เกมซ่อนเร้น
เขียนโดย npunpu
วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.16 น.
แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 22.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 - เปิดตัวงานใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่1
ในกลางห้องของดึกสูงปรีดเกือบ50ชั้นเพ้นท์เฮ้าส์ที่อยู่ในใจกลางเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครภายในห้องนั้นถ้ามีโอกาศได้เข้าไปจะได้เห็นของวางกระจัดกระจายรู้ได้เลยว่าห้องนี้ไม่เคยถูกทำความสะอาดเมื่อตรงเข้าไปอีกจะได้พบห้องใหญ่อีกจำนวน2ห้องเมื่อเข้าไปในห้องหนึ่งก็จะพบกับเอกสารเยอะแยะมากมายกองอยู่เป็นภูเขาและเมื่อเดินออกมาและเข้าไปอีกห้องหนึงก็จะได้พบกับโต๊ะเครื่องแป้งที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไปกับพบเตียงแบบคิงไซส์ที่มีขนาดใหญ่มากและมีสาวน้อยแสนสวยที่ประสบกับการเมาข้างจากเมื่อคื่น
“กริ๊งงงงๆๆๆ กริ๊งๆๆๆๆ กริ๊งๆๆๆๆๆๆ’” เสียงโทรศัพท์มือถือของผู้เป็นเจ้าของห้องดังขึ้นเธอเอื่อมมือยาวเรียวออกจากผ้าห่มที่บางเรียบออกมาเพื่อพยายามจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับแต่ในขณะเดียวกันเธอลืมตาขึ้นมามองนาฬิกาและเห็นว่า
“ห๊ะ 10 โมงแล้วตายๆๆๆละทีนี้ บอสโทรมาแน่ๆเลย เอาไงดีเนี้ยจะรับหรือจะรีบไป โอ้ยยยยยยยยย” เธอโวยวายออกมาด้วยน้ำเสียงอย่างเมาข้างแล้วหุดงิดตัวเองที่ตื่นไม่ทันเวลาเข้างาน
“ รัณนี้คุณอยู่ที่ไหนเนี้ยผมจำได้น่ะว่าเรานัดกันตอน9โมงเช้าแล้วนี้10โมงกว่าแล้วผมยังไม่เห็นหัวคุณเลย” เสียงจากปลายสายดังขึ้นพร้อมความหงุดหงิด
“ขอโทษค่ะบอส ตอนนี้รัณกำลังออกจากคอนโดเดี่ยวอีก15นาทีคงจะถึง รัณกำลังขับรถอยู่ขออนุญาติน่ะค่ะ” เธอรีบตัดสายทันทีพร้อมวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที เธอรีบจัดการจัดเองทุกอย่างแล้วออกมาาภายใน5นาทีด้วยรูปร่างหน้าตาที่ใครหลายๆคนคงต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงถึงจะออกมาดูดีแบบนี้ได้ เธอรีบขว้ากุญแจรถมินิสุดที่รักและรีบวิ่งออกจากห้องโดยไม่ลืมความรอบคอบในการล็อกประตู
เธอรีบลงไปยังลานจอดรถแล้วออกรถทันที การไปถึงที่นัดหมายกินเวลาไปไม่ถึง 15 นาที เพราะเธอเยียบคันเร่งมาเต็มแรง พอไปถึงเธอก็พบกับ บอสใหญ่และชายแปลกหน้า ที่รูปร่างหน้าตาแล้วถือว่าดูดีทีเดียว ทั้งจมูกโด่ง และทุกๆ อย่างที่รับกับใบหน้า ของเค้าแล้ว ความสูงและการแต่งตัวถือว่า ไม่มีที่ติ
“อ่าว...รัณมาแล้วหรอ” เสียงทุ้มทักทายมาแต่ไกล
“สวัสดีค่ะบอส ขอโทษนะคะที่มาสาย”
“นี่หรอครับ คุณรัณคนที่บอสจะให้ผมร่วมงานด้วย” ชายแปลกหน้าเอ่ยขึ้น “ผมจะบอกอะไรคุณไว้ อย่างนึงนะ การตรงต่อเวลาเนี่ยเป็นอะไรที่สำคัญมาก การที่คุณมาสายเนี่ยถือเป็นการไม่ให้เกียรติเป็นอย่างมาก ถึงคุณจะมีหน้าที่การงานหรือมีความสามารถพิเศษขนาดไหนนะ คุณก็ไม่สมควรให้คนอื่นมารอคุณ” ชายแปลกหน้าพูดอย่างไม่ยั้ง ทำให้ รัณ ถึงกับหน้าชา ตั่งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าด่า เธอต่อหน้ามาก่อน จะด่ากันหลับหลังไม่ว่า แต่นี่มันหกหน้ากันชัด! มีหรือคนอย่างเธอจะยอม!
“ บอสค่ะนายนี้เป็นใครกัน” เธอหยุดชะงักแล้วหันหน้าไปทางชายแปลกหน้า “แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาด่าฉันห๊ะ!! ขนาดบอสยังไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วคิดหรอว่าคนอย่างฉันจะไปร่วมงานกับคนอย่างนาย” เธออยากจะต่อยหน้าเค้าสะเหลือเกินนี่ถ้าไม่ติดว่าบอสอยู่นะเธอคิดในใจ ‘ใจเย็นรัณท่องไว้ ใจเย็น’
“พอได้แล้วๆ ทั้คู่เลย” เสียงทุ้มของบอสทำให้ทั้งสองได้สติกลับคืนมาหลังจากถูกความโมโหครอบนำ
“ขอโทษค่ะ/ครับ” ทั้งสองเอ่ยพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
‘’เอาละรัณก่อนอื่นผมขอแนะนำนายคนที่เธอเพิ่งทะเลาะด้วยให้รู้จักอย่างเป็นทางการก่อนนะ นี้ นายเตชิน เอื้อวาณิชกุล มาจากหน่วยสืบสวนสอบสวนกองที่หนึ่งและเขาคือคนที่ถูกส่งไปทำงานกับผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ก็คือนาย
ธัสสิดล เจริญมริราช ที่เธอต้องไปทำคดีตอนนี้เตชินได้รับการไว้วางใจกับนายธัสสิคลมาก เขาได้ขึ้นไปเป็นมือซ้ายคนสทินแต่เหมือนจะยังไม่สนิทพอนายธัสสิดลถึงยังไม่เคยยอมพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมา” นายใหญ่พูดแนะนำตัวพร้อมบอกข้อมูลเบื้องต้นให้เธอฟัง
“ก็แน่และดูจากนิสัยแล้วอย่างงี้ใครจะไปไว้ใจง่ายๆ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกและเหมือนยังติดใจกับการที่โดยนายเตชินติเตือนเมื่อครู่นี้
“หืออ ฉันก็เชื่อว่าถ้าเธอมาทำงานนี้เองเธอก็ไม่มีทางทำให้เขาไว้ใจได้อย่างแน่นอน คนอย่างเขาไม่มีทางไว้ใจคนนิสัยอย่างเธอแน่นอน” เขาพูดขึ้นมาโดยมาสีหน้าไม่ไว้วางใจเธอสักน้อย
“เอาๆละ พวกเธอสองคนยังมีเวลาทะเลาะกันอีกเยอะ” ชายผู้เป็นเจ้านายส่ายหน้าพร้อมมีสีหน้ากลุ่มใจ “ผมจะไว้ใจให้ทั้งคู่ทำงานร่วมกันได้ไหม เจอกันวันแรกก็ทะเลาะกันแล้ว “
“ผม/รัณ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ” ทั้งสองพูดพร้อมกันอีกครั้งโดยไม่ได้นัดหมาย และหันมามองหน้ากันด้วยคิ้วขมวดและสีหน้าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร
“เอาละๆพอๆกันเลยทั้งคู่มา ให้ผมแนะนำรัณบ้าง เธอคือนางสาวนิรัณกุล รื่นหฤทัยมนี หรือ รัณ เธอเป็นมือหนึ่งของกองสืบสวนสอบสวนกองที่หนึ่ง เธอทำงานกับทางเราเป็นเวลา 5 ปี ก็คงอ่อนกว่า เตชินประมาณ 3-4 ปีหน่ะ เธอเป็นคนที่ไว้วางใจได้แน่นอนและที่สำคัญเธอไม่เคยมีคู่หู่เลยนะ” นายผู้อธิบายหัวเราะไปพลางๆ “นายเป็นคู่หู่คนแรกของเธอเลยแหละ” ผู็เป็นนายพูดตบอีกครั้ง
“หืออ ไม่มีคู่หู่หรือไม่อยากมีคนเป็นคู่หู่กันแน่ นิสัยอย่างนี้สิน่ะ” ชายหนุ่มที่เหมือนอย่างจะวอนหาเรื่องพูดขึ้นพร้อมทำหน้ากวนใส่
“ถึงฉันจะไม่มีคู่หู่หรือไม่อยากมีคนเป็นคู่หูฉัน แต่ฉันก็ประสบความสำเร็จทุกงาน ไม่เคยผลาดแม้แต่งานเดียว” เธอพูดพร้อมเชยชมตัวเอง
“เอาละๆ ทะเลาะกันอีกแล้วพวกเธอก็โตๆกันแล้วน่ะ ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้” ผู็เป็นนายยิ้มแล้วแถมพูดอีกว่า “เออ เตชิน นายต้องพารัณไปหาเสื้อผ้าไม่ใช้หรอ ตอนนี้ว่างๆกันก็พาไปเลยแล้วคุณก็บอกข้อมูลและตัวละครที่รัณเขาต้องเลยด้วยแล้วกันน่ะ “ นายพูดขึ้นอีกครัวแล้วลุกขึ้นยืน
“บอสค่ะ ทำไมต้องหาเสื้อผ้าใส่ด้วยค่ะ รัณก็มีเสื้อผ้าของรัณแล้วหนิค่ะ” รัณพูดพร้อมทำหน้าสงสัย “ก็เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่น่าสะดุดตาไงหล่ะ” เตชินพูดพร้อมทำหน้า เยาะเย้ย “แล้วฉันจะเป็นคนหาเสื้อผ้าให้เธอเอง”
“หน็อยยยย พูดแบบนี้ก็สวยดิ “ เธอกำหมัดพร้อมเสยไปตรงจมูก ทำให้เตชินถึงกับต้องร้องออกมาเลยเพราะความเจ็บ
“โอ๊ยยยยยย นี่เธอ!!” เตชินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็โดนมาเสยหมัดใส่ซะนี่
“สมน้ำหน้า แล้วเป็นตำรวจภาษาอะไรแค่โดนผู็หญิงยกมือพร้อมกำมัดแค่นี้ถึงกับร้องน่าสมเพชจริงๆ” เสียงเยาะเย้ยขอบหญิงสาวตามมาติดๆ
“โอ๊ย....หยุดทั้งคู่เลย จะรอดกันไหมเนี่ยะ ไปซื้อของกันเลยไป๊แล้วอย่าให้ผมได้ยินข่าวน่ะว่ามีตำรวจสากลสองคนทะเลาะกันกลางห้างใหญ่” เสียงของบอสดังขึ้นทำให้ทั้งคู่หยุดและพลิกตัวพร้อมความเครพาะ “จะไปไหนก้รีบๆไป” รัณเอ่ยพร้อมพลักหลังชายหนุ่มความหงุดหงิด
กรุงโซล ประเทศเกาหลี
“ไป ก่อนน่ะเว้ยยย ไว้เจอกัน” ชายหนุ่มรูปงามสูงประมาณ180เซนติเมตร จมูกโดง หน้ายาวเข็มเห็นได้ชัดอย่างว่าเป็นคนไทยแท้ๆ100% หันไปโบกมือบ๊ายบายญาติและเพื่อนที่สนิทที่อยู่ในคนๆเดียว
“เออ ดูแลตัวเองด้วยน่ะเว้ยไอ้แฮยอน ฉันว่างเมื่อไรแล้วจะรีบบินไปหาถึงไทยเลย ตกลงไหม” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่มีรูปร่างสูงไม่แพ้ไปกับชายหนุ่มแรก
“เออ แกก็ช่วยว่างเร็วๆละกันนะพ่อนักธุระกิจรายใหญ่ยง จุนฮยอง” ชายผู้หล่อเหลาพูดขึ้นพร้อมทำหน้ากระล้อนล้อๆและเดินตรงเข้าไปในนังรอเวลา
เขาเดินตรงเข้าไปที่นังสำหรับคนมาก่อนเวลา ระหว่างนั้นเขานังกินอาหารเล็กๆน้อยๆและหยิบแทบเล็ตขึ้นมาเพื่อดูตารางงานตัวเองในวันข้างหน้า เขาเข้าไปเปิดเมลอ่านและระหว่างนั้นเขาได้พบว่ามีข้อความของมาถึงเขาจากนายปราโมษมือขวาคนสนิทได้ส่งเมลบางอย่างเข้ามาและเขาพบว่าที่โรงแรมได้เกิดปัญหาขึ้น แม่ครัวทำขนมได้เกิดป่วยขึ้นมาเลยต้องไปพักฟื้นที่บ้านเกิดกระทันหันและเขาต้องรับแม่ครัวใหม่เข้า บังเอินโชคดีลูกพี่ลูกน้องของวิทต์ที่เคยทำงานที่ต่างประเทศกลับมาเมืองไทยเพราะแม่ป่วย เธอจึงต้องหางานทำที่นี้ไปพลางๆก่อนเธอจึงมาขอให้วิทต์ช่วย ตอนนี้เราแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยการรับเธอเข้าทำงานไปก่อนผมไม่ทราบว่าคุณธัสจะกลับมาประเทศไทยวันไหนผมจึงตัดสินใจแบบนี้ไปก่อน เธอจะมาร่วมงานกับเราในอีกสองวันข้างหน้า หลังจากที่เขาอ่านข้อความในเมลนั้นจบเข้าก็ตอบกลับทันทีว่า ‘นายทำดีมาก ดีที่ฉันไว้ใจให้นายช่วยดูแล ตอนที่ฉันกำลังจะกลับ คิดว่าน่าจะถึงพร้อมๆกับผู้หญิงคนนั้นงั้นให้เธอรอฉันกลับโรงแรมด้วยเลยก็แล้วกันจะได้ไม่เสียเวลา แล้วสำหรับงานที่เหลือฉันจะกลับไปจัดการเอง’ เขาตอบกับอย่างภูมิใจที่มีคนงานที่ดีและไว้วางใจได้อย่างงี้
เขาปิดแทบเล็ตลงและหันไปดูเวลาพร้อมทำหน้าตาเบื่อกับบรรยากาศ แต่แล้วเขาก็ได้หันไปเจอสวยฝรั่งสวย ขายาวเรียว หุ่นดี โครงหน้าเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก พูดง่ายๆคือสมบูณร์แบบ เขาเดินตรงเข้าไปและทับทายเธอเป็นภาษาอังฤิด
“สวัสดีครับ เออ.... ผมขอนังด้วยคนได้ไหมครับพอดีว่าที่มันเต็ม” เขาถามพร้อมโปรเส่น์ให้เธอ
“ชัวร์” เธอตอบกลับมาพร้อมกับพูดภาษาไทย “แน่นอนค่ะ ฉันพูดภาษาไทยได้” เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะขึ้นเล็กน้อย
“ หึๆๆ ผมนี้มันแย่จัง เจอคนพูดไทยได้ทั้งทีแต่ดันมาพูดอังกฤษด้วยอีกซะงั้น ฮ่าๆๆ” เขาหัวเราะขึ้นและพูดคุยอย่างมีความสุข หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้คุยกันไปคุยกันมาอย่างมีความสุข นี้สิน่ะคือความสุขของผู้ชายอย่างเขา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ