แค้นรักจอมราชันด์แห่งทะเลทราย

บทนำ

          ค่ำคืนดึกสงัดของวันนึง แสงไฟจากเทียนไขเหลืองอร่ามภายในห้องฉายแสงให้เห็นหนุ่มสาวคู่นึงกอดกันอยู่บนเตียง สองมือลูบไล้ก่ายกันไปมาอย่างเร่าร้อน ฝ่ายหญิงเป็นนางบำเรอคนนึงที่เขารักใคร่มาก ถึงขนาดยอมให้เข้ามาที่ประทับส่วนตัวของตน มาอยู่บนเตียงอันแสนหรูหรา ส่วนฝ่ายชาย จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากองค์ฟาโรห์ ผู้ยิ่งใหญ่ นัยด์ตาดั่งพญาเหยี่ยว พระองค์มีพระนามว่า คาลิค อัลเซลฟาดีน ทรงเป็นพระราชโอรสองค์โตในอดีตฟาโรห์ผู้วายชนม์และพระราชินีเนเฟรติติ ราชินีม่ายผู้สูงศักดิ์ ทรงเป็นนักรักที่เร่าร้อน จะเห็นได้ว่าทรงมีหญิงงามเคียงข้างกายเสมอ แต่ทรงไร้คู่ครองที่แท้จริง เนื่องด้วย พระองค์มิทรงปราถนาหญิงใดที่จะให้มาเป็นแม่ของลูก ยกเว้นเพียงนางเดียว นางที่ทำให้พระอาทิตย์ส่องแสง นางผู้เป็นองค์หญิงปลายแถว ธิดาในฮ่องเต้ซัวซินกับพระสนมโอหยางกุ้ยชิง นางสนม ผู้น่ารังเกียจที่สุด แต่ธิดาของนาง ซึ่งก็คือ องค์หญิงเหยียนเอ๋อร์ นางกับมีความสวยกว่ามารดาของตนและสวยกว่าธิดาที่ประสูติจากฮองเฮา จึงทำให้นางงามที่สุดในสามโลก เพราะฉะนั้น นี่คงเป็นสาเหตุนึงที่องค์ฟาโรห์อยากจะครอบครองนาง

          ในปัจจุบัน องค์หญิงเหยียนเอ๋อร์ได้ย้ายมาพำนักในพระราชวังแห่งอียิปต์ในฐานะพระราชอาคันตุกะรวมทั้งเป็นเชลยที่สำคัญคนนึงที่ฟาโรห์ให้ความสนพระทัยมากกว่าเชลยคนอื่นๆ แต่ถึงแม้นางจะสวย จะฉลาด และมีความสง่า แต่ก็เป็นที่น่าเกลียดชังในบรรดานางในฮาเร็มขององค์ฟาโรห์ รวมทั้ง เจ้าหญิงอัลรีน่า พระราชธิดาในเจ้าชายคาลอสและพระชายาเอกเซเลญ่า นางผู้ซึ่งเป็นพระนัดดาในอดีตฟาโรห์ และเป็นลูกพี่ลูกน้องขององค์ฟาโรห์คาลิคเอง แม้ว่าจะเป็นน้องสาวของพระองค์ แต่นางก็คิดเกินเลยจนขั้นรักแบบคนรัก นางถือว่าเป็นเจ้าหญิงที่สิริโฉมงดงามที่สุดในอียิปต์ ด้วยความที่พระพักต์คมราวกับเป็นเทพีกลับชาติมาเกิด สุดท้าย ถึงแม้ว่าจะสวยแค่ไหน แต่ด้วยความเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ดื้อรั้น ชอบดูถูก นางจึงเป็นที่น่ารังเกลียดในองค์ฟาโรห์

          พระนางเนเฟรติติ ผู้เป็นพระราชมารดาหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ฟาโรห์ทรงอภิเษกและแต่งตั้งเจ้าหญิงอัลรีน่าขึ้นเป็นพระราชินีเคียงข้างราชบัลลังค์ แต่ฟาโรห์ก็ทรงบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง ไม่อยากจะเอานางมาเป็นเมีย สุดท้าย พระองค์จึงเดินทางออกจากอียิปต์เพื่อไปตามหารักแท้ วันนึง ทรงไปเยือนพระราชวังแห่งจีน ก็พบกับหญิงงามนางนึงกำลังเล่นซุกซนกับบรรดาเหล่านางกำนัล พระองค์ทรงนึกรักและหลงทันที จึงตามสืบต่างๆ นานา จนได้ความว่า นางเป็นองค์หญิงของจีน พระองค์จึงเข้าไปสู่ขอนางกับฮ่องเต้ และฮ่องเต้ ผู้คิดอยากจะยึดครองอียิปต์อยู่แล้ว พอเห็นลู่ทางสานฝัน ก็รีบคว้ามันอย่างเร็วเหมือนเสือดาวที่จู่โจมตะครุบเหยื่อของตน

          องค์หญิงจ้องมองฟาโรห์ด้วยความหลงรัก จึงทำทุกวิธีทาง สร้างมนต์เสน่ห์ของนางให้มากที่สุด เพื่อวันใดวันนึงจะได้เป็นองค์ราชินีแห่งอียิปต์

          สุดท้ายเมื่อองค์หญิงได้มาพำนักในราชสำนักอียิปต์ นางก็ถูกบรรดามเหสี ชายาเอก ชายารอง รวมทั้งเจ้าหญิงอัลรีน่าดูถูกต่างๆ นานา ว่ามีมารดาเป็นแค่หญิงชาวบ้านที่ได้ไต่เต้าขึ้นมาเป็นสนมของฮ่องเต้ พวกนางมักอิจฉาที่เหยียนเอ๋อร์ได้เข้าไปนั่งข้างกายองค์ฟาโรห์เพลาที่มีงานเฉลิมฉลอง และมักกลั่นแกล้งให้นางขายเสมอ แต่สุดท้าย ฟาโรห์ก็ทรงช่วยไว้ทุกที

          “ฝ่าบาทเพคะ มีอะไรให้อาเซนเธียรับใช้อีกไหมเพคะ” พระสนมอาเซนธาเรีย สนมผู้เป็นที่รักแห่งองค์ฟาโรห์พูดพลางไล่จูบไปตามกล้ามหน้าท้องของพระองค์ ทำให้ฟาโรห์ทรงครางอย่างช้าๆ

          “แค่เจ้าบำเรอข้าบนเตียงก็พอแล้วนะ เซนเธียที่รักแห่งข้า” พระองค์หัวเราะ หึหึ ในลำคอ จนทำให้พระสนมยิ้มพลางหวังคาดหมายถึงตำแหน่งอันสูงส่งอย่างองค์ราชินี

          “เซนเธียอยากต่อนะ ถึงเช้าเลยนะเพคะ” เซนเธีย นางสนมผู้มักมากในกามไล่ลิ้นไปมาตามแผงอกของพระองค์พลางจูบอย่างหนักหน่วง จนทำให้ฟาโรห์ยิ่งพอพระทัย แต่ก็นั่นละ ทรงเห็นนางเป็นเพียงแค่นางบำเรอ ไม่มีทางชูคอขึ้นมาได้หรอก ฟาโรห์ได้ดึงกระชากร่างของสนมนางนี้ลงสู่เตียงอย่างแรงและขึ้นไปทาบทับพลางไล่จูบไปตามหน้าอกทั้งสองอย่างหื่นกระหายและใส่ความรัญจวนใจไปทางกลีบกุหลาบอันแสนจะงดงามแต่โชกโชนมากกับชายหลายคนไปอย่างแรงและเร็วทันที สองร่างจึงส่งเสียงร้องครางดังสนั่นกันทั่วห้อง ทำให้ทหารที่เดินไปเดินมา ต่างก็อยากรับรู้ว่าสนมนางนี้จะเร่าร้อนขนาดไหน หากพวกเขาได้ทาบทับนางและบดขยี้ให้แตกละเอียดคามือ