ภูติแห่งดินแดนผู้พิทักษ์

3.3

เขียนโดย AsurAngLe

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 12.22 น.

  4 ตอน
  10 วิจารณ์
  8,798 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) อะไรหน่ะ!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสาวน้อยวัย 16 ปี ที่กำลังเข้าป่าเพื่อล่าเหยื่อมาทำอาหาร บรรยากาศภายในป่ารกทึบนั้น มีเสียงฝนตกเปาะแปะลงมา เม็ดฝนที่ตกลงมาพรำพรำนั้น ทำให้เธอจับตามองเหยื่อได้ยากลำบากและในทางกลับกันก็อำพรางตัวได้ดีกว่าเดิม เธอกำลังจับจ้องเหยื่อตัวน้อยที่กำลังจะวิ่งเข้าโพรงโพรงนึงใต้ต้นไม้ใหญ่ จากนั้นเธอก็ได้เตรียมถุงมือที่ทำมาจากเหล็กนิ่ม ผิวของถุงมือนั้นเป็นตะข่ายมีรู รูของถุงมือมีความละเอียดมากจึงทำให้เขี้ยวของสัตว์ป่าไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็ไม่สามารถที่จะเจาะผ่านเข้าถึงส่วนมือของผู้ใช้ได้ กระต่ายตัวน้อยออกตัววิ่งอย่างรวดเร็วเข้าสู่โพรงที่หลบภัยของมัน จากนั้นสาวน้อยเธอก็ได้ลงมือล่าเหยื่ออย่างช่ำชอง มือของเธอเอื้อมเข้าไปในโพรงหลังจากที่กระต่ายตัวนั้นวิ่งเข้าไปหลบในโพรงได้ยังไม่ถึงนาทีเลยด้วยซ้ำ กระต่ายตัวนั้นพยายามดิ้นให้เธอหลุดมือจากมันแต่ก็ยากนักเพราะเธอเองก็เป็นพวกมืออาชีพในด้านการล่าสัตว์ เมื่อเธอได้เหยื่อตามที่ต้องการแล้ว เธอได้นำเชือกที่พกติดตัวมาด้วยมาใช้ผูกมัดเหนื่อเพื่อไม่ให้หลุดหนีไปได้ หลังจากเธอเสร็จภารกิจล่าเหยื่อแล้สนั้นก็ได้ถือส่วนเชือกที่ทำไว้ หิ้วเหยื่อเพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทางกลับ
บ้านขณะที่เธอเดินอยู่ในป่านั่นเอง เธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างเข้าโดยบังเอิญ "หืม!... ฮ่าฮ่าฮ่า สงสัยฉันจะหิวจนตาลายมองเห็นอะไรพิลึกๆ แล้วแน่ๆ " เธอพูดออกมาเพื่อเรียกกำลังใจพยายามตั้งสติ และกำลังคิดว่าที่เห็นนั้นเป็นเพียงแค่เธอตาฝาดเท่านั้น เธอจึงเดินไปตรงนั้นที่เธอพบเจออะไรบางอย่างและเธอมาหยุดอยู่ที่เดอกไม้ดอกนึง เป็นดอกไม้ที่แปลกประหลาดมาก เธอเองก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ลักษณะที่เธอเห็นนั้นเป็น ดอกไม้ดอกใหญ่กรีบสีชมพูอ่อนแต่ละกรีบนั้นโปรงใสพอที่จะเห็นเกรสภายในได้ เธอยืนมองความงดงามของดอกไม้ดอกนั้นด้วยความตื่นตา และขณะนั้นเองสิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ดอกไม้ดอกนั้นมีประกายแสงออกมาและเหล่าเกรสก็ได้หลุดลอยออกมา เกรสที่หลุดออกมานั้นลอยตัวไปรอบดอกไม้นั้น แสงประกายที่ออกมาจากดอกไม้ทำให้เกรสดอกไม้ดูเหมือนมีชีวิต มันเต้นรำวนรอบดอกไม้นั้นและเปล่งประกายแสงไปพร้อมกับดอกของมัน เมื่อเกรสหยุดนิ่งเหล่ากรีบดอกไม้ที่บานสะพรั่งก็ได้หุบตัวเข้าช้าๆ  เธอที่ยืนชื่นชมดอกไม้อยู่นั้นก็ตกใจมากกับการเปลี่ยนแปลง เธอกระโดดหลบเข้าหลังต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆต้นนึง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากดอกไม้นั้นมากนัก แม้เธอจะกลัวแต่ก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 
"สวยมากจริงๆดอกไม้อะไรกันใหญ่โตสวยงามขนาดที่ทำให้ฉันลืมไปเลยว่ากำลังหิวอยู่" เธอพูดออกมาด้วยความสงสัยว่าดอกไม้ที่เธอเจอนี้มันคืออะไรกันแน่ " ออกมาเถอะผู้ถูกเลือก ฉันไม่ทำร้ายใครหรอกนะ อย่าแอบอยู่แบบนั้นเลย เธอจะมารับฉันไม่ใช่หรอดีใจจังในที่สุดเธอก็มารับฉันซักที ฉันหน่ะรอเธอมานานเกือบ100ปีได้แล้วหล่ะนะ " เสียงบางอย่างที่ดังออกมาจากภายในดอกไม้สีชมพูนั้น " ใครหน่ะพูดอยู่ตรงไหน ที่พูดถึงหน่ะ หมายถึงตัวฉันหรือปล่าว " การโต้ตอบกลับของเธอทำให้ดอกไม้นั้นเคลื่อนไหวอีกครั้ง เธอตกใจมากแต่ก็พยายามตั้งสติดูให้แน่ชัดว่าสิ่งที่พูดกับเธอในตอนนี้นั้นไม่ใช่ผี (อะไรอยู่ในดอกไม้ดอกนั้นกันนะ นั่นไง!มันเคลื่อนไหวอยู่ภายในดอกไม้นั่น) มันไม่ใช่เสียงแต่มันเป็นความคิดของเธอ "ใช่แล้วหล่ะ ฮิฮิ ฉันอยู่ในดอกไม้ เร็วซิมารับฉันเถอะ" เสียงเหมือนเด็กเล็กกำลังพูดคุยกับเธอ (ฉันอาจจะคิดไปเองนะแต่เมื่อกี้หน่ะ ฉันแค่คิดทำไมมันถึงพูดโต้ตอบกับฉันได้หล่ะ) เธอเริ่มสังเกตุว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นอีก มันยิ่งเริ่มทำให้เธอกลัวมากจนเธอตัดสินใจลุกขึ้นยืนเพื่อจะหนี และเสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกทำให้เธอก้าวขาไม่ออก "การรอคอยหน่ะ มันทรมานมากจริงๆ ถ้าฉันไม่เจอเธอ
ในวันนี้ ซักวันเราก็จะต้องได้เจอกันอีก เพราะเธอคือคนที่ฉันเลือกแล้ว ตอนนี้ฉันหน่ะ จะไม่บังคับเธอให้เธอมารับฉันแล้วหล่ะ จะรอจนกว่าเธอจะพร้อมมารับฉันได้อย่างตั้งใจจริง ฉันจะรอนะ" สิ้นเสียงนั้นดอกไม้ที่เปล่งแสงก็ได้เลือนลางหายไป "เดี๋ยวซิ!นี่" เธอตั้งสติได้ก็ร้องตะโกนพร้อมวิ่งเข้าหาดอกไม้ที่กำลังจะหายไป เมื่อเธอวิ่งไปถึง ก็คว้าไว้ได้แค่ลมปล่าวเพราะตรงนั้นไม่มีอะไรอยู่อีกแล้ว เรนเธอตัดสินใจกลับบ้านพร้อมเหยื่อที่ดิ้นจนหมดแรง มื้อค่ำของเธอคือสเต๊กเป็นเมนูสูตรเด็ดที่คุณแม่ของเธอลงมือทำเอง เมื่อทานเสร็จเธอได้ออกมานั่งรับลมหน้าบ้าน ตรงม้านั่งไม้ที่พ่อของเธอทำขึ้น " เป็นอะไรไปหน่ะลูก...เรน มีเรื่องไม่สบายใจหรือปล่าว เล่าให้แม่ฟังได้ไหม" มาเรียเธอถามไถ่พร้อมกับมองหน้าเรนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "ก็หลายๆเรื่องหน่ะคะ.. แม่คะ คนที่แม่คุยด้วยในเมืองใหญ่คือใครหรอคะ" มาเรียยังคงยิ้มและรู้ทันว่าเรนนั้นไม่อยากจะเล่าให้เธอฟัง "ก็แค่เพื่อนที่รู้จักกันเองจ่ะลูก เขามาถามเรื่องพื้นที่ในป่าใกล้บ้านเรา พูดกันว่าเดือนหน้าเขาจะขยายเมืองโดยใช้พื้นที่ใกล้บ้านเรา เพราะมันไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก พูดถึงเรื่องป่าเรนแม่ขอหล่ะ 
อย่าไปล่าสัตว์อีกได้ไหมจ๊ะ" มาเรียเธอกำลังรอคำตอบของลูกสาวอย่างกังวล แต่เรนก็เงียบและหันหน้าหนี "แม่ก็แค่เป็นห่วงนะ แม่รู้ว่าเรนคิดถึงพ่อ แต่พ่อหน่ะหายไปในป่านะเรน ถึงป่านนี้ยังหาตัวไม่เจอ แม่หน่ะแค่ไม่อยากให้เรนออกไปล่าสัตว์เหมือนพ่อถ้าเรนหายไปอีกคนแม่คงแย่แน่ๆ" มาเรียเริ่มมีสีหน้าตึงเครียดและโศกเศร้า "แม่คะ ซักพักพ่อต้องกลับมาแน่คะหนูเชื่อแบบนั้นนะ ถ้าแม่กลัวหนูจะหายไปเหมือนพ่อ หนูจะทำตามที่แม่ขอนะคะ" เรนกอดมาเรียทั้งน้ำตา มาเรียเองก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้เพราะไม่อยากให้เรน เครียดไปกว่าเดิม สิ่งที่เรนได้รับอยู่ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มันก็มากพอแล้วสำหรับเธอ (หนูแค่อยากหาพ่อให้เจอเท่านั้นเองคะ ขอโทษนะคะที่ทำให้แม่รู้สึกกังวลกับการกระทำนี้) เธอแอบคิดอยู่ในใจเท่านั้นยังไม่มีความกล้าพอที่จะพูดบอกแม่ของเธอ "ไปเตรียมตัวเข้านอนเถอะเดี๋ยวแม่จะไปทำความสะอาดของที่รกๆในบ้านอีกหน่อย แล้วจะตามไปนะลูก" มาเรียพูดจบก็เดินเข้าบ้านโดยมีเรนเดินตามเข้าบ้านมาด้วย "เดี๋ยวหนูช่วยคะ" เรนเริ่มยิ้มออกเมื่อเธออาสาช่วยแม่ของเธอทำความสะอาดด้วยอีกคน    (ติดตามตอนต่อไปได้เร็วๆนี้จ้า...)

 

 

 

 

 

 

เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสาวน้อยวัย 16 ปี ที่กำลังเข้าป่าเพื่อล่าเหยื่อมาทำอาหาร

 

บรรยากาศภายในป่ารกทึบนั้น มีเสียงฝนตกเปาะแปะลงมา เม็ดฝนที่ตกลงมาพรำพรำนั้น ทำให้เธอจับตา

 

มองเหยื่อได้ยากลำบากและในทางกลับกันก็อำพรางตัวได้ดีกว่าเดิม เธอกำลังจับจ้องเหยื่อตัวน้อยที่กำลัง

 

จะวิ่งเข้าโพรงโพรงนึงใต้ต้นไม้ใหญ่จากนั้นเธอก็ได้เตรียมถุงมือที่ทำมาจากเหล็กนิ่ม ผิวของถุงมือนั้นเป็น

 

ตะข่ายมีรู รูของถุงมือมีความละเอียดมากจึงทำให้เขี้ยวของสัตว์ป่าไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็ไม่สามารถที่จะ

 

เจาะผ่านเข้าถึงส่วนมือของผู้ใช้ได้ กระต่ายตัวน้อยออกตัววิ่งอย่างรวดเร็วเข้าสู่โพรงที่หลบภัยของมัน

 

จากนั้นสาวน้อยเธอก็ได้ลงมือล่าเหยื่ออย่างช่ำชอง มือของเธอเอื้อมเข้าไปในโพรงหลังจากที่กระต่ายตัว

 

นั้นวิ่งเข้าไปหลบในโพรงได้ยังไม่ถึงนาทีเลยด้วยซ้ำ กระต่ายตัวนั้นพยายามดิ้นให้เธอหลุดมือจากมันแต่ก็

 

ยากนักเพราะเธอเองก็เป็นพวกมืออาชีพในด้านการล่าสัตว์ เมื่อเธอได้เหยื่อตามที่ต้องการแล้ว เธอได้นำ

 

เชือกที่พกติดตัวมาด้วยมาใช้ผูกมัดเหยื่อเพื่อไม่ให้หลุดหนีไปได้ หลังจากเธอเสร็จภารกิจล่าเหยื่อแล้ว

 

นั้นก็ได้ถือส่วนเชือกที่ทำไว้ หิ้วเหยื่อเพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทางกลับบ้านขณะที่เธอเดินอยู่ในป่านั่นเอง

 

เธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างเข้าโดยบังเอิญ "หืม!... ฮ่าฮ่าฮ่า สงสัยฉันจะหิวจนตาลายมองเห็น

 

อะไรพิลึกๆ แล้วแน่ๆ " เธอพูดออกมาเพื่อเรียกกำลังใจพยายามตั้งสติ และกำลังคิดว่าที่เห็นนั้นเป็นเพียง

 

แค่เธอตาฝาดเท่านั้น เธอจึงเดินไปตรงนั้นที่เธอพบเจออะไรบางอย่างและเธอมาหยุดอยู่ที่เดอกไม้ดอก

 

นึง เป็นดอกไม้ที่แปลกประหลาดมาก เธอเองก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ลักษณะที่เธอเห็นนั้นเป็น ดอกไม้

 

ดอกใหญ่กรีบสีชมพูอ่อนแต่ละกรีบนั้นโปรงใสพอที่จะเห็นเกรสภายในได้ เธอยืนมองความงดงามของ

 

ดอกไม้ดอกนั้นด้วยความตื่นตา และขณะนั้นเองสิ่งผิดปกติก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ดอกไม้ดอกนั้นมีประกายแสง

 

ออกมาและเหล่าเกรสก็ได้หลุดลอยออกมา เกรสที่หลุดออกมานั้นลอยตัวไปรอบดอกไม้นั้น แสงประกาย

 

ที่ออกมาจากดอกไม้ทำให้เกรสดอกไม้ดูเหมือนมีชีวิต มันเต้นรำวนรอบดอกไม้นั้นและเปล่งประกายแสง

 

ไปพร้อมกับดอกของมัน เมื่อเกรสหยุดนิ่งเหล่ากรีบดอกไม้ที่บานสะพรั่งก็ได้หุบตัวเข้าช้าๆ  เธอที่ยืน

 

ชื่นชมดอกไม้อยู่นั้นก็ตกใจมากกับการเปลี่ยนแปลง เธอกระโดดหลบเข้าหลังต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆต้นนึง ซึ่ง

 

อยู่ไม่ห่างจากดอกไม้นั้นมากนัก แม้เธอจะกลัวแต่ก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น "สวยมากจริงๆดอกไม้อะไรกัน

 

ใหญ่โตสวยงามขนาดที่ทำให้ฉันลืมไปเลยว่ากำลังหิวอยู่" เธอพูดออกมาด้วยความสงสัยว่าดอกไม้ที่เธอ

 

เจอนี้มันคืออะไรกันแน่ " ออกมาเถอะผู้ถูกเลือก ฉันไม่ทำร้ายใครหรอกนะ อย่าแอบอยู่แบบนั้นเลย เธอ

 

จะมารับฉันไม่ใช่หรอดีใจจังในที่สุดเธอก็มารับฉันซักที ฉันหน่ะรอเธอมานานเกือบ100ปีได้แล้วหล่ะนะ "

 

เสียงบางอย่างที่ดังออกมาจากภายในดอกไม้สีชมพูนั้น " ใครหน่ะพูดอยู่ตรงไหน ที่พูดถึงหน่ะหมายถึงตัว

 

ฉันหรือปล่าว " การโต้ตอบกลับของเธอทำให้ดอกไม้นั้นเคลื่อนไหวอีกครั้ง เธอตกใจมากแต่ก็

 

พยายามตั้งสติดูให้แน่ชัดว่าสิ่งที่พูดกับเธอในตอนนี้นั้นไม่ใช่ผี (อะไรอยู่ในดอกไม้ดอกนั้นกันนะ นั่นไง!

 

มันเคลื่อนไหวอยู่ภายในดอกไม้นั่น) มันไม่ใช่เสียงแต่มันเป็นความคิดของเธอ "ใช่แล้วหล่ะ ฮิฮิ ฉันอยู่ใน

 

ดอกไม้ เร็วซิมารับฉันเถอะ" เสียงเหมือนเด็กเล็กกำลังพูดคุยกับเธอ (ฉันอาจจะคิดไปเองนะแต่เมื่อกี้หน่ะ

 

ฉันแค่คิดทำไมมันถึงพูดโต้ตอบกับฉันได้หล่ะ) เธอเริ่มสังเกตุว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นอีก มันยิ่งเริ่มทำให้

 

เธอกลัวมากจนเธอตัดสินใจลุกขึ้นยืนเพื่อจะหนี และเสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกทำให้เธอก้าวขาไม่ออก "การ

 

รอคอยหน่ะ มันทรมานมากจริงๆ ถ้าฉันไม่เจอเธอในวันนี้ ซักวันเราก็จะต้องได้เจอกันอีก เพราะเธอคือคน

 

ที่ฉันเลือกแล้ว ตอนนี้ฉันหน่ะ จะไม่บังคับเธอให้เธอมารับฉันแล้วหล่ะ จะรอจนกว่าเธอจะพร้อมมารับฉัน

 

ได้อย่างตั้งใจจริง ฉันจะรอนะ" สิ้นเสียงนั้นดอกไม้ที่เปล่งแสงก็ได้เลือนลางหายไป "เดี๋ยวซิ!นี่" เธอตั้ง

 

สติได้ก็ร้องตะโกนพร้อมวิ่งเข้าหาดอกไม้ที่กำลังจะหายไป เมื่อเธอวิ่งไปถึง ก็คว้าไว้ได้แค่ลมปล่าวเพราะ

 

ตรงนั้นไม่มีอะไรอยู่อีกแล้ว เรนเธอตัดสินใจกลับบ้านพร้อมเหยื่อที่ดิ้นจนหมดแรง มื้อค่ำของเธอคือสเต๊ก

 

เป็นเมนูสูตรเด็ดที่คุณแม่ของเธอลงมือทำเอง เมื่อทานเสร็จเธอได้ออกมานั่งรับลมหน้าบ้าน ตรงม้านั่งไม้

 

ที่พ่อของเธอทำขึ้น " เป็นอะไรไปหน่ะลูก...เรน มีเรื่องไม่สบายใจหรือปล่าว เล่าให้แม่ฟังได้ไหม" มาเรีย

 

เธอถามไถ่พร้อมกับมองหน้าเรนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "ก็หลายๆเรื่องหน่ะคะ.. แม่คะ คนที่แม่คุยด้วยในเมือง

 

ใหญ่คือใครหรอคะ" มาเรียยังคงยิ้มและรู้ทันว่าเรนนั้นไม่อยากจะเล่าให้เธอฟัง "ก็แค่เพื่อนที่รู้จักกันเองจ่ะ

 

ลูก เขามาถามเรื่องพื้นที่ในป่าใกล้บ้านเรา พูดกันว่าเดือนหน้าเขาจะขยายเมืองโดยใช้พื้นที่ใกล้บ้านเรา

 

เพราะมันไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก พูดถึงเรื่องป่าเรนแม่ขอหล่ะ อย่าไปล่าสัตว์อีกได้ไหมจ๊ะ" มาเรียเธอ

 

กำลังรอคำตอบของลูกสาวอย่างกังวล แต่เรนก็เงียบและหันหน้าหนี "แม่ก็แค่เป็นห่วงนะ แม่รู้ว่าเรนคิดถึง

 

พ่อ แต่พ่อหน่ะหายไปในป่านะเรน ถึงป่านนี้ยังหาตัวไม่เจอ แม่หน่ะแค่ไม่อยากให้เรนออกไปล่าสัตว์

 

เหมือนพ่อถ้าเรนหายไปอีกคนแม่คงแย่แน่ๆ" มาเรียเริ่มมีสีหน้าตึงเครียดและโศกเศร้า "แม่คะ ซักวันพ่อ

 

ต้องกลับมาแน่คะหนูเชื่อแบบนั้นนะถ้าแม่กลัวหนูจะหายไปเหมือนพ่อ หนูจะทำตามที่แม่ขอนะคะ" เรน

 

อดมาเรียทั้งน้ำตา มาเรียเองก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้เพราะไม่อยากให้เรน เครียดไปกว่าเดิม สิ่งที่เรนได้

 

รับอยู่ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มันก็มากพอแล้วสำหรับเธอ (หนูแค่อยากหาพ่อให้เจอเท่านั้นเองคะ

 

ขอโทษนะคะที่ทำให้แม่รู้สึกกังวลกับการกระทำนี้) เธอแอบคิดอยู่ในใจเท่านั้นยังไม่มีความกล้าพอที่จะ

 

พูดบอกแม่ของเธอ "ไปเตรียมตัวเข้านอนเถอะเดี๋ยวแม่จะไปทำความสะอาดของที่รกๆในบ้านอีกหน่อย

 

แล้วจะตามไปนะลูก" มาเรียพูดจบก็เดินเข้าบ้านโดยมีเรนเดินตามเข้าบ้านมาด้วย "เดี๋ยวหนูช่วยคะ" เรน

 

เริ่มยิ้มออกเมื่อเธออาสาช่วยแม่ของเธอทำความสะอาดด้วยอีกคน


 

 

 

 

(ติดตามตอนต่อไปได้เร็วๆนี้จ้า...)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา