กลร้อน เล่ห์รักชีค
1) บทที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 1
หลังจากที่เธอกับพ่อเดินทางไกลมาจากประเทศไทยตามผู้เป็นพ่อมาอย่างไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก รู้แต่ว่ามาต่างประเทศแค่นั้นเสียงดังอึกทึกรอบตัวทำให้หญิงสาวตัวเล็กเหลียวมองโดยรอบมือหนึ่งก็ดึงชายเสื้อของชายสูงวัยไว้
“พ่อจ๋า...ที่นี้มันที่ไหน”
“ถามจริง! เดินไปก็จะรู้เอง”
เปลวแดดร้อนลามเลียไปทั่วนอกอาคารผู้คนแต่งตัวกันขวัคไขว่เดินไปเดินมาจนปวดหัวหญิงสาวชาวเอเชียตัวเล็กได้แต่ก้มหน้างุดไม่ยอมสบตาใครเอาแต่เดินตามหลังผู้เป็นพ่ออย่างเดียวอย่างสงบเสงี่ยมหลังจากโดนดุเมื่อกี้
“แกไปรอที่หน้าประตูก่อนไป!เดี๋ยวฉันโทรหาเพื่อนก่อน”
“แต่...หนูกลัวหลงจ๊ะพ่อ”
“บ๊ะ! สั่งให้ทำอะไรอย่าเถียงซิวะ!”
ผู้เป็นพ่อตวาดเสร็จก็เดินไปอีกฝากของอาคารโดยไม่สนอาการละล้าละหลังของผู้เป็นลูกแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะตัดสินใจเดินไปตาคำสั่งของพ่อที่บอกให้รอที่ประตูมือเล็กลากกระเป๋าใบโตอย่างทุลักทุเลแต่เธอก็ไม่เอ่ยปากขอให้ใครมาช่วยแม้เธอจะเก่งภาษามากก็เถอะ เพราะที่นี้มีแต่คนแปลกหน้าไม่น่าไว้ใจแต่น้อย
เธอลากกระเป๋า 2 ใบโตสำเร็จจนมาถึงหน้าประตูของอาคารสนามบินแล้วมาแอบอยู่ข้างๆหน้าทางออกเพื่อไม่ให้เกะกะคนที่กำลังออก เธอสังเกตไปรอบๆพอจะรู้เลาๆแล้วว่าที่นี้คืออียิปเมืองแห่งทะเลทราย น่าใจหายเธอกับพ่อมาไกลจนถึงที่นี้เชียวหรือ
หญิงสาวเหลียวมองรอบๆตัวอย่างเพลิดเพลินจนสายตาไปปะทะกับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีคนตัวใหญ่ๆแต่งชุดสูทครบเซทเธอพอจะเดาออกว่าน่าจะเป็นบอดี้กาดไม่นับว่าคนที่ถือกระเป๋าตามหลังต้อยๆ และมีคนที่เดินนำหน้าพวกนั้นร่างสูงใหญ่คงจะเป็นคนใหญ่คนโตสินะ
เธอยิ้มอย่างสมเพศตัวเองนิดๆขณะที่เธอและพ่อกำลังไขว้ขว้าหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องอย่างยากลำบาก แต่ผู้ชายคนนี้หรือคนอืนๆที่มีฐานะเข้าขั้นดีมากๆกลับกระดิกนิ้วแปบเดียวของที่ตัวเองอยากจะได้ก็จะมาถวายแล้วเฮอะ! โลกนี้คิดแล้วน้ำตาเธอซึมนิดหนึ่งก่อนจะเสมองอย่างอื่นแทน
จนสายตาของฉันปะทะกับโปสเตอร์ครึ่งตัวของผู้ชายคนหนึ่งที่มีข้อความทั้งภาษาอียิปและภาษาอังกฤษที่พอจะแปลเลาๆได้ว่าต้อนรับใครสักคนหนึ่งที่สำคัญสำหรับประเทศนี้มากๆ พอฉันมองคนในรูปนั้นทำเอาฉันมีอาการแปลกๆเลยทีเดียวดวงตาสีสนิมเหล็กเรียวเล็กอย่างกับตาเหยี่ยวกำลังจ้องมองมาที่ฉันดูอยู่วงหน้าเรียวยาวสวยงามแข็งแรงแฝงไปด้วยกลิ่นอายของนักสู้จมูกโด่งเป็นสันตรงแน่วแน่ริมฝีปากบางสวยเหมือนริมฝีผู้หญิงยังไงยังงั้นยิ่งมีสีผิวสีแทนอีกทำให้เขามีเสน่ห์มากขึ้นเหมือนดิบๆเถื่อนๆโดยรวมแล้วหน้าตาและหุ่นนั้นราวกับพระเจ้าบรรจงสร้างเขามาทีเดียว อา~ ช่างมีเสน่ห์
บ้าน่ะซิ!นี่ฉันกำลังหลงรักรูปใครไม่รู้งั้นหรอ ฉันเม้มปากแน่นก่อนจะเบนสายตาที่ขบวนที่อยู่หน้าปากประตูที่เดิมแต่ตอนนี้กลับเนื่องแน่นไปด้วยฝูงชนอย่างมากมายเมื่อกี้คนไม่เยอะขนาดนี้นี่นาตอนนี้เยอะขนาดนี้แล้วหรอ
“ยัยดา! ไปเถอะเพื่อนฉันมารับแล้ว”
“ออจ๊ะ...พ่อ”
ฉันตามพ่ออย่างว่าง่ายก่อนจะเหลียวมองขบวนของชายคนนั้นอีกรอบ พ่อที่เดินนำหน้าฉันหันมาเร่งยิกๆก่อนจะปรามาสฉันอย่างหยามเหยียด
“เฮอะๆคนยังแกน่ะไม่มีวาสนาไปเดินตรงนั้นหรอกไม่มีปัญญานั่งรถหรูๆชาตินี้ทั้งชาติแกเป็นได้แค่หมามองตามเขาอย่างเดียวนั้นละวะ555+”
ฉันเดินตาพ่ออย่างเศร้าสร้อยนั้นสินะ!ชีวิตทั้งชีวิตฉันคงไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก ยิ้มให้ตัวเองอย่างปลอบใจก่อนจะเดินตามหลังพ่อไปอย่างเงียบเชียบ
“เอ้า!!! เดินเร็วๆหน่อยเพื่อนฉันบีบแตรรอนู่นละ”
“จ๊ะๆพ่อ”
พ่อหันมาตวาดฉันแล้วเดินฉับๆไปที่รถคันเก่ามอซอๆคันหนึ่งที่รถห่างออกไปพอสมควร เธอก้าวเข้าไปนั่งในรถอย่างระมัดระวังส่วนพ่อของเธอนั้นนั่งที่ข้างหน้าและทักทายชายคนนั้นด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น
“สวัสดี...คุณสมศักดิ์ ไม่ได้เจอกันนานนะ”
“ออครับ...คุณอาซาส”
ฉันมองหน้าชายคนนั้นผ่านกระจกหน้ารถแต่ต้องไปปะทะกับสายตาที่แสนเจ้าเล่ห์ของชายคนนั้นพอดี น่าขยะแขยงนักฉันคิดก่อนจะเบือนหน้าออกไปดูร้านรวงที่เรียงรายกันสองข้างทาง
“นั้น!ลูกสาวคุณหรอสมศักดิ์”
“ห๊ะ!ออใช่”
จากนั้นก็ไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างทางอีกเลย ผ่านไปสักพักรถก็เหลียวเข้าสู่ตัวบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะพอสมควรพอรถจอดเสร็จก็มีคนใช้ 2 คนมารับกระเป๋าไว้พอขนข้าวขนของทั้งหมดไว้ที่ห้องรับแขก พ่อและนายเศรษฐีเจ้าเล่ห์คนนั้นก็เดินไปคุยธุระกันที่ห้องข้างบน
นานเท่าไรไม่รู้ที่ฉันหลับไปเพราะอาการเพลียหลังจากลงเครื่องใหม่ๆแถมต้องปรับตัวกับอากาศที่นี้อีกมันจึงทำให้ฉันหลับไปอย่างง่ายดาย ก่อนที่นายเศรษฐีเจ้าเล่ห์คนนั้นมาปลุกฉัน
“เอ่อ...ขอโทษค่ะที่เผลองีบหลับไป”
“ไม่เป็นไรหรอก...มาเก็บกระเป๋าไปซิ”
“ห๊า! แล้วพ่อละค่ะ พ่ออยู่ไหน” ฉันถามอย่างตกใจพ่อมีไหนไม่รู้ทำไมปล่อยฉันอยู่กับนายเศรษฐีเจ้าเล่ห์คนนี้นะ กระเป๋าพ่อก็อยู่นี่
“จดหมาย...พ่อเธอเขียนทุกอย่างอยู่ในนี้ อ่านซะแล้วฉันจะให้ลิซ่าเอากระเป๋าเธอไปไว้ในห้อง”
พูดจบนายเศรษฐีเจ้าเล่ห์คนนั้นก็เดินขึ้นข้างบนทันที เรื่องอะไรกันฉันงงไปหมดแล้วนะหรือมันจะเกี่ยวกับการที่พ่อหายตัวไปนี่ด้วย ฉันรีบแกะจดหมายด้วยมืออันสั่นเทา แต่แล้วเธอก็แทบจะเป็นลมไปตรงนี้ให้ได้หลังจากอ่านเนื้อความในจดหมาย
ถึงยัยดา
แกอยู่กับคุณยาซาฟที่นี่ซะ ฉันขายแกให้เขาแล้วส่วนฉันจะไปใช้ชีวิตที่เมืองไทย ยังไงฉันก็ขอโทษละกันที่ทิ้งแก
จาก พ่อ
เธอถือกระดาษจดหมายด้วยมืออันสั่นเทาตอนนี้เธอมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะน้ำตาที่ไหลอย่างทำนบแตกบดบังไปหมด เธออยากจะพูดอะไรให้หายเจ็บแค้นแต่มันไม่สามารถพูดอะไรได้เลยมันดังก้องอยู่ในหัวอย่างเดียวเท่านั้น จนมีเสียงคนใช้ผู้หญิงคนหนึ่งเรียกที่ข้างตัว
“คุณ คุณค่ะ...ตามดิฉันมาทางนี้ค่ะ”
ฉันไม่มีสติอะไรแล้วตอนนี้ได้แต่ทำตามอย่างว่าง่าย ภาพในหัวตั้งแต่ตอนเด็กๆที่อยู่กับพ่อ 2 คนตั้งแต่จำความได้ค่อยๆไหลออกมาราวกับซีดีที่รีเพลย์เล่นใหม่อีกรอบถึงพ่อฉันจะดุด่าตลอดเวลาแต่ทุกครั้งพ่อจะไม่เคยทิ้งฉันอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้ละฉันต้องอยู่ที่ไหนไม่รู้แถมยังต้องมาเผชิญหน้าตาลำพังงั้นหรอ นี่ฉันไม่เหลือใครเลยใช่ไหม!
ฉันเดินเข้าห้องเมื่อไรไม่รู้รู้แต่ว่าตอนนี้ความกลัวทุกอย่างกำลังประดังประเดเข้ามา ร่างบางทิ้งตัวลงเตียงอย่างแรงก่อนจะนอนร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ