Tribute Girl. Yuri

8.9

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 05.18 น.

  8 session
  0 วิจารณ์
  14.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2556 06.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

บทนำ

       “ปีนี้ก็ครบยี่สิบปีบริบูรณ์แล้วสินะ”  ท่านหัวหน้าหมู่บ้านแห่งโอจิมิเสะทอดถอนใจระหว่างจิบชา  ฟังบุตรสาวคอยดีดโคโตะ (พิณญี่ปุ่น) ให้ฟังอยู่ไม่ขาด  แม้คำพูดนั้นจะทำให้ท่วงทำนองผิดเพี้ยนไปชั่วขณะ  แต่ก็สามารถกลับมาแว่วหวานไพเราะได้ดังเดิม  สีหน้าของสาวน้อยสงบนิ่งราวกับไม่เกรงกลัวคำวาจาเมื่อครู่
       มิสึงิเติบโตขึ้นมาในฐานะบุตรสาวของหัวหน้าหมู่บ้านแห่งโอจิมิเสะ  ผิมของนางขาวสวยดั่งปุยเมฆและมีนัยน์ตาที่หวานเชื่อมช้อย  เส้นผมของนางเป็นสีดำสลวยและเกล้าประดับไว้บนศีรษะส่วนหนึ่ง  โครงหน้าของนางเรียวงามดั่งสตรีที่เลิศเลอที่สุด  ทั้งยังเหมาะสมกับชุดกิโมโนสีชมพู  อันเป็นสีชุดที่นางโปรดปราน
       อายุครบสิบแปดปีของนางต่างจากอายุครบสิบแปดปีของสาวน้อยอื่นใด  
       นานมาแล้ว มีสัตว์อสูตรตนหนึ่งลงมากัดกินและไล่ทำร้ายที่นาของชาวบ้าน  ทั้งสัตว์เลี้ยงสัตว์รับใช้ต่างพากันกลายเป็นอาหารของเจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวนั่นเสียหมด  ความเดือดร้อนข้นแค้นเริ่มเพิ่งสูงขึ้น  ผิดกับความหวังของชาวบ้านซึ่งลดน้อยถอยลงทุกขณะ  ราวกับว่าเป็นการกลั่นแกล้งของสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น
       ในขณะที่เหล่ามนุษย์ต่างพากันวิงวอนและขออภัยในความผิดบาปอันไม่มีอยู่จริง  โชคชะตาหรือสรวงสวรรค์ได้ส่งเทพีนักรบนางหนึ่งลงมาตามสายรุ้งหลังฝนตกห่าใหญ่  สตรีนางนั้นสวมชุดสีแดงเข้ม  ดูน่าประหวั่นพรันพรึงไม่ต่างนัยน์เนตรสีโลหิตคู่นั้นเลย  ผมของนางเป็นสีเงินสลวย  ประดับประดาด้วยอัญมณีที่เล่าลือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธ
       เทพีนักรบลงมาพร้อมกับเหล่าหญิงรับใช้อีกสี่ตน  เล่าลือกันว่าพวกนางเหล่านั้นสวมชุดสีม่วงเข้ม  ไร้ชีวิตชีวาก้มหน้ารับฟังคำสั่งขององค์เทพีเพียงผู้เดียว  โดยพวกนางเหล่านั้นไล่ต้อนปิศาจศีรษะยักษ์ที่มีปากกว้างประหนึ่งจะกลืนกินขุนเขา  ไปจนถึงถิ่นที่องค์เทพีทรงประทับยืนอยู่  นางใช้มือเดียวดันศีรษะยักษ์ไว้  แสดงถึงพละกำลังอันน่าเกรงขาม  ตามด้วยการฉีกมันออกเป็นสองส่วน  ปล่อยให้นกกาจิกกิน  
       ว่ากันว่านกกาเหล่านั้นคือสัตว์บริวารของยูคุซึจินทั้งหมด  ด้วยเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วยาม  ศีรษะยักษ์อสูรก็เหลือแต่โครงกระดูก  ซึ่งยูคุซึตินประทานมาเป็นของกำนัลแด่ชาวบ้าน  ส่วนหนึ่งไว้ทำอาวุธหรือเครื่องใช้ต่างๆ  อีกส่วนหนึ่งมีไว้บดเป็นยาเพื่อรักษาโรค  เพราะกะโหลกศีรษะยักษ์ตนนี้มีพลังในการเยียวยามากนัก
       ยูคุซึจินจึงเป็นเทพีปกปักษ์ประจำหมู่บ้านแห่งนั้นเรื่อยมา  แม้จะมีสงครามหรือกองทัพเข้ามาเฉียด  ชาวบ้านก็มักจะไปไหว้วอนขอร้องให้กองทัพเลี่ยงไปเส้นทางสายอื่น  เพราะไม่ว่าหมู่บ้านห่างไกลแห่งไหน  ย่อมไม่เคยปรารถนาจะสละเสบียงเพื่อกองทัพเหล่านั้น  ไม่ว่าจะเป็นกองทัพฝ่ายใด
       ความดีและคุณประโยชน์ของยูคุซึจินคล้ายจะโปรยปรายดั่งละอองเกสรของดอกไม้ที่หวานหอม  ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นดั่งเงาเมฆครึ้มที่ครอบคลุมเช่นกัน  แม้ว่านางจะไม่เคยลงมือทำร้ายใคร  นั่นก็เพราะชาวบ้านคอยส่งเครื่องบรรณาการไปให้อย่างสม่ำเสมอ  เพราะหวั่นเกรงจนไม่กล้าเสี่ยงกับความพิโรธของเทพีสตรีนางนั้น
       ที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีการแต่งตั้งผู้รับสารจากเทพีอีกด้วย  นางแต่งองค์ทรงเครื่องคล้ายมิโกะ  เพียงแต่จะสวมฮากามะ  สีม่วงเข้มตามเหล่าสาวกในตำนาน  เพื่อเป็นการแสดงฐานะและความภักดี  โดยมีกระดิ่งมือทรงรีเป็นเครื่องติดต่อ  พิธีกรรมหรือวิธีใช้จะสืบทอดกันเป็นความลับระหว่างมิโกะแต่ละคนเท่านั้น  ซึ่งมีด้วยกันเจ็ดคน  หนึ่งในนั้นจะถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าสำหรับนำในปะรำพิธี  เมื่อมีงานฉลองสำคัญใหญ่
       เรื่องราวเกิดในตอนนี้เอง  เมื่อมิสึงิกำเนิดขึ้นท่ามกลางฤดูร้อนวันหนึ่ง  ระหว่างที่ทั้งหมู่บ้านเลี้ยงฉลองเทศกาลยูคุซึจิน  ซึ่งภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเป็นเพียงผู้เดียวที่ไม่ได้เข้าร่วม  เหล่ามิโกะทั้งเจ็ดได้ทำนายถึงเครื่องบรรณาการมนุษย์ครั้งแรก  รวมทั้ง เมื่อภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  นางพบว่าบุตรสาวในอุทรถูกวางอยู่ข้างกาย  ห่อหุ้มด้วยผ้าสีไหมแดงสวย  แต่กลับจำไม่ได้ว่าเกิดเรื่องราวใดขึ้น!?
       ชาวบ้านทั้งหลายรักและเคารพมิสึงิ  ในขณะเดียวกันก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ในระยะที่มากจนเกินไป  หัวหน้าหมู่บ้านก็เก็บตัวนางไว้เพื่อฝึกสอนสิ่งต่างๆ  ให้สมกับเป็นของบรรณาการเทพตั้งแต่กำเนิด  มิสึงิจึงไม่ค่อยแยแสสิ่งใดรอบกายนัก  เมื่อรับคำสั่งมาจึงปฏิบัติตาม  ยกเว้นคำสั่งที่ว่าร้ายเทพี  เท่านี้ก็เพียงพอ
       แล้วในงานฉลองในอรุณรุ่งของอีกวัน  มิสึงิจะต้องสวมกิโมโนสีม่วงเข้มทั้งตัวเหมือนในตำนาน  ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของเหล่าหญิงรับใช้ตำนานที่เล่าลือกันมา  อาจเป็นเพราะลึกๆ แล้ว  ใจนางยังหวั่นอยู่กับสิ่งที่ถูกบอกกล่าวมาตั้งแต่เด็ก
       ...มิสึงิเกลียดชุดกิโมโนสีม่วงที่สุด  นางไม่เคยสวมมันเลย  ยกเว้นเวลาที่จำเป็นเท่านั้น
       แต่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนสิ่งที่โชคชะตากำหนดไว้ได้  อย่างน้อยมันก็ไม่ง่ายเลยสักนิด
       “คงได้เวลาเตรียมตัวแล้วล่ะ”  ท่านหัวหน้ายกมือขึ้นเมื่อมองไปทางดวงอาทิตย์ที่ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มที  “เจ้าต้องไปอยู่กับพวกมิโกะยูไคตั้งแต่คืนนี้  เตรียมตัวรับรู้กฎระเบียบความสำคัญในฐานะของเครื่องบรรณาการอย่างครบถ้วน  เมื่อรุ่งอรุณมาเยือน!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา