เงารัก...อธิษฐาน[อ่านต่อจากตอนที่ 25 นะเออ]
เขียนโดย บุหงา
วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 22.04 น.
แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 12.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) ตอนที่ 19-100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ~19~
แข่งวิ่ง...อันตราย
ผมเดินออกมาที่สนาม เพราะใกล้เวลาแข่งขันแล้ว ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างตัวหนึ่ง คนมาดูเยอะทีเดียวส่วนมากจะเป็นคนในสโมสรนักกีฬา และอีกอย่างที่ผมคิดว่าน่าจะไม่มี นักข่าว? มาทำไมละครับนั้น ผมไม่อยากเป็นข่าวสักหน่อย เพราะข่าวออกเมื่อไร นิตยสารเกี่ยวกับนักกีฬาได้วิ่งโร่มาขอสัมภาษณ์ผมอีกแน่ๆ
แค่ผมถ่ายโฆษณา ก็ไม่รู้จะหนียังไงแล้วตอนนี้ ขอผมอยู่อย่างสงบๆเหอะขอร้องละ
“น้ำค่ะ ซัน”
“เอ่อขอบคุณครับ”
ผมรับมาแต่ไม่ยอมยกขึ้นดื่ม เพราะยังหวาดๆสิ่งที่สองคนนั้นพูดกันอยู่ในห้องน้ำ
“ซัน ทำไมต้องออกจากสโมสรด้วย ทั้งที่กำลังรุ่งแท้ๆ”
ผมจำไม่ได้ว่าเธอคือใคร รู้สึกเหมือนเคยคุยด้วยนะครับ แต่ช่างเถอะใครสนกันละ
“ทำไมซันไม่ดื่มน้ำละ แพรวอุตสาห์เอามาให้นะ”
แพรว? อ้อผมจำเธอได้แล้วเธอเป็นนักยิมนาสติก แต่กระโดดไกล กระโดดสูงรึอะไรผมไม่รู้หรอก แฮะๆ
“เออ ผมยังไม่หิวน้ำน่ะ”
ผมปฏิเสธไป โดยอ้างเหตุผลที่พอฟังขึ้นได้บ้าง
“จะแข่งแล้วนะ เดี๋ยวก็ได้หิวน้ำระหว่างแข่งขันหรอก”
แพรวพูดขึ้นพร้อมทำหน้ามุ่ย
“ใครจ้างคุณมาเหรอ?”
นี่ผมถามบ้าอะไรออกไป แต่ปฏิกิริยาของแพรวเปลี่ยนไป เธออึกอักตอบคำถามผมไม่ได้ ผมเลยเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วละ
“เอาไปให้คนที่จ้างคุณมาดื่มสิ คุณยังข้องใจอะไรอีกไหม ถ้าข้องใจไปถามคนที่จ้างคุณมานะผมจะกลับแล้ว”
ผมพูดพร้อมลุกขึ้น
“ฉันขอโทษ”
อ่าผมไม่นึกว่ามันจะเป็นเรื่องจริง แค่กุเรื่องขึ้นมาเล่นๆเท่านั้นเอง ถ้าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ผมก็แค่ขอโทษเธอไป
แต่เธอกลับขอโทษผม แค่นี้ก็รู้แล้วละว่าเรื่องที่ผมกุขึ้นเล่นๆ มันเป็นเรื่องจริง
“จัมเปอร์ใช่ไหมละ?”
เธอไม่พูดอะไรเอาแต่ก้มหน้าลง ไม่ปฏิเสธ และไม่ตอบรับ แบบนี้จัมเปอร์แน่นอน
“ฉันบอกจัมเปอร์แล้ว ว่านายเป็นอัจฉริยะแค่ได้กลิ่นน้ำ นายก็รู้แล้ว แต่เขาไม่ฟัง อย่าเอาผิดจัมเปอร์เลยนะ แพรวขอร้องละซัน”
ผมไม่ใช่สุนัขนะ แค่ได้กลิ่นแล้วจะรู้ว่าน้ำนั่นดื่มไม่ได้
“เปล่าหรอก ฉันไม่ใช่อัจฉริยะ ก็แค่เป็นคนขี้ระแวง... ผมเป็นคนบาปน่ะ ก็เลยกลัวกรรมมันตามทันเท่านั้นเอง เฮ้อเอาเป็นว่าไปบอกจัมเปอร์ ว่าผมดื่มน้ำในแก้วนี้เรียบร้อยแล้ว”
ผมพูดพร้อมกับเทน้ำในแก้วทิ้ง จากนั้นก็คืนแก้วเปล่าๆไปให้เธอ
“ขอบคุณ”
แพรวพูดเท่านั้นก็เดินจากไปเงียบๆ
ตอนแรกที่ผมบอกว่าจะวิ่งเล่นๆ แล้วกลับไปนอนนั้นลืมมันไปซะ น้ำในแก้วนั้นทำให้ผมถึงตายเลยได้นะ เพราะเคยมีตัวอย่างให้เห็นแล้วรู้สึกจะเป็นชาวอังกฤษ ชื่อว่าทอม ซิมป์สัน เป็นนักปั่นจักรยาน ดื่มส่วนผสมนี้เข้าไป เขาก็ล้มลงเสียชีวิตทันทีในระหว่างการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์ เมื่อปี ค.ศ. 1967
ถ้าผมไม่เฉลียวใจสักนิด ผมคงไม่ได้เห็นหน้าดาวอีกแล้ว เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ผมก็รู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาเสียดื้อๆ แล้วอีกอย่างถ้าผมพลาด ดาวยังไม่ยอมยกโทษให้ผมเลยนะ ขอให้ดาวยกโทษให้ผมก่อนเถอะ จากนั้นถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกจะเป็นยังไงก็ช่าง
ผมไปประจำที่สนาม ที่เป็นลู่วิ่ง ส่วนจัมเปอร์ไปยืนรอนานแล้วละ เมื่อผมเดินไปถึงก็นั่งลงชันเขาขึ้นข้างหนึ่งเพื่อเตรียมรอสัญญาณที่กรรมการจะบอกให้ออกจากจุดสตาร์ททันที
ฉันไม่ได้มีธุระอะไร ฉันก็แค่อยากมา มาโดยไม่มีเหตุผล รู้เพียงแค่หัวใจมันร่ำร้องให้มาอยู่นั่นแหละ จะขัดใจตัวเองก็รู้สึกอึดอัดไปหมด ทั้งที่รู้ว่ามาแล้วจะได้เจอเขารึเปล่าก็ไม่รู้
“ดาว”
น้ำเสียงเรียกที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง ทำให้ฉันต้องหันไปตามเสียงเรียก
“มาหาผมเหรอ?”
ซันถามขึ้นพร้อมส่งยิ้มมาให้ฉัน ใช่แล้วละตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าห้องของซันนะ จริงๆฉันนึกว่าเขาจะอยู่ในห้องซะอีก พอมาเจอกันแบบนี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ถูกน่ะสิ
“ผมไปแข่งวิ่งที่สโมสรมาน่ะ วันที่ถูกท้าแข่งวันนั้นนั่นแหละชนะมาด้วย แล้วดาวมาหาซันเหรอ”
ซันยิ้มไม่ยอมหุบเลย ตาบ้า จะยิ้มอะไรนักหนาก็ไม่รู้
“เปล่าฉันไม่ได้มาหานายสักหน่อย”
ฉันพูดขึ้นพร้อมกับเดินเลี่ยงออกมา ส่วนนายซันน่ะเหรอหุบยิ้มฉับเลยน่ะสิ หึน่าหมั่นไส้
ฉันแวะมาที่ คลับสุขภาพ มาหาพี่มีน ไม่ได้แวะมาออกกำลังกายหรอกลืมไปได้เลยเพราะร่างกายฉันไม่เอื้ออำนวย แต่นอกจากวิ่งแล้ว ฉันก็ชอบเทนนิสนะ แต่ช่างเถอะมันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะลงสนาม
อ่า น้ำพลอย ผู้จัดการคนสวย มายืนทำอะไรตรงนี้ละ หลักตึกแคนทีนน่ะ และมันก็เป็นทางผ่านไปห้องทำงานของพี่มีนด้วย ฉันยิ้มดีใจ และหมายว่าจะเข้าไปทักน้ำพลอย แต่ก็ต้องหลบฉากออกมา โดยใช้กระถาง ต้นไม้ที่ใหญ่พอสมควรบังตัวเองเอาไว้ ในใจก็สั่นสะท้านขึ้นด้วยความกลัว
“ไงจ๊ะ น้ำพลอย ไม่เจอกันนานนะ”
“น้ำหวาน เธอมันน่ารังเกียจ”
“อ่าฉันน่ารังเกียจ แต่พี่หินก็รักฉัน ใช่ไหมละ”
บทสนทนาที่ได้ยิน ทำให้ฉันสงสัย น้ำหวานกับน้ำพลอยเคยรู้จักกันเหรอ
“แล้วพี่หิน เป็นยังไงบ้าง”
“หึ น้ำพลอยนี่เธอยังรักพี่หินอยู่อีกเหรอ แหมๆ รักมั่งคงจริงๆนะ”
“ก็ยังดีกว่านางปีศาจร้ายอย่างเธอก็แล้วกัน”
“อาฮะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ พี่หินของเธอนะตายแล้ว ฝีมือฉันเองแหละ อะ อะ ฉันไม่ได้ฆ่าเขาหรอกนะ แต่เขาทำตัวของเขาเอง แต่สาเหตุมันก็มาจากฉันนี่แหละ”
น้ำหวานพูดจบก็แสยะยิ้มเดินจากไป ส่วนน้ำพลอยก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ยกมือขึ้นกำสร้อยคอที่ห้อยไว้ติดตัวตลอดด้วยสายตาที่เลื่อนลอย น้ำใสๆไหลอาบแก้มที่ขาวซีด แล้วเสียงสะอื้นที่ดังเล็ดลอดจากริมฝีปากบางนั่นพลอยทำให้ฉัน รู้สึกอยากร้องไห้ตามไปด้วย
“น้ำพลอยเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ”
ฉันพูดขึ้นพร้อมเดินเข้าไปไกลน้ำพลอยมากขึ้น
“มีน? เอ่อไม่ใช่ ดาวเหรอค่ะ”
น้ำพลอยพูดพร้อมลุกขึ้นยืน แล้วยกมือเช็ดน้ำตาให้ตัวเองลวกๆ
“ใช่ค่ะ ว่าแต่ไม่เป็นอะไรนะค่ะ”
“ไม่เป็นอะไรค่ะแค่รู้สึกเสียใจเท่านั้นเอง เอ่อขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“ค่ะ เชิญตามสบายคะ”
ฉันมองตามหลังน้ำพลอยไป ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เหมือนบ่าบอบบางนั้นกำลังแบกรับอะไรอยู่อย่างงั้น
แหละ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ