คิดถึง...
เขียนโดย TTkeanniyayf
วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.48 น.
แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2556 20.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) การกลับมา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่มาวินจะใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน ถึงเวลาแล้วที่เขาจะนำความรู้และประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวมาจากบริษัทแม่มาอย่างเต็มที่เต็มความสามารถของเขากลับไปพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่บริษัทลูกในประเทศบ้านเกิดของเขาที่จากมานานแสนนาน มาวิน บอกลาทุกคนที่คอยดูแลเขาตลอดการใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวที่แสนอบอุ่นและน่ารักเป็นกันเองมาตลอดระยะเวลายี่สิบสองปีด้วยความเศร้าใจที่ต้องจากกันโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกหรือไม่ แต่ไม่มีใครเสียน้ำตาให้แก่กันเพราะทุกคนต่างยินดีที่เขากำลังจะมีอนาคตเป็นของเขาเอง และก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่อง “ไรอัน” ลูกชายของ “โรเบิร์ต” กับ” โรส” ครอบครัวที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้เขาโตมาเป็นคนดีได้จนถึงทุกวันนี้มอบรูปถ่ายใบหนึ่งให้กับมาวิน
“I think this belongs to you.” (ผมคิดว่านี้เป็นของคุณ)
“Thank you so much brother.” (ขอบคุณมากน้องชาย) เขารับภาพถ่ายที่เขาลืมไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนก่อนออกเดินทางมาจากไรอันและมองดูภาพใบนั้นตลอดเวลาที่เขาอยู่บนเครื่องและนึกย้อนไปสมัยเด็กที่เขาไม่มีวันลืมความทรงจำดีๆ ร่วมกันกับคนในภาพ
เครื่องบินเที่ยวที่เขาอาศัยมาแล่นลงสู่พื้นประเทศบ้านเกิดของเขาช่วงสายของวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย ขายาวก้าวมาตามทางเดินของสนามบินพร้อมกวาดสายตาคมมองไปทั่วอาคารผู้โดยสารหาหญิงสาวสูง ขาว ตัวเล็ก ตาคม จมูกโด่งได้รูป ผมสั้นตามลักษณะที่เขาดูได้จากภาพถ่ายที่เธอส่งให้มาเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างนั้นมีเสียงหนึ่งเรียกชื่อเขาดังมาจากทางด้านหลังของเขา ฟังจากเสียงแล้วเขารับรู้ได้ทันทีว่าเป็นผู้หญิงและอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก แต่จะใช่คนเดียวกันกับคนที่อยู่ในรูปหรือไม่เขาเองก็ไม่แน่ใจ
มาวินกลับหลังหันช้าๆ จากจุดที่เขาหยุดยืนอยู่มองไปยังต้นตอของเสียง และภาพแรกที่เขาเห็นคือหญิงสาวใบหน้าคล้ายคนในรูปถ่ายที่เขาถืออยู่ แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่คนเดียวกันหรือไม่ เขาพิจารณาดูจากลักษณะของคนในภาพถ่ายกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้มีความคล้ายกันทุกจุดเท่าที่เขาสังเกตเห็นเพียงแต่คนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ผมยาวทำสีดัดเป็นลอนสวยได้ทรง สวมชุดเดสสีขาวแขนยาวถึงข้อมือทั้งสองข้าง คอเสื้อเปิดกว้างโชว์ไหล่ขาวมน ข้อมือข้างขวาสวมกำไรไข่มุกสีขาวกับนาฬิกาสายมุก ส่วนที่คอก็สวมสร้อยเงินลายงดงามจี้ไข่มุกเข้ากันกับชุดเครื่องประดับชิ้นอื่นๆ รองเท้าส้นสูงสีหวานช่วยเสริมให้เธอดูสูงและมีบุคคลิกที่ดีขึ้น
เขามองสำรวจเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าสลับกับการมองภาพถ่ายในมือยิ่งทำให้เขาลังเลใจว่าหญิงสาวที่เรียกชื่อเขาและส่งยิ้มหวานให้เขาอยู่ตอนนี้เป็นคนคนเดียวกันหรือไม่ มาวินก้าวขาไปเพียงแค่สามก้าวจากจุดที่เขายืนก็สามารถไปถึงตัวเธอได้รวดเร็ว ใบหน้าหล่อก้มศีรษะลงนิดหนึ่งเพื่อมองหน้าเธอได้อย่างถนัดตา และประโยคแรกที่เขาพูดกับหญิงสาวคือ...
“น้องดาวหรือเปล่าครับ” เสียงนุ่มๆ ของเขาเปล่งออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อ
“คิดว่าใช่ไหมละค่ะ” เธอไม่ตอบคำถามเขาเสียทีเดียวแต่กลับย้อนถามเขากลับและฉีกยิ้มกว้างมากกว่าเดิม
“?? :)” มาวินทำท่านึกและมองสำรวจเธออีกครั้ง คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ปากจู๋เล็กน้อยขัดกับบุคคลิกของเขามากจนหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเขาจะมีมุมน่ารักแบบนี้ด้วย
“ขอโทษนะครับผมคงจำคนผิด” เขาแกล้งบอกเธอไปแบบนั้นแต่แท้จริงแล้วเขาทราบว่าคนในรูปกับเธอคือคนเดียวกันหลังจากที่พิจารณาและวิเคราะห์อยู่นาน เขาก้มศีรษะโค้งให้เธอเล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษและกลับหลังหันไปทางเดิมพร้อมก้าวเดินทำทีมองหาคนต่อ ระหว่างนั้นหญิงสาวเสียงคุ้นหูด้านหลังส่งเสียงเรียกชื่อเขาอีกครั้ง และครั้งนี้เธอเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเขาเอง
“พี่วินค่ะ แค่นี้ก็จำน้องสาวคนนี้ไม่ได้หรอค่ะ น่าน้อยใจจริงๆ เลย” เธอแกล้งทำหน้างอใส่เขา
“ก็เราอยากแกล้งพี่ก่อนทำไมล่ะฮึ” เขาหันมามองหน้าเธอและเอามือขยี้ผมเธอเบาๆ รู้สึกหมันไส้กับท่าทีของเธอเสียเหลือเกิน
“แหม..รูปถ่ายก็อยู่ในมือยังจะถามอีกหรอค่ะ สงสัยพี่วินจะลืมน้องสาวคนนี้แล้วมากกว่าล่ะมั้งค่ะ” เธอพูดเสียงติดน้อยใจใบหน้าสวยง้ำงอ
“ไปกันใหญ่แล้วครับ โอเคครับพี่ยอมรับว่าพี่จำน้องสาวคนนี้ของพี่ไม่ได้ ก็เราโตขึ้นนี่นา ผมยาวทำสีผมแถมยังดัดเป็นลอนอีก แต่ดูในรูปนี้สิเด็กมอปลายผมสั้นท่าทางแสบใช่ย่อยเลยนะจริงไหมครับ” เขายอมรับไปตามความคิดตอนแรกที่จำเธอไม่ได้แต่ก็แค่แวบแรกที่เห็น มาวินยกอ้างเหตุผลจากความจริงจากใจเขาให้เธอฟังและแอบติกับท่าถ่ายรูปของเธอนิดหน่อย
“เอามานี่เลยค่ะ” เธอคว้ารูปถ่ายจากในมือเขามาใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายใบเล็กขนาดพอดี
“พี่วินไม่อยู่ตั้งยี่สิบปีจะไปทราบอะไรค่ะว่าอะไรเป็นยังไง รีบไปกันดีกว่าค่ะพี่ทีรออยู่” เธอไม่พอใจที่เขาว่าเธอทั้งที่เธอออกจะเป็นคนเรียบร้อย น่ารักและอ่อนหวานเหมือนกุลสตรีไทยสมัยก่อนขนาดนี้
หญิงสาวเดินนำมาวินมายังรถเก๋งสีดำมันวาวที่จอดรอทั้งคู่อยู่ด้านนอก เมื่อทุกคนพร้อมพลขับอย่างนทีเหยียบคันเร่งออกรถไปตามทางเพื่อพาเพื่อนหนุ่มคนสนิทสมัยเด็กจนถึงปัจจุบันนี้กลับบ้าน ระหว่างทางนทีถามไถ่สารทุกข์สุขดิบพูดคุยเรื่องทั่วไปกับมาวินอย่างออกรสโดยลืมไปว่าทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในรถกันแค่สองคน ปล่อยให้สาวสวยที่แต่งตัวรอเวลาตั้งแต่ไก่โห่เพื่อมารับพี่ชายสุดที่รักที่เธอนับถืออีกคนหนึ่งเหมือนพี่แท้ๆ นั่งน้ำลายบูดอยู่คนดียว แต่เป็นเรื่องธรรมดาเพราะเขาทั้งสองคนไม่ได้เจอกันมานับสิบปีตั้งแต่มาวินย้ายไปเรียนต่างประเทศ
สองชั่วโมงต่อมานทีพามาวินมาส่งถึงบ้านโดยปลอดภัยและได้นัดแนะกันว่าจะไปเลี้ยงฉลองที่เขาเรียนจบและต้อนรับเขากลับบ้านอีกครั้งที่ผับคืนนี้ซึ่งมาวินเองก็ไม่ปฏิเสธ เขากล่าวขอบคุณนทีเพื่อนชายที่สนิทที่สุดของเขารวมถึงน้องสาวต่างบิดามารดาอย่างนับดาวที่ทั้งไปรับเขาที่สนามบินและพามาส่งถึงบ้านอีกด้วย
“คืนนี้เจอกันนะครับน้องสาว” เขาบอกกับนับดาวและยิ้มแป้นให้เธอ แล้วก่อนที่เธอจะกลับเขายื่นของฝากกล่องใหญ่จากอังกฤษให้เธอ พอเธอได้รับสีหน้าเธอเปลี่ยนไปทันทีนั้นเป็นใบหน้าที่เขาอยากเห็นจากเธอมากที่สุด
“ขอบคุณค่ะพี่วิน ^__^” ผู้หญิงก็คือผู้หญิงอยู่วันยังค่ำ นับดาวเมื่อเห็นกล่องของขวัญเธอก็ลืมไปสนิทเลยว่าก่อนหน้านี้ยังไม่พอใจอะไรเขาอยู่ ใบหน้าสวยตอนนี้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและความสุขเต็มเปี่ยม
“^__^” เขายิ้มตอบเธอก่อนที่รถของนทีจะเคลื่อนตัวผ่านหน้าเขาไป มาวินมองตามจนรถของเพื่อนไปไกลจนริบตาจึงค่อยหันหน้าเข้าบ้านไปพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่
เมื่อมาวินก้าวเข้ามาภายในบ้านเขารู้สึกถึงความเงียบสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะส่งเสียกเรียกบิดามารดาหรือแม้แต่ป้าเนียมหัวหน้าแม่บ้านเองก็ตามแต่ก็ไม่มีแม้แต่เสียงใดตอบกลับหรือไม่มีใครออกมาให้เขาเห็นเลยสักคนเดียว มาวินเดินสำรวจบ้านที่เขาไม่ได้อยู่มานานหลายสิบปีจนทั่วบริเวณชั้นล่างของตัวบ้านแต่ไม่พบสิ่งมีชีวิตแม้แต่สักว์เล็กสัตว์น้อย เขาเริ่มเป็นกังวลกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบิดามารดาของเขาหรือไม่
มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป่ากางเกงหยิบโทรศัพท์จะกดโทรหานทีเพื่อสอบถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านตนหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเสียงพุกระดาษและเสียงร้องยินดีจากคนประมาณสี่ห้าคนออกมาจากที่ซ่อน หนึ่งในนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาเองไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนยืนรวมอยู่กับทุกคนด้วย
“ทุกคนเล่นอะไรกันครับ” เขาถามเสียงเครียดเพราะไม่ค่อยชอบเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่มันทำให้เขาตกใจผวาทุกครั้งที่มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้น
“อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิครับลูกชาย พวกเรารอลูกกลับมาตั้งนานน่ะรู้ไหม” คุณกุสุมามารดาของเขาบอกยิ้มๆ ไม่อยากให้บรรยากาศพาทุกคนไม่สบายใจที่ทำให้เขาไม่พอใจ
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะคุณหนู” ป้าเนียมกล่าวกับเขาพร้อมกับกอดเขาด้วยความคิดถึงคุณหนูที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวน้อยๆ
“อะไรกันเนียมชิงกอดลูกชายฉันก่อนต่อหน้ากันเลยนะจ้ะ” คุณกุสุมาพูดยิ้มๆ ไม่ได้จริงจังอะไร
“ท่าทางป้าเนียมจะคิดถึงวินมากนะค่ะคุณแม่” หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเปล่งประกาย ใบหน้าได้รูป คิ้วเข้ม ปากนิด จมูกหน่อยยืนอยู่ข้างๆ คุณกุสุมาพูดแซว
มาวินมองหญิงสาวแปลกหน้าสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเธอเผื่อจะคุ้นหน้า แต่ไม่ว่าจะมองหรือนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นหรือเคยรู้จักเธอมาก่อนหรือไม่ เขามองเธออย่างใช้ความคิดสลับกับมองมารดาของตนพร้อมส่งสายตาถามว่าเธอเป็นใครมาจากไหนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ และทำไมถึงเรียกชื่อเขาโดยไม่เขอะเขินเหมือนรู้จักสนิทสนมกันมาก่อน
“ลูกคงจำหนูมีนไม่ได้สินะ นี่หนูมีนลูกสาวคุณมัณฑนาเพื่อนแม่ไงจ้ะ” คุณกุสุมาแนะนำหญิงสาวลูกเพื่อนของเธอให้ลูกชายรู้จัก
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ” มีนยื่นกล่องของขวัญขนาดพอดีมือสีดำกำมะหยี่มีริบบิ้นสีทองคาดเป็นโบว์อยู่ด้านนอกกล่องให้กับมาวิน
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ต้องลำบากหาซื้อมาให้หรอกนะครับเปลืองเงินเปล่าๆ ผมไม่ค่อยชอบของขวัญสักเท่าไหร่” เขารับมาและบอกกับเธอด้วยความหวังดีจากใจจริงเพราะไม่อยากให้เธอเสียใจภายหลัง
เนื่องจากเขาเป็นคนไม่ชอบได้รับของขวัญอะไรจากใครเขาจึงไม่กระตือรือร้นที่จะเปิดกล่องในมือเขาดูเดี๋ยวนั้นต่อหน้าหญิงสาว เขาแค่ถือมันไว้ในมือเฉยๆ และขอตัวกับทุกคนขึ้นไปยังห้องพักชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องนอนของเขาเองตอนเด็กๆ แต่ตอนนี้มันอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยตามความคิดของเขา อย่างๆ น้อยๆ ก็น่าจะเป็นเตียงที่ใหญ่ขึ้นจากเดิม
ห้องสี่เหลี่ยมขนาดพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่ผนังห้องทาด้วยสีขาวสะอาดตาทั่วทั้งห้อง เตียงนอนขนาดใหญ่มีที่นอนนุ่มๆ ตั้งอยู่ติดผนังห้อง มีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องเล่นต่างๆ ครบชุดตั้งว่างอยู่ภายในห้อง เขาเดินสำรวจภายในห้องนอนของเขาจนทั่วทุกซอกทุกมุมแล้วจากนั้นนำของออกจากกระเป๋าเดินทางจัดให้เข้าที่ ร่างสูงใหญ่เอนกายลงนอนบนเตียงด้วยความเพลียจากการเดินทางและการจัดเก็บของเมื่อครู่นี้จนเผลอหลับไป
~ติ๊ด ติ๊ด~ เสียงเรียกเขาจากโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของเขาดังรบกวนการนอน
เมื่อเขาหยิบมาดูเบอร์หนังตาอันหนักอึ้งของเขาลืมตาตื่นเต็มที่และปริงตัวลุกขึ้นในทันที ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือทำให้เขานึกขึ้นได้ทันทีว่านัดกับเพื่อนๆ ไว้ที่ผับคืนนี้ นิ้วเรียวของเขารูดหน้าจอแทนการกดรับสาย เสียงงัวเงียที่พยายามจะทำให้เป็นปกติกรอกไปตามสาย และคุยกับคนที่โทรเข้ามาสองสามคำก็กดวางแล้วรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่
มาวินหยิบชุดตัวเก่งของเขาจากในตู้เสื้อผ้าที่เขาเพิ่งจัดไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้มาสวมและตรวจสอบดูความเรียบร้อยของทรงผม หน้าตา เสื้อผ้าทุกรายละเอียดที่เขาจะสามารถทำได้ มือใหญ่คว้าเอากุญแจรถจากโต๊ะข้างหัวเตียงกับโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะออกไปพบเพื่อนๆ ตามสถานที่นัดหมาย
เขาเดินลงมาผ่านห้องนั่งเล่นที่เป็นทางผ่านออกไปนอกบ้านได้ยินละครจากโทรทัศน์ดังมาถึงเขาแล้วยังมีเสียงมารดาของเขาแทรกขึ้นตามมาอีกด้วย สายตาเหลือบไปเห็นว่าหญิงสาวลูกของเพื่อนมารดายังอยู่ก็แปลกใจแต่ไม่คิดจะถามความเป็นมาเพราะเขาไม่ได้สนใจว่าเธอจะอยู่หรือเธอจะไปอยู่แล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ