คิดถึง...

9.2

เขียนโดย TTkeanniyayf

วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.48 น.

  9 session
  24 วิจารณ์
  16.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2556 20.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) สานต่อความสัมพันธ์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

           วันนี้เป็นวันหยุดทางราชการ นักศึกษาสาวอย่างนับดาวก็หยุดไปตามระเบียบ เธอจึงถือโอกาสนี้นอนตื่นสายกว่าวันธรรมดาสักเล็กน้อย แต่พอเธอพลิกตัวจะหันหนีแสงแดดที่รอดผ่านหน้าต่างเข้ามา เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นรบกวนการนอนของเธอ มือสวยควานหาโทรศัพท์มือถือไปทั่วทั้งเตียงนุ่มแต่ไม่พบ

 

            ~ติ๊ด ติ๊ด~ เสียงเรียกเข้ายังคงดังต่อเนื่องจนเจ้าของเครื่องเกิดรำคาญ

 

            “อยู่ไหนเนี่ยโทรศัพท์จ๋าาา” นับดาวลุกขึ้นนั่งตาซลึมซลือพยายามยกหนังตาอันหนักอึ้งของเธอขึ้นมองหาโทรศัพท์มือถือของตน แต่เรี่ยวแรงก็ไม่รู้หายไปไหนหมดจนเสียงเงียบไป

 

            ~ก๊อกก๊อก~ เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากเสียงเรียกเข้าเงียบไปได้ไม่กี่วิ

 

            “ค่าาา” เธอตอบรับคนที่เคาะประตูและลุกไปเปิดประตูโดยไม่คิดหาโทรศัพท์มือถือต่อ

 

 

            “ตื่นได้แล้วน้องสาวขี้เซา เอานี่” นทียีผมน้องสาวอย่างหมันไส้ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือของตนให้นับดาว

 

            “นับดาวพูดค่ะ” เธอรับโทรศัพท์จากพี่ชายมาแนบหูแบบงงๆ แล้วกรอกเสียงติดงัวเงียไปตามสาย

 

            (สายแล้วนะครับยังไม่ตื่นอีกหรอฮึ) เสียงนุ่มตอบกลับมาทำเอานับดาวตื่นเต็มตา

 

            “พี่วิน...สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงเป็นปกติผิดจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง

 

            “เอ่อ..เมื่อกี๊นี่ก็...” นับดาวนึกถึงสายที่เธอไม่ได้รับก็รีบวิ่งมาหาโทรศัพท์ทันที และเมื่อเปิดดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของมาวินซึ่งตอนนี้เขาโทรเข้าเครื่องพี่ชายแทน

 

            “ขอโทษนะค่ะที่ดาวไม่ได้รับสายพี่ พอดีว่า..หลับเพลินไปหน่อยน่ะค่ะ” เธอพูดแล้วยิ้มแห้งให้กับคนในสาย

 

            (ไม่เป็นไรครับ พี่จะโทรมาบอกว่ากลางวันนี้พี่จะไปรับมาทานข้าวนะครับ) มาวินไม่สนใจว่าเธอจะไม่รับเขาด้วยสาเหตุใด เพาะตอนนี้เขาได้คุยกับเธอแล้ว

 

            “ค่ะ” นับดาวตอบรับปากมาวินโดยไม่ต้องคิดอะไรมากมาย

 

            (เท่านี้นะครับ)

 

            “เดี๋ยวค่ะพี่วิน” นับดาวรีบพูดก่อนที่มาวินจะกดวางสาย

 

            “สู้ๆ นะค่ะ” คำพูดธรรมดาแต่จริงใจของนับดาวทำเอาคนฟังอมยิ้มอย่างมีความสุข รวมถึงตัวเธอที่ยืนอมยิ้มบิดอายม้วนตัวอยู่ข้างๆ เตียง

 

            (คร้าบน้องสาว) มาวินหยอดคำหวานก่อนจะกดวางสายไป

 

            “อิอิ” นับดาวหัวเราะและยิ้มให้กับโทรศัพท์เครื่องสวยของพี่ชายอยู่นานสองนานจนนทีต้องส่งเสียงให้เธอรู้สึกตัว

 

            “อะแฮ่ม” เขากระแอมเสียงดังพอให้น้องสาวได้ยิน

 

            “ของพี่จ้ะของพี่” นทีแบมือและทำมือขอโทรศัพท์คืนจากน้องสาว

 

            “ขอบคุณค่ะ ฟอดดด” นับดาวคืนโทรศัพท์และเอ่ยขอบคุณ แต่ก่อนที่จะปิดประตูเธอหอมแก้มนทีฟอดใหญ่ ทำเอานทีเอียงแก้มหลบแทบไม่ทัน ก็เธอยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟันเลยนี่นา ถึงจะเป็นพี่น้องที่รักกันมากแต่เรื่องแบบนี้ก็ต้องมีลิมิตกันบ้าง

 

           

            หลังจากตื่นเต็มตานับดาวจะล้มตัวลงนอนแต่คิดว่าคงไม่หลับเป็นแน่ เพราะตอนนี้ความสุขมันล้นเอ่อหัวใจอยู่ มือเล็กจึงคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปแทน พออาบน้ำเสร็จหญิงสาวออกมาแต่งกายในชุดลำลอง สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสบายๆ เกล้าผมมัดเป็นวงธรรมดา ใบหน้าผัดแค่แป้งฝุ่นไว้พอไม่ให้เป็นมันเยิ้ม

 

            นับดาวพาตัวเองลงมายังห้องครัวและค้นหาวัตถุดิบทั้งในตู้เย็นและชั้นวางของต่างๆ ดูว่าพอมีอะไรที่ใช้ทำอาหารที่เธอคิดเมนูไว้ในหัวแล้วได้บ้าง กระดาษกับปากกาที่เธอเตรียมมาถูกใช้ชดสิ่งที่ยังขาดเหลือ จากนั้นเธอกลับขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้งหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วลงมาพร้อมกับถุงผ้าสำหรับไปจ่ายตลาด

 

            เธอได้ไหว้วานให้ลุงมีคนขับรถประจำตระกูลช่วยขับรถพาเธอไปที่ตลาดสด นับดาวชอบเลือกซื้อของสดในตลาดมากกว่าการเดินในซุปเปอร์ ยกเว้นของบางอย่างที่มีเฉพาะให้ซุปเปอร์เธอถึงจะเข้า แต่ก็นานๆ ที หญิงสาวรีบเดินรีบซื้อเพราะไม่อยากให้ลุงมีรอนาน ถึงแกจะเป็นแค่คนขับรถแต่ก็เป็นคนเหมือนกับเธอ เธอจึงต้องมีความเกรงใจตามที่บิดามารดาสอนไว้ แล้วเวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมงของที่เธอเลือกซื้อก็ได้มาครบตามรายการที่เธอจดมา

 

            “ขอบคุณนะค่ะลุงมี” เวลาต่อมาลุงมีพานับดาวกลับมาถึงบ้านโดยปลอดภัยและช่วยเธอขนของไปไว้ในครัว

 

            “ไม่เป็นไรครับคุณหนู มีอะไรให้ลุงรับใช้เรียกได้ทันทีเลยครับ” ลุงมีบอกนับดาวและยิ้มกว้างให้เธอด้วยความจริงใจ ก่อนจะขอตัวออกไปเก็บรถให้เข้าที่

 

            “อืม..ทำไรก่อนดีน้า” นับดาวมองของตรงหน้าที่เธอเตรียมไว้ก่อนหน้านี้และที่ซื้อมาเมื่อครู่อย่างพิจารณา

 

            “อ่า..หุงข้าวก่อนดีกว่า” ว่าแล้วมือสวยๆ ทั้งสองข้างหยิบหม้อหุงข้าวขนาดเล็กสองใบ ใบหนึ่งใส่ข้าวหอมสำหรับทานกับผัดกระเทียมไก่แบบญี่ปุ่น และอีกใบใส่ข้าวสำหรับทำข้าวปั้นที่เธอชอบ

 

            หลังจากนั้นนำหม้อใบขนาดพอดีมาตั้งไฟใส่น้ำต้มทำเป็นซุปใส ต่อมาล้างผักสำหรับทำสลัดและไว้ตกแต่ง เสร็จแล้วเตรียมหน้ากับใส่ของข้าวปั้นและทำน้ำสลัดใสเป็นลำดับสุดท้าย ร่างสวยหันไปหันมาระหว่างเตาแก๊สกับโต๊ะที่เธอใช้เป็นที่วางของอยู่นานสองนาน ทั้งร้อนและเหม็นคาวจากอาหารสดแต่เธอไม่รู้สึกเหนื่อยหรือบ่นออกมาเลยสักนิด ตรงกันข้ามใบหน้าสวยของเธอเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มบางๆ อิ่มสุขกับการทำอาหารที่เธอชอบ

 

            “คุณหนูทำอะไรอยู่ค่ะ” กลิ่นหอมของซุปเชิญชวนให้ป้าแหววเดินตามกลิ่นเข้ามาในครัว ตามด้วยแววลูกสาวของตนเดินตามกันมาติดๆ

 

            “อาหารกลางวันสำหรับพี่วินค่ะ” นับดาวและยิ้มหวานให้ทั้งสองคน

 

            “ห๊อมหอมค่ะคุณหนู” แววลูกป้าแหววหัวหน้าแม่บ้านเอ่ยชมพร้อมกับสูดกลิ่นอาหารเข้าไปเต็มปอด

 

            “ขอบใจจ้ะแวว” นับดาวยิ้มกว้างเมื่อมีคนชมอาหารที่เธอทำ และรู้สึกดีทุกครั้งที่ทุกคนบอกว่าอร่อย

 

            “อร่อยมากค่ะคุณหนู” ป้าแหววลองชิมซุปที่นับดาวทำโดยมีเธอเป็นคนป้อนให้ ซึ่งป้าหัวหน้าแม่บ้านบอกออกมาตามความรู้สึกที่ได้รับรสอาหารเข้าไปจริงๆ

 

            “ขอบคุณค่ะป้าแหวว” เธอเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มตลอด แก้มนวลมีสีแดงระเรื่อขึ้นให้เห็น เพราะป้าแหววเล่นชมเธอต่อหน้าก็เขินเป็นธรรมดา

 

           

            อาหารกลางวันสำหรับมาวินและนับดาวถูกจัดกล่องอาหารสวยงามพร้อมทาน ก่อนที่ร่างบางจะออกจากบ้านเพื่อมาทานอาหารกลางวันก็ต้องอาบน้ำผัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในชุดเรียบร้อยเหมาะกับสถานที่ที่เธอมาเสียก่อน หญิงสาวในชุดเดรสสีหวานเดินถือกล่องอาหารฝีมือของเธอเข้ามาในบริษัทจีอี เป็นบริษัทงานเกี่ยวกับทางด้านเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งบริษัทในประเทศไทยเป็นเพียงบริษัทลูกสาขาย่อยเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นหนุ่มนักเรียนดีกรีสูงอย่างมาวินก็นั่งอยู่ในตำแหน่งรองประทานบริษัทฝ่ายต่างประเทศ พนักงานเงินเดือนระดับรองกว่าเขารวมกันสามเดือนแล้วยังเทียบไม่ติดเศษเสี้ยวเงินเดือนของเขา แต่มาวินไม่ใช่คนขี้โม้โอ้อวดว่ามีมากเพียงใด เขาไม่เคยถือตัวและมองคนไหนสูงต่ำกว่าตนเพียงเพราะฐานะหรือหน้าที่การงาน เขาเป็นคนอัธยาศัยดีกับทุกคนที่ดีกับเขา ส่วนที่ร้านนั้นเขาจำเป็นต้องโต้กลับเสียบ้างเพื่อปกป้องตนเอง

 

            “คุณมาวินค่ะ มีคนมาขอพบค่ะ” คุณอรชรเลขาหน้าห้องของท่านรองประธานโทรรายงานเจ้านายว่ามีหญิงสาวมาขอพบ

 

ก่อนจะให้เธอเข้าไปในห้องตามคำของเจ้านาย

 

            “ค่ะ เชิญค่ะ” อรชรเปิดประตูให้หญิงสาวและก้มศีระษะให้เธอเล็กน้อย ซึ่งหญิงสาวเองก็ทำเช่นเดียวกันกับเธอเป็นการขอบคุณ

 

            “ขอบคุณค่ะ” นับดาวส่งยิ้มหวานให้คุณเลขาก่อนจะก้าวเท้าระยะพอดีเข้ามาด้านในห้อง

 

            “เชิญนั่งก่อนครับ” เสียงสุขุมดังบอกผู้มาใหม่แต่พูดทั้งที่ยังก้มหน้าเซ็นเอกสารอยู่

 

            “ขอบคุณค่ะ” นับดาวเลื่อนเก้าอี้และนั่งลงเบาเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานของมาวิน

 

            “น้องดาว” มาวินเงยหน้าจากกองเอกสารตรงหน้าทันที เพราะเสียงใสๆ ของเธอคุ้นหูเขาจนจำได้แม่น

 

            “มาได้ยังไงครับ”  น้ำเสียงเขาทั้งตื่นเต้นและดีใจ แปลกใจที่เห็นหญิงสาวอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ทั้งที่นัดกันไว้ไม่ใช่เวลานี้ แล้วเขาเองก็รีบเคลียร์งานให้เสร็จทันเวลานี้อยู่นี้

 

            “นั่งรถมาสิค่ะ อิอิ” เธอตอบกวนแกมหยอกเขาไปที

 

“ดาวให้ลุงมีมาส่งค่ะ ทำอาหารกลางวันมาให้พี่วินด้วยนะค่ะ พี่วินจะได้ไม่ต้องขับรถกลับไปกลับมา” นับดาวพูดยาวถึงสาเหตุการมาของเธอ ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้มตามไป ใบหน้าหล่อที่เคร่งขรึมเมื่อครู่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มขณะที่ฟังหญิงสาวพูด

 

            “งั้นดาวนั่งรอพี่เดี๋ยวเดียวนะครับใกล้จะเสร็จแล้ว” เขาบอกและส่งยิ้มให้กับหญิงสาว

 

            “ค่ะ” นับดาวตอบรับและยิ้มแป้นให้เขา

 

           

            มาวินยิ้มรับและตัดใจจากใบหน้าสวยก้มหน้าจัดการกับเอกสารตรงหน้าต่อ เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเขาก็จะได้นั่งมองหน้าเธอแบบเต็มอิ่มแล้ว มือหนาวจับปากตาตวัดวนและเปิดเอกสารลงชื่ออยู่หลายแผ่น มีบ้างบางแผ่นที่เขาสามารถลงชื่อได้โดยไม่ต้องอ่านให้เสียเวลา เนื่องจากคุณอรชรได้บอกอธิบายเขาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่บางแผ่นเขาก็ต้องเสียเวลาอ่านมันสักหน่อยเพราะเป็นเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจ

 

            หญิงสาวที่บัดนี้เหมือนตกอยู่ในภวังค์นั่งมองชายหนุ่มทำงานอยู่ตรงหน้าอย่างไม่วางตา เธอจดจำภาพที่เคร่งขึมมาดผู้บริหารตรงหน้าแล้วนึกภาพตอนที่เขายิ้ม หัวเราะมาเปรียบเทียบกัน เธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ว่าจะมาดไหนหรืออิริยาบถใดเธอชอบเขาไปหมด ร่างบางยิ้มตาหวานเยิ้มหยดย้อยอย่างลืมตัว จนบางทีไม่ทราบว่ามีสายตาคมคู่หนึ่งมองเธอแล้วแอบขำอยู่ในๆ

 

            “อะแฮ่ม” มาวินกระแอมเบาๆ พอให้หญิงสาวรู้ตัว และพยายามทำหน้าเป็นปกติไม่แอบหลุดขำเธอออกมา

 

            พี่วินเห็นที่เรามองเขารึเปล่าเนี่ย >< นับดาวหลุดจากภวังค์และนึกในใจอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้

 

            “เสร็จแล้วครับไปทานข้าวกัน” มาวินพูดพร้อมลุกขึ้นเดินนำเธอไปที่โซฟาที่ตั้งอยู่ติดกับกระจกห้องเขา โดยไม่ลืมที่จะถือกล่องอาหารติดมือมาด้วย

 

            กระจกที่ซึ่งเป็นผนังห้องมองเห็นวิวทิวทัศน์สวยงามหลากหลายพื้นที่จากตึกสูงอยู่ภายในห้องเขา ทั้งสองนั่งทานอาหารกล่องที่นับดาวทำมาอย่างเอร็ดอร่อย ปากของชายหนุ่มเอ่ยชมอาหารทุกอย่างที่ตักเข้าปากอย่างเอาใจ แต่ล้วนแล้วเป็นความจริงจากใจทั้งสิ้น มีการคีบอาหารป้อนหญิงสาวบ้างเพื่อเพิ่มสีสันในมื้อกลางวันแสนอร่อยนี้

 

            “อิ่มแล้วหรอครับ” มาวินเห็นนับดาววางตะเกียบในมือจึงเอ่ยถาม

 

            “ค่ะ” เธอกำลังเก็บส่วนของตนที่ทานเหลือไว้ แต่มือของเขาไวกว่าแย่งกล่องข้าวเธอไปจากมือ

 

            “พี่วินจะเอากล่องข้าวของดาวไปไหนค่ะ” หญิงสาวมึนงงไม่น้อยที่เขาหยิบไปแล้วถืออยู่ในมือ

 

            “พี่จะทานให้หมดไงครับ ทิ้งไปก็เสียดายแย่ อร่อยขนาดนี้ทิ้งในท้องพี่ดีกว่าครับ” มาวินพูดจบก็ตักข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยโดยที่ไม่รังเกียจที่ซึ่งเป็นของเหลือจากเธอ

 

            พี่วินน่ารักอะไรอย่างนี้นะ >< เธอมองดูภาพตรงหน้าแล้วยิ้ม แก้มแดงเขินอายกับสิ่งที่เขาทำ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา