รักวุ่นวายของยัยอ้วนกับนายสุดหล่อ
1) ตื่นสายเลยซวย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอ๊ายยยยยย!อยากจะกรี๊ดให้บ้านแตก วันนี้เป็นวันออกค่ายแต่ฉันดันตื่นสาย อยากจะบ้าตาย ทำไมนะฉันถึงได้เป็นคนที่ตื่นยากตื่นเย็นแบบนี้ ตายแล้วมั่วแต่ยืนบ่นจะแปดโมงแล้วนี่ เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงติดสปีดวิ่งออกจากห้องนอนไปชั้นล่างด้วยความรวดเร็วทันที
"ว่าไงยัยหมูน้อยกว่าจะเนรเทศตัวเองออกมาจากห้องได้น่ะ ฉันก็บอกแกแล้วว่าให้แกเพิ่มนาฬิกาปลุกแกก็ไม่เชื่อฉันเป็นไงล่ะฉันต้องเสียเวลามารับแกเลยเห็นมั้ย"
"เพิ่มแล้วย่ะ แต่มันไม่ได้ยินนี่"
"เพิ่มเท่าไหร่"
"ก็บนหัวเตียงสิบตัว ซ้ายและขวาข้างละห้าตัว รวมยี่สิบตัว"
"ยี่สิบตัว!"
"อืม"
"นี่ขนาดยี่สิบตัวยังปลุกไม่สะเทือนโสตประสาทแกอีกหรอห่ะ ฉันว่าว่างๆแกควรจะไปหาหมอตรวจประสาทหูแกบ้างน่ะเผื่อบางทีมันอาจบอด ฉันถามจริงเหอะถ้าแกหลับอยู่แล้วเกิดไฟไหม้แกไม่โดนไฟครอบตายหรอห่ะ"
"โอ้ย เลิกบ่นได้แล้วน่ะ เอาเวลาที่มาบ่นน้องเนี่ยออกรถไปส่งน้องดีกว่ามั้ยค่าาาาา"
"ฉันน่ะเตรียมออกรถตั้งนานล่ะ"
"อ้าว แล้วไมไม่ออกรถล่ะ"
"แล้วเมื่อไหร่แกจะขึ้นรถล่ะ"
เพล้ง!ไม่ต้องตกใจเสียงหนังหน้าฉันแตกเองแหละ ยืนฟังพี่มันบ่นนานไปหน่อยเลยลืมไปว่าตัวเองยังไม่ได้ขึ้นรถ อายจัง
ตอนนี้ฉันได้ย้ายก้นอันอวบอิ่มของฉันเข้ามาอยู่ในรถแล้ว
"พร้อมยัง"
"คาดเข้มขัดนิรภัยเรียบร้อย ไปได้"
"โอเค"ตอนนี้พี่มันปรับเกียร์เสร็จแล้วเหยียบคันเร่งมิดเลยสวมวิญญาณตีนผีนักซิ่งรถขับปาดซ้ายทีขวาทีจนพี่น้องร่วมท้องถนนเดียวกันบีบแตรไล่พร้อมเสียงตะโกนด่าตามมาไม่ขาดสาย ถ้าคนที่ไม่เคยนั่งมานั่งนะรับรองงานนี้มีอ้วก แต่ตอนนี้ฉันชินแล้วเลยสบายเพราะว่านั่งรถพี่มันตั้งแต่มันขับรถเป็น แต่แอบกระซิบนิดนึงว่าตอนนั่งครั้งแรกนะอ้วกนี้เต็มรถเลยแถมด้วยอาการวิงเวียนศรีษะวิ้งๆไปอีกสองสามวัน แต่พูดถึงการขับรถแบบพี่มันก็มีประโยชน์น่ะโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาที่ฉันรีบแบบนี้มีประโยชน์มากที่สู้ดดดเลย และแล้วเราก็ขับรถเข้ามาสู่ที่หมายได้สำเร็จเข้าเขตสถานศึกษาของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศแต่ขนาดว่าเข้าเขตมหาลัยแล้วนะแต่อีพี่ปอนด์มันก็ยังไม่ลดความเร็วลงเลย
เอี๊ยด!เสียงล้อรถบดกับถนนอย่างแรง นี่แหละสไตล์พี่มัน ทำอะไรก็ตามต้องเป็นจุดเด่นเสมอ
"นี่พี่หัดทำอะไรให้ไม่เป็นจุดเด่นบ้างได้ป่ะ"
"หมูน้อยแกต้องเข้าใจว่าพี่มันหล่อ พี่มันรวย พี่เลยต้องเรียกร้องความสนใจ
"จะอ้วก"
"มั่วแต่จะอ้วก รีบๆลงไปรวมกับคนอื่นได้ล่ะ"
"รู้แล้วล่ะหน่า"
ฉันค่อยเคลื่อนย้ายร่างกายอันสมบูรณ์(เกินเหตุ)ของฉันลงจากรถแล้วสะพายเป้ใบใหญ่เดินเข้าไปที่หอประชุม พรึบ! คนนับร้อยชีวิตหันมามองที่ฉันเป็นตาเดียวอย่างมิได้นัดหมาย แหม...ไม่ต้องมองกันขนาดนั้นก็ได้เข้าใจว่าสวย ฮิฮิฮิ ไม่ปล่อยให้ฉันได้เวิ้นเว้อนานเสียงแหกปากสองร้อยแปดสิบเดซิเบลก็แผดเสียงขึ้น ขอขีดเส้นใต้คำว่าแหกปากเพราะพี่แกแหกปากจริงเสียงนี้ปรอดแตกเอาซะขี้หูฉันเต้นระบำสามช่าเลย
"เอาล่ะค่ะ และแล้วเราก็ได้ผู้ร่วมเล่นเกมคนสุดท้ายแล้วค่ะ ขอเสียงปรบมือต้อนรับด้วยค่ะ"หลังพี่แกพูดจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นและตามมาด้วยสายตาสมเพช สังเวช สงสาร จริงๆนะมันเป็นแววตาแบบนั้นจริงๆมองดูรู้เลย
"อ้าวน้องค่ะมั่วยืนอยู่ทำไมขึ้นมาบนเวทีสิค่ะ"
"ขึ้นไปทำไมอ่ะค่ะพี่"
"อ้าวก็ขึ้นมาเล่นเกมไงค่ะ"
"ทำไมต้องเป็นหนูหล่ะเอาคนอื่นไม่ได้หรอ"
"ไม่ได้ค่ะนี้เป็นเกมสุดท้ายแล้วเราก็ตกลงกันไว้แล้วว่าคนที่มาทีหลังสองคนสุดท้ายต้องขึ้นมาเล่นเกมสุดท้ายนี้ก่อนออกเดินทางค่ะ"
ใคร ใครว่ะ ใครเสือกเสนอหน้าไปตกลงกับพี่แกว่ะ แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน ฉันเดินขึ้นไปบนเวทีด้วยสีหน้าที่บอกอย่างชัดเจนว่า เซ็งเป็ด พอขึ้นมาอยู่บนเวทีเรียบร้อยฉันก็ใช้สายตามองไปข้างหลังพี่แกเพื่อดูหน้าเพื่อนร่วมชะตากรรมของฉัน แล้วฉันก็พบกับความจริงที่หน้าตกตะลึง
"ยัยเม"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ