The Extreme Hunter นักล่าท้าปีศาจ

6.4

เขียนโดย Flash

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.17 น.

  4 chapter
  2 วิจารณ์
  7,829 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 11.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Intro

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      

บทนำแห่งการเริ่มต้น

ลอสท์แลนด์ นั้นเป็นดินแดนที่มหัศจรรย์ที่มีในสิ่งที่คุณไม่คิดว่าจะมีอย่างเช่น สิ่งมีชีวิตประหลาดๆหรือสิ่งไม่มีชีวิตที่ประหลาดๆ แบ่งเป็นประเภทได้ประมาณนี้

สัตว์ที่มีเฉพาะในเทพนิยาย อย่างเช่น ยูนิคอร์น ม้าเพกาซัส ฯ

อสุรกาย อย่างเช่น ยักไซคลอบส์ ซอมบี้ แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า ฯ

สัตว์ที่มีใหญ่เกินกว่าปกติ อย่างเช่น แมลงยักษ์ หรือ สัตว์ป่าขนาดยักษ์ เป็นต้น

โดยลอสท์แลนด์นั้นแบ่งเป็น 6 แอเรีย ได้แก่ เมาท์เทนท์แอเรีย ฟอเรสท์แอเรีย เซนเตอร์แอเรีย โวลแคนโนแอเรีย ไอส์แลนด์แอเรีย และ เด็ทเซิร์ทแอเรีย นั่นเอง

ส่วนสายอาชีพที่คนในในลอสท์แลนด์นิยมทำกันนั้นมีอยู่ 4 สายอาชีพใหญ่ๆ ก็คือ อัศวิน จอมเวทย์ นักล่า และ นักประดิษฐ์ โดยแต่ละอาชีพจะมีสังกัดของตนเอง สามารถแบ่งได้ดังนี้ สังกัดของอัศวิน คือ กองพัน สังกัดของจอมเวทย์ คือ กิลด์ สังกัดของนักล่า คือ เฮาส์ และ สังกัดของนักประดิษฐ์ ก็คือ แฟคโทรี่ นั่นเอง

__________________________________________________________________________________________________

ปี 1995 แคพพิทอลซิตี้ เซ็นเตอร์แอเรีย ลอสท์แลนด์

ครื้น!! ครื้น!! เปรี้ยง!!

สายฟ้าจำนวนมากพุ่งมาจากท้องฟ้าก่อนที่จะปะทะเข้ากับพื้นดินจนเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ บางส่วนก็พุ่งเข้าไปใส่บ้านเรือนจนได้รับความเสียหายไปทั่วลอสท์แลนด์

แต่ในความวุ่นวายนั้นมีชายสองคนจ้องมองเหตุการณ์นั้นจากหอคอยเหล็กสีเงินสูงตระหง่านเสียดฟ้าอย่างผู้ที่ไม่สามารถทำอะไรได้

“เหตุการณ์แย่ลงทุกวันนะขอรับ ท่านจักรพรรดิ”  ชายผู้หนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด

“ครูซ ไปดำเนินการณ์แผนขั้นสุดท้ายได้ ฉันจะไม่ยอมให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ อย่าลืมล่ะ อย่าให้ไคเซอร์กับคาร์เตอร์รู้เด็ดขาด เพราะเจ้าสองคนนั้นคงไม่ยอมแน่”

“ ขอรับ ท่านจักรพรรดิ” ครูซน้อมรับคำสั่งพร้อมกับโค้งคำนับแล้วเดินออกไป

 

บนยอดหอคอย

“ เวทย์เทพเจ้า ผนึกสมดุลมิติ” จักรพรรดิร่ายเวทย์ส่งผลให้เกิดวงเวทย์สีทองขนาดใหญ่ ก่อนที่คริสตัลเวทย์มนต์ที่อยู่รอบๆหอคอยจะค่อยๆเรืองแสงแล้วรวมตัวกันกลายเป็นคริสตัลเวทย์มนต์สีทองขนาดใหญ่ จากนั้นคริสตัลจึงเรืองแสงสีขาวเป็นวงกว้างไปทั่วเมืองแคพพิทอลซิตี้เป็นเวลานานถึง 10 นาที หลังจากที่แสงหายไปสายฟ้า และ ภัยพิบัติต่างๆก็หยุดลง ส่วนเมืองแคพพิทอลนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอยเหลือไว้แต่เพียงทะเลสาบขนาดใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาแทนที่เท่านั้น!!

 5 ปีต่อมา

เบิร์สทาวน์ โวลแคนโนแอเรีย ลอสท์แลนด์

“ …ประกาศๆ ตอนนี้ทางการได้ประกาศออกมาแล้วว่า เบิร์สทาวน์ มีโอกาสที่จะถูกทำลายจากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า ขอให้ประชาชนทุกคนรีบอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน!!”

เสียงจากหอหอยกระจายเสียงเวทย์มนต์ดังก้องไปทั่วเมืองอย่างต่อเนื่องพร้อมกับประชาชนที่รีบหนีตายออกจากเมืองก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิด

 วันต่อมา

  ณ โฮลด์เดอร์ทาวน์ เซฟโซนแห่งเมาท์เทนท์แอเรีย ลอสท์แลนด์

“…จากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่เบิร์สทาวน์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทำให้พื้นที่การเกษตร และ บ้านเรือนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังโชคดีที่ประชาชนภายในเมืองอพยพออกมาได้ทันก่อนที่ภูเขาไฟระเบิดจึงทำให้ยอดผู้เสียชีวิตนั้นต่ำ โดยทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งลอสท์แลนด์ได้ให้เหตุผลที่การแจ้งเตือนภัยพิบัตินั้นล่าช้าว่า

“ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้นั้นแจ้งเตือนล่าช้ากว่าที่ควรครับ…” เจ้าหน้าที่กรมดังกล่าวพูด

นี่เป็นข่าวที่หอคอยกระจายเสียงเวทย์มนต์แห่งเมาท์เทนท์แอเรียได้เปิดให้ประชาชนทุกคนฟัง แต่รู้สึกประชาชนส่วนมากที่สัญจรไปมาทั่วเมืองจะไม่ได้สนใจข่าวอะไรมากนัก เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ กำลังจิบชาอย่างสบายอารมณ์ อยู่บนบ้านคอนกรีต 3 ชั้นสีขาว

 ชายหนุ่มคนนั้นมีใบหน้ารูปไข่ ผมสีทอง นัยน์ตาสีส้ม สวมเสื้อยืดสีดำ สวมเสื้อคลุมที่ยาวถึงเข่าสีดำขลิบทองทับอีกชั้น กางเกงยีนสีดำ รองเท้าหนังสีดำ เขาคงไม่สนใจข่าวอะไรมากนัก ถ้าเขายังไม่ได้จดหมายที่เพิ่งส่งมาเมื่อเช้าน่ะ

ดูจากภายนอกซองจดหมายก็เป็นแค่ซองกระดาษธรรมดาๆ จดหมายก็เป็นกระดาษธรรมดาๆแต่ที่มุมบนขวาของจดหมายกลับมี ตราดาบไขว้สีทองซึ่งเป็นตราประจำกองพันอัศวินรักษาพระองค์ติดอยู่ ในจดหมายมีเพียงข้อความสั้นเขียนว่า

นายคงรู้เรื่องภูเขาไฟระเบิดที่เบิร์สทาวน์เมื่อวานแล้วสินะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทางการได้ให้เหตุผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่ากะทันหัน แต่ตามจริงแล้วมันมีอะไรร้ายแรงกว่านั้น ตอนนี้ฉันคงบอกรายละเอียดอะไรนายตอนนี้ไม่ได้มากนะ แต่นายช่วยมาที่แกรนด์ซิตี้ภายในวันพรุ่งนี้ทีนะ เพราะฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย

                                                                                                                จาก คัล เฟเทอร์

หลังชายคนนั้นพิจารณาไตร่ตรองเนื้อหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนที่ตัดสินใจแล้วจึงพูดออกมาว่า

“อากิระ จัดกระเป๋าเดินทางให้ฉันทีนะ” ชายหนุ่มคนนั้นพูดก่อนที่ยกชาขึ้นมาจิบแต่รู้สึกว่าความเครียดของเขาจะทำให้ชาเสียรสชาติไป “เฮ้อ ชาเสียรสชาติหมด”

“นี่ค่ะกระเป๋าเดินทาง” เสียงของหญิงสาวพูดพร้อมกับยื่นกระเป๋าเดินทางสีดำให้อย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย ทำไมเร็วอย่างนี้ล่ะ” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงตกตะลึงเล็กน้อย “อืม งั้นฉันไปล่ะนะ”

พูดแล้วก็รีบวิ่งลงไปที่ชั้นล่างของตัวบ้านแล้วจากนั้นจึงวิ่งต่อไปที่หอคอยขนส่ง เมื่อถึงหอคอขนส่งเขาก็รีบบอกจุดหมายและจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถออกเดินทางได้ทันที

                ณ แกรนด์ซิตี้

หลังจากที่เขาออกจากหอคอยขนส่งได้ เขาก็รีบวิ่งไปที่โรงรถม้าโดยสารโดยทันที สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ชายชรากำลังให้อาหารม้าอยู่ ผมของเขามีผมหงอกขึ้นแทนที่ผมดำ นัยน์ตาสีดำ ผิวหนังของเขานั้นเริ่มเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา

“นี่ลุง” ชายหนุ่มคนนั้นเรียกชายชราที่กำลังเลี้ยงม้าอยู่ ก่อนที่ชายชราจะหันมาตามเสียงเรียก “ขอรถม้าที่เร็วที่เร็วที่สุดของที่นี่ไปส่งผมที่ใจกลางเมืองภายใน 2ชั่วโมงได้มั้ยครับ?”

“นี่เจ้าน่ะ” ชายชราตอบกลับมา “คิดว่ารถม้าของข้าน่ะมันเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ อืม ตามจริงผมก็แค่ลองขอดูเท่านั้น”ชายหนุ่มพร้อมกับลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด “งั้นขอถามอีกคำถามหนึ่งได้มั้ยครับ?”

“ ได้สิ ถามมาเลย” ชายชราตอบพร้อมกับยื่นหญ้าให้กับม้า “ว่าแต่ เจ้าน่ะหน้าคุ้นๆนะ เจ้าชื่ออะไรเหรอ?”

“คำถามนะครับ” ชายหนุ่มพูด “ คุณคือ คุณราเซียที่เป็นอัจฉริยะในการคุมม้าคนนั้นใช่มั้ยครับ?”

“ ฮ่า ฮ่า ใช่ข้าเอง” ชายชราพูดอย่างอารมณ์ดี “เจ้านี่พูดเข้าหูข้าจริงนะ ฮ่า ฮ่า”

“รู้สึกว่าฉากบังหน้าที่เป็นคนแก่นี่ จะเหมาะกับนายดีนะ ลาสท์” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม “อายุ 20 กว่าๆทำตัวอย่างกับคนอายุ 80 ฮ่า ฮ่า”

“ คนที่รู้ความลับนี้ ถ้าไม่ใช่คัลก็ต้องเป็น…”โทนเสียงของชายชราค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นโทนเลียงชายหนุ่ม “ราเฟล วาร์ซิโอ!!”

“ดีใจที่ยังจำกันได้นะ” ราเฟลพูดอย่างอย่างอารมณ์ดี “ว่าแต่ เรื่องรถม้าน่ะ นายช่วยได้มั้ย?”

“เรื่องรถม้าน่ะฉันช่วยได้”  ลาสท์พูดด้วยโทนเสียงชายชรา “ขึ้นมาสิ” พูดพร้อมชี้ไปทางรถม้า

เมื่อราเฟลขึ้นรถม้าเสร็จพวกเขาก็รีบมุ่งหน้าสุ่ใจกลางเมืองโดยทันที

“นายคงรู้ใช่มั้ย?” ราเฟลถาม “เหตุผลที่คัลเรียกพวกเราน่ะ”

“ใช่” ลาสท์ตอบด้วยเสียงเรียบ “ลางแห่งหายนะของลอสท์แลนด์คงใกล้เริ่มขึ้นแล้ว”

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา