Extinction Wars สัญญาครั้งนั้น...จะเริ่มกันเลยไหม
เขียนโดย CyCloEclipse
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13.14 น.
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 11.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เส้นทางที่ไม่ได้เลือกเอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "ฉันจะ...ฆ่านายซะเดี๋ยวนี้เลย"
เธอคนนั้นต้องการจะพูดอะไรกันแน่... สาวน้อยหน้าใสอายุราวๆ16ปีที่เคยมีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสคนนั้น คนที่เมื่อวานนี้ก็ยังคุยกันดีๆอยู่เลย อยู่ดีๆกลับมาบอกว่าจะฆ่าเรา หรือว่าจะ..!
"เป็นคำสั่งสินะ... จากไอ้บ้าที่ก่อวิกฤตการณ์สองอย่างติดๆกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วน่ะ"
สาวน้อยทำหูทวนลมในสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าที่เป็นเป้าหมายในบิงโกบุ๊คพูดออกมา พร้อมกันนั้นเธอก็เปลี่ยนสภาพชุดที่ใส่อยู่เป็นชุดพลาสติกหนาคล้ายเสื้อชูชีพของโหมดต่อสู้ทันที ดูจากชุดที่เธอสวมในโหมดนั้น เธอยังเป็นอควารอยด์ขั้น1อยู่เลยไม่ใช่เหรอ...
"เธอแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้... เธอก็น่าจะรู้นะว่าถ้าเธอสู้กับฉันตอนนี้ละก็---" ฮิซาชิพยายามชี้ให้เห็นถึงผลเสียที่จะตามมา โดยในใจของเขายังมีความหวังว่าจะยังพอมีทางอื่นที่ทำให้เขาไม่ต้องสู้กับเธอ
"รู้อยู่แล้วล่ะน่า!! แต่มันเป็นคำสั่งของนายเหนือหัว...ฉันขัดขืนไม่ได้หรอก!!!"
สคริวล่าตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที เหตุการณ์ทั้งหมดนี้นอนใจได้เลยว่าจะไม่มีใครรู้เห็นได้แน่ๆเพราะเธอพาฮิซาชิมายังบริเวณที่รกร้างห่างไกลผู้คน ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าพวกเธอกำลังต่อสู้กันอยู่แน่...
และจะไม่มีใครรู้ด้วยว่าซ้ำพวกเขาอยู่ที่นี่...
"เอาล่ะ... อย่าว่ากันเลยนะที่ฉันจะออมมือ ฉันไม่อยากทำร้ายน้องสาวของยัยมิคาสะ..."
ทันทีที่ฮิซาชิพูดจบ สคริวล่าก็พุ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว เธอเคลื่อนไหวเร็วกว่ามิคาสะในร่างอควารอยด์ขั้น3เสียอีกทำให้ฮิซาชิต้องรีบยกแขนขึ้นมาในท่าต่อสู้อย่างรวดเร็วเพื่อจับจังหวะออกหมัดของเธอ สคริวล่าปล่อยหมัดใส่การ์ดของฮิซาชิที่ยกขึ้นมากันไว้อย่างสุดกำลังไปหมัดหนึ่ง แต่ทันทีที่หมัดของเธอแตะแขนของฮิซาชิ ลำแขนที่ตั้งขนานกับลำตัวของฮิซาชิก็กระจายไปด้านหลังทันที...
ตึง..!
"นี่มัน...หนักกว่าหมัดของยัยมิคาสะอีกนี่นา!!"
ฮิซาชิได้แต่ตะลึงกับความสามารถที่เกินกว่าขั้นแรกของอควารอยด์ของสคริวล่า แต่ในจังหวะนั้นสคริวล่าก็ระดมหมัดใส่เป็นปืนกลจนฮิซาชิไม่มีเวลามาคิดอะไรอื่นนอกจากจดจ่อกับหมัดชุดของเธออีกแล้ว
"อย่าเอาฉันไปเทียบกับอควารอยด์ขั้นแรกที่เห็นกันดาษๆอย่างนั้นสิ!"
สคริวล่าได้โอกาสบินข้ามศรีษะฮิซาชิไป ก่อนจะระดมยิงอาร์เทมิสเข้ากลางหลังของเขาอย่างแม่นยำ ฮิซาชิโดนแรงระเบิดจากอาร์เทมิสเข้าไปเต็มๆ เขากระเด็นออกไปด้วยแรงระเบิดที่รุนแรงมากจนลอยไปกระแทกก้อนหินใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนับสิบเมตรอย่างแรงจนก้อนหินที่แข็งมากก้อนนั้นถึงกับร้าวเลยทีเดียว...
"สคริวล่า..! ทำไมเธอถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ล่ะ!! ทั้งๆที่ยูนะยังอ่อนแอกว่านี้ตั้งไม่รู้กี่เท่า!!"
ฮิซาชิตะโกนเค้นความจริงจากปากสคริวล่า เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้เป็นอควารอยด์ขั้น3อย่างมิคาสะ เธอยังสามารถทำได้แค่ต่อสู้และมีระดับพลังที่สูสีกับเขาในร่างมนุษย์ปกติเท่านั้น แต่สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้านั้นกลับแข็งแกร่งในระดับที่สามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม ซ้ำยังดูเหมือนว่าเธอยังคงเก็บลูกเล่นเอาไว้อีกมากด้วย...
"อย่าพูดชื่อนั้นให้ฉันได้ยิน! ไอ้มนุษย์!!" เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ดูเหมือนความสัมพันธ์ของแฝดคู่นี้จะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่...
"ทำไมกันล่ะ!! ยูนะเป็นฝาแฝดของเธอไม่ใช่เหรอ!! พวกเธอมีความแค้นอะไรกันแน่!!!"
ฮิซาชิไม่พอใจกับท่าทีที่เหมือนกับเกลียดชังพี่น้องร่วมสายเลือดของสคริวล่าเป็นอย่างมาก เขาจึงตะโกนถามเธอด้วยเสียงอันดังก้องด้วยความหงุดหงิดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
"ก็เพราะยัยนั่นมันอ่อนแอไงล่ะ!!!"
ท่าทีสคริวล่าเปลี่ยนไป แววตาของเธอในตอนนี้นั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความเกลียดชังอย่างเหลือคณานับ ความเกลียดชังที่เธอมีในตอนนี้นั้นเรียกได้ว่าเธอจะไม่ยอมปล่อยวางมันลงแน่...ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม
"ฉันก็พอรู้ว่ายัยนั่นเป็นอควารอยด์สายตรวจจับและสังเกตการณ์... ที่ยัยนั่นอ่อนแอกว่าseiriคนอื่นๆก็เพราะยัยนั่นไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้นี่นา!!"
"ฉันเองก็ไม่ได้ถูกสร้างเพื่อต่อสู้เหมือนกัน!!!" สคริวล่าแผดเสียงที่ราวกับเคียดแค้นทั้งผู้ที่เธอพูดถึง และผู้ที่กำลังพูดอยู่ด้วย...
"หมายความว่ายังไง..." ฮิซาชิเริ่มพูดเสียงค่อยลง เขาเริ่มรู้สึกสงสัยกับคำพูดเมื่อครู่ของเธอขึ้นมาแล้ว
"ฉันน่ะ...เป็นอควารอยด์สายการรักษาต่างหาก!"
ได้ยินดังนั้นฮิซาชิก็นิ่งไป ถ้าที่เธอพูดมาเป็นความจริงละก็...นายเหนือหัวอะไรนั่นก็ใช้เธอผิดวัตถุประสงค์แล้วล่ะ!
"นายเหนือหัวเก็บฉันมาตอนที่ฉันเสียท่าโดนควันหลงจากสงครามล้างพันธุ์เมื่อ16ปีก่อน ตอนนั้นฉันถูกเล่นงานปางตาย... แต่ตอนนั้นได้นายเหนือหัวมาช่วยไว้ทันก่อนที่ฉันจะถูกเล่นงานจนใช้การไม่ได้อีกเลย นายลองคิดดูสิ...ว่าใครเล่นงานฉัน"
ฮิซาชิใช้ความคิดอยู่พอสมควร ก่อนที่เขาจะเผลอได้คำตอบที่น่ากลัวมากผุดขึ้นมา... ทั้งที่เรื่องแบบนั้นมันไม่น่าเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ
"เธอ... อย่าบอกนะว่า!" ฮิซาชิที่ไม่ค่อยมั่นใจในคำตอบที่ได้มาหมาดๆพูดด้วยเสียงที่เหมือนกับคนที่หวาดวิตกจนหายใจได้ไม่ทั่วปอด
"ใช่! คนๆนั้นก็คือ..."
ฮิซาชิกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เขาได้แต่หวังว่าสิ่งที่เขาคิดจะผิด... แต่มันก็กลายเป็นคำตอบที่ถูกไปซะแล้ว
"เทอร์รารอยด์ตัวสุดท้าย... ฮิโรโตะไงล่ะ!"
ฮิซาชิได้แต่อึ้งอยู่กับที่เมื่อได้ยินคำตอบกับหูตัวเอง...
ใช่! เขาคิดไว้แล้วว่าคนที่สคริวล่าจะพูดถึงนั้นต้องเป็นฮิโรโตะอย่างแน่นอน... แต่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย ทั้งสองคนนี้มาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง...
"ตอนนั้นนายเหนือหัวเก็บฉันมารักษาแผลให้แล้วฝึกการต่อสู้ให้ฉันจนแข็งแกร่งขึ้น จนเมื่อ7ปีที่แล้ว... ตอนที่รู้ว่าพวกนายจัดการเจ้าฮิโรโตะนั่นได้ ฉันก็รู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ แต่แล้ว..!"
ฮิซาชิรู้สึกได้ว่าสคริวล่าเร่งพลังในตัวสูงขึ้น เขาจึงเตรียมจะเอาจริง!
"พวกนายกลับปล่อยให้ร่างที่สองของหมอนั่นรอด แถมยังตั้งชื่อให้ว่า'ฮิโรมิ'อีกด้วย! เรื่องแบบนี้น่ะจะให้ยอมรับง่ายๆได้ไงกัน!!"
สคริวล่าเตรียมจะพุ่งเข้ามาจู่โจมเขาอย่างโกรธแค้น ฮิซาชิจึงเตรียมแปลงเป็นโคโรน่าโหมดทันที...
"ฉันก็ไม่มีวันยอมรับเหมือนกัน! ว่าน้องสาวของตัวเองจะตกต่ำไปได้ขนาดนี้!!"
เสียงผู้หญิงที่ดังขึ้นมาข้างๆพวกเขาทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง เจ้าของเสียงค่อยๆเดินเข้ามาหาสคริวล่าอย่างช้าๆ
"พี่มิคาสะ..." สคริวล่าเห็นปีกของมิคาสะถูกหุ้มด้วยแสงสีฟ้าอ่อน รวมทั้งน้ำเสียงแข็งๆของเธอเมื่อครู่นี้ ไม่ผิดแน่...
เธอเอาจริง!! มิคาสะตั้งใจที่จะจบชีวิตของน้องสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอจริงๆ
"เธอลืมเป้าหมายหลักของการที่พวกเราถือกำเนิดขึ้นมาไปแล้วหรือไง..! สคริวล่า!!"
มิคาสะเร่งพลังขึ้นสูงมาก จนบรรยากาศรอบข้างหนักอึ้งไปหมด เหมือนกับเธอจะฆ่าน้องสาวของตัวเองจริงๆ... ความรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีที่บังเกิดขึ้นในใจของฮิซาชิเมื่อได้เห็นดวงตาที่จ้องไปยังสคริวล่าราวกับกำลังมองดูฮิโรโตะหรืออาคาริในสมัยก่อนนั้นทำให้เขาจำเป็นต้องเข้าไปแทรกระหว่างคู่พิพากษ์นี้
"เธอจะบ้ารึไง! นี่เธอคิดจะฆ่าน้องสาวแท้ๆของเธอได้ลงคอเลยเหรอ!!"
"ก็ยัยนี่คิดจะเป็นปฏิปักษ์กับมนุษย์ไม่ใช่เหรอ... รีบจัดการซะก่อนจะก่อปัญหาจะดีกว่า!"
สีหน้ามิคาสะนิ่งมาก แววตาของเธอเหมือนกับจะทำอย่างที่พูดจริงๆ ซึ่งนั่นทำให้ฮิซาชิเริ่มไม่สบอารมณ์กับท่าทีที่นิ่งเฉยของมิคาสะเป็นอย่างมาก เขาจึงเดินไปขวางหน้าระหว่างทั้งสองคนเอาไว้ พร้อมกันนั้นก็เอ่ยคำพูดที่แสดงถึงเจตนาและความตั้งใจจริงของเขาออกมาให้สองสาวได้ยินชัดๆ
"ถ้าเธอทำอย่างที่เธอพูดจริงๆ..! ถ้าเธอฆ่าสคริวล่าจริงๆละก็...ฉันจะฆ่าเธอด้วย!!"
น้ำเสียงที่อัดแน่นไปด้วยความจริงจังของฮิซาชินั้นทำให้มิคาสะอึ้งไปชั่วขณะ ในตอนนี้ฮิซาชิแปลงเข้าสู่โคโรน่าโหมดเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ฮิซาชิไม่สนใจแล้วว่ากำลังหันหลังให้ใคร...หรือแม้แต่คนที่เขากำลังปกป้องอยู่นั้นเป็นใคร
"ทำไมกันล่ะ... สคริวล่าเป็นศัตรูของมนุษย์อย่างนายไม่ใช่เหรอ... ทำไมนายต้องปกป้องยัยนี่ด้วย!!"
"ก็เหมือนกับที่ฉันไม่ฆ่าเธอเมื่อ2ปีก่อนนั่นแหละ!ฉันว่าตอนนั้นฉันก็พูดออกมาให้เธอได้ยินชัดเจนแล้วนี่"
ฮิซาชิพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มิคาสะรู้ได้ทันทีว่าถ้าเธอลงมือกับสคริวล่าละก็... ฮิซาชิจะลงมือกับเธอตามไปด้วยแน่ๆ
"ฉันน่ะ...ไม่นับคนที่ยิ้มด้วยกัน...หัวเราะด้วยกันเป็นศัตรูหรอกนะ!"
ได้ยินดังนั้น มิคาสะก็ต้องยอมลดมือลงทันที ไม่ใช่เพราะกลัวในพลังที่เหนือกว่าของฮิซาชิ... หรือเพราะความใจอ่อนที่มีต่อน้องสาวของตนเอง
"นายเนี่ยไม่เปลี่ยนไปเลยนะ... เอาสิ! ตอนนี้ฉันจะไม่ฆ่าสคริวล่า... แต่ถ้ายัยนั่นยังตั้งใจที่จะทำร้ายเพื่อนของฉันอยู่อีกละก็ ฉันไม่ปล่อยยัยนี่ไว้แน่!!"
เพราะรู้ดีว่ายังไงฮิซาชิก็ไม่มีวันทำร้ายสคริวล่าเป็นแน่ มิคาสะจึงหันหลังบินออกไปด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่... หากแต่ใบหน้าของเธอนั้นกลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
"ทีนี้ถึงตาเธอแล้วล่ะ..! สคริวล่า!!"
เขาหันกลับไปหาสาวน้อยที่มองแผ่นหลังของเขาอย่างไม่ละสายตาทันทีที่มิคาสะบินออกไปไกลจนสุดสายตา สาวน้อยยังคงอึ้งกับสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อครู่
"เธอยังคิดจะทำตามคำสั่งนั่นอยู่อีกไหม..." ฮิซาชิมองสคริวล่าซึ่งกำลังสับสนในสิ่งที่มนุษย์ตรงหน้าเธอพูดออกมาด้วยสายตาที่...
"นะ...แน่นอนสิ! เพราะเป็นคำสั่งของนายเหนือหัวที่ช่วยชีวิตฉันไว้นี่นา!!"
สคริวล่าเตรียมจะพุ่งเข้าหาฮิซาชิทันทีโดยไม่สนว่าฮิซาชิในโคโรน่าโหมดจะแข็งแกร่งกว่าเธอสักเท่าไหร่ก็ตาม...
"งั้นถ้าเขาสั่งให้เธอฆ่าพี่สาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอ... เธอจะทำหรือเปล่า!"
ได้ยินดังนั้น สคริวล่าก็อึ้งไป... เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย ทั้งๆที่มันก็สามารถเป็นไปได้ที่เจ้านายของเธอที่ปรารถนาจะกระทำการอะไรบางอย่างที่ต้องแลกด้วยชีวิตของลูกน้องตนเองและทุกชีวิตบนโลกจะสั่งให้เธอทำเหมือนกัน...
แต่สิ่งที่ทำให้สาวน้อยคนนั้นรู้สึกประหลาดใจก็คือ... ท่าทีของฮิซาชิที่ไม่มีความจงเกลียดจงชังต่อศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเลย แม้ว่าเธอจะลงมือทำร้ายเขาไปชุดหนึ่งแล้วก็ตาม
"แล้วที่เธอบอกว่าเกลียดยูนะเพราะยัยนั่นอ่อนแอน่ะ... เธอพูดจริงงั้นเหรอ..."
"หนวกหู!!!" สคริวล่าเอามือปิดหูเอาไว้ เหมือนเธอไม่อยากได้ยินคำพูดของเป้าหมายของเธอเลย
"ในโลกนี้น่ะ..! ผู้อ่อนแอก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่!! เหมือนกับพวกมนุษย์ที่ไร้พลังทั้งหมดนั่นแหละ!!!"
"ถึงมนุษย์จะอ่อนแอ...แต่พวกนั้นก็มีอิสระ ไม่เหมือนกับผู้แข็งแกร่งที่ได้แต่ฟังคำสั่งของผู้อื่นอย่างเธอ..."
"ว่าไงนะ!! การได้ทำตามคำสั่งของนายเหนือหัว...คือความภาคภูมิใจที่สุดของฉัน!!!"
สคริวล่ารู้สึกได้ถึงอีกความรู้สึกหนึ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เป็นความรู้สึกที่ทำให้หัวใจของเธอเจ็บปวดมาก
"อะไรกันเล่า!! อย่ามาทำสายตาสงสารนักจะได้ไหม!!!"
สคริวล่าเห็นฮิซาชิมองมายังเธอด้วยสายตาที่เหมือนกับคนที่มองไปยังขอทานแก่ๆริมถนน เป็นสายตาที่ระคนไปด้วยความรู้สึกสงสารและสมเพชปะปนกันจนเอาแน่เอานอนไม่ได้
"นั่นคือสิ่งที่เธอตัดสินใจทำด้วยตัวเองงั้นเหรอ... ทั้งหมดที่เธอทำนั่นน่ะ...คือสิ่งที่เธออยากจะทำจริงๆเหรอ..."
ฮิซาชิยังคงมองเธอด้วยสายตาแบบนั้นต่อไป ทำให้สคริวล่าไม่สบายใจอย่างมาก
"ก็ฉันบอกไปแล้วไงว่านั่นมัน..!!!"
"เธอก็คิดเอาเองสิ!! เธอน่ะอยากจะทำอะไรที่สุด..! ลองนึกดูสิ!!"
ทั้งสองคนยังคงอยู่ตรงนั้นจนพระอาทิตย์ตกดิน สคริวล่าจึงกางปีกบินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ โดยทิ้งเป้าหมายที่เธอควรจะจัดการไปตั้งแต่แรกแล้วให้เงยหน้าขึ้นมามองเธออยู่กับพื้น
"จริงๆแล้วเราอยากทำอะไรงั้นเหรอ... เจ้านั่น..! เป็นแค่มนุษย์แท้ๆทำมาปากดีนักนะ!!"
หลังจากที่ได้โต้เถียงกับชายหนุ่มที่เธอน่าจะฆ่าทิ้งไปตั้งนานจนเกินพอดีแล้ว สคริวล่าก็ยังคงคิดจะทำภารกิจต่อจนกว่าจะลุล่วง แต่ในใจเธอตอนนี้เหมือนมีอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาคอยฉุดรั้งเธอไว้
"ก็เราอยากจะทำอะไร...เรายังไม่รู้เลย"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ