fic reborn หลุดมิติพบเจอ
เขียนโดย Hakaseyukina
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.04 น.
แก้ไขเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2556 16.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) บทที่ 9 เหล่าวาเรียและการกลับมาของยูกินะ...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ โรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งในเมืองนามิโมริซึ่งโรงแรมนี้เป็นที่สิ่งสถิตของเหล่าวาเรียทั้งหลายได้มีร่างของเด็กสาวคนหนึ่งนามว่า ฮากาเสะ ยูกินะกำลังยืนจังก้าอยู่หน้าโรงแรมพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของทางโรงแรม
“ไม่ทราบว่าวาเรียแห่งวองโกเล่พักอยู่ชั้นไหนคะ^_^”เสียงของยูกินะดังขึ้นทันทีที่ถึงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“สักครู่นะคะไม่ทราบว่าคุณมีความเกี่ยวข้องยังไงกับหน่วยวาเรียแห่งวองโกเล่คะ??”พนักงานที่เคาน์เตอร์ถามยูกินะทันทีที่ยูกินะพูดจบ
“ฉันเป็นอดีตผู้พิทักษ์เมฆาของวาเรียค่ะ^_^++”ยูกินะตอบพลางปล่อยจิตสังหารอ่อนๆใส่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ทำให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์หน้าซีดเป็นกระดาษทันทีที่ยูกินะพูดจบ
“ขะ..ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ ทางเราจะได้รายงานกับหน่วยวาเรียถูก”พนักงานถามเสียงสั่นพลางคิดในใจว่า ‘ทำไมวันนี้มันซวยอย่างนี้’
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกค่ะ แค่คุณบอกว่าเหล่าวาเรียอยู่ชั้นไหนก็พอไม่อย่างนั้นฉันอาจจะทำลายที่นี่เพื่อหาพวกวาเรียก็ได้นะคะ^_^+++”แม้ใบหน้าจะยังคงยิ้มเช่นเดิมแต่คำพูดและจิตสังหารที่เริ่มรุนแรงกว่าเดิมนั้นทำเอาพนักงานเข้าทรุดทันที
“ชะ...ชั้นที่ 15 ค่ะ”พนักงานบอกเสียงสั่นพลางพยายามพยุงตัวขึ้นแต่ก็ล้มลงไปอีก
“ขอบคุณค่ะที่บอก^_^”ยูกินะพูดพลางลดจิตสังหารลงจนหายไปแล้วเดินไปที่สิฟต์ทันที
อีกด้านหนึ่งเหล่าวาเรียที่ตอนนี้กำลังนั่งรวมตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้น 15
“ต๊าย ตาย สคอลโล่ผมยาวขึ้นอีกแล้วนะ มามะมาให้ฉันถักเปียมา”เสียงของผู้พิทักษ์อรุณของวาเรียหรืออีกชื่อก็คือลุซซูเรียดังขึ้นพลางวิ่งไปจับสคอลโล่ที่กำลังวิ่งหนีไปมา
“ไม่ต้องมายุ่งกับผมช้านนนเลยยยโว้ยยยย”เสียงที่ดังเกิน 180 เดซิเบลของผู้พิทักษ์พิรุณของวาเรียอย่างสคอลโล่ดังขึ้นเมื่อลุซซูเรียพยายามจะจับตนไปถักเปียปัญญาอ่อนให้ได้
“ลดเสียงหน่อยได้ไหมครับรุ่นพี่ MEปวดหูจะแย่แล้ว”เสียงเรียบๆดังขึ้นซึ่งเจ้าของเสียงก็คือฟรานไอ้หนุ่มหน้าตายที่เพาะฟาร์มสุนัขขนาดใหญ่ไว้ในปาก
“น่ารำคาญ คนกำลังนับตังค์อยู่เงียบเสียงหน่อยสิ”ประโยคที่แสดงถึงความงกสุดๆจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากมาม่อนหรืออีกชื่อคือไวเปอร์ผู้เป็นถึงอัลโกบาเลโน่สายหมอกนั่นเอง
“ชิชิชิ”เสียงหัวเราะประหลาดๆดังขึ้นซึ่งเจ้าของเสียงก็คือผู้พิทักษ์วายุของวาเรียหรือก็คือเบลเฟกอลเจ้าของฉายาเจ้าชายโรคจิตประจำหน่วยวาเรีย
“......”ผู้พิทักษ์อัสนีของวาเรียอีกชื่อก็คือเลวี่เงียบเป็นเป่าสากซึ่งตอนนี้กำลังคอยดูแลบอสของตนอย่างขยันขันแข็ง
“หนวกหูไอ้สวะ”เสียงของซันซัสที่กำลังดื่มเตกีล่าพูดขึ้น แต่แค่นั้นแหละทุกคนก็พร้อมใจกันเงียบเป็นป่าช้าทันที
“ว่าแต่MEสงสัยอยู่อย่างครับ”จู่ๆเสียงของฟรานก็ดังขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
“ชิชิชิ สงสัยอะไรเหรอเจ้ากบ”เบลเฟกอลถามพลางหันไปมองเจ้ากบ
“แต่ก่อนMEเคยได้ยินมาว่าที่หน่วยวาเรียของเรามีผู้พิทักษ์เมฆาใช่ไหมครับ เค้าเป็นใครเหรอครับ”ฟรานถามพลางหันไปมองทุกคนที่ตอนนี้กำลังทำหน้าแปลกๆอยู่ไม่เว้นแม้แต่ซันซัสก่อนจะหยุดที่เบลเฟกอล
“ชิชิชิก็โกล่ามอสก้าไง”เบลเฟกอลหยักไหล่ตอบ
“อันนั้นMEรู้แล้วครับหมายถึงก่อนหน้านั้นต่างหาก ได้ยินมาว่าเป็นผู้หญิงด้วยนี่”ฟรานพูดโดยสังเกตท่าทางของแต่ละคนเริ่มจากสคอลโล่ที่พอได้ยินก็นิ่งไปอย่างกับโดนสาปให้เป็นหินทันที ต่อมาคือลุซซูเรียที่นิ่งไปไม่ต่างจากสคอลโล่ ส่วนมาม่อนหยุดนับตังค์ เลวี่และเบลเฟกอลเงียบเป็นเชิงว่ากำลังคิดถึงอดีต และสุดท้ายซันซัสรายนี้ถึงกับทำแก้วเตกีล่าแตก พอลุซซูเลียตั้งสติได้ก็เริ่มเล่าทันที
“เอ่อ คือว่าเรื่องนี้น่ะมันเกิดขึ้นนานมากแล้วนะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ