หรืออาจจะมีอีกหนึ่งอาชีพที่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปซึ่งกลัวความมืด...?
ดวงจันทร์กลมโตลอยอยู่กลางท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ สาดแสงสว่างเย็นเยือกนวลตาไปทุกหนแห่งแม้ว่าจะมิได้ให้ความสว่างเหมือนดั่งดวงอาทิตย์ เช่นนี้ราวกับว่ามันกำลังเยาะเย้ยความหวาดกลัวของมนุษย์
ความมืดมิดแทบไร้แสงสว่างของเมืองแห่งนี้ดูจะไม่เป็นอุปสรรคของการทำงานของอาชัพหนึ่งซึ่งทำงานเวลากลางคืน แต่ความเงียบงั้นที่แทบจะไร้ซึ่งเสียงใดนี่สิที่ทำใหพวกเขาเหล่านี้หงุดหงิด หากเขาเดินเหยียบกิ่งไม้หัก จะมีคนตื่นมาจับเขาทันที
แต่ก็น่าแปลกเพราะว่าหนึ่งในนั้นกลับคิดต่างออกไป
ร่างบางในชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้ากระโดดออกจากเงามืดของบนสุดของหอนาฬิกาลงไปยังหลังคาบ้านที่ทำจากกระเบื้องอย่างแผ่วเบาโดยทรุดเข่าข้างหนึ่งและใช้มือยันพื้นเอาไว้ เธอค่อยๆยืดตัวขึ้นช้าๆ ร่างสูงเพรียวยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์โดยไม่เกรงกลัวที่จะโดนจับได้ เส้นผมสีดำสนิทเป็นลอนเล็กๆคลอเคลียที่ข้างลำคอระหงที่ถูกบดบังด้วยคอเสื้อสูงสีดำ ใบหน้าของเธอถูกปกปิดเอาไว้ด้วยหน้ากากแฟนซีสีขาวประดับขนนก ริมฝีปากบางดุเรียบเฉยไร้อารมณืความรู้สึก ผิวขาวซีดดูเป็นประกายใต้แสงจันทร?
เธอเดินและกระโดดไปตามหลังคาบ้านต่างๆอย่างไร้ซุ่มเสียง จนในที่สุดก็มาถึงคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งเปิดไฟเอาไว้รอบๆบ้านจนสว่างโล่งเด่นสะดุดตา หน้าประตูมียามนั่งเฝ้าอยู่2คน
เห็นดังนั้นเธอถอยเอาไปแอบใต้เงามืดแล้วโยนลูกปัดเล็กๆ3เม็ดๆไปยังกระจกบ้านหลังใกล้ๆ และได้ผล ยาม2คนนั้นตกใจจนสะดุ้งลุกขึ้นด้วยท่าทางสุดแสนจะตลก พวกเขาตรงไปยังบ้านหลังนั้นในทันทีที่เจ้าของบ้านเปิดไฟ ซึ่งนี่เป้นผลดีอย่างหนึ่งของเมืองนี้ ชาวบ้านและยามหูไวต่อเสียงมาก
เธอกระโดดลงจากหลังคาแล้วตรงไปยังประตูหน้าอย่างไม่รีบร้อนก่อนจะแฝงกายเข้าไปในเงามืดอีกครั้ง
ฉันเกลียดที่สว่างๆแบบนี้จริงๆเลยให้ตายเถอะ เธอสบถในใจพรางฉวยโอกาสที่ยาม2คนที่เฝ้าตรงระเบียบเปลี่ยนเวรกระโดดขึ้นไปยังระเบียบเหนือหัวของเธอ ซึ่งเธอเช็คมาแล้วว่ามันเป็นห้องสำหรับเล่นเปียโนของเจ้าของคฤหาสน์
เธอเข้าไปในห้องนั้นอย่างง่ายดายจนรู้สึกเซ็งนิดๆ ไม่สนุกเลยให้ตายเถอะ ง่ายเกินไปจริงๆ เธอรีบออกจากห้องนั้นโดยไม่สนใจข้าวของเลอค่าล่อตาล่อใจในนั้นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
ทางข้างหน้ามีแต่ความมืดสลัวที่ดูวังเวงไม่น่าไว้ใจ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ผู้บุกรุกสาวรู้สึกท้าทายและสนุก ตื่นเต้น เธอเดินขึ้นไปยังชั้น2ของคฤหาสน์เหมือนนี่เป้นบ้านตัวเองแล้วจึงไปหยุดที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่งซึ่งทำจากไม้เนื้อดี และต้องขอบคุณเจ้าของบ้านโง่เง่าซึ่งหยอดน้ำมันบานพับของประตูแล้ว เธอจึงเข้าไปได้อย่างไร้ซุ่มเสียงเช่นเคย
แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องทำให้เธอเห้นเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ร่างอ้วนๆเหมือนหมูขุนของเศรษฐีลามกหัวล้านกำลังนอนหลับอุตุอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆแถมยังกรนครอกๆอีกต่างหาก บอกให้รู้ว่าอีกไม่ช้าเขาจะสามารถจากไปโดยไม่เจ็บปวด
ร่างบางมองเขาอย่างเวทนาเหลืออด เธอดึงดาบสั้นออกมาจากอกเสื้อแล้วเดินไปยืนข้างๆเตียงของเศรษฐีอ้วน ก้มหน้าลงและปลดหน้ากากวางไว้ที่ข้างโต๊ะ ทาบใบมีดคมกริบที่ลำคออ้วนๆย้วยๆ เธอก้มตัวลงป้องปากกระซิบเบาๆที่มีเพียงเหยื่อเท่านั้นที่ได้ยิน
เศรษฐีอ้วนลืมตาขึ้น ลูกตาดำหดเล็กลงและสั่นระริกเมื่อได้ยินสิ่งท่ผู้มาเยือนยามราตรีพูด เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะขอความช่วยเหลือ ดาบสั้นถูกมือเรียวบางซึ่งสวมถุงมือสีดำออกแรงกดจนบาดลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังหนาๆและทะลุออกที่อีกข้างของคอย้วยๆ เธอกระชากมันบั่นคอของผู้เคราะห์ร้ายจนเป็นแผลเปิดกว้าง เลือดสดๆสาดกระเซ้นติดตามผนังห้องเป็นดวงๆและส่วนใหญ่ก็ถูกซึมซับเอาไว้ในผ้าห่มหนาๆ
เขาส่งเสียงโหยหวนเบาๆอย่างเจ็บปวดและเกร็งตัวตะกุยเล็บที่คออันเหลือเนื้อติดอยุ่แค่ครึ่งเดียว จนในที่สุดก็ขายใจตาย
มือสังหารสาวผู้แสนอำมหิตปาดเลือดของเศรษฐีอ้วนออกจากแก้มแล้วหยิบหน้ากากขึ้นมาสวมอีกครา เธอเงื้อดายสั้นขึ้นแล้วกลับหัวมัน ปลายดาบจ่ออยู่ที่เหนืออกซ้ายของร่างไร้วิญญาณ และแทงลงไปจนมิดคมดาบ เธอใช้เลือดของเหยื่อเขียนบางอย่างไว้บนผ้าม่านสีขาวโปร่งแสง
เธอเลื่อนหน้าต่างให้เปิดออกดังปึงแล้วกระโดดหายไปในความมืดยามราตรี
ในวินาทีถัดมาที่เธอออกจากห้องไปแล้ว เหล่าข้าทาสและยามก็พังประตูเข้ามา ภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขานั้นทำให้หลายต่อหลายคนต้องเป็นลมไปตามๆกัน พวกเขาที่เหลือจ้องตัวหนังสือบนผ้าม่านและสภาพภายในห้องอย่างหวาดผวา
'นี่คือคำพิพากษาจากข้า'
หลังจากที่ทำงานเสร็จสิ้นแล้วมือสังหารสาวก็เตรียมเดินกับที่พักตามปกติแต่ทว่าในขณะนั้นเรียกที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดก็ดันเกิดขึ้นมาซะได้
ปัง! เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับไฟตามอาคารบ้านเรือนที่สว่างขึ้นทันที
เธอหันไปมองในทันทีและต้องเบิกตากว้าง เงาดำกำลังถือปืนที่มีควันลอยออกมาจากกระบอกเล็งมาทางเธอ ความรู้สึกเจ็บแปล๊บแล่นผ่านอกซ้ายของเธอ แต่หน้าแปลกที่เธอไม่ได้ตายในทันทีแต่ทว่าสติค่อยๆเลือนลางลงไปทุกชั่วขณะ เธอจึงตักสินใจที่จะออกวิ่งให้เร็วที่สุดแต่ทว่า...
ปัง ปัง ปัง!
ซวย...แล้วไง
"นี่คือของขวัญสำหรับเจ้า" เสียงเย็นเอียงขึ้นที่ข้างหูของเธอก่อนที่เธอจะไม่รับรู้อะไรอีก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ