กว่าจะเป็นเด็กเดินเรือ

-

เขียนโดย ซุอิกะ

วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 06.25 น.

  1 ตอน
  3 วิจารณ์
  3,335 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 07.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ม.ปลาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    ผมนะ เป็นลูกคนโต มีน้องหนึ่งคนชื่อส้มโอ หัวปีท้ายปี พ่อรับราชการทหาร แม่รับราชการครู อยู่ในตะกูลข้าราชการ แต่ผมสิ อายุ18ปีแล้ว เรียนสายวิทย์ ตอนนั้นคิดว่าอยากเป็นวิศวะ วิศวะอะไรก็ได้ เพราะไม่รู้จะเป็นอะไรดี เป็นครูก็กลัวจะสอนคนไม่เป็น เป็นหมอก็หัวไม่ถึง ผมนะ เรียนอยู่ในห้องคิง คือห้องที่เก่งที่สุดในโรงเรียน แต่ก็นะ ไม่ได้เก่งอะไรหรอก เพราะป้าผมเป็นอาจารย์อยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ป้าผมเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ที่เก่งคนหนึ่งเลย มีอะไรสอนผมตั่งแต่เล็กๆ เรื่องคำนวนอ่ะ ไม่ได้กินผมหรอก ผมชอบคำนวน ชอบวิชาฟิสิก แต่ไม่ชอบวิชาเคมี เพราะผมไม่ชอบเรื่องท่องจำเท่าไร เป็นคนหัวไม่ดีเรื่องนี้มาตลอด เพราะเชื่อในพลังการคำนวนตัวเลขมากกว่าเพราะถ้าเป็นตัวเลข เราสามารถแก้สมาการหาคำตอบได้เลย แต่เคมีผมต้องอ่านหนังสือและจำตารางธาตุต่างๆ คือมันไม่ใช่แนวผม เคมีมันเป็นวิชาที่ผมได้เกรด2ตลอด ไม่เคยเกินนั้น แต่เกรดเฉลื่ยรวมผมก็ได้ 3.50 ขึ้นนะ แต่วิชาเคมี ผมเอามันไม่ลงจริงๆ พอก่อนจะจบปลายภาค เข้าสู่การสอบแอดมิดชั่น ผมยังเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเรียนคณะอะไร เพราะสายนี้ถ้าจะเอาดี ก็เป็นวิศวะ ไม่ก็เรียนพวกสายที่เกี่ยวกับวิทย์ไปเลย ดูมันจะหรูหรามากกับนักเรียนที่จบม.ปลายสายวิทย์ ยิ่งสอบติดจุฬาฯได้นะ จะฮอตที่สุดในโรงเรียนก็ว่าได้ ผมนะเลือกไว้แล้ว4คณะในดวงใจ1.วิศวะคอมฟิวเตอร์ 2.วิศวะไฟฟฟ้า 3.เทคโนโลยีสาระสนเทศและการสื่อสาร 4.วิทยาศาสตร์การกีฬา แล้วรอผมสอบแอดมิดชั้น มันเป็นการรอคอยที่แสนจะทรมานเลยแหละ พ่อหวังไว้สูง ถ้าไม่ได้1ใน2คณะแรกจะไม่ให้เรียน จะให้ไปเรียนพานิชย์นาวีแทน ห๊ะ!มันคือคณะอะไรว่ะ คือผมคิดในใน เพราะมันไม่มีในคณะที่จะลงในแอดมิดชั่น ผมสงสัย แต่เก็บเงียบไว้รอ ผลแอดมิดชั่น ช่วงนั้นผมก็เรียนที่โรงเรียนปรกติ เพราะยังไม่จบปลายภาค เรียนไปเล่นไป เพราะจะจบแล้ว เฮฮากับเพื่อนก่อนที่จะแยกย้ายไปเรียนตามที่ต่างๆ พอแอดมิดชั่นออกเท่านั้นแหละ ผมติดคณะที่3กับคณะที่4 ผมแทบใจสลายเพราะอันดับแรกๆที่ผมเลือกไป ไม่คิดว่าจะมีคนแย่งกันขนาดนี้ สุดท้ายก็เสียใจที่สุดในชีวิต ถ้าไปเรียนคณะที่3ก็จะได้เรียนใกล้บ้าน แต่เป็นมหาลัยที่ไม่ดังเท่าไร เพราะผมเป็นคนคิดไว้ไกลมาก แต่ถ้าเอาคณะที่4จะได้เรียนที่มหาลัยที่มีชื่อเสียงในภาคเหนือ ผมนะ เศร้าใจอยู่นาน เพราะอายตอนที่ต้องขึ้นไปรับดอกกุหลาบบนเวที ยิ่งจำนวนคนที่ได้ดอกมาคือคนที่ติดหลายคณะ แถมตอนขึ้นไปนะ เขาประกาศขณะที่ได้และชื่อมหาลัยด้วย ผมแทบจะไม่อยากมาเลยวันนั้น รุ่นน้องนั้งเข้าแถวดูกันเยอะมาก ทุกๆชั้น ต้องแต่ม.1-5 แต่จะมีพวกเพื่อนที่ไม่ได้รับดอกไม้ก็มี ต่างพากันจับกลุ่มหลังเวที เพื่อปลอบใจกัน ผมก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ถึงจะได้ดอกไม้ แต่ใจก็คิดว่าอย่าขึ้นไปดีกว่า อาจารย์มาถามก็บอกไปว่ารอสอบตรง ช่วงนั้นฟังเสียงอาจารย์ขานชื่อนักเรียนให้ออกไปบนเวที เพื่อไปรับดอกไม้นะ โหย มันช่างเป็นเวลาที่อับประยศสำหรับผมเลย. เรียนห้องคิง แต่ไม่ได้ออกไป พอเพื่อนขึ้นไปรับดอกไม้กัน ต่างพากันยิ้มแย้มแจ่มใส พอขานถึงเพื่อนบางคนติดจุฬาฯ เฮกันทั้งโรงเรียน ผมคิดแล้วอายๆยังไงไม่รู้ พอหลังวันนั้นผมก็ไปสอบพานิชย์นาวี ที่สมุทรปราการ ให้พ่อ แต่ผมก็ไปสมัครวิศวะโยธา ม.ขอนแก่นไว้ด้วย รับตรง แต่ต้องสอบกับพวกที่เก็บตกมาจากแอดมิดชั่นอีก ดูรายชื่อประมาณ 1000กว่าคน.  เอา175 คน ผมนี่เคลียดใหญ่  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา