เพลิงมายา.....บังใจ

10.0

เขียนโดย YingFany

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12.45 น.

  1 ตอน
  5 วิจารณ์
  3,548 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 13.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ถ้าฉันย้อนอดีตไปได้........

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 ถ้าฉันย้อนอดีตไปได้........

 

ก๊อก แก๊ก...........

เสียงกุญแจประตูกระทบกับของแข็งบางอย่างซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่ากำลังมีคนไขบานประตูอย่างตะกุกตะกักเหตุเพราะ

ไม่รู้ว่ากุญแจที่แท้จริงมันคือลูกไหนกันแน่ บวกกับความคุ้นชินที่เคยทำเป็นกิจวัตรประจำวันเมื่อหลายปีก่อนที่เคย

ทำเป็นประจำตั้งแต่ยัง.....จำความได้

 

9 ปีที่แล้ว.......     

ณ ลานหน้าบ้านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะประสานเสียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“แม่ดีใจด้วยนะลูกวันนี้ลูกแม่ทำสำเร็จแล้วนะ” สาววัยกลางคนอายุราว 40 ต้นๆบอกกับผู้เป็นลูกสาวที่สามารถ

สอบเข้ามหาลัยในคณะที่ฝันได้

“นิ่มขอบคุณคุณแม่ต่างหากล่ะค่ะที่คอยเป็นกำลังใจให้นิ่มเสมอมา” สาวน้อยใบหน้าใสที่แต้มไปด้วยรอยยิ้มหวาน

พูดกับผู้เป็นแม่ด้วยอารมณ์ที่มีความสุขอย่างท้วมล้น

“แม่ภูมิใจจ้า ต่อไปนี่ก็เป็นหน้าที่ของนิ่มแล้วนะว่านิ่มจะคว้าเกียรตินิยมมาให้แม่ได้อย่างที่เคยโม้ไว้รึเปล่า” แม่เห็น

รอยยิ้มและความเชื่อมั่นของลูกแล้วก็อดที่จะแขวะไม่ได้

“คอยดูแล้วกัน นิวัลภาซะอย่าง” สองแม่ลูกหัวเราะและพูดกันอย่างถูกอกถูกใจจนหารู้ไม่ว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่ง

จ้องมองดูอยู่       

“อะแอ่ม....สองแม่ลูกคู่นี้รู้สึกจะคุยกันถูกคอซะจริงๆเลยนะ” ชายวัย 45 เข้ามาขัดจังหวะความสุขของสองแม่ลูก

ด้วยความหมั่นไส้นิดนึงที่ลืมตนไปได้ยังไง

“แม้คุณก็ ใครใช่ให้คุณเชิญคณะทูตเพื่อนของคุณมาล่ะค่ะฉันบอกคุณแล้วว่าคุณต้องไม่ว่างมาเฮฮากับฉันและลูก

ด้วยแน่” เมื่อเห็นผู้เป็นสามีกระทำตนเป็นเด็กผู้เป็นภรรยาก็อดไม่ได้ที่จะจิกด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่

“คุณพ่อ คุณแม่ค่ะอายุไม่ใช่น้อยแล้วนะ” สาวที่เป็นกลางถึงกับอดกลั่นเสียงหัวเราะไม่ได้ บอกตามจริงเลยว่าวันนี้

เธอหัวเราะตั้งแต่งานเริ่มจนถึงบัดนี้ แต่เอ๊ะ..เพื่อนของเธอล่ะทำไมยังไม่มาอีก

“อ้าว หาใครอยู่เหรอลูก” ผู้เป็นพ่อถามอย่างสงสัย

“ก็พวกยัยเอมยังไงล่ะค่ะไหนบอกว่าจะมาให้เร็วๆไงนี่ก็จะทุ่มนึงแล้ว” นิ่มมองดูนาฬิกาเรือนโปรดที่พ่อซื้อให้ฉลอง

ที่เธอสอบมหาลัยในฝันและคณะที่ชอบติด

“อ๋อ โน้นไงพ่อเห็นเอมและเพื่อนๆของลูกมากันตั้งแต่เมื่อกี้แล้วพ่อว่าจะมาบอกพอดีแต่ลืมนะ” เมื่อนิ่มได้ยินแค่

นั้นก็ปลีกตัวจากพ่อแม่ไปหาเพื่อนๆทันที

“ว้าวว วันนี้ว่าที่ศาสตราจารย์ของเราแต่งตัวได้เนิร์ดมากๆเลยว่ะ ฮ่าๆ” ยังไม่ทันได้กล่าวทักทายเสียง

กวน(ทีน)ของเพื่อนก็ร้องโอยซะแล้ว

“นี่แกยังอยากมีปากไว้ทานอาหารในงานมั้ยย่ะ” นิ่มตาเขียวปัดที่เพื่อนบอกว่าเธอแต่งตัวเนิร์ด ความจริงเธอรู้ต่าง

หากว่ายัยเอมเพื่อนเธอกำลังแกล้งแต่ที่ทำไปเพราะอยากให้เธอหัวเราะได้มั่ง

“เออแหละ เอาล่ะๆฉันว่าฉันหิวแล้วอ่าแก” คนที่เพิ่งมาถึงกับเอามือลูบท้องให้ดูเลย เพราะกะว่าจะล้างท้องเพื่อ

งานนี้โดยเฉพาะ

“ฉันรู้ทันแกแล้วแหละเลยโน้นสั่งให้เด็กเสิร์ฟจัดเป็นพิเศษให้โดยเฉพาะ” นิ่มยังพูดไม่ทันขาดคำเอมเพื่อนรักก็วิ่ง

สี่คูณร้อยไปที่โต๊ะวีไอพีที่นิ่มจัดไว้ให้เป็นที่เรียบร้อย

“ยัยเอมนะยัยเอม” นิ่มถึงกับส่ายหัวให้กับความตะกละของเพื่อนคนนี้

 

วันของการรับน้อง......

 

    ภายในรั้วของมหาลัยวิทยาลัยที่มีแต่เสียงกลองและเสียงโห่ว๊ากกของรุ่นพี่ดังลั่นไปทั่วต่างก็มีเฟรชชี่ปีหนึ่งและ

รุ่นพี่ปีต่างๆมาร่วมด้วยช่วยกันรับน้องอย่างเฮฮาหนึ่งในนั้นก็มีนิ่มที่เป็นเฟรชชี่ของคณะนี้ด้วย

“เอาล่ะครับน้องๆที่น่ารักทั้งหลายวันนี้พวกพี่.......” เสียงรุ่นพี่ที่เป็นผู้นำได้เริ่มทักทายน้องๆกันอย่างน่ารักๆ(มั่ง)

“นี่ๆ เธอน่ะชื่อไร” เสียงผู้หญิงที่ใบหน้าโดนปะไปด้วยแป้งสีสะกิดถามชื่อนิ่มที่นั่งเบื่อโลกอย่างมาก

“เราชื่อนิ่ม” เมื่อเธอได้ยินคนข้างๆตอบก็ถึงกับยิ้มและก็นำเสนอชื่อตัวเองให้นิ่มรู้จักเพื่อความปลองดองฉันเพื่อน

ในอนาคต

“เราพิ้งค์นะยินดีที่ได้รู้จัก” พูดแค่นั้นแหละยัยพิ้งค์ถึงกับยิ้มจนเห็นฟันยี่สิบแปดซี่หมดทั้งปาก

“จ๊ะๆ ยินดีที่ได้รู้จัก” พิ้งค์ชวนนิ่มคุยไปได้หลายๆประโยคทำให้ทั้งสองเริ่มสนิทกันมากขึ้นจนทำให้รู้ว่าความจริง

แล้วพิ้งค์ก็จบมัธยมปลายมาจากโรงเรียนข้างๆเธอนี่เอง

“อย่างงั้นเองแต่เราไม่ค่อยคุ้นหน้าพิ้งค์เลยนะ” นิ่มถามอย่างสงสัยเพราะเธอก็มีไผ่เป็นเพื่อนโรงเรียนนั้นด้วย

“แม้พูดอย่างกับเธออยู่โรงเรียนเดียวกับเราอย่างนั้นแหละ” นิ่มถึงกับเกาหัวทันทีเพราะมันจริงนิขนาดเพื่อนที่

โรงเรียนที่อยู่ในระดับเดียวกันเธอเองก็ยังไม่รู้จักเลยหรือพูดง่ายๆคือไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ

“จริงด้วย อิอิ แต่เราว่าพิ้งค์น่าจะรู้จักกับไผ่นะไอ้คนที่ชอบตัดผมเกรียนๆอ่าสูงๆนิดนึง” นิ่มบอกลักษณะของเพื่อน

ชายที่เธอสนิทว่าลักษณะเป็นยังไงให้พิ้งค์ฟัง

“อ๋อ ไอ้โย้งๆห้องแปดนะเหรอเราจำได้” พิ้งค์แอบเพ้อนิดนึง

“ดูเหมือนไอ้ไผ่มันจะฮอตนิดนึงนะเนี่ยที่มีคนอย่างเธอรู้จักด้วย” นิ่มพูดเหมือนจะแซวไผ่

“บ้าสิ อ้าวโน้นรุ่นพี่คนนั้นใครอ่าเราไม่เห็นตอนเช้าเลย” นิ่มชี้ไปที่หนุ่มหล่อร่างสูงโปร่งสะอาด และดูดีในสายตาผู้

หญิงทุกคู่ที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้รวมถึงนิ่มด้วย

“หล่อนะแกว่าม๊ะ” พิ้งค์มองตาไม่กระพริบและก็พูดกับนิ่ม

“อืม หล่อมากด้วย” นิ่มพูดแค่นั้นแต่ความรู้สึกก็เฉยๆเพราะผู้ชายหล่อส่วนใหญ่มักขี้เก๊ก ไม่ก็เจ้าชู้ หรือที่แย่ไป

กว่านั้นคือ เป็นเกย์....ข้อสุดท้ายนี่แหละที่ทำให้นิ่มไม่นึกอยากจะชอบผู้ชายหล่อเลยสักครั้ง

“แกดูสินิ่มมีแต่คนมองพี่แกแม้กระทั่งไอ้ตุดปากดำนั่น” พิ้งค์พูดติดขำพอดีเห็นไอ้ตุดนั้นปากดำนิดหน่อยก็เลยตั้ง

ฉายาให้บวกกับเพราะมีอคติกับตุดด้วยนิดนึง

“แกก็ไปว่าเขาอย่างนั้นได้ยังไง น่าเกลียดที่สุด” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่นิ่มก็กลั่นหัวเราะไว้ไม้อยู่เช่นกัน

“มันคือความจริงแกไม่ควรปฎิเสธเห็นมั้ยขนาดแกยังหัวเราะอีตุดนั่นเลย” พิงค์ละสายตาจากชายหนุ่มนิรนามคนนั้น

แล้วหันมาหัวเราะเรื่องไอ้ตุดนั่นกับนิ่มแต่แค่แปปเดียวแล้วก็ให้ความสนใจอีก

“ฉันว่าถ้าพี่คนนั้นเป็นปากกัดเขาคงจะท้องแล้วแหละ สมมุติให้แกและผู้หญิงทุกคนในที่นี้เป็นตัวผู้ส่วนพี่คนนั้นเป็น

ตัวเมีย” นิ่มรู้สึกหมั่นไส้ใบหน้าหล่อๆนั้นที่ไม่รู้จะแอ๊บรึเปล่า

“เอาน่าอย่างอนเลยนะ สัญญาก็ได้ว่าจะสนใจแกให้มากกว่าพี่คนนั้น นั่นๆรุ่นพี่เขาพามาทำความรู้จักแล้ว” พูดยัง

ไม่จบเลยนะเนี่ย

“น้องๆพี่รู้นะว่าตอนนี้กำลังสงสัยชายหนุ่มหน้าตาขี้เหร่กว่าพี่คนนี้ใช่มั้ย” รุ่นพี่คนเมื่อตะกี้แขวะพี่คนที่กำลังเป็นจุด

สนใจคนนั้นอยู่

“เอาล่ะพี่ว่าให้พี่เขาแนะนำตัวดีกว่านะ” พิ้งค์และผู้หญิงในที่นี้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารออย่างลืมหายใจได้

“สวัสดีครับพี่ชื่อ อิศ นะกำลังเรียนอยู่ปีสี่” พี่อิศอะไรนั้นแนะนำตัวแค่นี้แหละ เสียงกริ๊ดกร๊าดดก็ดังขึ้นโดยไม่ได้นัด

หมายซึ่งในที่นี้คงจะมีฉันคนเดียวที่ไม่เป็นไปกับเขาด้วยแต่อย่าถามถึงพิ้งค์นะ ยัยนั่นไปแล้ว...

                หลังจากที่เราทำกิจกรรมกันมาทั้งวันนี้ตอนนี้ก็ได้เวลาเข้านอนของน้องเฟรชชี่ทุกคนซึ่งฉันก็เลือกที่

จะนอนกับพิ้งค์อยู่แล้วและอีกอย่างหลังจากนั้นฉันก็ได้เพื่อนใหม่มาอีกสามถึงสี่คนเพราะมียัยพิ้งค์เพื่อนสึชุดเฟรน

ลี่คนนี้แหละที่แนะนำให้รู้จักความจริงมีบ้างบางคนที่เข้ามาทำความรู้จักกับฉัน........

 

                คืนเฟรชชี่ไนท์......J

 

ภายในตัวอาคารหลังเดิมของวันประชุมเฟรชชี่ ซึ่งตอนนี้ก็เดินทางมาวันสุดท้าย ท้ายสุดแล้ว และเป็นการบอกลา

ล้ำลากันของรุ่นพี่และก็เป็นวันจับฉลากพี่น้องรหัสกันด้วย นี่แหละที่นิ่มตื่นเต้นเพราะมันทำให้ลุ้นว่าจะได้รุ่นพี่ผู้หญิง

หรือผู้ชายและถ้าได้พี่รหัสมาแล้วเขาจะใจดีและคอยมาแทคแคร์เรารึเปล่านะ.....

“น้องละทุกคนครับคืนนี้ก็คืนแห้งความสนุกสนานของน้องๆกันแล้วนะ แต่อย่าลืมนะว่าพวกเรายังเหลืออีกกิจกรรม

หนึ่งที่ยังไม่ได้ทำเลยก็คือ กิจกรรมพี่น้องร่วมพันธะหรือพี่น้องรหัสกันนั่นเอง เอาล่ะตอนนี้รุ่นพี่ทุกคนก็อยู่กันครบ

แล้วเราจะมาเริ่มจับกันเลยนะ เริ่มจากพี่ก่อน” บรรยากาศการจับฉลากพี่น้องรหัสกำลังเริ่มกันแล้วโดยมีพี่ที่ชอบว๊าก

เริ่มและตอนนี้ก็ได้ผู้โชค(ร้ายมากกว่า)ดีคนนั้นไป.....

“น้องบีท สาขา.......ครับ” เด็กผู้ชายใส่แว่นกรอบหนาสี่เหลี่ยมบ่งบอกให้รู้ว่าผมแก่เรียนมากยืนขึ้นแล้วก็ทำให้รุ่น

พี่ทุกๆคนถึงกับหัวเราะรวนกันเป็นแถวเพราะว่า น้องรหัสที่พี่คนนี้อยากได้ไม่เป็นผู้หญิงอย่างที่หวัง

“ฮ่าๆๆๆ อึ้ม เอ็กซ์ ร่างแอปเปิ้ล ไปเลยนะเพื่อน” เพื่อนๆร่วมล้อกันใหญ่โดยที่ทำให้เสียงหัวเราะเริ่มดังขึ้นแล้วก็

เงียบลองอย่างเร็วเหมือนกัน

“เงียบๆ พี่ผิดเหรอที่ได้น้องบีทออกจะแน่น เอาล่ะคนต่อไปมาเลย” พี่คนต่อไปมาจับก็ได้น้องรหัสกันไปตามๆกัน

จนมาถึงครึ่งหลังผู้ชายที่เฟรชชี่หญิงอยากได้เป็นพี่รหัสที่สุดก็เดินมาจับบ้างแล้วก็ปรากฎว่า.....

“น้องนิ่ม สาขา....” ได้ยินแค่นั้นผู้หญิงทุกคนก็ถึงกับหันหน้ามองหรือบางคนถึงกับอึ้งและอิจฉา นิ่ม ใครว่ะ...อ้าว

เห้ย!ฉันนิ

“น้องนิ่มยืนขึ้นครับ” พี่ว๊ากสั่งเสียงแข็งแล้วก็สั่งต่อ “เดินมานี่อวดโฉมให้เพื่อนๆพี่ๆดูหน่อยว่าน้องรหัสของไอ้พี่

หน้าตาขี้เหร่คนนี้เป็นยังไง” ไม่มีเสียงใดคัดค้านนิ่มทำความรู้จักกับพี่อิศแปปแล้วก็เดินมานั่งที่เดิม

“รู้สึกแกจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีสุดๆไปเลยนะยัยนิ่ม” เสียงที่ฟังดูเหมือนจริงใจของพิ้งค์ก็กระแทกถามนิ่มอย่างอด

แขวะไม่ได้

“โชคดีอะไรกัน แกก็ได้พี่รหัสเหมือนฉันด้วยไม่ใช่เหรออีกอย่างพี่รหัสที่แกได้เป็นถึงตัวท็อปของคณะเลยนะแกน่า

จะภูมิใจมากกว่าฉันสิ” นิ่มพยายามพูดให้กำลังใจเพื่อนถึงแม้จะรู้ว่าไม่ใช่แต่พิ้งค์คนเดียวที่อยากจะได้พี่อิศอะไร

นั่นเป็นพี่รหัส..


“ฉันไม่พูดกับแกแล้ว” แค่นั้นนิ่มก็รู้ว่าพิ้งค์ยังงอน แต่ก็ช่างเถอะเดี๋ยวค่อยง้อก็ได้อยู่ด้วยกันมาก็หลายวันแล้วเลยรู้

นิสัย

หลังจากคืนเฟรชชี่ไนท์......วันต่อมา

“นี่ยัยพิ้งค์แกยังงอนฉันอยู่เหรอเนี่ย เมื่อคืนแกก็ไม่คุยกับฉันสักคำนึง” นิ่มได้แต่ง้อพิ้งค์ที่เมื่อคืนไม่คุยด้วยก็

เพราะพี่รหัสสุดป๊อปคนนั้น

“ฉันป่าวโกรธแกนะแค่รู้สึกหมั่นไส้แค่นันเอง หุๆ เอาล่ะฉันคุยกับแกก็ได้” หลังจากที่เห็นความพยายามของนิ่ม

ตั้งแต่เมื่อคืน พิ้งค์ก็เริ่มที่จะใจอ่อนลงบ้าง

“น่ารักที่สุดเลย แกคือเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะที่ได้รู้จักอ่า” ยกเว้นยัยเอมคนนึงที่เมื่อคืนเล่าเรื่องพี่รหัสให้ฟัง

ถึงกับกริ๊ด!ด้วยความอิจฉาฉันไปตามๆกัน แต่มันช่างต่างกับฉันจริงๆ

“ย่ะ อาจารย์มาแล้วเรียนกัน” เมื่อพิ้งค์กลับมาคุยกับนิ่มอีกครั้งก็ทำให้สาวเจ้าชอบง้อเริ่มรู้สึกอยากทำอะไรต่างๆ

นานามากขึ้น ซึ่งตอนนี้เธอเริ่มมีความสุขแล้วล่ะ

 

หนุ่มป๊อปที่สุดประจำมหาลัยถอยรถสปอร์ตสุดหรูเข้าจอดที่ลานจอดรถอย่างชำนาญด้วยความที่เป็นลูกของนัก

ธุรกิจใหญ่บวกกับพ่อเป็นถึงนักธุรกิจต่างชาติจากสิงคโปค์ พูดง่ายๆว่า อิศ หรืออิศระวัฒน์ ลิม ทายาทของบริษัท

ยักษ์ใหญ่อย่างเอ็มเอสเวอร์กรุ๊ปจำกัด ถึงกับเครียดไม่เป็นอันกินอันนอนเมื่อรู้ว่าเพื่อนในคณะที่ตนเรียนเรียกให้มา

ในงานรับน้องอย่างกะทันหันเหตุเพราะ เพื่อให้ตนเป็นแรงจูงใจให้กับเฟรชชี่สาวๆซึ่งก็เป็นอย่างที่เพื่อนๆเขาคาดไว้

จริงๆ

“อ้าว ทางนี้โว้ยไอ้อิศ ไอ้ขี้เหร่” เสียงของทินเพื่อนหนุ่มร่างท้วมที่มีมาดผู้นำเต็มร้อยและก็เป็นคนที่ต่อสายเรียก

เขาให้มางานนี้โดยเฉพาะ

“ไอ้บ้าทินนี่ถ้าหากว่าไม่ใช่แกแบล็คเมย์ฉันอ่านะฉันจะไม่มาซะให้ยากเลย” อิศกัดฟันพูดกับเพื่อนจอมเจ้าเล่ห์

อย่างทินจนคนข้างๆขนลุกซู่

“แม้ๆเหอะนามึงแค่นี้นิดเดียวเดี๋ยวกูเลี้ยงเบี้ยมึงทดแทนเวลาอันแสนมีค่าของมึงเลยเอ้า!” หนุ่มร่างท้วมพยายาม

ไม่สบอารมณ์ของเพื่อนหน้าหล่อคนนี้ให้มากมาย

“พูดแล้วห้ามคืนคำล่ะแก” อิศชี้หน้าทินอย่างเอาเรื่อง

“เออๆ ไปกันเถอะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการรับน้องแล้วนะมึงยังไงมึงต้องโผล่หัวไปที่ซุ่มแล้วก็แนะนำตัวเองให้

น้องๆฟังและคืนนี้แกก็ต้องอยู่ด้วยเพราะฉันจะให้แกเป็นพี่รหัส” อย่างแรกเขาไม่คิดจะค้านอะไรแต่ไอ้อย่างหลังนี่สิ

คืนนี้แกก็ต้องอยู่ด้วยเพราะฉันจะให้แกเป็นพี่รหัส.....

“พี่รหัสบ้าบออะไรของมึงกันไอ้ทิน ไม่อ่าไม่เอาโว้ย” อิศโว้ยวายแต่ก็ไม่ทำให้เป็นจุดสนใจของคนที่เดินผ่านไปมา

แถวนี้

“แกอยากให้ฉันเปิดโปงความลับกันว่ะไอ้อิศ หึๆ” ทินหัวเราะในลำคออย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า

“แกนี่มัน.........” สุดจะทนกับเพื่อนคนนี้จริงๆ

“ว่าไงล่ะ” ทินถามอีกรอบ ความจริงก็รู้อยู่ว่าคนหล่อแถมยังฉลาดอย่างไอ้อิศต้องยอมรับเงื่อนไขนี้แน่ๆ

“ไม่ตกลงก็บ้าแล้วสิ” อิศบอกทินอย่างเสียงแข็งก็เดินจ้ำอ้าวไปที่ซุ่มเฟรชชี่ทันที

“ยังไงแกก็ต้องแพ้ฉันอยู่ดีนั่นแหละไอ้อิศเอ้ย!” ทินเดินตามหลังอิศไปตามๆกัน

“น้องๆพี่รู้นะว่าตอนนี้กำลังสงสัยชายหนุ่มหน้าตาขี้เหร่กว่าพี่คนนี้ใช่มั้ย” ทินได้ทีก็รีบเปิดตัวอิศทันที เพราะว่า

ความจริงอิศมายืนรอนานแล้วและอีกอย่างจุดสนใจก็อยู่ที่มันนานแล้วด้วย

“เอาล่ะพี่ว่าให้พี่เขาแนะนำตัวดีกว่านะ” ไม่รอช้าทินก็ผลักแขนอิศให้ปจุดเต็มความสูงต่อหน้าเฟรชชี่ทั้งหกสิบกว่า

คนทันที

“สวัสดีครับพี่ชื่อ อิศ นะกำลังเรียนอยู่ปีสี่” อิศเข้าสู่โหมดหนุ่มป๊อปจอมร้อนแรงทำให้สาวๆกริ๊ดกร๊าดกันใหญ่ซึ่ง

ของได้ผลมากกว่าที่อิศคิด เพราะทำให้สาวๆทุกคนแม้กระทั่งเพื่อนร่วมรุ่นถึงกับกลับมามีชีวิตชีวา

หลังจากที่อิศได้แนะนำตัวเองกับน้องๆเฟรชชี่ทุกคนเสร็จก็โดนทินลากไปด้านหลังของซุ่มแล้วก็สั่งการให้เพื่อนๆส

ตาฟนำน้องๆทำกิจกรรมแทนเพราะมีเรื่องสำคัญของคุยกับอิศ

“แกทำได้ดีมาก ดีกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะไอ้อิศ” ทินกล่าวชมเพื่อนพร้อมตบไหล่อิศอย่างชื่นชมนิดๆ

“ก็ได้ดังใจแกแล้วนิ” อิศพูดอย่างหน้าตายใส่ทิน

“เออฉันผิดเองแหละ แต่เอางี้ก็ได้คลิปนั่นอ่าฉันจะลบก็ต่อเมื่อแกกับฉันแล้วไอ้พวกโน่นอีกสี่คนไปเลี้ยงเบียร์กันโอเค้” อิศเริ่มชักสีหน้าดูดีขึ้นเมื่อได้ยินประโยคแสนน่าตื่นเต้นนั้น

“ได้แล้วเจอกันคืนนี้หลังเฟรชชี่ไนท์” พูดจบแค่นี้ทั้งสองก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมที่โดนบัญชามา

 

หลังจากวันนั้นวันที่โดนจับพี่น้องรหัสทำให้นิ่มรู้ว่าความจริงแล้วพวกพี่ๆรหัสทุกคนดูแลพวกเราดีมากโดยเฉพาะพี่สุดหล่อป๊อปขวัญใจสาวๆคนนี้พี่อิศผู้ชายที่ดูมีเสน่ห์มากๆเวลาที่ได้อยู่ใกล้

“น้องนิ่มครับทางนี้” เสียงหนุ่มหล่อที่สาวๆหลงใหลเรียกเธอจากโต๊ะไม้หินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่อันร่มรื่นต้นนั้นและก็เป็นต้นประจำเวลาที่พี่อิศเรียกมาติวด้วย

“สวัสดีค่ะพี่อิศ” นิ่มรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่มาเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้

“วันนี้คงเรียนกับอาจารย์นีรชามาสิท่าดูสิวิ่งมาซะหอบเลย” อิศไม่ได้ว่าพลางยื่นขวดน้ำให้นิ่มดื่มด้วย

“ค่ะ พี่อิศก็เคยเจออาจารย์ท่านมาแล้วนิหวังว่านิ่มคงจะไม่ต้องบรรยายให้ฟังหรอกนะ” นิ่มส่งขวดน้ำให้อิศกลับ

นี่ก็เป็นอาทิตย์ที่สองแล้วสิที่เธอกับพี่อิศต้องมารวมติวกันอย่างนี้ชีวิตมหาลัยมันช่างเคี้ยวจริงๆเลยทุกๆวันนี้ถึงแม้

จะมีพี่อิศคอยติววิชาที่เธอไม่ถนัดให้อยู่แต่เธอก็ต้องอ่านหนังสือเสริมอย่างหนักเพราะอาจารย์จะสอนไม่ลึกและ

ละเอียดเหมือนตอนมัธยมปลายแล้วสิ….ดีนะที่ยังมีครูติวพิเศษให้นิ่มได้แต่นึกขอบคุณรุ่นพี่สุดหล่อคนนี้ คนอะไร

ทั้งหล่อและเก่งอีก

“น้องนิ่มเป้นอะไรรึเปล่าครับพี่เห็นเหม่อแปลกๆนะ” เมื่ออิศเห็นสาวน้อยใบหน้าหวานตรงหน้ามีอาการเหม่อดู

เหมือนไม่ค่อยจะสนใจเนื้อหาที่เขากำลังติวให้ก็เลยอดสงสัยไม่ได้….หรือว่ากำลังคิดถึงแฟนอยู่นะ?อิศเริ่มสงสัย

“อ๋อ ปะเปล่าค่ะก็กำลังคิดเรื่องโจทย์ข้อนี้ที่พี่อิศกำลังสอนอยู่นั่นแหละ แฮะๆ” นิ่มรู้สึกผิดนิดๆ

“เรื่องแฟนรึเปล่า” อิศพยายามถามกลบเกลื่อนสาวตรงหน้า ความจริงนิ่มเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆในสายตาเขาอีก

อย่างเป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่ต่อหน้าเขา เขาเลยชอบแอบมองหน้าเธอนะแต่ไม่ให้รู้

“แฟนอะไรกันค่ะพี่อิศนิ่มยังไม่มีเลย นิ่มว่าเรานอกเรื่องกันมามากแล้วติวต่อดีกว่าน้อๆ” นิ่มจับหนังสือวิชาคณิตที่อิ

ศกำลังถืออยู่มาไว้กับตัวแล้วก็อ่านกลบเกลื่อนความผิด

“เกือบเนียนนะเรา” ยิ่งอยู่ใกล้เหมือนอะไรหลายๆอย่างเริ่มชัดเจนก่อตัวมากขึ้น….อิศก็หวังว่าสักวันนึง

 

 

..........................................................................................................................

 TO....จากใจไรเตอร์นะค่ะ

สวัสดีรีดเดอร์ผู้น่ารักค่ะ นิยายเรื่องนี้จะออกแนวดราม่านะค่ะ ยังไม่ได้ตรวจคำค่ะถ้าผิดพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะสงสัยอะไรเม้นถามไรเตอร์ได้จ้า จุ๊บๆๆ



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา