Please Love me นายคนนั้น...มารักฉันซะ!

7.0

เขียนโดย RoseAnan

วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.15 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,464 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556 18.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) Chapter 3 - Woo. 'เค้าเรียกว่า...จีบ'

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 3

Woo.

'เค้าเรียกว่า...จีบ'

 

                วันต่อมา

                ณ ประตูทางเข้าของมหาวิทยาลัยที่สุดยอดวิลิศมาหราสะบาละเฮ่มากๆ นักศึกษาของที่นี่ส่วนใหญ่มีตังค์ และฉัน...เป็นส่วนน้อย -O- เพราะฉันเป็นนักเรียนทุนการเรียนดี เกรดทุกวิชาคือเอ แถมอาจารย์ใหญ่ค่อนข้างจะโอ๋ฉันมากกว่าพวกมีเงินพวกนั้นด้วยซ้ำ เพราะฉันถือเป็นหน้าเป็นตาให้แก่มหาวิทยาลัยบอร์เวย์แห่งนี้ที่สุดแล้ว >O<

                แอบดังเล็กน้อยเหมือนกัน ฮิ้วววว (^___^)/

                “แกมายืนทำอะไรตรงประตูทางเข้าเพิร์ส คาบเรียนเราอีกตั้งครึ่งชั่วโมงนะ จะรอช่วยยามปิดประตูหรอจ้ะ ^___^”

                ฉันหันไปยิ้มหวานให้เพื่อนสาวเพียงคนเดียว แล้วเอ่ยปาก “ยืนให้หมาถามน่ะ ^O^”

                “แร๊ง!!!” ซาหริ่มกัดฟันพูด

                “เออนี่ ผู้ชายเขาจะชอบผู้หญิงที่มี ‘เสน่ห์ปลายจวัก’ มั้ยอ่ะ”

                “ส่วนใหญ่ก็น่าจะชอบนะ ถามทำไม” ซาหริ่มเลื่อนสายตามายังมือของฉันที่ถือห่อขนมปังสีเขียวเอาไว้ ก่อนจะหรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ “อย่าบอกนะว่าแกทำขนมปังมาให้เวลล์ แกทำขนมปังได้ยังไงน่ะ!”

                ฉันคงทำมันมาจากปลายจวักมั้งเพื่อน -_-;;;

                “ฉันไม่ได้ทำ ฉันซื้อมาจากมินิมาร์ท เมื่อวานเห็นเวลล์กินรสนี้ เลยจะซื้อมาให้เขา” ฉันว่าพลางชูห่อขนมปังขึ้น

                “รสอะไรเหรอ?”

                “อ๋อ...รสจระเข้ทอดน้ำปลา ^^”

                “ว่าไงนะ! แกบอกว่าแกจะเอาขนมปังไส้จระเข้ทอดน้ำปลาไปให้เวลล์ ของพรรค์นี้เนี่ยนะ!!!” ยัยซาหริ่มกรีดร้องเสียงดัง จนฉันเอามือตะครุบปากเพื่อนรักไว้แทบไม่ทันเลยทีเดียว

                วันนี้ขอไม่มีคนสนใจบ้างได้มั้ย T^T

                “ชู่ววว แกจะตะโกนทำซากอ้อยหอยแมลงภู่ทำไมเนี่ย มันแปลกเหรอที่คนดีศรีน้ำใจงามอย่างฉันจะหยิบยื่นของให้เขา แกทำอย่างกับฉันจะเอาขนมปังไปฆ่าเขาอย่างนั้นอ่ะ”

                “ฮ่าๆๆ มันแปลกมากๆ ตรงที่เป็นขนมปังไส้ประหลาดๆ แบบนี้เนี่ยแหละ เธอคงจะไม่ค่อยรู้ข่าวสารบันเทิงมากเท่าไหร่นัก ฉันจะแถลงให้ฟังว่า...สามหนุ่มสามมุมที่เพิ่งย้ายมาคณะเราเป็นคนดังมากๆ ของที่นี่ อย่างซีลอน ฉันเคยบอกไปแล้วว่าเป็นมือเบสสุดฮอต”

                “อ่าฮะ”

                “เซรมเป็นนักบาสตัวจริงที่ได้รับการคัดเลือกให้ลงแข่งทีมชาติ เป็นนักบาสที่หล่อที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย อยู่ใกล้ๆ แล้วจะละลายหายไปกับอากาศ เวลาสบตาก็เหมือนจะติดไฟขึ้นมายังไงยังงั้นเลย >_<”

                แกเป็นวัตถุไวไฟหรือไง -___-+

                “ไม่ต้องออกอาการ กรุณาข้ามไปที่เวลล์เลยเถอะ”

                “โอเค เวลล์คือผู้ชายที่หล่อมากและฮอตโคตร ดูดีไปทุกสัดส่วน นิสัยห่ามนิดๆ กวนหน่อยๆ โดนใจสาวทั้งมหาวิทยาลัย แค่นั้นเอง!”

                ถ้านี่คือ ‘แค่’ ก็ฆ่าฉันเถอะ =[]=

                “แกกำลังจะบอกฉันว่า...คู่แข่งฉันคือคนทั้งมหาวิทยาลัยหรือเปล่า T^T”

                “ก็ไม่เชิง แต่เรื่องที่เกี่ยวกับเวลล์แล้ว พวกแฟนคลับจะรู้ทุกอย่าง วันนี้เขาจะมาโรงเรียนกี่โมง ไปไหนตอนเลิกคลาส หรือแม้แต่คืนนี้จะไปแข่งรถที่ไหน แฟนคลับของเขาจะรู้ล่วงหน้าถึงสามวันเชียวนะ”

                น่ากลัวนิดๆ แล้วนะ T^T

                “แล้วถ้าเกิดเวลล์อยากจะเปลี่ยนแผนขึ้นมาล่ะ?” ฉันถามอย่างอดสงสัยไม่ได้

                “พวกนั้นก็รู้กันอยู่ดี ไม่รู้นะว่าแหล่งข่าวเริ่มมาจากคนไหน อาจจะเป็นแฟนคลับตัวยงหรือไม่ก็คนใกล้ตัว”

                น่ากลัวยกกำลังสองเลย แง้ TOT

                “แกพูดให้ฉันกลัวทำไมเนี่ย ถ้าวันนี้ฉันบุกเข้าไปหาเขาแล้วเอาของไปให้ แฟนคลับของเขาคงจะเข้ามารุมกระทืบฉันทันทีเลยสินะ โอ๊ย! ฉันเริ่มขาสั่นนิดๆ แล้วนะ”

                “อย่ากลัวก่อนที่เหตุการณ์มันจะเกิดขึ้นสิ โด่วววว (    - -)^ ถ้าไม่ลองแล้วจะมาเรียกหาโอกาสแบบนี้คืนไม่ได้นะ”

                ถ้าลองแล้วโดนรุม ชีวิตฉันมันเรียกคืนมาไม่ได้เหมือนกันนะ TTOTT

                “เอาเป็นว่าเท่าที่พูดมาฉันก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับขนมปังที่ฉันจะให้เขาตรงไหนเลย แค่เป็นคนหล่อและดังจะกินขนมปังไม่ได้หรือไง”

                “แกใช้ขี้เล็บคิดแทนสมองไอคิวสูงหรือไงว่าเวลล์จะกินขนมปังรสประหลาดนี้ได้”

                ทีเซรมยังกินรสขี้แมวได้เลย -O-

                “แต่เมื่อวานฉันเห็นกับตาเลยนะ แถมในมินิมาร์ทยังมีแค่รสนี้รสเดียวที่เป็นสีเขียวด้วย”

                “เดี๋ยวก็รู้ นั่นไงๆ เวลล์เดินมาแล้วเพิร์ส เดินมาคนเดียวซะด้วย ถือเป็นโชคของแกจริงๆ ยังจะยืนบื้ออยู่ได้ เข้าไปสิ!”

               “ขาฉันมันไม่ขยับเลยอ่ะ ฉันคิดว่า...บางที ว้าย!”

               พลั่ก!

               อยู่ๆ ยัยซาหริ่มก็จับไหล่ฉันให้หันไปทางหน้าประตูโรงเรียน แรงผลักมหาศาลที่หลังทำให้ฉันที่ไม่ได้ตั้งตัวกระโจนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และ...

               หมับ!

               ฉันจับเข้าที่ไหล่ของเวลล์เข้าอย่างพอเหมาะพอเจาะ เขาชะงักกึกแล้วหันมามองอย่างสงสัย สภาพตอนนี้ฉันเหมือนสาวใจกล้าที่บังอาจมากระชากไหล่เขาเพื่อทักทายอย่างสนิทสนมมากกว่าจะล้มเพราะโดนเพื่อนซี้ผลัก

               ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงนะ แต่ตอนนี้ใจของฉัน...มันเต้นรุนแรงมากเลย >_<

               พึ่บ!

               พร้อมกับสายตานับร้อยคู่ที่มองมาทางเราอย่างสนอกสนใจ ก็แน่ล่ะ! เวลล์เป็นถึงหนุ่มฮอตคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่คนส่วนใหญ่รู้จัก และฉันเป็นเจ้าของฉายาไอคิวสูงที่เด็กเรียนส่วนใหญ่รู้จัก!

               “เอ่อ...สวัสดี เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย?”

               ประโยคทักทายธรรมดาหลุดจากปากของฉันอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก ดีนะที่ตอนนี้เป็นตอนกลางเช้าตรู่ ถ้าเป็นช่วงเย็น ฉันคงโดนสายตานับพันคู่เพ่งเล็งเป็นแน่ >_<

               “กรุณาเอามือออกจากไหล่ฉันด้วย และคำถามของเธอ ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ!” เวลล์กระชากเสียงใส่แล้วปัดมือฉันออก

               หา!!! =[]=

               “จริงๆ แล้วฉันแค่จะเอาขนมปังมาให้ เห็นว่าเป็นของโปรดนาย คือ...ฉันซื้อมาผิดเฉยๆ เลยจะเอามานาย”

               ฉันยื่นขนมปังให้เวลล์ เขาหรี่ตามองแวบหนึ่งแล้วปัดมันทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี ฉันซื้อมาตั้งสิบห้าบาทนะ มาปัดทิ้งแบบนี้ได้ยังไง แล้วท่าทางแข็งกร้าวนั่นมันอะไรกัน! ฉันได้แต่เก็บความสงสัยและความเจ็บปวดไว้ในใจ

               “เอาของเหลือสกปรกๆ แบบนั้นมาให้ฉันได้ยังไง รสจระเข้ทอดน้ำปลางั้นเรอะ! คิดว่าฉันจะกินของประหลาดพวกนี้หรือไง!”

               ทำไมเขาพูดเหมือนยัยซาหริ่มเลยล่ะ TOT

               แต่แปลกที่เจ็บกว่าอย่างไม่ทราบสาเหตุ...

               “ก็เมื่อวาน...”

               คำพูดที่เหลือมันจุกขึ้นมาที่คอแล้วอ่ะ T^T เวลล์จ้องฉันอย่างกับแค้นกันมาเป็นสิบปี นี่ฉันเคยไปฆ่าญาติเขาตอนไหนเนี่ยยย TOT

               “มีอะไรจะพูดกับฉันอีก รีบพูดมา เธอกำลังทำให้ฉันเสียเวลา!”

               ทำไมต้องตะคอกหนูด้วย แง้ TOT

               “มะ...ไม่มีอะไร ขอโทษที่รบกวน (    _ _)”

               “แล้วยังจะมายืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่ได้ ถอยออกไปสักทีสิ! เกะกะขวางหูขวางตาอยู่ได้ เหอะ!”

               เขาตะคอกใส่เสียจนฉันต้องหดหัวเหมือนเต่าอยากจะมุดเข้าไปในกระดองของตนเอง พอเห็นฉันยังไม่ยอมขยับ เขาเลยผลักไหล่ฉันออกไปให้พ้นทาง จากนั้นก็เดินขึ้นตึกไปโดยไม่หัยมามองเลยสักนิด ฉันที่เซเล็กน้อยจากการโดนผลักก็ยังยืนอยู่อย่างนั้น ใจจริงอยากจะวิ่งหนีไปตั้งแต่ตอนแรกเลยด้วยซ้ำ แต่ขามันก้าวไม่ออก ตัวของฉันแข็งทื่อเหมือนคนเป็นอัมพาต มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาอย่างเงียบๆ

 

               ระหว่างคาบเรียนสถิติในชีวิตประจำวัน ฉันไม่รับรู้อะไรที่อาจารย์สอนมาทั้งสิน ในหัวสมองว่างเปล่า แต่ในใจกลับมีความรู้สึกเจ็บแปลบเป็นช่วงๆ สิ่งที่ฉันกำลังคิดตอนนี้คือ...ควรจะให้น้ำเปล่าแก่เขาดีมั้ย?

               ใช่! ฉันยังคิดที่จะทำดีกับเขาอยู่ ฉันบอกแล้วว่าเขาไม่ต้องชอบตอบฉันก็ได้ เพียงแค่เป็นมิตรและไม่รังเกียจฉันก็พอ (   _ _)

               ฉันหันไปมองด้านหลัง เวลล์กำลังหลับสนิท ตอนนี้ดูไม่มีพิษไม่มีภัย ไม่เหมือนผู้ชายปากร้ายเมื่อเช้าเลยสักนิด เขาตอนที่ช่วยฉันกับเขาตอนเมื่อเช้า ตัวจริงเป็นแบบไหนกันแน่นะ...

               “คิดเรื่องเมื่อเช้าอยู่เหรอเพิร์ส?” ซาหริ่มกระซิบถาม ฉันจึงรีบหันกลับมา

               “ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอก ฉันแค่คิดว่าจะให้น้ำกับเวลล์ดีมั้ย?”

               “ทำไมต้องให้ เขาไม่มีปัญญาซื้อเหรอ -___-;;;”

               นั่นเป็นมุกชวนฮาหรือเปล่า =___=^

               “ซื้อมาก็เพื่อจะให้ ถ้าไม่ให้ก็เสียความตั้งใจหมด แต่กลัวว่าถ้าให้แล้วเหตุการณ์จะเป็นแบบเมื่อเช้า”

               “ไหนบอกไม่สนใจเรื่องนั้นไง”

               แหงะ -*- นอกจากชอบยอกย้อนแล้วยังจับผิดเก่งอีกด้วยนะ

               “แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ใสใจนี่ -O-”

               “แล้วแกกลัวอะไรล่ะเพิร์ส กลัวว่าเขาจะร้ายใส่หรือกลัวว่าเขาจะไม่พอใจกันล่ะ?”

               กลัวพอๆ กัน =O=

               “ฉันไม่รู้ ไม่เคยสับสน ไม่เคยไม่เข้าใจอะไรแบบนี้มาก่อนเลย เป็นครั้งแรกที่หัวสมองของฉันว่างเปล่า” ฉันพูดแล้วยกมือกุมขมับ

               “ทำตามที่ตัวเองต้องการแล้วกัน วิถีทางของฉันกับแกมันต่างกัน แกมันนางเอก แต่ฉันมันนางร้าย J” ซาหริ่มพูดยิ้มๆ

               “ฉันอยากจะลองดูอีกสักครั้ง...”

               “งั้นก็อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปอีกแล้วกัน” ซาหริ่มตบที่ไหล่ของตัวเองเบาๆ “ไหล่ฉันว่างนะ ถ้าผู้ชายคนนั้นทำให้แกต้องเสียใจ”

               ให้ตายสิ! ทำไมฉันเห็นยัยนี่เท่จังเลย >___<

                “อีกกี่นาทีหมดคาบเรียน?” ฉันถามขึ้น แล้วล้วงขวดน้ำออกมาจากใต้โต๊ะ

                “ประมาณห้านาที” ซาหริ่มตอบแล้วควงปากกาในมือเล่น

                ฉันกำขวดน้ำไว้ในมือแน่น รู้สึกเสียววูบวาบในหัวใจ ถ้าฉันยื่นให้เขาครั้งนี้ เขาจะปัดขวดน้ำฉันทิ้งมั้ยนะ -O- เขาจะตะคอกใส่ฉันอีกหรือเปล่า

                ออด ออด ออด

                สัญญาณเลิกคลาสเรียนทำให้ต้องหยุดความคิดไว้แค่นั้น ฉันหันไปมองเวลล์ที่เก็บหนังสือใส่ใต้โต๊ะและรวบรวมชีทเอามาถือไว้ เพื่อเตรียมจะไปเรียนคาบต่อไป ซีลอนกับเซรมเดินนำออกไปจากห้องก่อนแล้ว เหลือแต่เขา และตอนนี้เขากำลังเดินมาทางนี้แล้ว

                ใกล้เข้ามาแล้ว >_<

                ฉันยกน้ำขึ้นมาแล้วยื่นไปตรงหน้าเขาอย่างว่องไวปานความเร็วแสง เวลล์ชะงักกึกแล้วหันมาจ้องหน้าฉัน สายตาเขาดูอ่อนลงจากเมื่อเช้าเยอะมากเหมือนฉันไปขอขมาญาติเขามาเรียบร้อยแล้วอะไรแบบนั้นเลย แถมยังไม่ยอมปริปากพูดอะไรสักนิด จนฉันที่อดรนทนไม่ไหวต้องเสนอเองด้วยความกดดัน

                “ฉันซื้อน้ำมาให้”

                “ซื้อมาผิด?” เวลล์เลิกคิ้วสูง

                “เปล่า ซื้อมาให้” ฉันพูดแล้วยื่นให้ แต่เมื่อเขายังไม่ยอมรับ ฉันเลยจะเก็บมันใส่ใต้โต๊ะตามเดิม “แต่ถ้านายไม่เอาก็ไม่เป็นไร”

                หมับ!

                เวลล์คว้าขวดน้ำไปจากมือของฉัน นิ้วเรียวยาวของเขาแอบโดนปลายนิ้วฉันด้วยแหละ >O< เวลล์เปิดฝาขวดออก อะไรกัน! นี่เขาจะดื่มมันต่อหน้าฉันหรือเปล่า แบบนี้ถือว่าเขาตอบรับความหวังดีของฉันใช่มั้ย เขาพร้อมที่จะรับมิตรภาพจากฉันสินะ ^O^

                ซ่า!!!

                น้ำอะไรบางอย่างราดใส่หัวฉันเข้าอย่างจัง ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตาเขาที่มองมาที่ฉันเหมือนกัน แต่แววตาของเขาฉันเดาความรู้สึกไม่ออก เวลล์ถือขวดน้ำที่มีน้ำอยู่ก้นขวดค้างไว้อย่างนั้น ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมเอกอีกสิบคู่ที่ยังไม่ได้ออกจากห้อง

                O_O!

                และสายตาของซีลอนและเซรมที่มองมาด้วยความตกใจ

                ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆ เลย T^T

                และแล้วทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด...

                เงียบจนกระทั่งมดตดยังได้ยินเลย =O=

                “ฉัน...”

                เป็นเวลล์เองที่ส่งเสียงขึ้นมาทำลายความเงียบ เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่อยากฟังคำตะคอกที่จะทำให้ฉันต้องเจ็บแปลบอีกแล้ว ฉันไม่เข้าใจว่าแค่ฉันอยากจะให้ ไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทน แต่เขาก็ตอบแทนฉันด้วยความเลือดเย็น ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่นิสัยห่ามนิดๆ อย่างที่ซาหริ่มเคยบอกหรอก ฉันว่าห่ามเลือดเย็นเลยมากกว่า!

                ฉันลุกพรวดขึ้นมาทันทีแล้ววิ่งออกไปจากห้องด้วยความเร็วที่แม้แต่ฉันยังไม่เคยคิดเลยว่าจะวิ่งได้เร็วขนาดนี้

                “เดี๋ยว!”

                เสียงเรียกไล่ตามหลังมาแต่มีหรือที่ฉันจะหยุด ฉันสาวเท้าขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อย ฉันต้องการหนีความกดดัน หนีความอับอาย หนีสายตาของคนอื่นๆ ที่มองมาด้วยความรู้สึกตกใจ และหนีสายตาของเวลล์ที่มองมาที่ฉันด้วยความรู้สึกที่ฉันมองไม่ออก!

                ความคิดหนึ่งที่แวบเข้ามาในหัวของฉันคือ...

                ครั้งหนึ่งฉันเคยหวั่นไหวไปกับผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไร!!!

 

               ผ่านไปหลายชั่วโมงจนตอนนี้ฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคราม แสงสว่างเริ่มหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงแค่ตัวฉันที่ยังสับสนในตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

               ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวดลึกๆ ภายในใจเหมือนถูกบีบรัดด้วยคีมเหล็กขนาดใหญ่จนหัวใจของฉันแทบจะแหลกสลาย ภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าและตอนกลางวันย้อนกลับเข้ามาในหัวเหมือนฉายหนังซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น หยดน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมาจากทางหางตา ก่อนจะรินไหลลงอาบแก้มทั้งสองข้าง

                “ยิ้มสิ ^^”

                เสียงใสแสนคุ้นเคยดังขึ้นด้านข้าง จากนั้นเจ้าของเสียงก็นั่งลงข้างๆ พลางตบไหล่ฉันเบาๆ เหมือนต้องการให้กำลังใจ

                “ฉันควรจะยิ้มเหรอ เขาทำลายน้ำใจของฉันที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนจากเขาเลยสักนิด T^T” ฉันพูดเสียงเบา

                “เรื่องวันนี้มันแย่มากเลยใช่มั้ย?” ซาหริ่มเอียงคอถาม ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ

                ซาหริ่มเอื้อมมือมาจับมือฉันไว้ทั้งสองข้าง สบตากับฉันนิ่งๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกถึงแรงผลักดันบางอย่าง...

                “ถึงวันนี้มันจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม วันพรุ่งนี้อาจจะดีกว่านี้ก็ได้...จริงมั้ย?”

                ซาหริ่มเอื้อมมือมาจับหัวฉันให้พิงเข้ากับไหล่ของเธอเอง ฉันถึงกับตื้นตันแบบสุดๆ เลย T^T

                “ฉันแค่อยากจะให้อะไรเขาบ้างแค่นั้นเอง ไม่คิดว่ามันจะเป็นการรบกวน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็น่าจะพูดกับฉันตรงๆ ไปเลยว่า ‘อย่ามารบกวนฉัน’ ฉันก็จะไม่ยุ่งกับเขาเลย แต่ไม่เห็นต้องทำร้ายจิตใจกันถึงขนาดนี้เลยนี่นา!”

                “แกแค่อยากให้เหรอ? ฉันนึกว่าแกกำลังจีบเวลล์ซะอีก!”

                “บ้า! =O= ยังไม่ได้จีบเขาซะหน่อย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่จีบผู้ชายก่อน!” ฉันเอาหัวออกจากไหล่ซาหริ่มแล้วส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

                ฉันไม่ได้จีบเขาซะหน่อย! (    - -)^ จริงๆ นะ

                “แล้วที่แกเอาของไปให้เขา มันเรียกว่าอะไรไม่ทราบย่ะ!”

                “ฉันก็แค่อยากให้เท่านั้นแหละ!”

                “อย่างนั้นแหละ...เค้าเรียกว่าจีบ!”

                “ไม่ได้จีบนะ!”

                อย่าเถียงฉันสิ TT^TT

                “งั้น...” ซาหริ่มหรี่ตาอย่างไม่น่าไว้ใจ “เวลาจีบ แกทำยังไงเหรอ?”

                “ฉันไม่รู้ ไม่เคยจีบใครซะหน่อย”

                “งั้นฉันจะบอกให้ว่าที่แกทำไปตอนเช้าและตอนกลางวัน เรียกว่าจีบ!”

                “ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่ มันแตกต่าง...” ฉันเถียงคอเป็นเอ็น

                “แตกต่างยังไงล่ะ ลองพูดมาสิ (    - -)?” ซาหริ่มแย้งหัวชนฝา

                “มัน...อธิบายยาก (    _ _)”

                เหตุผลดีๆ อยู่ที่ไหน (- -    ) (    - -)

                “โอเค้!” ซาหริ่มพูดเสียงสูง แล้วโน้มตัวมาพูดที่ข้างหูเสียงเบา “ถ้าบอกไม่ถูก ก็ทำเอา!”

 

Chapter Three - 100%

To be Continue...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา