God Problem : หมายถึงรัก
เขียนโดย ก่อนหวาน
วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.08 น.
แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 02.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) พื้นที่ของเรา 2 คน (๑)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงเพลงสวัสดีปีใหม่ที่ผมได้ยินซ้ำๆแบบเดิมทุกปี ผมคงมานั่งคิดว่าทางศิลปินแห่งชาติน่าจะเอา เพลงๆ
นี้มา remix Featuring กับ ไทเทเนี่ยมบ้าง หรือไม่ก็ทำเป็นเพื่อชีวิตไปเลย น่าจะดูมีชีวิตชีวากว่านี้ เปิดไปดูทีวี
ช่องหลักๆก็จะมีดาราชาย-หญิงชื่อดังมากล่าวคำอวยพร ขอให้มีความสุขมากๆ ขอให้ร่ำรวย คิดสิ่งใดสมปราถนา
เหมือนผมเปิดเท๊ปรีเพลย์ปีใหม่เมื่อปีที่แล้วเลย พรุ่งนี้แล้วสินะจะถึงวันที่ 31 ธันวาคม...
เดินไปริมถนนแต่ละบ้านจะติดแผ่นสีเหลืองๆระยิบระยับหน้าบ้าน Happy New Year ต่างๆนานา ลม
หนาวพัดผ่านรอบตัวผมแม้มันจะดูไม่หนาวซักเท่าไหร่ ผมกำลังนั่งกินร้านส้มตำปูร้านเดิมที่เธอพาผมมากิน ผม
กำลังหัดกินส้มตำเพราะเธอชอบกินเผ็ด ส่วนผมนั้นไม่ค่อยถูกกับรสชาตินี้ซักเท่าไหร่ และปัญหาที่ผมพบเจอมาก
เลยก็คือ ข้าวเหนียวติดมือ ทำเอาผมหงุดหงิดอย่างรุนแรง และที่ผ่านเลยไปไม่ได้ก็คือหมูแดดเดียวเคี้ยวยากจาน
นี้ ติดฟันเหลือเกิน แต่เหตุการณ์เหล่านี้กำลังถูกแก้ไขลงทีละนิดๆละมั้ง... ผมไม่ได้เจอกันเธอมาหลายวันแล้ว
ตั้งแต่วันนั้นที่เรานั่งกินส้มตำกัน ผมมีแผนอยู่ในหัวเล็กน้อย
เวลาบ่าย 3 ผมออกจากร้านส้มตำเพื่อกลับไปที่ห้องแล้วจัดกระเป๋าเตรียมตัวไปเที่ยวปีใหม่กับเธอ แต่ผม
ไม่รู้เลยว่าเธอจะตกลงปลงใจไปกับผมหรือเปล่า แต่ผมหวังไว้อย่างนั้นละนะ ผมค่อยๆเดินมาที่หน้าห้องของเธอแล้วบรรจงนิ้วชี้ของผมไปที่กริ่งหน้าห้อง
"น้ำค้างมีผู้ชายมาหา" ผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักมาเปิดประตูแทนที่จะเป็นน้ำค้าง ผมมองกวาดเข้าไปในห้องของ
เธอเพื่อหาน้ำค้าง แล้วเธอก็ปรากฏตัวออกมาให้ผมเห็นในที่สุด เธอมองมาที่ผมขณะเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอ
สะดุดพรมที่อยู่ตรงพื้นของเธอ ทำเอาผมและเพื่อนของเธอยิ้มเล็กน้อย
"พลอย เพื่อนเราเองแต่อย่าจีบนะพลอยเขาชอบทอม" หลังจากที่พลอยเดินเข้าไปข้างในทิ้งให้ผมอยู่กับเธอ 2 คนหน้าประตู
"ใครถาม" สีหน้าที่ดูใสๆเปลี่ยนไปนิดหน่อย
"เข้ามาก่อนสิ" แล้วเธอก็เดินพาผมเข้ามาให้ห้องนั่งเล่นของเธอ ผมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาสีขาวตรงข้ามกับทีวีของเธอ
"ขอตัวกลับก่อนนะ เตรียมของกลับไปหาแม่ที่ลำปางนะ" เสียงของพลอยพูดขึ้นกับน้ำค้างซึ่งเธอกำลังเอาน้ำมาให้ผมดื่ม
"จ๊ะ เดี๋ยวเดินไปส่งนะ" น้ำค้างวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะแล้วเดินไปส่งพลอย
"อยู่คนเดียวได้ใช่มั๊ย" ผมก้มหน้าแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของพลอย
"เขาเป็นเกย์ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" ผมสำลักน้ำ จนทำให้ทั้งสองคนมองมาที่ผม
"งั้นไปก่อนนะ" แล้วพลอยก็เดินออกจากห้องไป
"บางทีเธอก็ไม่น่ารักเอาซะเลยนะ" ผมพูดกับเธอหลังจากที่เธอเดินมานั่งที่เก้าอี้โซฟาตัวเดียวกัน แล้วเธอก็เปิดเพลงขึ้น
"ลมอะไรพัดนายมา จะพาเราไปเที่ยวหรอ"
"แล้วเธอว่างไหมล่ะ?"
"แล้วเห็นว่าชั้นทำอะไรอยู่รึเปล่าละ"
"ไม่เห็นทำอะไรเลย" ผมยิ้มแล้วยืนขึ้นมองมาที่เธอ เธอแหงนหน้าขึ้นมองตามดวงตาของผม
"แล้วนี่เราสองคนรออะไรกัน" เธอยืนขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าประตูห้องนอนเธอ
"รอเธอจัดกระเป๋าไง"
"ชั้นจัดไว้เรียบร้อยแล้วละ" แล้วเธอก็เดินเข้าไปในห้องนอนแล้วออกมาพร้อมกันกระเป๋าใบหนึ่งซึ่งดู
เหมือนไม่ไช่กระเป๋าเดินทาง ทรงกระเป๋าเป็นเหมือนย่ามที่ถักด้วยมือมีลวดลายสะดุดตาเหมาะกับเธอ และชุดเธอ
เข้ากันเหลือเกิน เหมือนกับเธอเตรียมตัวไว้ก่อนล่วงหน้าเลยทีเดียว
"จะไปทะเลกันหรอ"เธอพูดขึ้นหลังจากเราขับรถออกมาได้ซักพักใหญ่ๆ
"ให้ทาย" ในช่วงเทศกาลแบบนี้รถออกต่างจังหวะเยอะมากๆ ที่จุดพักรถมีผู้คนมากมายเนืองแน่นไปด้วย
ลุง พี่ ผ้า น้า อา หลาน เด็กน้อย ห้องน้ำก็เต็ม ผมอั้นอยู่นานกว่าจะได้ปล่อยทุกข์อย่างสบาย
"กินอะไรมั๊ย เดี๋ยวชั้นไปซื้อให้" เธอชะโงกหน้าเข้ามายังห้องน้ำชาย ทำเอาทุกคนในที่นั้นต่างมองเธอ
เป็นตาเดียวกันแล้วมองมาที่ผม ผมตกใจรีบล้างมือล้างหน้าแล้วดึงเธอออกมาจากตรงนั้น
"ยัยโรคจิต เธอนี่นะ น่าเขกกะโหลกจริง"
"ไปเซเว่นกัน" เธอเดินนำผมออกไปยังเซเว่น ผมต้องเดินตามเธอไปเพราะกลัวเราจะพลัดหลงกันเพราะคนที่นี่เยอะมาก
ระหว่างที่เธอกำลังเลือกขนมไปกินบนรถอยู่นั้น ผมแอบมาโทรหาเลขาของพ่อผมเรื่องการเช่าเรือเพื่อออก
ทะเลในเช้าวันพรุ่งนี้ ผมมองนาฬิกาก็เกือบ 5 ทุ่มแล้ว ขับไปถึงที่นั่นน่าจะตี 3 ตี4 ได้แต่ผมคิดว่าจะหาที่พักแถว
นี้ก่อนเพราะผมเริ่มง่วงนอนแล้วละสิ เธอก้อซื้อของเสร็จ ผมไปเห็นกำไลข้อมือที่ทำจากเปลือกหอยอยู่เหลือซึ่ง
มันเหลือคู่สุดท้ายแล้ว ชายแก่ที่ขายกำไลนั้นเดินมาขอร้องให้ผมซื้อ กำไลนั้นเป็นกำไลข้อมือคู่ชายแก่บอกว่า
เหมาะสำหรับคู่รัก เหมาะมากกับการให้เป็นของขวัญวันปีใหม่ เปลือกหอยสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความรักอัน
บริสุทธิ์... ผมซื้อจากแกมา แล้วเดินไปที่รถแต่ผมยังไม่ไห้เธอหรอก
"นี่ก็จะ 5 ทุ่มแล้ว เราหาที่พักแถวๆนี้ก่อนดีใหมเพราะเราเริ่มง่วงแล้ว" ผมขับมาได้ซักพักแล้วชลอหาที่พักว่าง
"ห๊ะ อืออ" เธอตอบด้วยความงัวเงียเพราะเธอหลับไปแล้วถูกปลุกด้วยเสียงของผม
ผมขับวนหาที่พักอยู่ 2-3 รอบไม่มีห้องว่างเลย เพราะช่วงเทศกาลด้วยผมลืมวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้า ลืมไปเสียสนิทเลย
"เอายังไงดีละทีนี้" ผมถามเธอซึ่งนั่งอยู่ในรถแล้วผมกำลังจอดรถยืนดูดบุหรี่อยู่ข้างทาง
"นายนอนเถอะ เดี๋ยวชั้นขับเองชั้นหลับมาเต็มอิ่มแล้วละ"
"ขับได้แน่หรอ" ผมถามเธอ
"แล้วนายบอกได้รึยัง ว่าเราจะไปไหนกัน" ผมทิ้งบุหรี่แล้วเปิดประตูเพื่อขึ้นไปนั่งข้างๆคนขับแล้วเธอขยับไปนั่งฝั่งคนขับ
"ขับตาม GPRS นี่ซะ สิ้นสุดตรงไหนก็จอดตรงนั้นแหละ" ผมชี้ไปที่หน้าจอแผนที่นำทางบนรถผม ขณะที่
เธอขับรถไปเรื่อยๆ ผมมองเธอด้วยความเป็นห่วงอยู่พักหนึ่งแล้วก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีพร้อมกับ
แสงแดดยามเช้าที่แยงตาผมทำให้ผมตื่น กลิ่นของทะเลโชยเข้าจมูกของผม ซึ่งผมไม่ได้ดมกลิ่นนี้มานานแล้ว ผมคิดถึงนายจัง "เจ้าทะเล"
หลังคารถถูกเปิดเอาไว้ผมมองไปรอบๆเพื่อหาเธอ ซึ่งผมเห็นเธอยืนซื้อของอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น ผมมอง
เธอจากเบื้องหลังจากหัวจรดส้นเท้า ผมของเธอที่ไม่ได้ถูกเซตเอาไว้ดูยุ่งเหยิงแต่ยังคงความมีน้ำหนักของเส้นผม
เหมือนกันในโฆษณายาสระผมในทีวี เธอสวยเหมือนนางในวรรณคดีจริงๆนะเนี่ย แม้เธอจะไม่อาบน้ำก็เถอะ ผมหัวเราะในใจ
"น้ำเย็นๆ กินซะสิ เพิ่งตื่นนอนปากคงเหม็นสินะ" หลังจากเธอพูดเสร็จผมรีบกลั้วปากด้วยน้ำทันทีแล้ว
ทดสอบกลิ่นปากของตัวเอง
"มาถึงนานรึยัง" ผมยิงคำถาม
"ตี 3 กว่าๆได้ละมั้งก็ แผนที่มันบอกทางสุดแค่นี้นะ"
"งั้นเอารถไปจอดตรงข้างหน้านั้นนะ แล้วเดินไปที่ท่าเรือกัน" ผมชี้ไปทางที่จอดรถข้างหน้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น
"ทำไมตรงนี้จอดไม่ได้หรอ"
"ดูสีของบาทวิถีสิ สีแดงขาว เขาห้ามจอดรู้ไหม" ผมขี้ไปที่สีบาทวิถี เธอแลบลิ้นให้กับผมแล้วหัวเราะนิดๆ
หลังจากเราสองคนจอดรถเรียบร้อยแล้ว ผมถือย่ามให้เธอซึ่งดูเบาๆแต่หนักเอาการอยู่ ผู้แอบดูข้างในว่าใส่
อะไรไว้แต่ก็โดนเธอโบกหัวไปหลายทีอยู่ที่ไปแอบดูกระเป๋าเธอ ผมคิดว่าเธอคงเป็นคนง่ายๆ สบายๆ มากกว่าการ
ห่วงสวยในการไปเที่ยว แบบนี้แหละผมถึงหลงรักเธอไง
"นายขับเรือเป็นด้วยหรอ" เธอถามผมหลังจากเดินตามผมมายังเรือส่วนตัวที่ผมให้เลขาเตรียมเอาไว้ให้
"เราเกิดที่นี่ โตมากับทะเลต้องขับเป็นสิ" เธอนั่งลงข้างๆคนขับ
"งั้นนายก็ตกปลาเป็นด้วยใช่ไหม"
"พอได้อยู่ เธอชอบตกปลาหรอ"
"ดิฉันไม่ชอบทำบาปหรอกค่ะ" แล้วเธอก็ยื่นหน้าและมือออกไปแตะผิวน้ำทะเลบางๆ ผมมองเธอเป็น ระยะๆเพราะกลัวเธอจะตกเรือเพราะเรือนี่เร็วมาก
"แล้วนายจะพาชั้นไปไหน" ขับไปซักระยะเธอถามขึ้น
"ไม่บอกหรอก ไปถึงก็จะรู้เอง" ผมยิ้มเป็นนัยๆพร้อมเก็บความลับนั้นเอาไว้
--------------------------------ยังไม่จบนะครับ แต่คนพิมพ์ง่วงแล้ว-------------------------------
ต่อจากเมื่อคืน...................................................<<<<<<<<<<<
"พ่อแม่เธอไปไหนหรอ ไม่เคยเห็นเลย" เธอถามขึ้น
"พ่อเป็นนักธุรกิจธรรมดาที่นี่แหละ ส่วนแม่เราเป็นเลขาของพ่อ ทะเลทางโน้นน้ำใสดีไหม" ผมชี้ไปทางซ้ายมือของเธอ เธอชะเง้อคอมอง แล้วเธอก็เอากล้องถ่ายรูปมาถ่ายเก็บไว้
แล้วเรา 2 คนก็มาถึงเกาะแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ออกจากชายฝั่ง ชั่วโมงครึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าระยะทางเท่าไหร่ สมัยผม 13-14ปี ผมชอบออกเรือมาที่เกาะแห่งนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ