จานสี ดินสอ พู่กัน,, รักของฉัน.. เปื้อนสี

-

เขียนโดย Differ

วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.38 น.

  5 ตอน
  2 วิจารณ์
  9,248 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2556 00.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) เธอใจร้าย:(

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 5

 

เธอใจร้าย:(

 

_______________

 

     “อรุณเบิกฟ้าเป็นสัญญาณวันใหม่~~~” ผมฮัมเพลงโปรดของผมไปพรางๆ ระหว่างที่กำลังแต่งตัวไปโรงเรียน  วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมจะต้องไปรับส้ม แฟนสุดที่รักของผม^^

 

     เมื่อผมแต่งตัวเสร็จแล้ว ผมก็เดินไปหน้าโต๊ะคอมฯเพื่อเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้น้ำมนต์

 

     #ข้าไปส่งส้มนะ ไปเองเด้อ#

 

     ผมลอกกระดาษโน้ตออก เพื่อไปแปะไว้ที่กระจกในห้องน้ำ แต่เอ๊ะ! นี่มันกระดาษอะไรเนี่ย ของไอ้มนต์หรอ? ผมถือวิสาสะหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆนั้นขึ้นมาดู

 

     # www.youtube.com/abcdefghijklmnopqrstuvwxyz #

 

     “ลิงค์อะไรของมันวะเนี่ย” ผมบ่นกับตัวเอง พรางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา.. เพิ่งจะหกโมง เปิดดูหน่อยละกัน

 

     ว่าแล้วผมก็เปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทันทีที่หน้าจอเดสทอปปรากฏขึ้น ผมก็ไม่รอช้า รีบใส่ลิงค์ที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้นลงไป

 

     “เพลงอายหรอ?” ผมอ่านชื่อคลิปนั้น

 

     คลิปวิดีโอเล่นไปเรื่อยๆโดยมีไอ้น้ำแข็ง รุ่นน้องของผม เป็นคนเล่นกีต้าร์ และร้องเพลงนั้น  ไม่นานก็มีภาพไอ้น้ำมนต์โผล่ขึ้นมา  อย่าบอกนะว่ามันบอกรักกันแล้ว!!!!

 

     ผมเลื่อนไปอ่านคอมเมนต์ข้างล่าง ปรากฏชื่อไอ้น้ำมนต์ขึ้นมาแสดงความคิดเห็น ผมอ่านไปเรื่อยๆ จึงพอจะเดาๆได้ว่า มันสองคนคบกัน เอาละวะทีนี้..  คนแคระเต็มบ้านแน่ ฮ่าๆๆๆ

 

     ปี๊ด ปี้ ปี๊ด!  ปิ๊ด ปี้ ปิ๊ด!

 

     เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมจึงละสายตาจากวีดีโอนั้น ไปมองที่มาของเสียง

 

     # ส้ม #

 

     “ฮัลโหลลลลลลลล” ผมสายด้วยอารมณ์แจ่มใส

 

     +โม.. ส้มเสร็จแล้วนะ จะออกมาหรือยัง+

 

     “อ่อ  โอเค  เดี๋ยวออกไปเลย แค่นี้แหละ” ผมกดตัดสาย แล้วหันไปปิดเครื่องโน๊ตบุ๊ค ก่อนจะหยิบอุปกรณ์การเรียน และกุญแจรถ เพื่อออกไปรับส้ม

 

 

 

     ไม่นาน รถของผมก็มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านส้ม ผมลงไปกดกริ่งเพื่อให้เจ้าของบ้านรู้ตัว

 

     อ่อดๆๆๆๆๆ

 

     “อ้าว นะโม มารับส้มหรอลูก” แม่ของส้มทักทายผมอย่างอารมณ์ดี

 

     “สวัสดีครับแม่” ผมยกมือไหว้ “ส้มเสร็จหรือยังครับ” ถึงแม้จะรู้ดีว่าส้มเสร็จตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังจะถามออกไป

 

     “เสร็จแล้วจ่ะ เดี๋ยวแม่เรียกให้นะ” แม่ของส้มหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน ไม่นาน คนที่ผมมารับก็เดินออกมา

 

     “ทำไมโมต้องตัดสายส้มด้วย” เธอหน้าหงิกทันทีที่เดินมาหาผม

 

     “ก็จะได้รีบออกมารับส้มไง  ไปกันเลยมั้ย” ผมชวน

 

     “บางทีโมก็น่าจะรอฟังส้มพูดมั่งนะ” เธอยังงอนไม่เลิก

 

     “โอเค เอาเป็นว่าโมขอโทษแล้วกัน หายงอนได้แล้วนะคนดี” ผมเอานิ้วเขี้ยคางเธอเล็กน้อย ซึ่งมันก็ทำให้เธอยิ้มออกมาได้

 

     “ครั้งนี้ส้มไม่โกรธก็ได้ แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปนะ” ส้มเตือน

 

     “จ้า.. แม่.. ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวพ่อจะพาไปกินข้าว” ส้มเขินจนหน้าแดง พรางยกมือตีหลังผมดังบั่ก!  ทีหลังจะไม่ทำให้เขินอีกแล้ว - o-

 

 

 

     ผมขับรถมาส้มมากินข้าวแถวๆหน้าโรงเรียนของส้ม ทันทีที่มาถึงร้าน เราก็รีบสั้งอาหารกินกันทันที ระหว่างที่รอแม่ค้าทำอยู่นั้น ผมก็เล่าเรื่องที่ผมเห็นเมื่อเช้าให้ส้มฟัง

 

     “เออนี่.. ส้ม  วันนี้โมเห็นกระดาษแผ่นนึงว่าอยู่ที่โต๊ะคอมฯ มันเป็นลิงค์ยูทูป โมเลยลองเข้าไปดู ให้ทายว่ามันคืออะไร” ผมตั้งคำถาม

 

     “อืม.. ไม่รู้สิ่  มีสาวที่ไหนแอบเอามาให้โมมั้ง”

 

     “เห้ย ไม่ใช่ซะหน่อย มันคือคลิปบอกรัก ^ ^”

 

     “บอกรักใคร? ใครบอกรัก?” ผมตื่นเต้นกับสิ่งที่ผมเล่า

 

     “ให้น้ำแข็ง เด็กรุ่นน้องที่ไปกินเหล้าที่บ้านไอ้เป้วันนั้นไง  มันบอกรักไอ้น้ำมนต์” ส้มทำท่านึกเล็กน้อย ก่อนจะร้องอ๋อ~

 

     “อ๋ออออ จริงดิ่? ถึงว่า... วันนั้นเห็นกระซิบกระซาบกับโมตลอดเลย”

 

     “อื้อ มันบอกโมตั้งแต่วันนั้นแหละ แต่โมไม่คิดว่ามันจะเอาจริง ฮ่าๆ นี่ถ้าโมเป็นผู้หญิง ส้มต้องทำคลิปมาจีบโมด้วยนะ โมชอบ”

 

     “ไอ้บ้า! ไว้รอชาติหน้าแล้วกันนะยะ” ส้มหัวเราะ

 

 

 

     หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จ ผมก็ไปส่งโมที่โรงเรียน แล้วก็ขับรถมาที่โรงเรียนของผมทันที อืม.. เกือบแปดโมงแล้ว มีใครมายังเนี่ย..

 

     “เห้ย! ไอ้โม” ผมมองตามเสียงเรียก ไปเจอไอ้เพชร กับไอ้นุ๊ก และไอ้อ้น นั้งอยู่ที่โต๊ะประจำ

 

     “มาเร็วว่ะ” ผมทักเพื่อนๆ

 

     “ก็มาเวลานี้ทุกวันแหละ” ไอ้อ้นตอบ

 

     “เดี๋ยวนี้เอ็งมีแฟนแล้วลืมพี่หรอวะ” ไอ้นุ๊กถาม

 

     “ลืมไรวะ ไม่ได้ลืมซักหน่อย” ผมรีบแก้ตัว

 

     “ก็เดี๋ยวนี้เอ็งไปส่งส้มทุกวันเลยนี่หว่า แล้วไอ้มนต์มันมายังไง” ไอ้อ้นยังไม่เลิกหาว่าผมเป็นน้องเลว ได้แฟนทิ้งพี่

 

     “ข้ายอมรับนะเว้ย ว่าวันแรกๆเนี่ย ข้าต้องไปส่งส้ม แต่ข้าก็ไม่ได้ปล่อยให้มันมาคนเดียวนะเว้ย ข้าสั้งให้คนไปรับมันมาด้วย  แต่ตอนนี้คงไม่ต้องสั้งแล้วล่ะ..” ผมทิ้งท้ายชวนสงสัย

 

     “ทำไมวะ” ไอ้นุ๊กรีบถามด้วยความสงสัย

 

     “เดี๋ยวนี้เขามีสารถีส่วนตัวแล้ว”

 

     “ใคร?” ทั้งสามถามกันอย่างพร้อมเพรียง

 

     “เดี๋ยวคอยดูเองและกัน” ผมทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้พวกมันสงสัย  ก่อนจะเดินไปซื้อน้ำอัดลม และขนมมากินคั่นเวลา

 

     เพียงไม่นาน คำตอบทุกอย่างก็เดินมาเฉลยข้อสงสัย

 

     “นั่นไง.. มาและ” ผมส่งสายตาไปทางไอ้มนต์ กับน้ำแข็งเป็นเชิงให้พวกมันหันตามไปมอง

 

     “เห้ย! จริงดิ่วะ” นุ๊กร้องเสียงหลง ก็ใครจะไปเชื่อล่ะครับ ว่าคนที่ไม่เคยเปิดรับใครมาตลอดสามปี อยู่ๆวันนึง จะเปิดใจต้องรับเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงเดือนมาเป็นคู่รักชูรส

 

     ผมสังเกตหน้าไอ้เพชรที่ถอดสีอย่างเห็นได้ชัด แต่เรื่องที่มันเคยจีบไอ้มนต์ก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วนี่นา คงไม่เกี่ยวหรอกมั้ง

 

     “มานานแล้วหรอ” ไอ้มนต์เดินตรงมาถามพวกผม

 

     “สักพักแล้วล่ะ” ผมตอบ

 

     “หวัดดีครับ” น้ำแข็งยกมือไหว้พวกผม  พวกเราพยักหน้ารับเล็กน้อย “งั้นผมไปหาเพื่อนก่อนนะครับ เย็นนี้เจอกัน” มันหันไปลาไอ้มนต์ แล้วจึงหันมาลาพวกเรา   “ไปก่อนครับพี่”

 

     “เออๆ ไว้เจอกัน” ผมบอก

 

 

 

     ฉันกำลังเรียนวิชาประติมากรรม(งานปั้น)ในคาบที่3 หลังจากที่เพิ่งลงมาจากการเรียนศิลปะไทย  โดยที่วันนี้ อาจารย์ปล่อยให้เราปั้นอะไรก็ได้ แต่ฉันก็ยังคิดงานไม่ออกเลย ได้แต่นั้งฝนดินสอลงกระดาษไปๆมาๆ

 

     “เห้ย! ไม่ทำงานไง” ไอ้เป้เอ่ยถามฉัน

 

    “คิดงานไม่ออกเลยว่ะ เอ็งทำไรวะ” ฉันถามมันกลับ

 

     “ข้าจะทำแจกัน” เป้ยื่นแบบที่ร่างไว้ ให้ฉันดู ภาพแจกันทรงกระบอก ถูกพาดด้วยกุหลาบดอกโตพร้อมก้าน และใบ ทั่วทั้งใบ ถูกตกแต่งด้วยหนามแหลมเล็ก ใหญ่

 

     “ถ้าทำได้ตามแบบคงสวยน่าดูเลยว่ะ” ฉันออกความเห็น

 

     “ระดับข้าแล้วนะเว้ย” เป้ยอตัวเอง

 

     “ค่า!” ฉันประชด “ไม่คุยด้วยและ ไปหาไรกินก่อนนะ เดี๋ยวคิดงานออกจะกลับมา” ฉันพูดจบก็เดินออกจากโรงปั้น ตรงไปยังโรงอาหาร

 

     ฉันนั้งกินแซนวิสใส้หมูหยองไป คิดงานไป แต่ให้คิดยังไงก็คิดไม่ออกซะที เห้อ~ ฉันไม่เก่งงานปั้นเอาซะเล๊ย _ _”

 

     เมื่อรู้ตัวว่าต่อให้คิดยังไงก็คิดไม่ออก ฉันจึงตัดสินใจว่าจะไปขอคำปรึกษาจากเพชร เพราะมันเก่งวิชานี้ แต่ก็กลัวว่ามันจะไม่พูดด้วยอยู่ไม่น้อยเลย

 

     “ไปไหนวะ” ฉันถามไอ้อ้น เมื่อเดินมาถึงโรงปั้น แล้วเห็นเพื่อนๆเดินออกไปข้างนอกกัน

 

     “ไปกินข้าวอ่ะดิ่ แกกินยัง” อ้นตอบ ฉันยกนาฬิกาขึ้นมาดู สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วนี่หว่า

 

     “เพิ่งกินแซนวิสไปอ่ะ”

 

     “อ่อ งั้นข้าไปกินข้าวก่อนนะ เอาไรเปล่า” อ้นถาม

 

     “ไม่อ่ะ ขอบใจมาก” ฉันพูดสั้นๆ แล้วเดินกลับไปนั้งที่เดิม พรางกวาดสายตามองหาเพชร แต่ก็ไม่เจอ มันออกไปตอนไหนวะ!

 

     ฉันเห็นเงาใครบางคนดุ๊กดิ๊กๆอยู่บริเวณบ่อดิ่หลังโรงปั้น อาจจะใช่เพชรก็ได้ ฉันจึงตัดสินใจเดินไปหา และก็ปรากฏว่าเป็นเพชรจริงๆ

 

     “เพชร..” ฉันเรียกเบาๆ “ข้าคิดงานไม่ออกเลยว่ะ ช่วยคิดหน่อยดิ่”

 

     “......” ฉันไม่ตอบฉัน เอาแต่ก้มหน้าก้มตาตักดินอยู่นั่นแหละ

 

     “เพชร..” ฉันเรียกซ้ำอีกครั้ง “เพชร..” อีกครั้ง  “เพชร!!!” และอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบใดๆ “เอ็งโกรธอะไรข้านักหนาวะ”

 

     “(   -‘ ’-)” เพชรมองฉัน พรางขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ

 

     “เอ็งจะเอาอย่างงี้ใช้มั้ย! เออ! ได้!” ฉันตะคอกใส่เขา

 

     “......” แต่เขาก็ยังไม่สนใจ

 

     “ทำไมเอ็งใจร้ายแบบนี้ว่ะ..” ฉันหมดปัญญาที่จะง้อมัน ได้แต่ทิ้งประโยคสุดท้าย และหันหลังกลับ

 

     “ใครกันแน่ที่ใจร้าย” เพชรตะโกนไล่หลังฉัน

 

     “ข้าใจร้ายยังไง..” ฉันหันไปพูดกับเขา

 

     “ไหนบอกว่ายังไม่พร้อมมีใครไง แล้วไปคบกับไอ้เด็กปีหนึ่งเนี่ย หมายความว่ายังไง”

 

     “ที่ข้าพูดกับเอ็งมันก็นานแล้วนะเพชร”

 

     “เห็นแก่ตัว!” ฉันเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง เมื่อเพื่อนที่ฉันรัก ด่าฉันอย่างไม่มีเยื่อใย

 

     “ใช่! ข้ามันเห็นแก่ตัว แต่มันผิดมากใช่มั้ย ที่ข้าจะคบกับคนที่ข้าพอใจ และไอ้เรื่องวันนั้น ข้ารู้ตัวว่าข้าอาจจะพูดแรงเกินไป แล้วเอ็งล่ะ เอ็งไม่คิดบ้างหรอ ว่าการกระทำของเอ็งมันแย่แค่ไหน เอ็งไม่เคยให้เกียรติข้า เอ็งทำเหมือนว่าข้าไม่มีค่าไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าเอ็งจะว่าข้าเห็นแก่ตัว เอ็งก็เห็นแก่ตัวไม่ต่างกับข้านั่นแหละ!” ฉันหันหลังเดินออกมาทันที

 

     “น้ำมนต์..” เพชรเรียกฉัน

 

     “อ่อ ลืมไปอีกอย่างนึง” ฉันหันไปมองหน้ามันอีกครั้ง “ถ้าคิดว่าข้าไม่ดีพอที่จะเป็นเพื่อนเอ็ง ถ้าไม่อยากจะคุยกับข้า ไม่อยากจะเห็นหน้าข้า ข้าก็ไม่ว่าอะไร แค่จะขอให้ทนอีกหน่อย อีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบแล้ว และต่อจากนั้น เราก็จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกตลอดไป” ฉันเดินหนีออกมา ถึงแม้ว่ามันจะตะโกนเรียกฉัน แต่ฉันก็ไม่ฟังอะไรอีกแล้ว

 

 

 

     “มีอะไรกันวะ” แม็กถามขึ้น เมื่อเขาเห็นว่า น้องๆของเขามีปัญหากัน

 

     “เปล่าครับพี่..” เพชรตอบสั้นๆ พรางยกดิน เดินกลับไปนั้งที่โต๊ะ

 

     “ข้าไม่รู้นะ ว่าพวกเอ็งมีปัญหาอะไรกัน แล้ว‘วันนั้น’ที่ไอ้มนต์มันพูดถึง เอ็งไปทำอะไรกันไว้ แต่ข้าอยากจะเตือนเอ็งไว้นะ ว่าพวกเราเหลือเวลากันอีกไม่นาน ถ้าเอ็งไม่อยากจะจบความเป็นเพื่อนกันแบบนี้ ก็ไปปรับความเข้าใจกันซะ คนเราอ่ะ ไม่ได้หาเพื่อนแท้ที่รักเรามากขนาดตายแทนกันได้ง่ายๆหรอกนะ” แม้สอนรุ่นน้องของเขา ตบไหล่เบาๆเป็นเชิงให้คิดดีๆ ก่อนจะเดินไปทำงานของตัวเองที่โต๊ะ

 

 

 

     ฉันนั้งดูดบุหรี่อยู่ในห้องน้ำ โดยไม่กลับไปเข้าเรียน ก็ใครจะไปมีอารมณ์เรียนล่ะ ยอมนั้งดมขี้ดีกว่า กับไปเจอหน้าเพื่อนที่ไม่ใช่เพื่อนอีกต่อไป

 

     ฉันพยายามลืมทุกๆอย่างออกจากสมองของฉัน  วักน้ำขึ้นมาล้างหน้า จัดทรงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เพิ่มความมั่นใจ ก่อนจะเดินไปเข้าเรียนอีกครั้ง

 

     ฉันหยุดยืนอยู่หน้าโรงปั้น กวาดสายตามองไปรอบๆ ซึ่งตอนนี้ไม่มีเพชรอยู่ พรางไปสะดุดสายตาที่รูปปั้นที่วางอยู่ตรงที่นั้งของฉัน

 

     ฉันเดินไปยังที่นั้งทันที พินิจพิจารณารูปปั้นนั้น ของใครกัน และทำไมต้องมาวางไว้บนที่ของฉันด้วยนะ

 

     “ของใครวะเป้” ฉันหันไปถามเพื่อนที่นั้งข้างฉัน

 

     “ก็ของเอ็งไง” เป้ตอบ

 

     “เห้ย! เอ็งทำให้ข้าหรอวะ.. ขอบใจมากเว้ยเพื่อน” ฉันตบไหลมันเบาๆ ก่อนจะเพ่งมองผลงานอีกครั้ง

 

     “โอ้ย! ของข้ายังไม่เสร็จเลย เรื่องอะไรต้องทำให้เอ็งวะ” อ้าว! ไอ้นี่! ไอ้เราก็นึกว่าจะรักเพื่อน

 

     “เอ็งไม่ได้ทำ แล้วใครทำให้ข้าวะ” ฉันถามอย่างสงสัย

 

     “ไอ้เพชรทำ”

 

     “...................”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา