เงารัก...อธิษฐาน[อ่านต่อจากตอนที่ 25 นะเออ]
เขียนโดย บุหงา
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.04 น.
แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 12.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) ตอนที่ 24-100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ~23~
หนุ่มน้อยนะโม
“กรี๊ด เด็กหน้าตาน่ารักแบบนี้มาจากไหน”
“เอ๋...พี่ดาวของผมเพิ่งเข้าบ้านไปนี่ฮะ แล้วคุณเป็นใครหน้าเหมือนพี่ดาวของผมเปี๊ยบ”
สักพักพี่มีนที่ออกไปเดินเล่นในตอนเช้าก็กลับเข้าบ้านมา และก็เห็นนะโมแล้วด้วย
“นะโมค่ะ พี่มีน”
ฉันพูดขึ้นอยู่หน้าชานบ้าน และเดินลงบันไดสามขั้นเอาขนมไปให้นะโมแล้วก็นั่งลงข้างๆนะโมที่ยิ้มรอรับขนมตั้งนานแล้ว
“แฝดเหรอฮะ แล้วใครพี่ใครน้องละครับ”
นะโมพูดพร้อมลองหยิบขนนขึ้นชิม แล้วพึมพำบอกว่าอร่อยออกมา
“จ้ะ พ่อหนุ่มน้อย พี่มีนเป็นพี่จ้า”
พี่มีนพูดขึ้นพร้อมหยิกแก้มนะโมเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย”
“จะรู้ได้ไงสุดหล่อ...พี่มีนไม่ได้อยู่ที่นี่นะ”
“เหรอฮะ ผมชื่อนะโมนะ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพี่สะใภ้”
จากนั้นพี่มีนก็หัวเราะลั่นเลย กับคำพูดของนะโม ฉันเองก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มกับคำพูดของนะโม
“นี่นะโมมาจีบดาวเหรอ โฮไม่เบาเลยนะหนุ่มน้อย”
“ชีวิตของนะโมเป็นของพี่ดาวตั้งแต่พี่ดาวช่วยนะโมวันนั้นแล้วฮะ”
นะโมพูดพร้อมเผยรอยยิ้มกว้างสว่างสดใส มันเป็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจ และใสซื่อเหลือเกิน ฉันเลยอดไม่ได้จะยกมือขึ้นกอดนะโมไว้เต็มอ้อมกอด
“ขอบคุณนะ...นะโม”
ขอบคุณจริงๆ ความรู้สึกของนะโมที่มีต่อฉันมันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีค่า
“ผมพูดจริงๆนะฮะ ถ้าพี่ดาวยังไม่มีใคร บอกโมนะ โมยินดีเป็นเจ้าบ่าวให้พี่ดาว”
“แก่แดดจริงเชียว ตัวแค่นี้เอง”
พี่มีนค่อนคอดหนุ่มน้อยนะโม พลางยกมือขึ้นขยี้หัวนะโมเล่น อย่างเอ็นดู
“ตัวแค่นี้? ผมโตแล้วนะ จะตัวแค่นี้ได้ไง”
นะโมผละออกจากอ้อมแขนของฉัน และพูดขึ้นพร้อมทำหน้างอง่ำไม่พอใจในสิ่งที่พี่มีนพูด พร้อมหยิบขนมมาเคี้ยวในปากจนแก้มตุ้ย
“ผมกลับละฮะ เดี๋ยวป้าอิ่มจะถามหาครับ”
“ให้พี่ไปส่งไหมนะโม”
ฉันอาสาที่จะไปส่งนะโม รอยยิ้มน้อยๆจึงประดับมุมปากของนะโมทันที แต่สักพักก็เปลี่ยนไปทำหน้าเศร้า และ ปฏิเสธฉันเสียงอ่อย
“ไม่ละฮะ ผมโตแล้วนะ ผมกลับเองได้ครับ”
ฉันส่ายหน้าให้กับความอยากเป็นผู้ใหญ่ของนะโม
“อย่าดื้อนะ..นะโมเดี๋ยวพี่จะไปส่ง”
ฉันพูดพร้อมลุกขึ้นฉุดนะโมให้ลุกตามมาด้วย และจูงมือกันเดินมุ่งตรงไปบ้านของนะโมที่อยู่กลางหมูบ้าน ส่วนบ้านของฉันอยู่ท้ายหมู่บ้านเลยละ
ฉันจูงมือนะโมเดินไปเงียบๆ ส่วนนะโมก็เอาแต่เงียบเหมือนกัน ฉันเลยหันไปมองนะโมว่าเด็กที่คุยจ้อเมื่อกี้
หายไปไหนแล้ว
“เป็นอะไรเหรอโม บอกพี่ได้นะ เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจเลย”
“ผมไม่อยากให้พี่ดาวไปส่งฮะ ตอนกลับพี่ดาวก็เดินกลับคนเดียวสิฮะ มันอันตราย ผมเป็นห่วงนะ”
นะโมที่พูดจาราวกับผู้ใหญ่ทำให้ฉันขมวดคิ้วงุนงง ว่าเขาเกิดมาทามกลางสิ่งแวดล้อมแบบไหนกัน ทำไมถึงไม่ทำตัวให้สมวัย สีหน้าที่เคร่งขรึมตลอดเวลาควรจะเป็นรอยยิ้มที่สดใสสมวัยมากกว่า
‘เขาถูกเลี้ยงมาแบบไหนกันนะ’
ฉันก็ได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกไป
“เขามาในบ้านก่อนสิฮะ คุณแม่ของผมก็คงตกใจน่าดูที่พี่ดาวยังไม่เสียชีวิตฮะ”
นะโมพูดชวนฉันขึ้นเมื่อเดินมาถึงหน้าประตูรั้วบ้านหลังหนึ่ง
“แต่...”
“อย่าปฏิเสธเลยครับโมขอร้องละ เข้าไปด้วยกันนะครับ”
ดวงตาใสแจ๋วมีแววเว้าวอน หากจะปฏิเสธก็คงปฏิเสธไม่ลง ฉันจึงพยักหน้าตกลงแต่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันมาบ้านของนะโม ตอนที่เจอนะโมกับแม่ก็ตอนที่พวกเขาไปเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลนั่นแหละ
“ผมอยู่กับแม่ และป้าอิ่มครับ แต่คุณแม่ไม่ค่อยสบายเลยไม่ค่อยได้ออกจากห้องหรอกครับ”
บ้านหลังใหญ่แต่อาศัยกันอยู่แค่สามคน อยากจะถามนะโมว่าพ่อละ เห็นสีหน้าของเขาแล้วก็ได้แต่ปิดปากเงียบ เพราะอย่างนี้นี่เอง สิ่งแวดล้อมแบบนี้เลยทำให้นะโมทำตัวไม่สมกับวัย เขาคงต้องดูแลตัวเองมาตลอด และคงกำลังพยายามเป็นหัวหน้าครอบครัวอยู่แน่ๆ
“คงอยากถามสินะฮะ ว่าพ่อละ...ไม่มีหรอกผมไม่มีพ่อ หรือที่คนอื่นเขาเรียกกันว่าแม่ผมท้องไม่มีพ่อครับ”
ฉันสะดุ้งตกใจกับคำพูดของนะโม และเผลอบีบมือเขาแน่น เขาทำหน้าแหยเก เพราะมันคงเจ็บแต่เขาไม่ยอมร้องออกมาว่าเจ็บเลย
“อะขอโทษนะ...โมเจ็บไหม”
เขาส่ายหน้า และพูดตอบฉันว่า...
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ...ไม่เจ็บเท่าไร และเรื่องนั้นผมชินแล้วละคนอื่นๆรอบข้างเขาพูดออกบ่อยๆ อ้อคนที่โรงเรียนของผมก็เหมือนกัน”
คนที่โรงเรียนที่ว่าเนี่ยอายุใกล้เคียงกับเขารึเปล่า ฉันว่าครูของเขาคงไม่พูดให้กระเทือนใจเด็กหรอก แต่ถ้าหากอายุ
ใกล้เคียงกันทำไมเขาไม่พูดว่าเพื่อนละ ทำไมต้องพูดว่าคนที่โรงเรียนด้วย
“เขาบ้านกันเถอะครับ”
เขาพูดพร้อมพลั่กประตูรั้วบ้านเล็กๆเข้าไปส่วนประตูใหญ่ล็อกน่ะ คงไม่มีใครมาใครไปที่บ้านหลังนี้นานแล้วมั้งเพราะกุญแจที่คล้องประตูไว้ขึ้นสนิมแล้ว
“แล้วนะโมไปโรงเรียนยังไง”
ฉันเฉไฉถามเรื่องอื่น อย่าให้เขาคิดมาก ในหัวของเขาคงคิดอะไรไม่หยุดสังเกตจากหัวคิ้วที่ขมวดอยู่ตลอดเวลา เด็กแค่นี้ต้องคิดอะไรมากมายขนาดนั้นนะ
“ขึ้นรถเมล์ฮะ ตั้งแต่อยู่ประถมสามแล้ว เพราะคุณแม่ป่วยเลยไม่มีใครไปส่ง ส่วนป้าอิ่มต้องดูแลคุณแม่น่ะครับ”
“แล้ววันนี้วันศุกร์นี่ โมไม่ได้ไปโรงเรียนเหรอ โดดเรียนรึไง”
ฉันถามขึ้นลอยๆโดยไม่สนใจว่าเขาจะตอบยังไง แต่พอคำตอบของนะโมที่ตอบออกมาแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกแย่จริงๆ
“เปล่า ผมไม่ได้โดดเรียนนะ ป้าอิ่มไม่ว่างในช่วงเที่ยงน่ะครับ เดี๋ยวเที่ยงป้าอิ่มคงต้องไปทำธุระแล้วละ ผมก็จำเป็นต้องหยุดเรียนดูแลคุณแม่ครึ่งวัน”
นะโมพาฉันเดินเลยห้องเล่น และห้องรับแขกไปชั้นบน ฉันก็เดินตามอย่างว่าง่าย รู้สึกถึงบ่าที่ยังเล็กนักต้องแบกรับทุกอย่างของนะโม
“แม่ฮะ... ป้าอิ่ม”
“อ้าวกลับมาแล้วเหรอคะคุณหนู แล้วพาใครมาด้วยค่ะหน้าคุ้นจังคะ”
“พี่ดาวฮะป้าอิ่ม คนที่เคยช่วยโมเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไงฮะ”
“ว้ายตาเถร! งั้นก็ผีหลอกน่ะสิ หลอกกลางวันแสกๆเลย”
ยังไม่ทันที่ฉันจะยกมือไหว้ป้าอิ่ม ป้าอิ่มก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ และขยับถอยห่างจากฉันกับนะโมทันที สีหน้าหวาดกลัวสุดขีด ฉันก็ได้แต่ขำในใจ กับท่าทางแบบนั้น คงไม่มีใครจะคิดว่าทั้งที่รถคันนั้นระเบิดเป็นจุลแบบนั้น ฉันจะรอดมาได้สินะ
“ไม่ใช่ฮะป้าอิ่ม ใจเย็นๆสิครับ พี่ดาวของโมยังไม่ตายนะ มันแค่เป็นเรื่องเข้าใจผิดฮะ”
นะโมรีบบอกทันทีด้วยท่าทางใจเย็นในการอธิบายให้ป้าอิ่มฟัง ฉันมองเขาแล้วถามตัวเองว่า เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเหรอ แต่มองยังไงเขาก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี เขาคงอยากได้การปกป้องคุมครองจากผู้ใหญ่เหมือนเด็กๆคนอื่นทั่วไป แต่กลับต้องมาดูแลปกป้องคนอื่นแบบนี้
“จริงเหรอค่ะ โธ่ป้าตกใจหมด สวัสดีคะหนูดาวเห็นคุณหนูโม เล่าให้ป้าฟังบ่อยๆว่าคุณดาวน่ารักมาก”
“สวัสดีค่ะป้าอิ่ม”
ฉันก้มหน้ายกมือไหว้ จากนั้นก็เงยหน้าส่งยิ้มให้ป้าอิ่มทันที
“คุณแม่ละฮะป้าอิ่ม”
“อยู่ในห้องค่ะ เพิ่งจะหลับไปเมื่อตะกี้เอง”
“งั้นเดี๋ยวจะเข้าไปดูคุณแม่แป๊บนึง...ไปฮะพี่ดาวไปเยี่ยมแม่ของโมกัน”
พูดจบนะโมก็คว้าข้อมือฉัน ฉุดให้เดินตามไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ