Hexe

9.4

เขียนโดย Ejichiki

วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.28 น.

  5 บทที่
  2 วิจารณ์
  8,811 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 12.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ผู้สืบทอด ( Part 1 )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        หนังสือเล่มหนายังถูกเปิดอ่านต่อเนื่องเรื่อยไปไม่มีท่าทีใดๆแสดงออกว่าจะหยุด หญิงสาวผู้มีดวงตาสีครามยังคงจับจ้องตัวหนังสือที่ผุดขึ้นมาด้วยความเร็วคงที่อย่างแน่วแน่ เก้าอี้โยกของเธอคงต้องร้องให้เมื่อมันไม่ได้ทำหน้าที่ที่มันควรจะทำ เพราะสิ่งที่หญิงสาวทำคือนั่งนิ่งบนตัวมัน ไม่มีเสียงโยกเก้าอี้ดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมาแม้แต่น้อย มีเพียงความสงบเงียบเท่านั้น ที่แผ่ปกคลุมไปทั่วห้องหนังสือแห่งนี้

       และหากจะมีเสียงจริงๆ คงมีแค่เสียงกระดาษหน้าใหม่เท่านั้น ที่ดังขึ้นมาเป็นระยะๆด้วยการลูบหน้ากระดาษเบาๆของหญิงสาว  

       ดวงไฟดวงน้อยที่ล่องลอยอยู่บนโต๊ะวางแจกันเริ่มริบหรี่ลงกว่าตอนแรกเริ่ม ด้วยตัวของมันนั้น ล่องลอยอยู่ที่เดิมเป็นระยะเวลานานเท่าใดแล้วก็ไม่อาจทราบได้ หากแต่แค่นั้นมันยังไม่ใช่เหตุผลให้หญิงสาวผู้นี้ต้องหยุดการกระทำของตัวเองลง

       บางที...

       แม้แสงไฟจะดับลงไปจริงๆ ก็คงไม่อาจทำให้เธอหยุดอ่านหนังสือได้กระมัง

 

****************************************************  

 

       อิกซ์เตรีย   -  สะพานสายรุ้ง

 

       ถนนสีขาวระยิบระยับด้วยอัญมณีหลากสีสันที่เกาะตามตัวถนนทั้งแดง ขาว น้ำเงิน ดำ หรือสีอื่นๆที่มนุษย์รู้จักและที่มนุษย์ไม่รู้จัก มันเป็นถนนเส้นตรง ทอดตัวยาวไปจนสุดปลายสายตา ดั่งไม่มีที่สิ้นสุด และหญิงสาวสองคนกับเด็กผู้หญิงอีกหนึ่งคนกำลังเดินทอดน่องอยู่บนนั้น

       เป็นเวลานานมากแล้ว ที่ทั้งสามเดินตามเส้นทางนี้มา นับตั้งแต่ทางเข้าที่ต้องฝ่าดงหมอกหนาทึบ การตรวจสอบเวทย์มนต์ จนถึงวงเวทย์ 7 ชั้นที่กางขวางทางเข้าชั้นในสุดเอาไว้ ซึ่งแต่ละขั้นตอนช่างรัดกุมสำหรับคนที่คิดจะบุกเข้าไป แต่หากเป็นแม่มดนั้น การเข้ามาเดินบนถนนเส้นนี้ช่างง่ายดายนัก

       .

       ใช่ !! เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น !?

       กาลเวลาล่วงเลยผ่านโดยไม่มีหยุดพัก ไม่มีคำว่าเหน็ดเหนื่อย จากรุ่งสางเป็นเช้า จากเช้าเป็นเย็น จากเย็นเป็นค่ำมืด แต่กระนั้น การเดินทางของทั้งสามก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุดหย่อน เส้นทางสุดสายตายังคงทอดยาวต่อไปในระยะทางเท่าเดิม หากแต่ความมืดของกลางคืน กลับไม่สามารถกลืนกินแสงที่ส่องประกายออกมาจากอัญมณีได้เลย

       กลับกัน..

       แสงที่ว่านั้นกลับส่องสว่างจ้ายิ่งกว่ากลางวันซะอีก

       " เหนื่อยรึปล่าวจ๊ะ คุณหนู ? " เซราฟีมเอ่ยถามเด็กผู้หญิงที่เดินมาด้วยกันด้วยความห่วงใย

       เด็กสาวไม่ตอบคำถามของเซราฟีม เธอเพียงเงยหน้าขึ้นมองเซราฟีม แล้วส่ายหน้าแทนคำตอบ และเซราฟีมเอง ก็ยิ้มให้เด็กหญิงแทนคำว่าเข้าใจ

       บางครั้ง ..การเดินทางของแม่มดก็เป็นเรื่องน่าเบื่อ และครั้งนี้ก็เช่นกัน

       สำหรับเซราฟีม การเดินทางครั้งนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆครั้งที่เคยผ่านมา เธอไม่ได้รู้สึกเบื่อหรือท้อแท้อะไรในการมายังที่แห่งนี้ ต่างจากเชอร์วูดที่หน้านิ่วมาตั้งแต่เริ่มการเดินทาง

       อย่างที่รู้กันมาตั้งแต่ก่อนหน้า ว่าแม่มดขาวเชอร์วูดกับแม่มดแดงเซราฟีมนั้น ได้รับปากข้อความจากแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งในตอนนี้เธอทั้งสองก็กำลังทำตามสัญญาดังกล่าว แต่สำหรับแม่มดขาวนั้น เธอไม่ถูกชะตากับการต้องเข้าไปอิกซ์เตรียมากนัก

       หากเธอเลือกได้ เธอคงเลือกรออยู่ด้านนอกปล่อยให้เซราฟีมกับเด็กหญิงเข้าไปกันสองคนแล้ว

       ถ้าไม่ติดว่าการพาคนนอกที่ยังไม่ได้รับการฝึกสอนหรือรับรู้ว่าเป็นแม่มดเข้าไปในอิกซ์เตรียนั้น ต้องใช้แม่มดสองคนขึ้นไปเพื่อยืนยันตัวตนน่ะนะ

 

       ดวงดาวพร่างฟ้าเริ่มร่วงหล่น

       จากหนึ่งดวงกลายเป็นสอง จากสองเป็นสี่ แล้วจากนั้นก็ร่วงหล่นตามติดกันเป็นพรวนกลายเป็นฝนดาวตกทั่วท้องฟ้า ปรากฏการธรรมชาติที่สวยงามและหาดูไม่ง่ายกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเธอทั้งสาม หากมีเพียงเด็กหญิงเท่านั้น ที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

       " เอาล่ะ "

       เซราฟีมเอื้อนเอ่ยเบาๆ พลัน!!? โน้ตท่วงทำนองสีแดงพลันปรากฏออกมาทั่วบริเวณ มันล่องลอยไปบนอากาศชั่วครู่ หลังจากนั้น สะพานอัญมณีก็เปล่งแสงสว่างไสวมากกว่าที่เคย ประกายแสงหิ่งห้อยที่กักเก็บอยู่ในตัวอัญมณีก็พลันหลุดออกมาล่องลอยราวกับตอบสนองกับตัวโน๊ตของเซราฟีม ดั่งหิ่งห้อยตัวน้อยกำลังเล่นกับเปลวไฟร้อนแรง

       ..แล้วทุกอย่างก็พลันเปลี่ยนไป

       ตัวสะพานอัญมณีเริ่มจะบิดเบี้ยวดุจดินน้ำมันหลากสีถูกบดเข้าด้วยกัน เป็นภาพที่ชวนมึนตาแต่มันก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะแค่ชั่วครู่ ภาพนั้นก็หายไป

       กลับกลายเป็นประตูไม้บานใหญ่ตั้งตระหง่านตรงหน้าแทน

       " เรามาถึงแล้วจ๊ะ " เซราฟีมยิ้ม

       " ยินดีต้อนรับ สู่อิกซ์เตรีย "

       ประตูถูกผลักให้เปิดด้วยมือของเชอร์วูด แสงสว่างจ้าลอดผ่านใจกลางประตูทำให้เด็กหญิงต้องหรี่ตาเพื่อให้ชินกับแสงหลังจากเดินทางผ่านความมืดของกลางคืนมานาน และเมื่อประตูถูกเปิดออกเต็มที่

       เด็กหญิงกลับตัวสั่นเทิ้มด้วยความปิติยิ่ง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอกำลังจะเหยียบย่างเข้าสู่ดินแดนของแม่มด ดินแดนที่กิลเกียนู อาจารย์ของเธอต้องการให้เธอเหยียบย่างเข้ามาเมื่อแสนนานมาแล้ว

       อิกซ์เตรีย !!

****************************************************

       อิกซ์เตรียนั้น เป็นดินแดนที่ประกอบไปด้วยป่าประมาณ 70% ของพื้นที่ เพราะพื้นฐานแม่มดนั้นใช้พลังธรรมชาติ การเข้าถึงธรรมชาติจึงเป็นสิ่งแรกๆที่แม่มดควรกระทำ รอบนอกของอิกซ์เตรียนั้นมีกระท่อมมากมายตั้งอยู่ มีทั้งมีเจ้าของและไม่มีเจ้าของเพื่อให้เหล่าแม่มดที่แวะเวียนเข้ามาที่นี่ได้พักพิง ใจกลางของอิกซ์เตรียเป็นปราสาทยุโรปสมัยกลางที่ถูกทิ้งให้ร้างมาหลายร้อยปี แม้จะดูทรุดโทรมหากแต่ภายในนั้นต่างกับภายนอกโดยสิ้นเชิง

       เพราะเหล่าแม่มดอาวุโสทั้งหลายอาศัยสถานที่แห่งนี้เป็นที่พบปะสังสรรค์กันเป็นประจำ

อิกซ์เตรียยังเป็นสถานที่รวมตัวของแม่มดฝ่ายตะวันออก เป็นที่รวมตัวของแม่มดที่เป็นกลางไม่ขึ้นกับฝ่ายใดทั้งเหนือใต้ อีกทั้งยังเป็นสถานที่แรกเริ่มสำหรับเหล่าแม่มดฝึกหัดที่ถูกเหล่าอาจารย์ทั้งหลายส่งเข้ามาเรียนรู้เวทย์มนต์ ก่อนจะกลับไปเรียนรู้กับอาจารย์ของตนอีกครั้ง

       มันจึงเป็นสถานที่ๆได้รับความคุ้มครองจากแม่มดทั้งมวลไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน เพราะขนาดแม่มดฝ่ายเหนือที่ถูกมองว่าเป็นตัวร้ายยังต้องส่งแม่มดฝึกหัดของตนมาที่นี่เพื่อเรียนรื้นฐานก่อน การคุ้มครองอิกซ์เตรีย จึงเป็นหน้าที่ของแม่มดทุกฝ่ายทุกคน ฉะนั้น การที่อิกซ์เตรียมีการเข้า-ออกที่เข้มงวดยุ่งยากจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลก และครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่ อิกซ์เตรีย จะต้องต้อนรับแม่มดฝึกหัด

       มิหนำซ้ำ..

       ยังเป็นศิษย์เอกเพียงหนึ่งเดียวของแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ กิลเกียนู อนันตกาลลำดับหนึ่งแห่งฝ่ายเหนืออีกด้วย

       " เซราฟีม เจ้าพาศิษย์ของท่านกิลเกียนูไปนะ "

       " อีกแล้วเหรอจ๊ะ ? "

       " อืม เจ้าก็รู้ว่าชั้นไม่ชอบอยู่ต่อหน้าพวกแม่มดอาวุโสเท่าไหร่ พวกนั้นน่ารำคาญจะตาย "

       เชอร์วูดถึงกับหน้ามุ่ยเมื่อเอ่ยถึงเหล่าแม่มดอาวุโสทั้งหลายทั้งปวง เซราฟีมอดยิ้มน้อยๆไม่ได้เลย เมื่อเธอเห็นคนที่มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่เกือบตลอดเวลาที่พบกันทำสีหน้าลำบากใจให้เห็น ไม่บ่อยนักสำหรับคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างเชอร์วูดจะแสดงสีหน้าและท่าทีอิดออดงอแง แต่ทุกครั้งที่มาที่นี่ เชอร์วูดมักจะมีอาการแบบนี้เสมอ หญิงสาวมักจะหลีกเลี่ยงสถานที่แห่งนี้ โดยเฉพาะปราสาทตรงกลางอิกซ์เตรียที่เธอเน้นเป็นพิเศษ

       เชอร์วูดชอบเลือกที่จะไม่เฉียดใกล้บริเวณปราสาทเกินประสาทสัมผัสของเธอเด็ดขาด เพราะถ้าหากเผลอหรือมีเหตุให้เข้าไปใกล้เกินกว่านั้น

       เธอจะหายวับไปโผล่ด้านในตัวปราสาท ตรงจุดที่เหล่าแม่มดอาวุโสรวมตัวกันทันที...

       " งั้น.. ฝากด้วยนะ " เชอร์วูดเอ่ยฝากฝัง ก่อนเจ้าตัวจะหายวับจากทั้งคู่ไป

 

       และบัดนี้ ก็เหลือแค่เซราฟีมกับเด็กหญิงเพียงสองคน

       " ที่จริงเราอยากจะพาคุณหนูเดินดูสถานที่รอบๆก่อน แต่สถานะของคุณหนูมีความสำคัญมากกับเหล่าแม่มด พวกแม่มดอาวุโสเลยอยากจะพบโดยเร็วที่สุด เราจะตรงไปปราสาทเลยก็แล้วกัน ไม่ว่านะจ๊ะ? "

       เด็กหญิงไม่ตอบ เธอเพียงแค่พยักหน้ารับเหมือนทุกครั้งที่ทำมา

       " จ๊ะ งั้นเราไปปราสาทกันเลยดีกว่า ถ้าสงสัยอะไรจะอธิบายไปตามทางก็แล้วกัน "

       เซราฟีมยื่นมือให้เด็กหญิงอย่างอ่อนโยน เด็กหญิงเงยหน้ามองเซราฟีมเล็กน้อย ราวกับเธอกำลังค้นหาความหมายสิ่งที่เซราฟีมกำลังทำอยู่ แล้วเด็กหญิง ...ก็ยื่นมือของเธอออกไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา